GOS ตอนที่ 75 – หนึ่งดาบซ้อนทับสิบครั้ง
ฮึบ–!
หลังจากที่วอร์มอัพอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง โรจาก็โยนที่ยกน้ำหนัก 20 ตัน ลงบนพื้นทันที แต่เนื่องจากห้องฝึกฝนนี้สร้างจากหินไคโร ทำให้ถึงแม้จะถูกที่ยกน้ำหนัก 20 ตันร่วงตกใส่ มันกลับไม่เกิดร่องรอยใดๆปรากฏขึ้นบนพื้นแม้แต่น้อย
โรจาบิดขี้เกียจ ก่อนที่จะพักผ่อนเล็กๆน้อยๆ จากนั้นเขาก็ชักโฮโนะสึกิออกมา แล้วกระชับมันด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนที่จะกระโดดไปยังเป้าหมายตรงหน้า จากนั้นก็ตวัดออกไป
วูซ วูซ วูซ–!
พริบตาเดียว การตวัดดาบของโรจาก็ซ้อนทับกันถึงเก้าครั้ง แต่แรงตวัดที่เกิดขึ้นกลับเป็นเพียงการซ้อนทับกันแค่แปดครั้งเท่านั้น … ดูเหมือนว่าการซ้อนทับกันครั้งที่เก้าจะยังคงไม่สมบูรณ์
ตูม—!
เฉือนนภาพุ่งไปยังเป้าหมายและเกิดระเบิดขึ้นทันที
(*เผื่อใครงง เฉือนนภานี่เกิดจากการฟันซ้อนทับกันหลายๆครั้งนะ)
“ฉันคงต้องใส่พละกำลังและความว่องไวลงไปในการฟาดฟันให้มากกว่านี้ ถึงจะสามารถตวัดดาบเดียวเก้าครั้งได้ ขั้นแรกคงต้องพยายามทำให้เหมือนกับในตอนที่ตวัดดาบเดียวแปดครั้งให้ได้เสียก่อน เพื่อที่จะได้รวดเร็วขึ้นและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น!”
โรจามองไปยังผลลัพธ์ของการพยายามตวัดดาบเดียวเก้าครั้ง ก่อนที่จะพยักหน้าออกมา จากนั้นก็กระชับดาบด้วยมือทั้งสองข้างอีกครั้งและตวัดมันออกไปในระยะไกล
“อีกครั้ง!”
วูซ วูซ–!
การซ้อนทับกันครั้งนี้ดีขึ้นเล็กน้อย แต่พละกำลังที่ใส่ลงไปยังคงไม่เพียงพอ — ครั้งนี้ก็ยังล้มเหลว!
“ปัญหาก็คือฉันยังควบคุมพละกำลังได้ไม่ดีพอ … อีกครั้ง!”
โรจารู้สึกว่าด้วยพละกำลังแขนและความแข็งแกร่งร่างกายในตอนนี้ของเขา ก็น่าจะเพียงพอที่จะตวัดดาบเดียวซ้อนทับกันสิบครั้งได้อย่างสมบูรณ์ แต่สิ่งที่เขาขาดไปในปัจจุบันก็คือ การควบคุมพละกำลังและความตระหนักรู้ในวิชาเฉือนนภาเท่านั้น
และเพื่อที่จะตระหนักรู้ในวิชาเฉือนนภา สิ่งที่เขาต้องทำก็คือ การตวัดดาบไปเรื่อยๆ ตวัดไปนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อที่ความตระหนักรู้จะได้เพิ่มขึ้นทีละน้อย ทีละน้อย
การประเมินด่าน 3 ยังเหลือเวลาอีกสองเดือนครึ่ง ดังนั้นเวลานี้โรจาไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งเหมือนกับในช่วงเวลาก่อนหน้า
ครึ่งเดือนต่อมา
โรจาก็สามารถตวัดดาบเดียวซ้อนทับกันเก้าครั้งได้สำเร็จ!
หลังจากผ่านไปอีกครึ่งเดือนเขาก็สามารถตวัดดาบเดียวซ้อนทับกันสิบครั้ง!!
…
ณ ห้องฝึกฝนที่ถูกสร้างโดยหินไคโร
โรจากระโดดขึ้นไปกลางอากาศ ขณะที่ยังคงกระชับโฮโนะสึกิด้วยมือทั้งสองข้าง ทันใดนั้นดาบในมือของเขาพลันเกิดประกายวูบวาบราวมีใบดาบจำนวนมากกำลังซ้อนทับกันอยู่ หากมองด้วยตาเปล่าจะรู้สึกราวกับว่าเห็นเป็นภาพดอกไม้กำลังเบ่งบาน ทันใดนั้นเอง คมดาบสายลมอันแข็งแกร่งก็พุ่งออกไปปะทะกับเป้าหมาย!
ตูม—!
คมดาบสีเงินขาวพุ่งปะทะเข้ากับเป้าหมายเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นราวกับสายฟ้าฟาด!
“การตวัดดาบเดียวซ้อนทับกันสิบครั้งเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ .. แต่หลังจากที่สามารถทำได้ มันช่างให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง”
โรจาจ้องมองลงมายังโฮโนะสึกิหลังจากที่เขาสามารถตวัดดาบเดียวซ้อนทับกันได้ถึงสิบครั้ง ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย ก่อนที่จะตวัดดาบออกไปด้วยมือเพียงข้างเดียว
วูซ—!
แม้ว่าโรจาจะตวัดดาบออกไปด้วยมือเพียงข้างเดียว แต่เขาก็ยังสามารถปลดปล่อยเฉือนนภาได้! แม้ว่ามันจะอ่อนแอกว่าที่ตวัดด้วยมือทั้งสองข้างก็ตาม แต่อย่างน้อยในตอนนี้เขาก็สามารถใช้เฉือนนภาด้วยมือเพียงข้างเดียวได้แล้ว!
“ไม่ใช่ว่าจะต้องมีเพียงแค่พละกำลังและความว่องไวเท่านั้น แต่ยังต้องมีความตระหนักรู้ในวิชาเฉือนนภาอีกด้วย — หลักสำคัญที่ทำให้ฉันสามารถตวัดดาบเดียวได้สิบครั้งในครั้งนี้ก็เป็นเพราะความตระหนักรู้”
ดวงตาของโรจาที่กำลังถือโฮโนะสึกิด้วยมือเพียงข้างเดียว เผยให้เห็นถึงประกายความรอบรู้
“การตวัดดาบเดียวซ้อนทับสิบครั้ง นี่ถือเป็นคอขวดจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม วิชาเฉือนนภาถึงถูกบันทึกเอาไว้ว่าคนที่สามารถตวัดซ้อนทับได้สิบครั้ง จะถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากในท้องทะเลแห่งนี้”
ในช่วงระหว่างที่กำลังพักแขน โรจาก็เรียกหน้าต่างสถานะขึ้นมา ทันใดนั้นหน้าต่างโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ขั้นสาม :จิตวิญญาณดาบแห่งความรอบรู้ +9
สถานะ: พลังโจมตี +280, พละกำลัง +90, ว่องไว +90
สกิลพิเศษ : บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน — การโจมตีด้วยดาบจะเสริมความเสียหายด้วยไฟ (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)
สกิลพิเศษ : เก็ทสึงะ เท็นโช (เขี้ยวจันทรา ทะลวงสวรรค์) — เมื่อใช้สกิลนี้ จะเกิดคลื่นพลังเป็นรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งตรงไปยังทิศทางที่ฟาดฟันดาบออกไป
สเตมิน่า: 13/210
หลังจากที่ฝึกฝนฮาคิ และสามารถโค่นลุจจิลงได้ ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของโรจาก็ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งขึ้นถึงสองครั้ง และถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดหรือไม่มีเงื่อนไขใดๆเหมือนในตอนวิวัฒนาการเป็นขั้นสาม เขาก็จะสามารถเสริมความแข็งแกร่งขึ้นเป็น +10 จากนั้นก็วิวัฒนาการเป็นขั้นสี่ !
“ฉันจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งเป็น +10 ก่อนการประเมินด่านที่ 3 ได้ไหมนะ?”
จากที่โรจาคาดการณ์ไว้ การประเมินด่านที่ 3 น่าจะเกิดขึ้นอีกประมาณ 3 วันข้างหน้า หากเขาต้องการจะวิวัฒนาการเป็นขั้นสี่ เขาคงจะต้องเร่งมือสุดๆ!
“พละกำลังร่างกายของฉันในตอนนี้น่าจะอยู่ระดับเดียวกับยศพลเรือโทแล้วและถ้าหากฉันใช้ฮาคิ พร้อมๆกับวิชาดาบ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวยศพลเรือโทที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับกลางอีกต่อไป”
“แล้วถ้าหากฉันใช้พลังเปลวเพลิง +เก็ทสึงะ เท็นโช +เฉือนนภาแล้วล่ะก็ …”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของโรจาก็เป็นประกาย เขาเผลอกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวก่อนที่จะปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า พร้อมกับกล่าวว่า
“คงต้องลองเผชิญหน้ากับยศพลเรือโทดูสักครั้ง จะได้รู้ว่าเสียทีว่าใครจะหมู่ใครจะจ่า!”
ในศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด ยศพลเรือโทนั้นมีทั้งคนที่แข็งแกร่งและคนที่อ่อนแอ กล่าวอธิบายง่ายๆก็คือ ยศพลเรือโทที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นสามารถตบโดฟลามิงโก้คว่ำได้ด้วยเพียง 2 กระบวนท่า ในขณะที่พลเรือโทที่อ่อนแอที่สุดกลับถูกโดฟลามิงโก้ตบคว่ำได้ด้วยกระบวนท่าเดียว
โรจาพึมพำกับตัวเองว่าหากเขาต้องการที่จะมีความแข็งแกร่งไปถึงระดับยศพลเรือเอก เขาก็ควรจะต้องสามารถเอาชนะยศพลเรือโทที่แข็งแกร่งที่สุดได้ในกระบวนท่าเดียวให้ได้เสียก่อน!!
…
สามวันต่อมา
ภายในศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด มีจตุรัสตั้งอยู่มากมาย แต่จตุรัสที่ใหญ่ที่สุดก็คือจตุรัสตรงท่าเรือ ซึ่งสามารถรองรับคนได้ถึง 100000 คน!
อันดับต่อมา
ก็คือจตุรัสที่ตั้งอยู่ภายในป้อมปราการยักษ์
ที่นี่จะมีสองจตุรัส จตุรัสแรกมีไว้ให้พวกทหารเรือฝึกหัดในค่ายสามัญฝึกซ้อม ส่วนอีกจตุรัสหนึ่งเป็นจตุรัสที่ถูกสร้างขึ้นมาชั่วคราว เพื่อใช้เป็นสนามต่อสู้
ในสนามต่อสู้ ตอนนี้ได้มีร่างสองร่างกำลังปะทะกันอยู่
ปัง—!
ทันใดนั้นร่างๆหนึ่งก็ได้ถูกกระแทกจนลอยกระเด็นออกมา
“คนที่หก — สโมคเกอร์ชนะ!”
เมื่อมองไปยังฉากนี้พลเรือโทยามาคาจิที่ยืนอยู่ใกล้สนามประลองมากที่สุดก็ได้ประกาศผลออกมา
สโมคเกอร์ยืนอยู่บนเวที และเขาสามารถเอาชนะศัตรูคนที่ 6 ได้แล้ว ดังนั้นในตอนนี้จึงถือว่าเขาได้ผ่านการประเมินด่าน 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่าหากต้องการได้รับคะแนนการประเมินที่ดีขึ้น เขาจำเป็นที่จะต้องท้าทายคู่ต่อสู้คนต่อไป
สโมคเกอร์เลือกที่จะท้าทายคู่ต่อสู้คนที่ 7
ศัตรู 6 คนที่สโมคเกอร์ได้โค่นลงไปก่อนหน้านี้ ล้วนมีความแข็งแกร่งอยู่ในระหว่างยศนาวาตรีและนาวาเอก
ศัตรูคนที่หกของสโมคเกอร์คือทหารยศนาวาเอก ส่วนศัตรูคนที่เจ็ดของเขาเป็นหนึ่งในนักโทษที่ถูกคุมขังไว้ในคุกนรกอิมเพลดาวน์ และครั้งหนึ่งเขาเคยมีค่าหัวถึง 180 ล้านแบรี่!
โจรสลัดคนนี้มีความแข็งแกร่งราวๆยศพลเรือตรี หรือบางทีอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า!
ชัดเจนแล้วว่า
ศัตรูตั้งแต่คนที่ 7 ขึ้นไปความยากจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว!
ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งของศัตรูเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น
แต่ศัตรูยังเป็นฝั่งตรงข้ามกับกองทัพเรืออีกด้วย! มันเป็นโจรสลัดที่แข็งแกร่งจนต้องนำไปคุมขังยังคุกนรกอิมเพลดาวน์ และมันต้องการที่จะแก้แค้นพวกทหารเรือที่จับมันโยนลงไปในคุกนรก!
การต่อสู้กับทหารเรือในก่อนหน้านี้เป็นเหมือนกับการฝึกซ้อมเท่านั้น! แต่การต่อสู้ในครั้งนี้จะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ไม่ไกลจากสนามประลอง
เป็นที่นั่งสำหรับชมการประเมินด่าน 3
ผู้ที่จะสามารถนั่งที่นี่ได้นั้น จะต้องเป็นทหารเรือยศอาวุโสเท่านั้น! ในตอนนี้มีหลายคนที่นั่งอยู่ที่นั่น คนเหล่านั้นก็คือพลเรือโททั้งหลาย , สามพลเรือเอกอาโอคิยิ คิซารุ อาคาอินุ นอกจากนั้นก็ยังมีอดีตพลเรือเอกเซเฟอร์ รวมไปถึงวีรบุรุษของกองทัพเรือการ์ป …
แม้กระทั่งจอมพลเรือเซนโงคุก็ยังนั่งรวมอยู่ตรงนั้นด้วย!
เนื่องช่วงเวลานี้ทางกองทัพเรือยังไม่สามารถเข้าไปวุ่นวายในนิวเวิลด์ไม่ได้ตามใจชอบ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียง ส่งคนไปสังเกตการณ์เหล่าสี่จักรพรรดิอย่างเข้มงวดเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทหารเรืออาวุโสของกองทัพเรือไม่ค่อยมีเวลาว่างมากมายนัก
แต่พวกเขากลับมานั่งชมการประเมินด่าน 3 ในวันนี้! การประเมินในครั้งนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากในปีที่ผ่านมาปกติแล้ว แทบจะไม่มีทหารเรือยศอาวุโสรวมตัวกันเลย — การที่พวกเขามารวมตัวกันมากขนาดนี้ เคยเกิดขึ้นแค่เพียงครั้งเดียวในมังงะเท่านั้น นั่นก็คือช่วงที่เกิดสงครามครั้งใหญ่ในมารีนฟอร์ด!