GOS ตอนที่ 73 – รายงาน
บาสทิลก็ได้หยิบบุหรี่ขึ้นสาสูบเช่นกัน
“แต่เจ้าเด็กนั่นเป็นญาติของการ์ป เขาก็ควรที่จะมีความแข็งแกร่งอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม กลุ่มโจรสลัดดาบเงินก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน กองเรือในหน่วย G-4 ก็ออกไปปราบปรามพวกมันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถปราบปรามพวกมันได้ และเนื่องจากนายไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนั้น ฉันจึงส่งพลเรือตรีออกไป 5 คนเพื่อคอยดูแลเขา เวลานี้ .. พวกเราก็ทำได้เพียงหวังว่าเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย”
พลเรือโทอีกคนเมื่อได้ยินสิ่งที่บาสทิลกล่าว เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า
“นี่ … นั่นสินะ ฉันก็หวังว่ามันคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
ในตอนนั้นเอง
เปเระ เปเระ เปเระ เปเระ …
เด็นเด็นมูชิที่วางอยู่บนโต๊ะของบาสทิลก็ได้ดังขึ้น
ดวงตาของบาสทิลเป็นประกายทันที ก่อนที่เขาจะหยิบเด็นเด็นมูชิขึ้นมาแล้วรีบถามออกไปว่า
“ฉันผู้บัญชาการฐานG-4 ผลการต่อสู้เป็นยังไงบ้าง”
ปลายสายได้รายงานออกไปเพียงไม่กี่คำเท่านั้น
ติ๊ง
เด็นเด็นมูชิร่วงลงจากมือของบาสทิลตกลงบนพื้น
ในขณะเดียวกัน บุหรี่ที่คาบอยู่ในปากของพลเรือโทอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆก็ร่วงตกลงบนพื้นเช่นกัน
ภายในสำนักงานฐาน G-4 เกิดความเงียบขึ้นในฉับพลัน
และไม่มีใครกล่าวอะไรออกมาเป็นเวลานาน
…
ณ ชั้นบนสุดของป้อมปราการยักษ์แห่งศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด
ภายในสำนักงานของเซนโงคุ
เซนโงคุกำลังนั่งอยู่ขณะที่ตรงหน้าเขาเต็มไปด้วยเอกสารหลายฉบับ หลังจากที่เขาเซ็นเอกสารจนหมด เขาก็ส่งมันให้กับทหารเรือที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนที่จะบิดขี้เกียจออกมา จากนั้นก็หยิบถ้วยชาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจิบอย่างช้าๆ
ในตอนนั้นเอง เขาก็ได้รับรายงานมาว่ามีคนๆหนึ่งต้องการที่จะขอพบ
“โอ้ … ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง ยามาคาจิ มีเรื่องอะไรงั้นหรือ?”
“นี่ ..”
หลังจากที่เข้ามาในสำนักงาน ใบหน้าของยามาคาจิก็ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในที่สุดก็ยื่นเอกสารให้กับเซนโงคุพร้อมกับกล่าวว่า
“ดูนี่สิครับ”
“อะไรกันนะที่ถึงกับทำให้คุณไม่อาจสงบใจได้”
เมื่อเห็นท่าทีของยามาคาจิ เซนโงคุก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย แต่เมื่อเขาหยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน เซนโงคุก็ไม่สามารถรักษาความสงบเอาไว้ได้เช่นกัน ดวงตาของเขาเป็นประกาย ก่อนที่จะอ่านเอกสารแผ่นนั้นอย่างช้าๆเพื่อความรอบคอบ
จากนั้น
ภายในสำนักงานก็จมลงสู่ความเงียบ
ผ่านไปนานเซนโงคุก็วางเอกสารลงก่อนที่จะยกชาขึ้นมาจิบแล้วกล่าวอย่างช้าๆว่า
“หน่วย G-4 ไม่มีผู้เสียชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว มีหนึ่งคนที่บาดเจ็บสาหัส และอีกสามคนบาดเจ็บเล็กน้อย รวมทั้งหมดเป็นสี่คนที่ได้รับบาดเจ็บ … การปราบปรามโจรสลัดดาบเงินในครั้งนี้ โรจาสามารถกำจัดกัปตันโจรสลัดดาบเงินได้ และหัวหน้าหน่วยของพวกมัน 9 คน และลูกเรือโจรสลัดอีก 52 คน ..”
“มันสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าที่ฉันจินตนาการเอาไว้เสียอีก”
ถึงแม้เซนโงคุจะกล่าวอย่างช้าๆด้วยน้ำเสียงสงบ แต่ดวงตาของเขากลับเป็นประกาย และท่าทีของเขาก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เผยให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น!
ในอดีต บรรดาสามพลเรือเอก คนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดก็คือ คิซารุ เขาปราบปรามโจรสลัดเกือบทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว แต่ในตอนนั้นกลับมีทหารเรือที่เสียชีวิตถึง 6 คน! นอกจากนั้นกัปตันโจรสลัดในตอนนั้นยังมีค่าหัวเพียงแค่ 170 ล้านแบรี่
ซึ่งในตอนนั้นนับได้ว่าเป็นโจทย์ที่ยากมากๆ แต่เขาก็ยังสามารถปราบปรามโจรสลัดได้อย่างสมบูรณ์แบบและก่อให้เกิดผลเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ท่านครับ โรจาแข็งแกร่งจริงๆ เขาจะต้องเป็นเหมือนกับพลเรือโทการ์ปได้แน่ๆ”
ยามาคาจิกล่าว หลังจากได้รับเอกสารมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่สามารถสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้เลย
เมื่อได้ยินว่ายามาคาจิกล่าวถึงการ์ป ใบหน้าของเซนโงคุก็เริ่มมีเส้นเลือดปูดบวมขึ้นมา ก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มแล้วกล่าวว่า
“เป็นเหมือนกับการ์ป? อย่าแม้แต่จะคิดเชียว! เจ้าหมอนั่นมันมักจะชอบสร้างปัญหาให้ฉันตลอดเลยในอดีต!”
ยามาคาจิเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมา แล้วไม่ได้กล่าวอะไรต่ออีก
“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องไปดูการประเมินด่าน 3 ของโรจาให้ได้ซะแล้วสิ”
เซนโงคุยืนขึ้นก่อนที่จะถอนหายใจออกมา จากนั้นก็หันไปมองนอกหน้าต่างสำนักงาน ก่อนที่จะจมลงสู่ห้วงความคิดแล้วยื่นเอกสารกลับไปให้ยามาคาจิ
…
ณ ศูนย์ใหญ่
เบื้องล่างสำนักงานของเซนโงคุ
เป็นที่ตั้งของหน่วยข่าวกรองของกองทัพเรือ นอกเหนือไปจากการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนนับไม่ถ้วนในทุกๆวันแล้ว ยังเป็นที่อยู่ของที่ปรึกษาซึ่งมีหน้าที่ในการจัดการ วิเคราะห์ และตรวจหาข้อมูล ที่เซนโงคุและเหล่าพลเรือเอกต้องการอีกด้วย
ที่ปรึกษาคาร์ลกำลังทำการลงทะเบียนข้อมูลต่างๆอยู่
เขาเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบในการลงทะเบียนข้อมูลการประเมินการขอจบการศึกษาของพวกโรจาและคนอื่นๆในค่ายชั้นยอด
วันนี้ก็เป็นดั่งเช่นทุกวัน เขาได้เข้ามายังทำงานยังหน่วยข่าวกรองอีกครั้ง
ในตอนนั้นเอง ก็ได้มีข้อมูล ‘พิเศษ’ ถูกส่งมา
“เอ๋? นี่มันเอกสารผลการประเมินการขอจบการศึกษาของค่ายชั้นยอด .. ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่สามารถผ่านด่าน 2 ได้เร็วขนาดนี้”
คาร์ลเหลือบไปมองเอกสารข้อมูลก่อนที่จะส่ายหัวเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องของโรจา ถึงแม้โรจาอาจจะทำภารกิจปราบปรามโจรสลัดได้สำเร็จ แต่ก็คงจะไม่อยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบแน่ๆ เมื่อคิดได้แบบนั้นมุมปากของเขาก็ยกสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
การกระทำแบบลับๆของเขากลับส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงตามมา และที่สำคัญยังไม่สามารถมีใครจับผิดเขาได้!
หลังจากที่โยนเรื่องของโรจาออกจากหัว คาร์ลก็ยกชาขึ้นมาจิบแล้วใช้มืออีกข้างอ่านเอกสารพิเศษที่พึ่งได้รับมา
เพล้ง–!
แก้วชาได้ร่วงตกลงบนพื้น
ที่ปรึกษาอีกคนหันไปจ้องมองคาร์ลด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนที่จะเอ่ยถามว่า
“คาร์ล เกิดอะไรขึ้น?”
“เปล่า … ไม่มีอะไร”
คาร์ลพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ก่อนที่จะอ่านเอกสารโดยละเอียดอีกครั้ง ในมุมๆหนึ่งบนเอกสารมีชื่อของโรจาเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน และตรงที่เขียนคะแนนการประเมินก็มีคำว่า ‘สมบูรณ์แบบ’ ปรากฏอยู่
…
ในการประเมินด่าน 2 มีใครบางคนได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์ สมบูรณ์แบบ
นี่นับว่าเป็นข่าวใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่ทำคะแนนได้ในเกณฑ์ สมบูรณ์แบบ แต่ข่าวนี้ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด!
ทุกคนตกใจกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก
เนื่องจาก
ในประวัติศาสตร์การประเมินการขอจบการศึกษาของค่ายชั้นยอด คนที่ได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบนั้นมีเพียงแค่สามคนเท่านั้น! — ซึ่งก็คือพลเรือเอกทั้งสาม!
แต่ในตอนนี้กลับมีใครบางคนสามารถทำคะแนนอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบได้! แบบนี้ก็หมายความว่า …
…
ณ ศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด
ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญที่สามพลเรือเอกได้มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
“ได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบจริงๆงั้นหรอ? … สมแล้วที่เป็นญาติของการ์ปซัง ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่น่ากลัวจริงๆ”
คิซารุกล่าว มือที่กำลังปอกแอปเปิ้ลของเขาหยุดกึกทันที ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง แต่มันก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
ทางด้านอาโอคิยิที่กำลังนั่งหลับอยู่ได้ดึงผ้าปิดตาขึ้นแล้วกล่าวออกมาว่า
“เขาได้คะแนนการประเมินในเกณฑ์สมบูรณ์แบบจริงๆใช่ไหม?”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ อาโอคิยิก็ยกมือขึ้นเท้าคางก่อนที่จะกล่าวว่า
“ฉันอยากรู้จริงๆว่าในด่านที่ 3 เขาจะสามารถผ่านไปจนถึง ‘คู่ต่อสู้คนที่ 10’ และยังคงอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบอีกหรือไม่”
“ในด่าน 3 การที่จะต้องต่อสู้กับคนทั้ง 10 คนมันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แม้แต่พวกเราก็ไม่สามารถล้มทั้ง 10 ได้”
“บางทีเขาอาจจะชนะทั้ง10คนก็ได้นะ”
อาโอคิยิกล่าว พร้อมกับยืนขึ้น จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป
คิซารุเห็นแบบนั้นก็ยกชาขึ้นมาจิบแล้วเดินออกจากห้องไปเช่นกัน
“คู่ต่อสู้คนที่ 10 …”
หลังจากที่อาโอคิยิและคิซารุเดินจากไป อาคาอินุก็ยืนขึ้นเช่นกัน ก่อนที่จะหยิบผ้าคลุมที่เบื้องหลังมีตัวอักษรคำว่า ‘ยุติธรรม’ ขึ้นมาสวม แล้วส่ายหัวเล็กน้อย พร้อมกับถอนหายใจออกมา จากนั้นก็เดินออกจากห้องตามคนอื่นๆไป