GOS ตอนที่ 93 – กลุ่มโจรสลัดเก็กโค
“เจ้าพวกกลุ่มโจรสลัดเก็กโคมันยังไม่ได้เข้าสู่เขตทะเลแกรนไลน์งั้นหรือนี่?”
โรจายืนขึ้นพลางเอามือลูบคางของเขา ในเวลาเดียวกันก็เดินไปยังประตูห้อง
แม้ว่าเขาจะเอ่ยถามออกไปเช่นนั้น แต่หัวใจของโรจาในเวลานี้กำลังครุ่นคิดว่าเหตุใดพวกมันถึงยังอยู่ในเขตทะเลเวสต์บลู และไม่ไปยังแกรนไลน์ อย่างไรก็ตามในสายตาของโรจา กลุ่มโจรสลัดเก็กโคนั้นเป็นเพียงตัวฟาร์มแต้ม 10000 แต้มคุณูปการเท่านั้น
หากมีกลุ่มโจรสลัดแบบนี้โผล่มาเรื่อยๆ เขาก็จะยิ่งได้รับแต้มคุณูปการเร็วขึ้น และสามารถนำมันไปแลกกับ 1 ใน 12 ดาบชั้นเลิศที่อยู่ในศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดได้อย่างง่ายดาย
“พวกเราก็เคยคิดเช่นเดียวกันว่าพวกมันได้แล่นเรือไปยังเขตแกรนไลน์แล้ว แต่จู่ๆก็ได้รับข้อมูลมาว่าพวกมันได้ปรากฏตัวบนน่านน้ำบริเวณใกล้เคียง ซึ่งมันน่าประหลาดใจมากๆ”
นาวาเอกเมื่อเห็นว่าโรจาเดินออกจากสำนักงาน เขาก็เดินตามหลังโรจาไปทันที พร้อมกับเผยให้เห็นถึงแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พวกโจรสลัดมักจะหลีกเลี่ยงกองทัพเรือ แต่หากกองทัพเรือต้องพบเจอกับกลุ่มโจรสลัดเก็กโค กลับเป็นพวกเขาเสียเองที่ต้องหลีกเลี่ยงมัน! นาวาเอกไม่เคยได้ยินว่ากองทัพเรือนั้นหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับโจรสลัดมาก่อน แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับโจรสลัดที่แข็งแกร่งก็ตามที แต่กลุ่มโจรสลัดเก็กโคนั้นต่างออกไป
กลุ่มโจรสลัดเก็กโคได้มอบความปราชัยให้แก่ผู้บัญชาการฐาน และสังหารเขา!
ด้วยเหตุนี้กองทัพเรือจากฐานสาขาที่ 1 จึงเกิดความกลัวขึ้นในจิตใจ
“ท่านผู้บัญชการ พวกเราควรจะทำอย่างไรดี? ไปขอความช่วยเหลือจากฐานทัพเรือสาขา 2 ที่อยู่ใกล้เคียงหรือ …”
โรจาเหลือบไปมองนาวาเอกทันทีพร้อมกับกล่าวว่า
“ถึงแม้ว่าฐานสาขาที่ 2 จะอยู่ใกล้กับเราที่สุด แต่กว่าพวกเขาจะมาถึงมันใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน นอกจากนี้ คุณต้องการให้คนจากฐานสาขาที่ 2 มาช่วยพวกเราจริงๆน่ะหรือ?”
“นี่ … ”
นาวาเอกเผยให้เห็นถึงความลังเลใจ หากถามเขาว่าต้องการให้ฐานสาขาที่ 2 มาช่วยหรือไม่ คำตอบลึกๆในใจของเขาแน่นอนว่าคงปฏิเสธ เพราะหากขอความช่วยเหลือไป แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องถูกฐานสาขาอื่นๆหัวเราะเยาะ ว่าเพียงแค่โจรสลัดกลุ่มเดียว ฐานสาขาที่ 1 กลับไม่สามารถรับมือกับมันได้!
เมื่อเห็นท่าทีของนาวาเอก โรจาก็รู้ความคิดของเขาได้ทันที ดังนั้นโรจาจึงยิ้มและกล่าวว่า
“งั้นก็จงอย่าไปขอความช่วยเหลือให้มันลำบากเลย ตอนนี้ก็เริ่มเตรียมตัวออกทะเลได้แล้ว”
เมื่อนาวาเอกได้ยินคำกล่าวของโรจา เขาก็ตกตะลึงทันที
“ท่านผู้บัญชาการ กลุ่มโจรสลัดเก็กโคไม่ใช่เพียงปัญหาเล็กๆ อย่าประมาทพวกมันเด็ดขาด แม้แต่ผู้บัญชาการฐานคนก่อน …”
เมื่อพูดถึงตรงนี้จู่ๆนาวาเอกก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวพร้อมกับกล่าวต่อว่า
“นอกจากนี้ ในเวลานี้พลเรือตรีไทกะก็ไม่ได้อยู่ภายในฐาน ทางที่ดีที่สุดก็คือรอเขากลับมาแล้วจากนั้น …”
เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว
โรจาก็หยุดเดินทันทีพร้อมกับหันไปมองนาวาเอก
เมื่อนาวาเอกเห็นว่าโรจาหันหน้ามามองเขา เขาก็คิดว่าโรจาเห็นด้วยกับความเห็นที่กล่าวออกมา แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆท่าทีของเขาก็เปลี่ยนเป็นงงงวยเมื่อเห็นว่าโรจาได้หัวเราะออกมา
“นี่คุณไม่ได้ต้องการที่จะฟื้นฟูชื่อเสียงของฐานสาขาที่ 1 อย่างงั้นหรือ? มัวแต่งอมืองอเท้าด้วยความหวาดกลัวแล้วชื่อเสียงมันจะกลับมาไหม? แต่ในตอนนี้ฉันได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวล ปู่คนนี้จะนำชื่อเสียงกลับมาให้เอง!”
“นี่ …”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของโรจา ใบหน้าของนาวาเอกก็ถึงกับเปลี่ยนสี และเมื่อเขาต้องการที่จะกล่าวตอบโต้ เขาก็พบว่าโรจาได้เดินออกไปไกลเสียแล้ว
หลังจากที่ลังเลอยู่นาน นาวาเอกก็ขบฟันแน่น และวิ่งตามโรจาไป
โรจานั้นเป็นถึงผู้บัญชาการฐาน ดังนั้นเขาจึงไม่มีอำนาจที่จะโน้มน้าวการตัดสินใจของโรจาได้ นอกจากนี้ในฐานะที่เขาเป็นนาวาเอกของฐานสาขาที่ 1 ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องการกู้ชื่อเสียงของฐานแห่งนี้ให้กลับคืนมา!
และวิธีที่ดีที่สุดในการกู้ชื่อเสียงกลับคืนมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คือการปราบปรามกลุ่บโจรสลัดเก็กโค!
ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินคนในเรือรบที่ทำภารกิจขนส่งและนำตัวโรจามายังฐานสาขาที่ 1 ว่า โรจานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และไม่สมควรที่จะตัดสินความแข็งแกร่งของเขาตามอายุเด็ดขาด .. หากคนบนเรือรบกล่าวเช่นนั้น เขาก็ขอเลือกที่จะเชื่อก็แล้วกัน!
…
เรือรบได้แล่นออกจากท่าเรือฐานสาขาที่ 1 โดยมีโรจาเป็นผู้บัญชาการเรือรบและ 3 นาวาเอกคอยสั่งการ
ศัตรูคือกลุ่มโจรสลัดที่สามารถมอบความปราชัยให้แก่ผู้บัญชาการฐานคนก่อนได้ ภายใต้คำสั่งของโรจา ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นเรื่องที่ดีจริงๆที่เขาสามารถรวบรวมคนได้มากพอที่จะออกไปล้อมจับกลุ่มโจรสลัดเก็กโคได้ อย่างน้อยทหารบนเรือรบลำนี้ก็ก็เป็นทหารเรือที่กล้าหาญ
บรรยากาศบนเรือรบค่อนข้างอึมครึม ทหารบนเรือรบจำนวนมากต่างขบฟันแน่น แต่พวกเขาก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องปราบปรามกลุ่มโจรสลัดเก็กโคให้จงได้!
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเป็นเช่นนี้
กลับกลายเป็นว่าเป็นโรจาเสียเองที่ตกตะลึง!
โรจาไม่ได้กล่าวอะไรออกไปมากมาย อย่างน้อยทหารเรือเหล่านี้ก็มีความกล้าหาญ เขาจึงยืนอยู่เงียบๆบนดาดฟ้าเรือกับนาวาเอกและนาวาโท พลางพูดคุยกันเรื่องทิศทางการเดินเรือของพวกกลุ่มโจรสลัดเก็กโค
…
บนท้องทะเล
เรือโจรสลัดขนาดใหญ่กำลังแล่นออกไปอย่างช้าๆ
“สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำก็คือ …”
กัปตันกลุ่มโจรสลัดเก็กโค เป็นชายผู้มีใบหน้าอันแสนเย็นชาและน่าสะพรึงกลัว เขายืนอยู่บนดาดฟ้าเรือพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูน่าขนลุก
“กัปตัน ในที่สุดพวกเราก็จะได้ไปยังแกรนไลน์เสียที?”
“เฮ้ เฮ้ ฉันต้องเข้าไปในแกรนไลน์แน่ๆ และหลังจากนั้นชื่อเสียงของพ่อคนนี้ก็จะดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งท้องทะเล!”
คนอื่นๆบนเรือโจรสลัดได้เผยให้เห็นถึงความตื่นเต้นของพวกมัน เขตทะเลเวสต์บลูนั้น สำหรับพวกมันแล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่อีกต่อไป! พวกมันจะแล่นเรือไปยังแกรนไลน์ที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเหล่าโจรสลัดที่แข็งแกร่ง!
ในตอนนั้นเอง
ทันใดนั้นโจรสลัดคนหนึ่งก็วิ่งมาแล้วตะโกนว่า
“กัปตัน เราพบเรือรบของกองทัพเรือแล่นอยู่ข้างหน้า!”
“โอ้?”
กัปตันโจรสลัดเก็กโคได้ยกดาบฟันฉลามขึ้น ในตอนแรกสีหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ แต่ต่อมามันก็พลันเปลี่ยนไปเป็นเยาะเย้ย
“ไม่คาดคิดเลยว่าหูตาของพวกกองทัพเรือจะกว้างไกลจนตามมาสร้างปัญหาให้พ่อคนนี้ได้ถึงที่นี่ ถ้าอย่างงั้นถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนแล่นเรือเข้าสู่เขตทะเลแกรนไลน์ก็แล้วกัน .. แสดงให้พวกมันเห็นถึงความแข็งแกร่งของพวกเราอีกครั้ง!”
“เฮ —!”
ลูกเรือคนอื่นๆบนเรือโจรสลัดต่างพากันยิ้มเยาะออกมา พร้อมกับคว้าอาวุธคู่กายขึ้น โดยไม่เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ท่าทีของพวกมันกลับเต็มไปด้วยความดุร้าย และในแววตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความกระหายเลือด!
เบื้องหน้ากลุ่มโจรสลัดเก็กโค
คือเรือรบขนาดกลางกำลังแล่นออกมาจากฐานสาขาที่ 1
บนเรือรบ
เหล่านาวาเอกต่างเต็มไปด้วยความตึงเครียดและยากที่จะเข้าใจ พวกเขาจ้องมองไปยังโรจาผู้ซึ่งในเวลานี้ยืนอยู่ด้านหน้าสุดของดาดฟ้าเรือ บางคนกังวลใจจนทนไม่ไหวจึงเอ่ยถามไปว่า
“ท่านครับ ศัตรูเข้าสู่ระยะปืนใหญ่แล้ว ทำไมพวกเรายังไม่เปิดฉากยิง?”
ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างเรือรบกับเรือโจรสลัดก็คือการยิงปืนใหญ่! แม้แต่เรือโจรสลัดดีๆก็ยังยากที่จะเป็นคู่ต่อสู้กับเรือรบในเรื่องปืนใหญ่!
ตามหลักเกณฑ์และข้อปฏิบัติเวลาทำสงครามทางทะเล เมื่อเรือของข้าศึกเข้าสู่ระยะปืนใหญ่ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือระดมยิงปืนใหญ่ใส่พวกมันทันที! ซึ่งเป็นวิธีการขั้นแรกในการโจมตีศัตรู
หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณกระสุนปืนใหญ่บนเรือของข้าศึก และการตัดสินใจของพวกมันว่าจะระดมยิงปืนใหญ่ใส่กันไปเรื่อยๆจนกระสุนหมด หรือเทียบเรือแล้วพุ่งเข้าต่อสู้กันในระยะประชิด
แต่
เวลานี้โรจากลับไม่ออกคำสั่งให้ระดมยิงปืนใหญ่ทั้งๆที่เรือของพวกมันแล่นเข้าสู่ระยะยิงแล้ว
เมื่อเห็นว่าโรจาไม่คิดที่จะออกคำสั่งยิงปืนใหญ่ สามนาวาเอกจ้องมองไปยังโอกาสที่ดีที่สุดในการระดมยิงปืนใหญ่ที่กำลังสูญเสียไป แต่เนื่องจากโรจาเป็นผู้บัญชาการเรือรบ พวกเขาจึงได้แต่กังวลและไม่กล้าที่จะออกคำสั่งระดมยิง
“ท่านครับ โปรดช่วยออกคำสั่งระดมยิงปืนใหญ่ด้วย!”
สามนาวาเอกเริ่มมีเหงื่อเย็นเยียบผุดขึ้นมาบนหน้าผาก พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าโรจาจะไม่ทำตามข้อปฏิบัติในการทำสงครามทางทะเล
‘นี่เขาออกมาปราบปรามกลุ่มโจรสลัดเก็กโค แต่ยังไม่ยอมสั่งยิงปืนใหญ่ .. หรือเป็นเพราะว่าอายุของเขายังน้อยอยู่ จึงยังไม่เคยมีประสบการการต่อสู้ทางทะเลมาก่อน?’
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของเหล่านาวาเอกก็เริ่มจมลงไปสู่ความสิ้นหวัง และต่างพากันคิดว่าแท้จริงแล้วโรจานั้นเป็นเพียงผู้บัญชาการฐานแต่ในนามเท่านั้น! ไม่ได้รู้เรื่องอะไรที่ควรจะต้องทำเลย!!