GOS ตอนที่ 83 – พ่ายแพ้!
เมื่อเกิดสถานการณ์พลิกผันอย่างไม่คาดฝันขึ้น ใบหน้าผู้ชมทั้งหมดต่างเผยให้ถึงความรู้สึกเหลือเชื่อ!
“นั่นมันอะไรกัน? ใช่วิชาดาบรึเปล่า?”
“เจ้าเด็กที่ชื่อโรจานั่น เมื่อกี้เขาไม่ได้เสริมความแข็งแกร่งด้วยฮาคิซะด้วยซ้ำ! แต่คลื่นพลังที่ปลดปล่อยออกมา … อย่างน้อยก็น่าจะแข็งแกร่งกว่าเฉือนนภาของเขาถึงสองเท่า! วิชาดาบนั่นมันอะไรกัน? นี่มันเรื่องตลกชัดๆ!”
ในขณะนี้ ไม่เพียงแค่เหล่าพลเรือโทเท่านั้นที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ แม้กระทั่งอาโอคิยิ คิซารุ และคนอื่นๆก็ยังตกตะลึงเช่นกัน
“ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเห็นวิชานี้มาก่อนเลย”
“นั่นใช่วิชาดาบจริงๆใช่ไหม?”
…
ในสนามต่อสู้
โมมอนก้าที่ทุ่มโจมตีด้วยทุกอย่างที่มีรวมไปถึงใช้โคกะ แต่ก็ไม่อาจต้านทานคมดาบของโรจาได้ แถมยังถูกคลื่นพลังอันน่าสยดสยองอัดกระเด็นถอยไปไกลกว่า 10 ก้าว!
มือทั้งสองของเขาชาจนแทบจะไร้ความรู้สึก!
“นี่เธอ …”
สีหน้าของโมมอนก้าเต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึง เขาไม่คาดคิดเลยว่าโรจาจะแอบซ่อนวิชาดาบอันร้ายกาจเอาไว้ใช้ในสถานการณ์แบบนี้
ตูม—!
วินาทีต่อมา โรจาก็ได้ตวัดดาบออกไปอีกครั้ง เปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงได้ถูกปลดปล่อยออกมา มันเริ่มกวาดกระจายออกไปทั่วทุกพื้นที่ พร้อมกับเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นราวกับเปลวเพลิงกำลังคำรามก้องไปสู่สรวงสวรรค์! และที่สำคัญมันรุนแรงยิ่งกว่าตอนที่ใช้สู้กับสตอเบอรี่เสียอีก!
คลื่นเปลวเพลิงที่สูงกว่า 10 เมตรพุ่งกวาดกระจายออกไปทั่วราวกับว่าจะย้อมท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดงฉาน!
“แบบนี้ไม่ดีแน่”
โมมอนก้าได้แต่เพียงกรีดร้องในหัวใจ เขาไม่แน่ใจว่าโรจาจะสามารถปลดปล่อยวิชาเมื่อครู่ออกมาได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ และที่สำคัญเขาไม่รู้เลยว่าวิชาดาบนั้นมันคืออะไรกันแน่
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าสถานการ์ในตอนนี้พลิกผันโดยสมบูรณ์
ฉัวะ—!
เมื่อต้องเผชิญกับเปลวเพลิงขนาดมหึมาตรงหน้า โมมอนก้าทำได้เพียงกวัดแกว่งคมดาบสายลมออกไป เพื่อทำลายเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามา
แต่เกือบจะในทันทีที่เขาทำลายเปลวเพลิงได้ พริบตาเดียวคมดาบสายลมสีเงินขาวก็ตามมาติดๆ!
ถึงแม้จะเป็นเพียงคมดาบสายลมธรรมดาๆที่ไม่ใช่เก็ทสึงะ เท็นโช แต่เนื่องจากโดนคลื่นจันทร์เสี้ยวเมื่อครู่ ทำให้โมมอนก้าเกิดความรู้สึกหวาดกลัวในจิตใจ เมื่อเผชิญหน้ากับเฉือนนภาธรรมดาๆ โมมอนก้าจึงเผลอทำสิ่งที่ผิดพลาดออกไป!
บิซ—!
โมมอนก้ากระโดดหลบคมดาบสายลมอันแสนจะธรรมดา พร้อมๆกับทำลายเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เขาไม่ทันได้มองคลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยวที่ถูกยิงแฝงเข้ามา!
ฟุ่บ—!
เก็ทสึงะ เท็นโชได้พุ่งผ่านหน้าของโมมอนก้าไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด! ในวินาทีสุดท้ายโมมอนก้าได้ใช้ดาบที่เสริมด้วยโคกะของเขาเบี่ยงวิถีคลื่นจันทร์เสี้ยวออกไป!
โมมอนก้ารู้ดีว่ามันคงยากที่จะตอบโต้ในเวลานี้ เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะเบี่ยงวิถีของเก็ทสึงะ เท็นโชแล้วกระโจนหนีออกไปด้านข้าง
เก็ทสึงะ เท็นโชตัดผ่านพื้นสนามจนเป็นรอยลึก ก่อนที่จะพุ่งไปยังที่นั่งของผู้ชมที่อยู่ถัดออกไป
ใบหน้าของเหล่าพลเรือโทที่นั่งอยู่บริเวณนั้นต่างพลันเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ก่อนที่พวกเขาจะพากันกระโดดหนีออกจากบริเวณนั้นทันที
“เจ้าเด็กเหลือขอ …”
เมื่อการ์ปเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมา แต่ทุกคนก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในแววตาของการ์ปนั้นเต็มไปด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ!
วิซ—!
การ์ปกระโดดออกจากที่นั่งผู้ชม ก่อนที่จะบีบอัดฮาคิเข้าไปในกำปั้นของเขา จากนั้นก็ง้างกำปั้นไว้เหนือหัว แล้วบดขยี้เก็ทสึงะ เท็นโชทันที!
ตูม—!
กำปั้นทุบลงมายังเก็ทสึงะ เท็นโช จนมันแตกกระจายเป็นชิ้นๆ อย่างไรก็ตาม กำปั้นของการ์ปยังคงไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น มันยังคงพุ่งดิ่งลงมาจนปะทะเข้ากับพื้นที่นั่งของฝูงชน!
ตูมมมมมม
ทันใดนั้นก็พลันเกิดรอยแตกคล้ายกับใยแมงมุมกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง พร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น!
“การ์ปปปป ไอ้บ้าเอ๊ยยย!!”
ดวงตาของเซนโงคุเบิกโพลง การ์ปได้สร้างปัญหาให้กับเขาอีกแล้ว!! ความเสียหายที่เกิดจากการต่อรู้ระหว่างโรจาและโมมอนก้านั้นยังไม่เท่าความเสียหายที่เกิดจากกำปั้นของการ์ปเพียงกำปั้นเดียว ที่ทำเอาพื้นที่นั่งระเบิดจนเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่!
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
การ์ปดูเหมือนว่าจะไม่สนใจกับความเสียหายที่เขาเป็นคนก่อแม้แต่น้อย ก่อนที่จะหัวเราะออกมาและจ้องมองลงไปยังสนามต่อสู้
การต่อสู้ระหว่างโรจาและโมมอนก้ายังคงดำเนินต่อไป
โมมอนก้าไม่รู้ว่าโรจาจะปลดปล่อยเก็ทสึงะ เท็นโชออกมาอีกเมื่อไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าฉวยโอกาสโจมตีโรจาอีก แต่ในระหว่างที่เขามัวแต่งึกๆงักๆ เปลวเพลิงก็เริ่มส่งกระทบต่อเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้โมมอนก้าจะเป็นพลเรือโทที่แข็งแกร่ง ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะยืนอยู่ท่ามกลางทะเลเพลิงเป็นระยะเวลานานๆ!
ภายใต้ความร้อนระอุของเปลวเพลิง ตามร่างกายของโมมอนก้าเริ่มเผยให้เห็นถึงบาดแผลจากการถูกเผา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขากำลังเสียเปรียบโดยสมบูรณ์
โมมอนก้ารู้ดีว่าหากเขาพุ่งเข้าไปโจมตี โรจาจะต้องตอบโต้เขาด้วยวิชาดาบอันร้ายกาจเมื่อครู่(เก็ทสึงะ เท็นโช)
แต่ถ้าเขายังคงยื้อต่อไปเขาก็คงจะถูกเปลวเพลิงแผดเผาจนกลายเป็นมนุษย์ย่าง!
ในเวลานี้โมมอนก้าสังเกตุเห็นว่าคมดาบของโรจานั้นเชื่องช้าและเบาลง ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าพลังงานร่างกายของโรจาใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว
แต่ไม่ว่าพลังงานร่างกายของโรจาจะลดลงไปสักเท่าไหร่ แต่ความรุนแรงของเก็ทสึงะ เท็นโชก็ยังคงน่าหวาดหวั่นอยู่ดี — ผลการต่อสู้ในครั้งนี้เริ่มที่จะปรากฏผลชัดเจนแล้ว!
แม้โรจาจะเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด แต่หากเขาฝืนอดทนและโจมตีต่อไปเรื่อยๆ เขาจะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
การสามารถควบคุมสถานการณ์ในระหว่างการต่อสู้ได้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง!
หากฝ่ายใดสามารถคุมคู่ต่อสู้ของตนเองได้ ฝ่ายนั้นก็จะกุมชัยชนะได้ในที่สุด!
และในตอนนี้อำนาจในการควบคุมตกมาอยู่ในน้ำมือของโรจามากขึ้นเรื่อย และมากขึ้นเรื่อยๆ
ตูม ตูม ตูม—!
เฉือนนภาและเก็ทสึงะ เท็นโชที่รุนแรงจนน่าสยดสยองได้ถูกยิงใส่โมมอนก้าอย่างต่อเนื่อง
สภาพของสนามต่อสู้ในตอนนี้ได้แปรสภาพไปอย่างสิ้นเชิงจากในตอนแรก! ในเวลานี้พื้นที่ต่อสู้ของทั้งสองเริ่มขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนลามมายังที่นั่งของเหล่าพลเรือโท ส่วนทางด้านสโมคเกอร์และเล่าบิงคนอื่นๆที่อยู่ล่างสนามต่อสู้ พวกเขาได้ถอยออกไปจากบริเวณนั้นตั้งนานแล้ว และกำลังเฝ้ามองการต่อสู้ในครั้งนี้จากระยะไกล
สโมคเกอร์และเล่าบิงคนอื่นๆรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก กับความแข็งแกร่งของโรจาในตอนนี้ โดยเฉพาะวิชาดาบที่ปลดปล่อยคลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยวออกมา พวกเขาไม่สามารถคาดคะเนถึงความรุนแรงของมันได้เลย!
สโมคเกอร์และคนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะเกิดความหวาดกลัวขึ้นในจิตใจ พวกเขารู้สึกว่า ถ้าหากพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับโรจา โรจาไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิชาดาบอันร้ายกาจ(เก็ทสึงะ เท็นโช)เลย เพียงแต่ฟันธรรมดาๆฉับเดียวพวกเขาก็พ่ายแพ้ และไม่สามารถต้านทานได้แล้ว!
แม้กระทั่งการ์ปหรือเซนโงคุก็ยังต้องลุกจากที่นั่งเพื่อป้องกันเก็ทสึงะ เท็นโชของโรจาที่หลุดออกจาสนามต่อสู้ แล้วพุ่งไปยังที่นั่งคนดู
นั่นแสดงให้เห็นว่าวิชาดาบของโรจานั้นรุนแรงมากมายขนาดไหน!
พวกเขารู้เพียงแค่ว่าวิชาดาบที่ปลดปล่อยคลื่นจันทร์เสี้ยวที่คล้ายคลึงกับวิชาเฉือนนภานั้น แม้แต่พลเรือโทโมมอนก้าก็ยังไม่สามารถต้านทานได้!
มีเพียงการ์ป เซนโงคุ และเหล่าพลเรือเอกเท่านั้นที่ยังสามารถป้องกันเก็ทสึงะ เท็นโชของโรจาได้และยังทำให้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา แต่ในตอนนี้สโมคเกอร์และคนอื่นๆก็แทบจะแยกไม่ออกแล้วว่าพื้นที่ส่วนไหรคือสนามต่อสู้กันแน่ เพราะเวลานี้รอบๆจตุรัสเต็มไปด้วยความเสียหาย ไม่แตกต่างจากบนสนามที่โรจากำลังต่อสู้กับโมมอนก้าอยู่เลย!
เปลวเพลิงขนาดมหึมาได้กวาดกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง จนทำให้พวกเขาไม่สามารถมองเห็นการต่อสู้ของทั้งสองที่อยู่ข้างในได้
ในที่สุด
ร่างของโมมอนก้าก็ถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นออกมาจากเปลวเพลิง แม้แต่ดาบในมือเขาก็ไม่สามารถกำมันไว้ได้อีกต่อไป คาตานะเล่มใหญ่ของโมมอนก้าได้ลอยกระเด็นขึ้นฟ้า พร้อมกับไปตกอยู่ในจุดที่ห่างไกลออกไป
ท่ามกลางเปลวเพลิง โรจาค่อยๆเดินออกมาทีละก้าว ทีละก้าว พร้อมๆกับเปลวเพลิงที่แหวกออกเป็นสองฝากฝั่งเปิดทางให้เขาก้าวเดินออกมา — ทำให้ผู้คนที่เห็นฉากตรงหน้านี้รู้สึกราวกับว่าโรจานั้นเป็นดั่งจักรพรรดิแห่งเพลิง!
หากไม่นับเสียงของเปลวเพลิงที่กำลังปะทุอยู่
ก็อาจกล่าวได้เลยว่าทั่วทั้งจตุรัสได้จมลงสู่ความเงียบโดยสมบูรณ์ — ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล่าวอะไรออกมา!
การต่อสู้ตั้งแต่ตอนแรกจนมาถึงปัจจุบันนี้ โรจาได้งัดพลังงานร่างกายออกมาใช้จนถึงขีดสุด! อย่างไรก็ตามผลการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ปรากฏออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความจริงแล้วโมมอนก้ายังไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้ แต่สุดท้ายเขาก็ยังเลือกที่จะหัวเราะแห้งๆออกมา — เดิมทีแล้วเขานั้นเป็นคนที่จริงจังกับการต่อสู้เป็นอย่างมาก แต่ .. เขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโรจา!
“ฉันแพ้แล้ว”
ท่ามกลางความเงียบโมมอนก้าได้ฝืนยิ้มออกมา พร้อมกับกล่าวยอมรับความพ่ายแพ้
แม้ว่าโมมอนก้ายังทำใจเชื่อไม่ได้ว่าโรจานั้นแข็งแกร่งกว่าเขา แต่เขาที่เป็นพลเรือโทและทุ่มพลังทั้งหมดที่มีกลับไม่สามารถเอาชนะโรจาได้!
โรจานั้นเป็นเพียงแค่เล่าบิงที่พึ่งขอจบการศึกษาเท่านั้น!
ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว อายุของโรจาคงราวๆ 20 ปี เขายังหนุ่มอยู่มาก แต่กลับมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับพลเรือโท! —พรสวรรค์ของเขาช่างเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ต้องรู้นะว่า
แม้แต่อาโอคิยิ คิซารุ และอาคาอินุ ในตอนที่ขอจบการศึกษาพวกเขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 10 และผ่านเข้ามาถึงระดับนี้ได้!