ตอนที่2 ข้าวผัดไข่ของหมาดำตัวใหญ่
เสียงกรี๊ดร้องก้องกังวานอยู่ในหูของบู่ฟง แต่บู่ฟงไม่สนใจมัน เขานอนขดตัวอยู่ที่เก้าอี้สายตาที่ว่างเปล่า เขามองรายละเอียดของเขาที่อยู่ในระบบภายในจิตใจของเขา
ความต้องการของระบบ: ช่วยให้โฮสต์กลายเป็นเทพเจ้าแห่งการทำอาหารที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารที่อยู่ในโลกแฟนตาซี
โฮสต์:บู่ฟง
ระดับพลังงานที่แท้จริงจากการฝึกฝน:(เพื่อที่จะเป็นพระเจ้าแห่งการทำอาหารท่านจะต้องใช้พลังงานที่แท้จริงในการปรุงอาหารอย่างมาก)
ความสามารถในการทำอาหาร:ยังไม่ได้ปลดล็อก
สกิล:ยังไม่ได้ปลดล็อก
เครื่องมือ: ยังไม่ได้รับ
ระดับของเทพเจ้าในการทำอาหารโดยรวม:เพิ่งเริ่ม (เส้นทางการเป็นเทพแห่งการปรุงอาหารเพิ่งเริ่มต้นขึ้นตามคำแนะนำของระบบและเพื่อที่จะกลายเป็นคนที่อยู่บนจุดสูงสุดของการทำอาหารในโลกแฟนตาซี)
……
“เฮ้!เจ้าฟังบ้างไหม?เจ้าเป็นเจ้าของร้านอาหารนี่ใช่ไหม?” ชายหนุ่มรูปงามกำลังตะโกนออกมาด้วยความโกรธขณะที่จ้องมองบู่ฟง
บู่ฟงมองชายหนุ่มรูปงามด้วยท่าทางที่เย็นชา เขาลุกขึ้นอย่างขี้เกียจแล้วอ้าปากหาว
“ราคาของร้านอาหารของข้าก็เป็นแบบนี้ หากเจ้ายอมรับไม่ได้ก็ออกไปซะ ร้านอาหารของข้าให้ความสำคัญกับลูกค้าเสมอ พวกเราไม่บังคับท่านซื้ออะไรหรอก”
ชายหนุ่มรูปงามกำลังงงกับความคิดของบู่ฟง หลังจากที่เขาหายสับสน ใบหน้าที่งดงามของเขาก็กลายเป็นสีแดง ดวงตาของเขาก็แผ่กลิ่นอายแห่งความโกรธออกมา เขาคิดว่า “เขาเป็นเจ้าของร้านค้าแบบไหนกันที่คิดแบบนี้?”
“เจ้า…มองไปที่ราคาอาหารแต่ละจานของเจ้า! เจ้ายังคิดว่าเจ้าปฎิบัติต่อลูกค้าอย่างเป็นธรรม ข้าพนันได้เลยว่า เจ้ากำลังมองหาหลอกลวงดูดเงิน!เจ้ามันนักต้มตุ๋น! เจ้าอย่ามาแก้ตัวเลย ข้าเซียวเสี่ยวหลงได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้าแล้ว!”
“เจ้ามองเหมือนกับว่าข้าเป็นคนโง่รึไง?” บู่ฟงตอบ แล้วเริ่มโกรธขึ้นมานิดๆเหมือนกัน ในฐานะพ่อ
“ข้ามีเหตุที่ข้ากำหนดราคานี้ หากเจ้าไม่สนใจจะสั่ง เจ้าออกไปได้เลย ข้าไม่ได้รั้งให้เจ้าอยู่ต่อไป”
บู่ฟงรู้สึกโชคไม่ดี เขารอตั้งแต่เช้าแทนที่จะเจอลูกค้าที่ปรากฏตัว เขาต้องมารับมือกับคนเจ้าสำอางเจ้าปัญหานี่ เขาคิดว่า “ทำไมการค้าถึงได้เป็นไปยากนักนะ?”
ชายหนุ่มรูปงามกำลังโมโหมาก เขาไขว้แขนแล้วมองไปที่บู่ฟงอย่างเย็นชาว่า “หืม! เจ้าพยายามยั่วยุข้าเหรอ? เจ้าคิดว่าเจ้าพยายามยั่วให้ข้าสั่งอาหารเหรอ? เจ้าคิดว่าเจ้าพยายามที่จะทำมันสำเร็จ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่เหรอ?”
บู่ฟงหันไปไม่พูดอะไรไม่พูดอะไรกับชายหนุ่มหน้าหวานที่อยู่ตรงหน้าเขา เขามุ่งหน้าไปที่ห้องครัวโดยไม่แสดงอาการใดๆ แล้วเริ่มต้นทำอาหารเหมือนที่เคยทำทุกวัน
“นี่มันไม่ถูกต้อง! หรือว่ากำลังรู้สึกผิด? เขาไม่ได้พูดอะไรเลยในตอนนี้นั้นเพราะว่าข้าเปิดโปงความคิดที่ชั่วร้ายของเขา ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าฟัง ข้าเซียวเสี่ยวหลงข้าเป็นคนที่เกลียดความอยุติธรรมมาก ข้าเกลียดคนเช่นเจ้ามากที่สุด” ชายหนุ่มยังยืนนิ่งขณะที่พูดจาดูถูกเหยียดหยาม แต่หลังจากที่รอมาสักพักก็ไม่มีคำตอบใดๆจากบู่ฟง
“ข้าจะต้องทำให้ทุกคนในเมืองหลวงรู้เกี่ยวกับเจ้า! ข้าต้องแน่ใจว่าจะทำให้ร้านอาหารของเจ้าปิดลง!โอ้….ข้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเมื่อทุกคนมาเห็นราคาจะคิดว่าเจ้านั้นบ้าไปแล้ว!”
เซียวเสี่ยวหลงรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกละเลยเขาจึงข่มขู่บู่ฟงต่อไป
เงียบ….ร้านอาหารเล็กๆแห่งนี้ก็เงียบสนิท ไม่ช้าก็มีกลิ่นหอมออกมาจากห้องครัว
เซียวเสี่ยวหลงยืนจ้องมองราคาที่อยู่ในเมนูสุดท้ายเขาก็เม้มปากและส่ายหัวและตัดสินใจที่จะออกไป
จานผัดผักก็มีราคาเป็นหนึ่งร้อยเหรียญทองนี่มัน…….บ้าไปแล้ว
ในอาณาจักรสายลมแห่งแสง หน่วยเงินที่เล็กที่สุดคือเหรียญทองแดง เหรียญเงินมีมูลค่ามากกว่าเหรียญทองแดง เหรีญทองนั้นมีมูลค่ามากที่สุด เหรียญทองเหรียญเดียวก็มีค่าให้ครอบครัวธรรมดาอยู่ได้ตลอดเหรียญทอง ร้อยเหรียญทอง……..นี่เป็นไปไม่ได้เลยที่คนธรรมดาจะจ่ายได้
นี่มันมากไป ข้าผัดอะไรที่จะมีค่ามากหนึ่งผลึก ผลึกหนึ่งคืออะไร มันเป็นสิ่งจำเป็นของผู้ฝึกฝนมันมีค่าเท่ากับหนึ่งพันเหรียญทอง
มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่ตั้งราคานี้
เซียวเสี่ยวหลงโกรธมากแล้วหันไปมองรอบๆ เดินออกไปที่ทางเข้าร้านอาหาร ทันใดนั้นจมูกของเขาก็กระตุกออกมานิดๆ
“นี่มันกลิ่นหอมมาก”
กลิ่นหอมล่องลอยออกมาจากห้องครัว มันลอยวนเวียนกับจมูกของเซียวเสี่ยวหลงมันเหมือนกับว่ากลิ่นนั้นรวมตัวกลายเป็นสัมผัสผ้าไหมลูบไปที่หน้า มันรู้สึกเหมือนสัมผัสของคนรักทำให้ร่างกายของเขาสดชื่น
สุดท้ายเซียวเสียวหลงก็พบกับแหล่งที่มาของกลิ่น เขาหันกลับไปมองห้องครัวที่อยู่เบื้องหลัง ร่างผอมบางกำลังถือชามกระเบื้องในมือที่แสนงามหลังจากที่กลับมาจากห้องครัว คลื่นกลิ่นอายความหอมพวยพุ่งออกมาจากจานกระเบื้อง
“เจ้าพยายามที่จะล่อลวงข้าเหรอ? หืม! ไม่ว่าเจ้าจะทำอาหารอร่อยแค่ไหนข้าก็ไม่ยอมถูกหลอกหรอก”
เมื่อเซียวเสี่ยวหลงเห็นบู่ฟงเดินมาหาเขา เขาก็ยืดอกเชิดตัวด้วยท่าทางยโสแล้วพ่นลมเย็นๆออกมาจากจมูก แน่นอนหากไม่ใช่เพราะจมูกของเขากระตุกเขาคงออกไป บู่ฟงก็คงไม่คิดเอาอาหารอร่อยๆมาหลอกล่อเขา
สุดท้ายเซียวเสี่ยวหลงก็ไม่อาจทนต่อการยั่วยวนต่อไปได้ กระเพาะของเขาเริ่มสงเสียงร้องดัง
“เจ้าอาหารออกมาล่อลวงข้าจริงๆแต่…ข้าจะไม่กินสักคำ”
เซียวเสี่ยวหลงหันหัวไปทางบู่สงแล้วพูดออกด้วยน้ำเสียงประหม่า ราวกับว่าเป็นเกียรติมากที่เขาจะกินอาหารจากบู่ฟง
แต่ต่อมาเซียวเสี่ยวหลงก็ต้องตกใจบู่ฟงไม่ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขาไม่สนใจแล้วเดินไปอีกทาง
เซียวเสี่ยวหลงสับสนและโกรธมากแต่หันไปมองบู่ฟงแต่ฉากต่อไปนี้ทำให้โกรธยิ่งขึ้น
บู่ฟงนั่งลงข้างสุนัขสีดำตัวใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้า แล้ววางชามที่มีอาหารที่ส่งกลิ่นหอมอร่อยวางไว้ตรงหน้ามัน
“เจ้าดำน้อยได้เวลากินแล้ว”
บู่ฟงลูบขนนุ่มเรียบลื่นและสะอาดของสุนัขแล้วยิ้ม
สุนัขที่มีท่าทางเซื่องซึมก็กลับมามีท่าทางคึกคักทันทีแล้วกินอาหารรอยยิ้มของเขาก็กว้างขึ้น
เซียวเสี่ยวหลงรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าเขารู้สึกว่าบู่ฟงได้ทำให้เขาเสียหน้าอย่างเจ็บแค้นที่สุด
“เจ้า…เจ้า…”
ริมฝีปากของเซียวเสี่ยวหลงก็สั่น เขาชี้นิ้วเรียวยาวเหมือนผู้หญิงของเขา
“หา? เจ้ายังอยู่นี่อีกเหรอ?” บู่ฟงส่งเสียงด้วยความแปลกใจ
การแสดงออกของบู่ฟงทำให้เซียวเสี่ยวหลงรู้สึกว่ามีลูกศรที่มองไม่เห็นเจาะเข้าไปในหน้าอกของเขา เขาติดว่า “อุป มันเจ็บมาก”
ริมฝีปากของเซียวเสียวหลงสั่นออกมาด้วยความโกรธ เขาเปล่งเสียงออกมาทางจมูกแล้วกระทืบเท้าเหมือนกับเด็กที่ถูกตามใจแล้วรีบวิ่งหนีออกไปจากร้าน
“หนุ่มหน้าหวาน…คนนี้ท่าจะบ้าไปแล้ว”
เซียวเสี่ยวหลงมาถึงทางเข้าและกำลังจะเดินออกไป เขาย่นจมูกของเขาอีกครั้ง เขาหันมาอย่างไม่รู้ตัวมองมาที่ในชามกระเบื้องที่สุนัขสีดำตัวใหญ่กำลังกินอยู่ เม็ดขาวส่องประกายเหมือนไข่มุกถูกห่อด้วยไข่ที่เหมือนกับทองคำ มันดูสวยงามเหมือนกับงานศิลปะ
แต่ข้าวผัดไข่ของเขากำลังถูกสุนัขสีดำตัวใหญ่กินอยู่…..สุนัขสีดำ…สุนัข
“หืม?”สุนัขสีดำตัวใหญ่กำลังมีความสุขกับอาหารของมัน จู่ๆมันก็หยุดอยู่สักพักราวกับรู้สึกอะไรบางอย่างมันเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มหน้าหวานที่จ้องมองชามข้าว ร่องรอยการเตรียมตัวระมัดระวังปรากฏขึ้นในสายตาของมัน
จากนั้นเซียวเสี่ยวหลงก็มองสุนัขสีดำตัวใหญ่แล้วมองไปชามข้าวที่อยู่ในอุ้งเท้าของมัน มันดึงชามเข้าเข้าหาลำตัวของมัน แล้วมันก็แยกเขี้ยวต่อหน้าเซียวเสี่ยวหลง ฟันของมันยังมีข้าวที่ส่องประกายเหมือนไข่มุกออกมา
“ข้ากำลังถูกหมามองต่ำลงมา…”
เซียวเสี่ยวหลงแปลกใจอยู่สองวินาทีก่อนที่จะโกรธ
ตึก ตึก ตึก
หน้าของเซียวเสี่ยวหลงเปลี่ยนเป็นสีแดง ดวงตาของเขาก็ส่องประกายด้วยความโกรธเขาเดินกลับเข้าไปในร้าน
บู่ฟงเหลือบมองเซียวเสี่ยวหลงอย่างไม่ตั้งใจ
“เอาข้าวผัดไข่มาให้ข้าชามหนึ่ง ข้าจะลองกินมัน หากมันรสชาติไม่ดีข้าจะให้คนมาปิดร้านของเจ้า”
เซียวเสี่ยวหลงกระชากรอยยิ้มที่บนหน้าของเขา