GOS ตอนที่ 76 – คู่ต่อสู้คนที่ 10
“ฉันไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะเป็นถึงผู้ใช้ผลปีศาจสายโลเกีย เขาจะต้องเป็นเล่าบิงที่แข็งแกร่งที่สุดในการประเมินครั้งนี้แน่ๆ!”
“เห็นได้ชัดว่ามันต้องเป็นแบบนั้น!”
พลเรือโทหลายคนจ้องมองไปยังการต่อสู้ของสโมคเกอร์ พร้อมกับเริ่มเอ่ยแสดงความคิดเห็น
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน ฉันได้ยินมาว่าเล่าบิงที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้คือญาติของพลเรือโทการ์ป ที่สำคัญเขายังมีศักยภาพมากพอที่จะกลายเป็นพลเรือเอกได้!”
“มีศักยภาพมากพอที่จะกลายเป็นพลเรือเอก?”
คำพูดนั้นราวกับหินก้อนใหญ่ตกลงในแม่น้ำ คลื่นแห่งความตกใจได้แพร่กระจายไปทั่วในหมู่พลเรือโท
ต้องรู้นะว่ายศพลเรือเอกนั้นคือคนที่เป็นกำลังรบสูงสุดในศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด!
หากเขามีศักยภาพมากพอที่จะเป็นพลเรือเอก นั่นก็หมายความว่าประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเขาจะต้องสูงมากๆ ถึงแม้ชายคนที่ว่าจะเป็นถึงญาติของการ์ปก็ตาม แต่เหล่าพลเรือโทก็ยังคงมีข้อกังขาอยู่
เหนือที่นั่งของเหล่าพลเรือโท เป็นที่นั่งของสามพลเรือเอกและจอมพลเรือ
“สโมคเกอร์นั้นเป็นผู้ใช้พลังจากผลปีศาจควัน ดังนั้นศัตรูคนที่ 7 น่าจะไม่มีปัญหาสำหรับเขา”
อาโอคิยิที่นั่งอยู่และกำลังจ้องมองไปยังสนามประลองที่สโมคเกอร์กำลังต่อสู้อยู่ได้กล่าวขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลาย และดูสบายๆเป็นอย่างมาก
“แต่ก็โชคไม่ดีที่พละกำลังร่างกายของเขายังคงอ่อนแอ ความเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถล้มศัตรูคนที่ 8 ได้นั้นมีต่ำมาก”
คิซารุที่นั่งอยู่เหนือเซเฟอร์ได้เปิดปากพูดพร้อมกับเผยให้เห็นถึงท่าทีดูถูกเล็กน้อย
“เซเฟอร์เซนเซย์ ทำไมไม่สอนเจ้าหนูสโมคเกอร์ให้รู้จักฝึกฝนพละกำลังร่างกายเสียบ้างล่ะ? ไม่ใช่ว่าเซนเซย์เคยสอนฉันบ่อยๆว่าให้มุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนพละกำลังร่างกายรึไง?”
“หึ!”
เซเฟอร์แสยะยิ้มออกมา แล้วกล่าวตอบไปว่า
“ฉันก็สอนแกแบบนั้น แต่แกไม่เคยเก็บคำพูดของฉันไปใส่หัวเลย”
สามพลเรือกเอกล้วนเคยเป็นลูกศิษย์ของเซเฟอร์ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเซเฟอร์กับคิซารุนั้น เลวร้ายที่สุดในบรรดาลูกศิษย์คนอื่นๆ เซเฟอร์นั้นไม่พอใจเป็นอย่างมากกับนิสัยของคิซารุที่มักจะพึ่งพาแต่พลังของผลปีศาจ ดังนั้นเซเฟอร์จึงมักจะตำหนิคิซารุบ่อยๆ และบอกเขาว่าให้ใส่ใจกับการฝึกฝนพละกำลังร่างกายบ้าง
“นั่นไม่จำเป็น เพราะพลังจากผลปีศาจของฉันคือแสง ไม่ใช่ผลปีศาจที่อ่อนแอเหมือนกับของคนอื่นๆ”
คิซารุกล่าวพร้อมผายมือทั้งสองออกไปแสดงท่าทีราวกับต้องการจะบอกว่า สำหรับเขาแล้วถึงฝึกพละกำลังร่างกายไปมันก็ไร้ประโยชน์!
เซเฟอร์ไม่ต้องการที่จะเถียงกับคิซารุอีกต่อไป เขาหันกลับลงไปมองยังสนามประลอง
ปัง ปัง—!
สโมคเกอร์ยังคงต่อสู้กับโจรสลัด ทั้งสองยังคงเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าโจรสลัดที่เป็นคู่ต่อสู้จะมีค่าหัวถึง 180 ล้านแบรี่ แต่มันก็ไม่สามารถใช้ฮาคิได้ มันเป็นเพียงผู้ใช้ผลปีศาจสายพารามีเซีย ซึ่งไม่อาจทำร้ายผู้ใช้ผลปีศาจสายโลเกียแบบสโมคเกอร์ได้
เห็นได้ชัดว่าในเวลานี้ เจ้าโจรสลัดกำลังถูกทุบตีอยู่เพียงฝ่ายเดียว และไม่สามารถพลิกสถานการณ์ต่อสู้ได้เลย จนในที่สุดมันก็ถูกอาวุธของสโมคเกอร์หวดใส่จนกระอักเลือดออกมาแล้วลอยกระเด็นออกไปนอกสนามประลอง
“คู่ต่อสู้คนที่เจ็ด — ผ่าน!”
พลเรือโทยามาคาจิเมื่อเห็นฉากนี้ก็พยักหน้าเล็กน้อย เพราะมันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร คนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ก็พอจะเดาล่วงหน้าได้อยู่แล้วว่าสโมคเกอร์ที่ใช้ผลปีศาจสายโลเกียจะเป็นผู้ชนะ
ล่างสนามประลอง
เล่าบิงจากค่ายชั้นยอดกำลังเฝ้าดูการต่อสู้ของสโมคเกอร์อยู่
“ฉันแทบจะไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 6 ได้ … สโมคเกอร์แข็งแกร่งจริงๆ ที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 7 ได้อย่างง่ายดายแบบนี้”
“นั่นก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นผู้ใช้พลังจากผลปีศาจสายโลเกียนี่นา พวกเราไม่มีทางไปเทียบกับเขาได้”
เล่าบิงบางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่น พลางจ้องมองไปยังพลังจากผลปีศาจที่สโมคเกอร์ที่ถูกใช้ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเอาชนะคู่ต่อสู่คนที่ 7 ได้ … เหล่าเล่าบิงที่ขอจบการศึกษาต่างรู้สึกขมขื่นอยู่ในหัวใจเนื่องจากพวกเขาทั้งหมดล้วนพ่ายแพ้ให้แก่คู่ต่อสู้คนที่ 7
“อย่าลืมสิ ว่ายังมีโรจาอีกคน”
บางคนได้เริ่มเปิดประเด็นสนทนาอีกครั้ง แต่ในเวลานี้น้ำเสียงขมขื่นของเขาได้หายไปแล้ว
อารมณ์ประมาณว่า หากสโมคเกอร์ที่ใช้พลังจากผลปีศาจควันได้นั้น ทำให้พวกเขารู้สึกอิจฉาเล็กๆน้อยๆ แต่สำหรับโรจาแล้วพวกเขากลับไม่เกิดความอิจจาใดๆเลย
แม้ว่าโรจาจะไม่ได้ใช้พลังเปลวเพลิง แต่ใช้เพียงแค่หกวิชาโรคุชิกิกับวิชาดาบ ก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถบดขยี้พวกเขาได้ ดังนั้นบอกได้เลยว่าอิจฉาไปก็เปล่าประโยชน์!
“สโมคเกอร์อาจจะไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 8 ได้ ส่วนโรจาฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ซักกี่คน แต่ถ้าฉันจำไม่ผิด การประเมินในด่านที่ 3 จะต้องต่อสู้กับคู่ต่อสู้ทั้ง 10 คน ..”
“ต่อสู้กับทั้ง 10 คน …”
เล่าบิงบางคนในค่ายชั้นยอดดูเหมือนว่าจะรู้อะไรบางอย่าง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วส่ายหัวออกมา พร้อมกับกล่าวว่า
“ว่ากันว่าในอดีต สามพลเรือเอก อาโอคิยิ คิซารุ และอาคาอินุ นั้นสามารถเอาชนะได้ถึงคู่ต่อสู้คนที่ 9 เท่านั้น ไม่มีใครสามารถไปได้ไกลกว่านั้น”
เล่าบิงบางคนที่ขอจบการศึกษา เผยให้เห็นท่าทีตกตะลึง ก่อนที่จะเปิดปากพูดว่า
“แม้แต่เหล่าพลเรือเอกก็ไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 10 ?”
“เหลือเชื่อจริงๆ คู่ต่อสู้คนที่ 10 ของเหล่าพลเรือเอกคือใครกัน?”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังที่สามพลเรือเอก ก่อนที่จะสูดหายใจลึกพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายแล้วกระซิบออกมาอย่างแผ่วเบาว่า
“พลเรือโทของกองทัพเรือ!”
“พ่อของฉันเคยบอกว่า .. การประเมินด่าน 3 ในการขอจบการศึกษาของเล่าบิงจากค่ายชั้นยอดจะเป็นการสุ่มหนึ่งในทหารเรือยศพลเรือโทมาเป็นคู่ต่อสู้!”
เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา คนอื่นๆที่เหลือได้แต่หันมามองหน้ากันและกัน
คู่ต่อสู้คือ ยศพลเรือโท!
ยศพลเรือโทที่เป็นรองเพียงแค่ยศพลเรือเอกเท่านั้น!
กระดูกสันหลังของกองทัพเรือแน่นอนว่าคือสามพลเรือเอกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำทุกๆอย่างด้วยจำนวนคนเพียงเท่านี้ ดังนั้นหน้าที่ไล่ล่าปราบปรามโจรสลัดที่เก่งกาจส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่ของพลเรือโท!
พลเรือโทแต่ละคนนั้นล้วนมีประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชน นอกจากนี้พวกเขายังชำนาญวิชาโรคุชิกิ อย่างน้อย 1 – 2 วิชาอีกด้วย! หรือบางคนอาจจะชำนาญทั้ง 6 วิชา .. และที่สำคัญที่สุดพวกเขาล้วนเป็นตัวตนที่สามารถใช้ฮาคิได้อย่างชำนาญ!
แน่นอนว่าพลเรือโทนั้นไม่ใช่บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องทะเลแห่งนี้ แต่เมื่อเทียบกับทหารเรือฝึกหัดที่ยังไม่แม้แต่จะจบการศึกษา — ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่มันแตกต่างกันราวกับสวรรค์และโลก!
แม้กระทั่งสามพลเรือเอกในช่วงการประเมินการขอจบการศึกษา เมื่อพวกเขาได้ผ่านมาถึงคู่ต่อสู้คนที่ 10 และต้องต่อสู้กับพลเรือโท — ก็ยังต้องได้พบกับจุดจบที่น่าเศร้า!
ถึงแม้ว่าในตอนนี้พวกเขาจะเป็นพลเรือเอกที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องทะเล แต่ความแข็งแกร่งของพลเรือโทก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถเผชิญหน้าได้ อาจจะเรียกได้เลยว่าพลเรือโทนั้นเกือบจะแข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนทั่วไปและไม่มีใครสามารถเอาชนะได้!!
หลังจากที่ทหารเรือจำนวนมากได้ปีนป่ายมาจนถึงยศพลเรือโท มันก็นับได้ว่าเป็นจุดสูงสุดในชีวิตของพวกเขาแล้ว และเป็นเรื่องที่ยากมากๆที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งให้ไปอยู่ในระดับต่อไป หากต้องการพัฒนาความแข็งแกร่งให้ขึ้นไปอีกระดับ ความเพียรอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ แต่จะต้องมีพรสวรรค์ด้วย!!
“การประเมินขอจบการศึกษา ที่ต้องเผชิญหน้ากับยศพลเรือโท …”
“เล่าบิงจะไปเอาชนะพลเรือโทได้ยังไง? นี่มันเรื่องตลกชัดๆ! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม แม้แต่สามพลเรือเอกในตอนนั้นถึงไม่สามารถเอาชนะได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้เลย”
กลุ่มเล่าบิงที่สนทนากันอยู่ มุมปากของพวกเขาพลันกระตุก ก่อนที่จะส่ายหัวแล้วกล่าวว่า
“อย่าไปคิดถึงเรื่องพวกนี้มากจนเกินไป ขนาดคู่ต่อสู้คนที่ 7 พวกเรายังไม่สามารถเอาชนะได้ หากไม่ใช่สโมคเกอร์กับโรจา บางทีพวกเราอาจจะไม่ได้เห็นหน้าคู่ต่อสู้คนที่ 8 ในสนามประลองครั้งนี้ด้วยซ้ำ!”
“ส่วนคู่ต่อสู้คนที่ 10 … บางทีวันนี้พวกเราจะได้เห็นคู่ต่อสู้คนที่ 10 ปรากฏตัวขึ้นมาบนสนามประลองก็เป็นได้ ..”
…
ในสนามประลอง
หลังจากที่สโมคเกอร์สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 7 เขาก็เลือกที่จะท้ายทายคนที่ 8
คู่ต่อสู้คนที่ 8 ได้ขึ้นมาบนสนามประลองเพื่อต่อสู้กับสโมคเกอร์ เขานั้นเป็นทหารเรือยศพลเรือตรีที่แข็งแกร่งกว่าพลเรือตรีทั่วๆไป ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ใช้พลังจากผลปีศาจ แต่เขาก็มีร่างกายอันแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังชำนาญหกวิชาโรคุชิกิและฮาคิอีกด้วย!
พริบตาที่การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้น สโมคเกอร์ก็เปลี่ยนตัวเองเป็นควันทันที
แต่หลังจากที่ต่อสู้กันไม่กี่กระบวนท่า สโมคเกอร์ก็ถูกเป่ากระเด็นออกไปนอกสนามต่อสู้ภายใต้ความแข็งแกร่งของพลเรือตรีคนนั้น อย่างไรก็ตาม พลเรือตรีคนนั้นก็นับว่ายังมีความเมตตาอยู่บ้าง เขาได้ออมแรงเอาไว้ และโจมตีแค่เพียงให้สโมคเกอร์กระเด็นออกจากสนามประลองเท่านั้น ไม่ได้โจมตีเขาจนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บ
“ถ้าพลังจากผลปีศาจไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนตัวเองเป็นควัน แต่สามารถนำมันมาใช้โจมตีได้ บางทีเจ้าหนูสโมคเกอร์อาจจะแข็งแกร่งมากพอที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้คนที่ 8 ”
อาโอคิยิส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาของเขาจะเป็นประกายวูบวาบเผยให้เห็นถึงความคาดหวังที่อยู่ภายใน
“ต่อไป … ก็ถึงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่ฉันกำลังรอคอยแล้ว!”