GOS ตอนที่ 72 – ช่างอ่อนแอจริงๆ
เหล่าโจรสลัดเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับเฉือนนภา แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งพุ่งลงมาเป็นเปลวเพลิงขนาดมหึมาแทน เท่านั้นยังไม่พอ เปลวเพลิงยังไม่ทันจะมาถึงตัวพวกมัน โรจาก็ยิงคลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยวลงมาอีกรอบ เมื่อเห็นวิชาดาบทั้งสองผสานกันกำลังจะตกลงมา พวกโจรสลัดก็เต็มไปด้วยความโกลาหล
วิซ–!
ในเวลานั้นเอง ใครคนหนึ่งที่อยู่บนเรือได้พุ่งเข้าไปปะทะกับเก็ทสึงะ เท็นโช
คนๆนั้นคือกัปตันของกลุ่มโจรสลัดดาบเงิน ที่มีค่าหัวกว่า 200 ล้านแบรี่! ในนิวเวิลด์ ความแข็งแกร่งของเขานับว่าไม่เลวเลย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตกอยู่ในความระส่ำระส่ายเมื่อเผชิญกับเก็ทสึงะ เท็นโชและเปลวเพลิงขนาดมหึมาตรงหน้า
กัปตันรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่อาจต้านทานมันได้ทั้งหมด
แต่เขาก็จำเป็นที่จะต้องทำ! กัปตันโจรสลัดดาบเงินได้วาดดาบของเขาไปปะทะเข้ากับเก็ทสึงะ เท็นโช ทันใดนั้นพลันเกิดเสียงโลหะปะทะกันเสียงดังสนั่น พร้อมๆกับร่างของกัปตันถูกแรงปะทะอัดกระเด็นจนร่วงกลับลงไป!
ตูม—!
เมื่อเห็นแบบนั้น ลูกเรือโจรสลัดดาบเงินคนอื่นๆ ก็พยายามที่จะหยุดเก็ทสึงะ เท็นโชเช่นกัน พวกเขานั้นรู้ตัวดีว่าตนเองนั้นไม่สามารถฟันเปลวเพลิงได้ จึงช่วยกันหยุดยั้งคลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยวตรงหน้าแทน
ท่ามกลางคมดาบของศัตรูนับไม่ถ้วน เก็ทสึงะ เท็นโชก็ได้สลายไปในที่สุด
วูซ ตูม—!
อย่างไรก็ตาม เปลวเพลิงที่ผสานกับเฉือนนภาที่ไม่มีโจรสลัดคนไหนกล้าแตะต้อง ได้ตกลงกลางลำเรือโจรสลัด เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ราวกับว่าเรือทั้งลำจะถูกผ่าออกเป็นสองซีก!
เปลวเพลิงได้ระเบิดแตกกระจายไปทั่วลำเรือ
ณ จุดที่ไกลออกไป
พลเรือตรีและเหล่าทหารเรือบนเรือรบกำลังอ้าปากค้างจนคางตกถึงพื้นด้วยความตกตะลึง! ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
ทหารเรือฝึกหัดที่มาจากมารีนฟอร์ด เด็กหนุ่มที่พวกเขาคิดว่าเป็นเด็กเส้น .. แท้จริงแล้วเป็นคนที่โคตรจะแข็งแกร่ง!
“หยุดยิง!”
พลเรือตรีคนที่พูดคุยกับโรจาได้สติกลับมาเป็นคนแรก ก่อนที่จะรีบออกคำสั่งออกไปทันที เขารู้สึกราวกับตื่นจากฝัน และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโรจาถึงขอให้เขาหยุดยิงปืนใหญ่! — แท้จริงแล้วมันเป็นเพราะว่ากระสุนปืนใหญ่นั้นไม่ได้ช่วยอะไรแถมยังทำได้เพียงสร้างความรำคาญให้แก่โรจา!
เหนือเรือโจรสลัด
โรจายังคงใช้เก็ปโปยืนอยู่กลางอากาศ ขณะที่กำลังเฝ้าดูเรือโจรสลัดที่กำลังลุกไหม้ ก่อนที่มุมปากของเขาจะยกสูงขึ้นเล็กน้อย
“คู่ควรกับที่เป็นโจรสลัดในนิวเวิลด์จริงๆ พวกมันสามารถช่วยกันรับเก็ทสึงะ เท็นโชได้และไม่ได้ตายทันทีที่ถูกเปลวเพลิงเผาผลาญ”
“แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน … ไม่อย่างนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้ก็คงจะน่าเบื่อ”
กล่าวจบ โรจาก็ค่อยๆเดินลงไปยังเรือโจรสลัดที่อยู่เบื้องล่าง
ในเวลาเดียวกัน โรจาก็วาดโฮโนะสึกิออกไปด้วยมือเพียงข้างเดียว
“กำแพงเพลิง!”
ฟุ้ม—!
เปลวเพลิงได้ลุกโชนขึ้นอีกครั้งบนท้องฟ้า แต่คราวนี้มันห่อหุ้มตัวของโรจา ก่อนที่จะพุ่งตกลงมาราวกับอุกกาบาต!
ตูม ตูม ตูม—!
เปลวเพลิงอันน่าสยดสยองเกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่มันจะกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง เรือโจรสลัดทั้งลำตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงจนกลายเป็นเตาอบขนาดยักษ์!
โจรสลัดบางคนเริ่มกระโดดลงทะเลหนีตายอย่างบ้าคลั่ง
ส่วนพวกที่ไม่กระโดดลงทะเล … ต่างก็ถูกเปลวเพลิงเผาผลาญ และตายตกตามไปภายใต้คมดาบของโรจา!
ทหารเรือที่อยู่บนเรือรบ ต่างจ้องมองไปยังเรือของกลุ่มโจรสลัดดาบเงินซึ่ง ณ เวลานี้เต็มที่ด้วยเปลวเพลิงที่ลุกโชนขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเผลอกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่
“นั่นมัน … ออกจะเกินไปหน่อยไหม?”
“ดูเหมือนว่า .. พวกเราจะทำได้เพียงยืนดูอยู่เฉยๆจากที่นี่”
พลเรือตรีทั้งห้าต่างจ้องมองไปยังเรือโจรสลัดที่กำลังลุกเป็นไฟ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นในจิตใจ หากพวกเขาร่วมมือกับโรจาบุกเข้าไปบนเรือลำนั้น ก็คงไม่แม้แต่จะสามารถทนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงได้ในระยะเวลาสั้นๆ และคงเป็นได้เพียงตัวภาระให้แก่โรจา
เห็นได้ชัด … ว่าโรจาไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือ
หน้าที่ของพวกเขาตอนนี้ ทำได้เพียงเก็บกวาดโจรสลัดที่กระโดดหนีลงทะเล
ฉัวะ–!
เปลวเพลิงขนาดมหึมายังคงลุกโชนขึ้นอย่างต่อเนื่อง คมดาบสายลมได้ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นระยะๆ จนกระทั่งเรือโจรสลัดเริ่มเต็มไปด้วยรอยรั่ว พร้อมกับมีน้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาบนเรือ
ไม่มีใครรู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน
แต่ในที่สุดเรือโจรสลัดดาบเงินที่เต็มไปด้วยรูรั่วขนาดใหญ่มากกว่าสิบจุดก็ค่อยๆจมลงไปทะเลอย่างช้าๆ
ตัวเรือโจรสลัดที่เคยแข็งแกร่ง ได้ยอมสยบให้แก่จักรพรรดิแห่งเปลวเพลิงที่กำลังอาละวาดอย่างบ้าคลั่งอยู่บนเรือ จนในที่สุดเรือทั้งลำก็แยกออกเป็นส่องส่วน
โรจาได้ใช้เก็ปโปเดินกลับมายังเรือรบ ขณะที่ภาพพื้นหลังของเขาคือเรือโจรสลัดที่ลุกไหม้และกำลังจมลงสู่ท้องทะเล ภายใต้ท้องฟ้าที่แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน!
วูซ—!
โรจาได้กลับมาบนเรือรบอีกครั้ง พร้อมๆกับเก็บโฮโนะสึกิเข้าไปในฝัก ในเวลาเดียวกันเปลวเพลิงที่กำลังลุกท่วมอยู่บนเรือโจรสลัดก็ค่อยๆมอดดับลง เหลือทิ้งไว้เพียงเศษซากปรักหักพังและรอยไหม้ดำๆนับไม่ถ้วน
เวลานี้ตามตัวของโรจาเต็มไปด้วยคราบเลือด แต่เนื่องจากความร้อนที่แผดเผา ทำให้คราบเลือดพวกนั้นระเหยออกไปจนกลายเป็นเพียงเศษเลือดแห้งๆ นอกจากนั้น ตามร่างกายของเขายังไม่มีแม้ร่องรอยของการถูกเผา แม้แต่ปลายเส้นผมก็ยังไม่งองุ้ม
“รีบไปเก็บกวาดซะสิ ถ้าพวกคุณไม่รีบเกรงว่าเรือของพวกมันจะจมหายลงไปในก้นทะเลเสียก่อน”
เมื่อกลับมาบนเรือรบ โรจาเห็นว่าทุกคนที่อยู่บนเรือกำลังจ้องมองเขาด้วยสีหน้าโง่งม จึงชี้ไปยังเรือโจรสลัดที่ขาดครึ่งพร้อมกับพูดเรียกสติ
เงียบกริบ …
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ในที่สุดเสียงของพลเรือตรีคนหนึ่งก็ได้ทำลายความเงียบลง
“ไปเก็บกวาดให้เรียบร้อย!”
“ครับผม!”
ในที่สุดเรือรบก็กลับมาเต็มไปด้วยเสียงเอะอะโวยวายอีกครั้ง
และในตอนนี้
โรจาก็ได้กลับเข้าไปในห้องส่วนตัวของเขา ก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยคราบเลือดออก แต่แล้วเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจแล้วกล่าวว่า
“ถึงแม้ฉันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังคงมีเศษเลือดมาติดอยู่ตามเสื้อของฉัน … บางทีเปลวเพลิงของฉันคงยังไม่แข็งแกร่งพอ จึงทำให้ไม่อาจเผาละอองเลือดที่กระเด็นมาติดหรือไม่ก็ฮาคิสังเกตยังไม่แข็งแกร่งมากพอ จึงทำให้ไม่สามารถหลบละอองเลือดที่กระเด็นมาโดนได้”
สภาพของโรจาตอนนี้ราวกับคนที่พึ่งผ่านสมรภูมิอันโหดร้ายมา ถึงแม้โรจาจะเป็นคนที่มีนิสัยเลือดร้อน และบ้าการต่อสู้เหมือนการ์ป แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ชื่นชมการต่อสู้อันสง่างามเหมือนกับคาเวนดิช(ในร่างปกติ)*
(*คาเวนดิชปรากฏตัวขึ้นในวันพีชตอนที่สู้กันในโคลอสเซี่ยมและเป็นกัปตันกลุ่มโจรสลัดงดงาม เป็นคนสองบุคลิก บุคลิกแรกเป็นคนรูปงามดูปกติ อีกบุคลิกเป็นคนคลั่ง หรือร่างอาวตารฮาคุบะในตอนแรกเขาโกรธแค้นลูฟี่ที่ทำตัวเด่นดังกว่าตน แต่ตอนหลังปรับความเข้าใจกันและกลายเป็นพันธมิตรสู้กับโดฟลามิงโก้)
นี่ช่างเป็นนิสัยที่ย้อนแย้งเสียจริง!
“ถ้าฉันสามารถตวัดหนึ่งดาบซ้อนทับกันได้เก้าครั้ง หรือซักสิบครั้ง บางทีการต่อสู้ในครั้งนี้อาจจะง่ายขึ้น และคราบเลือดก็คงไม่กระเด็นมาโดนฉัน ..”
…
ฐาน หน่วย G4
“นายกลับมาแล้ว”
พลเรือโทบาสทิลซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการฐาน G4 ได้กล่าวขึ้น ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในสำนักงานขณะที่มีพลเรือโทอีกคนอยู่ข้างๆเขา
“อืม .. พวกโจรสลัดมันหนีไปได้”
พลเรือโทอีกคนที่รับผิดชอบหน้าที่นี้กล่าวขึ้นด้วยความหดหู่ ก่อนที่จะนั่งลงและหยุบบุหรี่ขึ้นมาสูบ
หลังจากสูบไปซักพัก เขาก็นั่งเหยียดขา ก่อนที่จะยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า
“ตอนที่ฉันไม่อยู่มีเรื่องน่าสนุกอะไรเกิดขึ้นบ้างไหม?”
“มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งจากศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดถูกส่งมาที่นี่ เขามาเพื่อทำการประเมินการจบการศึกษา ในด่านที่ 2 แต่ว่า ..”
บาสทิลยิ้ม แล้วกล่าวต่อว่า
“ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่โจทย์ของเขาคือการไปปราบปรามโจรสลัดดาบเงิน”
“อะไรนะ!! ปราบปรามโจรสลัดดาบเงิน!!”
พลเรือโทอีกคนหันจ้องมองบาสทิลทันที พร้อมกับเอ่ยว่า
“นี่เจ้าหนุ่มนั่นเผลอไปเหยียบเท้าใครเข้าหรือเปล่า? กัปตันกลุ่มโจรสลัดดาบเงินนั้นมีค่าหัวถึง 200 ล้านแบรี่ ตอนที่ฉันขอจบการศึกษา ฉันได้รับโจทย์ไปปราบปรามโจรสลัดที่มีค่าหัวแค่ 100 ล้านแบรี่ ยังแทบจะเอาตัวไม่รอด …”
เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะขมวดคิ้วออกมาแล้วกล่าวต่อว่า
“นี่มันไม่ถูกต้อง .. เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นญาติของพลเรือโทการ์ป เพราะฉะนั้นไม่น่าจะมีใครกล้าไปสร้างปัญหาให้เขา”
“ฉันก็คิดแบบนั้นเช่นกัน แต่ตอนนี้ได้ข่าวมาแล้วว่าพวกเขาได้พบกับกลุ่มโจรสลัดดาบเงินแล้ว แต่เรื่องผลการต่อสู้ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกันในตอนนี้”