GOS ตอนที่ 84 – มอบยศ
การต่อสู้เมื่อครู่ ไม่ใช่เพียงเล่าบิงเท่านั้นที่หนีออกมา แม้แต่เหล่าพลเรือโทต้องลุกออกจากที่นั่ง แล้วไปหลบมุมดูการต่อสู้อยู่จากระยะไกล
เหล่าพลเรือโทที่เฝ้ามองการต่อสู้จากระยะไกล เวลานี้ในหัวของพวกเขาว่างเปล่า และไม่รู้ว่าควรจะต้องพูดอะไรออกไปดี
คู่ต่อสู้คนที่ 10 … เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 10 ได้!
คู่ต่อสู้คนที่ 10 ที่เหล่าพลเรือโทเกือบทั้งหมดคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เล่าบิงที่ขอจบการศึกษาจะทะลวงผ่านไป แต่โรจากลับสามารถทำได้!
“เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 10 ได้ ..”
“นี่มันเรื่องจริงงั้นหรือนี่?”
ในเวลานี้ แม้แต่คิซารุ ใบหน้าของเขาก็ยังเผยให้เห็นถึงอารมณ์ที่หลากหลาย
ส่วนอาโอคิยิที่นั่งอยู่ข้างๆเขานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึง!
แม้แต่อาคาอินุก็ยังหรี่ตาลงเล็กน้อย ภายในจิตใจของเขานั้นรู้สึกสั่นสะท้าน เขาจ้องมองไปยังโรจาที่ดูราวกับจักรพรรดิแห่งเพลิง แต่ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเขาก็นึกถึง มังกี้ D ดราก้อน ทำให้ดวงตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นประกายเย็นเยียบ!
อาคาอินุนั้นเป็นคนที่แสวงหาความยุติธรรมอย่างแท้จริง สำหรับลูกของการ์ป — ดราก้อนที่เข้าร่วมกับกองทัพปฏิวัติและกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้ายที่สุดในโลกนั้น ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเกลียดชังจนสุดขั้วหัวใจ
ในมังงะ
ในสงครามครั้งใหญ่ในมารีนฟอร์ด อาคาอินุได้ไล่บี้ลูฟี่ โดยที่ในหัวของเขาไม่มีความคิดว่าลูฟี่นั้นเป็นหลานของการ์ปเลยแม้แต่น้อย และมีเพียงความคิดที่ว่าลูฟี่นั้นเป็นลูกของดราก้อน!
“ด้วยพรสวรรค์และความแข็งแกร่งของมันที่โดดเด่นขนาดนี้ ถ้าวันหนึ่งมันคิดจะทำแบบเดียวกับดราก้อนแล้วล่ะก็ …”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของอาคาอินุก็เป็นประกายหนาวเหน็บยิ่งกว่าเดิม ก่อนที่เขาจะสูดหายใจลึกแล้วพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบาว่า
“เรื่องแบบนั้น ฉันจะไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด!”
…
“มังกี้ D โรจา การประเมินการจบการศึกษา ด่าน 3 คู่ต่อสู้คนที่ 10 — ผ่าน!!!”
ยามาคาจิที่ตกตะลึงอยู่นาน ในที่สุดก็กลับมาได้สติอีกครั้ง ก่อนที่จะประกาศออกไปด้วยเสียงที่สั่นเครือ เขานั้นเคยอ่านข้อมูลประวัติของโรจามาก่อน และรู้อยู่เต็มอกว่าอายุของโรจาในตอนนี้ยังไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ!
ด้วยอายุเพียงเท่านี้แต่กลับมีความแข็งแกร่งและพรสวรรค์มากมายขนาดนี้ .. ตกตะลึง! มันจะน่าตกตะลึงเกินไปแล้ว!
ในการต่อสู้ครั้งนี้ ทุกคนรู้ดีว่าโมมอนก้าได้ทุ่มพลังทั้งหมดที่มีออกมา แต่เขาก็ยังพ่ายแพ้ให้กับโรจา แม้แต่อาวุธดาบของเขาก็ยังหลุดจากมือ ดังนั้นแม้ว่ามันจะน่าเหลือเชื่อแค่ไหน แต่ผลลัพธ์ก็ได้ปรากฏต่อหน้าทุกคนแล้ว
การผ่านคู่ต่อสู้ทั้ง 10 คนในด่าน3ได้ นั่นหมายความว่าโรจานั้นสามารถทำคะแนนอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบ!
ในการประเมินด่าน 3 จะแบ่งออกเป็นสามเกณฑ์คือ สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ 6 คนจะอยู่ในเกณฑ์ ดี — สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ 7 8 และ 9 ได้นั้นจะอยู่ในเกณฑ์ ยอดเยี่ยม — และเมื่อสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ 10 คนจะอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบ
การประเมินการขอจบการศึกษาด่าน 1 อยู่ในเกณฑ์ สมบูรณ์แบบ
การประเมินการขอจบการศึกษาด่าน 2 อยู่ในเกณฑ์ สมบูรณ์แบบ
การประเมินการขอจบการศึกษาด่าน 3 อยู่ในเกณฑ์ สมบูรณ์แบบ!
นี่นับได้ว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ระบบการจบการศึกษาของค่ายชั้นยอดได้ก่อตั้งขึ้นที่มีคนได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์สมูบรณ์แบบทั้งสามด่าน !
“ยอดเยี่ยม … ยอดเยี่ยมมากๆ!”
เซนโงคุไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ของเขาได้อีกต่อไป เขาอดไม่ได้ที่จะหันไปมองการ์ปแล้วกล่าวว่า
“การ์ป ญาตินายที่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
การ์ปที่ยืนอยู่กลางซากปรักหักพังไม่ได้กล่าวตอบกลับไป เขาเอาแต่หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
โรจาได้เก็บโฮโนะสึกิลงในฝัก ก่อนที่เปลวเพลิงจะค่อยๆมอดดับลง
ในเวลาเดียวกัน ฝุ่นและเขม่าที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศก็เริ่มจางหายไป ค่อยๆเผยให้เห็นพื้นสนามที่เต็มไปด้วยรอยดาบ ปรากฏอยู่ทั่วทุกพื้นที่
“สามารถเอาชนะ คู่ต่อสู้คนที่ 10 ได้ …”
“แม้กระทั่งพลเรือโทจากหน่วยหลักก็ยังพ่ายแพ้ … ความแข็งแกร่งของโรจาอยู่ในระดับไหนกันแน่นะ?”
สโมคเกอร์และเล่าบิงคนอื่นๆ ในตอนนี้เผยให้เห็นถึงความรู้สึกมึนงงอย่างบอกไม่ถูก พวกเขารู้สึกราวกับว่าภาพเหตุการณ์ตรงหน้านั้นเป็นเพียงแค่ฝันไป และรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แม้จะเห็นด้วยตาตัวเองก็ตาม
ทางด้านยามาคาจิผู้ซึ่งรับหน้าที่บันทึกคะแนนการประเมินให้แก่โรจานั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะเขียนคำอธิบายในรายงานว่าอย่างไรดีในการประเมินด่าน 3 นอกจากคำว่า ‘สมบูรณ์แบบ’
…
การประเมินด่าน 3 ได้สิ้นสุด ลง และแล้วก็ถึงเวลารับมอบยศ!
ยามาคาจิพาโรจาและคนอื่นๆเข้าพบกับเซนโงคุและยื่นเอกสารข้อมูลการขอจบการศึกษาให้แก่เขา เพื่อให้เซนโงคุเป็นคนตัดสินใจว่าเล่าบิงที่จบการศึกษาควรที่จะได้ยศอะไรจากคะแนนการประเมินทั้ง 3 ด่าน
เซนโงคุรับเอกสารข้อมูลคะแนนจากยามาคาจิก่อนที่จะสูดหายใจลึก แล้วจึงค่อยๆสงบลง ก่อนที่จะมองขึ้นไปยังห้องสำนักงานของเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย แล้วกล่าวว่า
“คนแรก ชูโซ คะแนนด่านแรกอยู่ในเกณฑ์ดี คะแนนด่านที่สองมีคุณสมบัติเพียงพอ คะแนนด่านที่สามมีคุณสมบัติเพียงพอ … ผลการประเมินการจบการศึกษา ยศของเธอคือ นาวาตรี!”
เซนโงคุจ้องมองเอกสารในมือ ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยเสียงที่นุ่มลึก ในขณะที่ยามาคาจิที่ยืนอยู่ข้างๆคอยบันทึกยศที่เหล่าเล่าบิงได้รับ พร้อมๆกับดำเนินพิธีมอบเหรียญรางวัล
เซนโงคุจะคอยประกาศยศของเล่าบิงทีละคน ทีละคน โดยการอ่านข้อมูลจากเอกสารที่บันทึกคะแนนผลการประเมินทั้งสามด่าน แล้วพิจารณาว่าพวกเขาสมควรที่จะได้รับยศอะไร
“สโมคเกอร์ คะแนนด่านแรกอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยม คะแนนด่านที่สอง …..”
เมื่ออ่านข้อมูลของสโมคเกอร์เซนโงคุก็เกิดความลังเลว่าควรจะมอบยศอะไรให้แก่เขาดี ในตอนแรกเซนโงคุจะมอบยศ นาวาเอกให้ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะมอบยศนาวาโทให้แทน
ขณะที่เซนโงคุค่อยๆประกาศยศของสโมคเกอร์และคนอื่นๆ พวกเขาก็ได้รับมอบเครื่องแบบทหารเรือที่มีคำว่า ยุติธรรมติดอยู่ด้านหลัง ก่อนที่จะทยอยกันออกไปจากบริเวณนั้นภายใต้คำแนะนำของทางกองทัพ
ท้ายที่สุด
ก็มาถึงตาของโรจา
เซนโงคุจ้องมองไปยังเอกสารข้อมูลของโรจา ที่บันทึกคะแนนผลการประเมินทั้งสามด่านที่มีตัวอักษรสีแดงเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่าสมบูรณ์แบบ ก่อนที่เขาจะลังเลอยู่นาน
หลังจากที่เล่าบิงได้จบการศึกษาแล้วยศของพวกเขาจะอยู่ระหว่างนาวาเอกกับนาวาตรี ซึ่งยศนาวาเอกนับว่าเป็นยศที่สูงที่สุดที่เล่าบิงควรจะได้รับ
ในประวัติศาสตร์มีคนเพียงสามคนเท่านั้นที่ได้รับเกียรติมอบยศพลเรือตรีให้หลังจบการศึกษา นั่นก็คือ อาโอคิยิ คิซารุ และอาคาอินุ เนื่องจากพวกเขาได้รับผลคะแนนการประเมินอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบในด่านที่หนึ่งและสอง ส่วนในด่านที่สามพวกเขาสามารถผ่านคู่ต่อสู้คนที่ 9 ไปได้ ดังนั้นจึงได้รับการเลื่อนยศเป็นกรณีพิเศษ
ส่วนโรจานั้นได้คะแนนการประเมินทั้งสามด่านอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันตรงตามเงื่อนไขที่สมควรจะได้รับการเลื่อนยศเป็นกรณีพิเศษ อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจว่าระดับความแข็งแกร่งของโรจาควรที่จะได้รับยศอะไร? — เซนโงคุรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก
โรจานั้นสามารถโค่นโมมอนก้าลงได้ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าระดับความแข็งแกร่งของเขาควรจะต้องอยู่ในระดับพลเรือโท และมีคุณสมบัติมากพอที่จะได้รับยศพลเรือโทหน่วยหลักซึ่งต้องทำงานในมารีนฟอร์ด
อย่างไรก็ตาม โรจานั้นยังเด็กเกินไป การมอบยศพลเรือโทให้เขานั้นดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหลวไหลไร้สาระ
“ยามาคาจิ คุณคิดว่าโรจาสมควรที่จะได้รับยศอะไร?”
เซนโงคุครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะขอคำแนะนำจากยามาคาจิที่กำลังจดบันทึกอยู่
“นี่ …”
ยามาคาจิเผยให้เห็นถึงความลังเลอย่างชัดเจน จริงๆแล้วสถานการณ์ของโรจานับว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างพิเศษ เพราะนี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งระบบการจบการศึกษาของค่ายชั้นยอด เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจอย่างไรดี
หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งยามาคาจิก็ได้กล่าวตอบเซนโงคุว่า
“โรจานั้นสามารถเอาชนะโมมอนก้าได้ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากได้ ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาที่จะมอบยศพลเรือโทให้แก่เขา”