GOS ตอนที่ 60 – ใครคือโรจา?

 

วิซ วิซ—!

 

สโมคเกอร์กับลุจจิเปิดฉากต่อสู้กันทันที

 

ปัง ปัง ปัง—!

 

ลุจจิใช้เพียงมือเปล่ารับมือกับอาวุธของสโมคเกอร์ ไม่เพียงแต่ลุจจิจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ ตรงกันข้าม ไม่ว่าจะในเรื่องความว่องไวหรือพละกำลัง! เขากลับเหนือกว่าสโมคเกอร์เสียด้วยซ้ำ

 

ความว่องไวนั้นเป็นจุดเด่นของผลปีศาจควัน ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามมีความว่องไวเหนือกว่าก็เท่ากับว่าสโมคเกอร์ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว!

 

ความชำนาญในการใช้หกวิชาโรคุชิกิของลุจจิทำให้เหล่าเล่าบิงตกอยู่ในความตกตะลึง! ไม่มีใครในค่ายชั้นยอดสามารถใช้วิชาโรคุชิกิได้ถึงระดับนั้น! รวมไปถึงตัวของสโมคเกอร์เองด้วย!

 

“พลองนี่สร้างจากหินไคโร?”

 

หลังจากที่ลุจจิรับการโจมตีของสโมคเกอร์มาซักพัก เขาก็รู้ว่าพลองของสโมคเกอร์นั้นแท้จริงแล้วเป็นหินไคโร และด้วยความว่องไวและความแข็งแกร่งของเขาที่เหนือกว่าสโมคเกอร์ ลุจจิจึงฉวยโอกาสแย่งพลองออกจากมือของสโมคเกอร์ได้อย่างง่ายดาย

 

ตูม–!

 

หลังจากที่แย่งพลองมาได้ ลุจจิก็เหวี่ยงมันกระแทกเข้าเต็มทรวงอกของสโมคเกอร์ส่งผลให้เขาลอยกระเด็นขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับกระอักเลือดออกมาก่อนที่จะร่วงลงกระแทกกับพื้น

 

สโมคเกอร์พยายามฝืนดิ้นรนลุกขึ้นยืน แต่ตัวเขาในตอนนี้ได้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปเสียแล้ว ต่อให้คนที่โง่ที่สุดมาเห็นก็สามารถบอกไดว่าสโมคเกอร์นั้นไม่มีโอกาสชนะในการต่อสู้ครั้งนี้!!

 

“ไม่จริง! แม้แต่สโมคเกอร์ก็พ่ายแพ้ ?”

 

“แข็งแกร่งจริงๆ … เจ้าสัตว์ประหลาดนี่มันเป็นใครกัน?”

 

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เหล่าเล่าบิงในค่ายชั้นยอด อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

 

ถ้าลุจจิอายุมากกว่าพวกเขามันก็ยังพอยอมรับได้ แต่นี่ลุจจิยังดูอ่อนเยาว์กว่าคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด!

 

เขาเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่ม!  แต่เด็กหนุ่มคนนี้กลับไม่มีใครในค่ายชั้นยอดสามารถเอาชนะได้!

 

“ดูเหมือนว่าแกจะพึ่งพาพลังจากผลปีศาจมากเกินไป … นี่น่ะหรือความแข็งแกร่งทั้งหมดที่แกมี?”

 

ลุจจิไม่ได้โจมตีสโมคเกอร์ต่อ เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมและจ้องมองไปยังสโมคเกอร์ที่กำลังดิ้นรนลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบากพร้อมๆกับเลือดที่กำลังไหลรินออกมาจากปาก ก่อนที่เขาจะเหลือบไปมองเหล่าเล่าบิงที่อยู่รอบๆอย่างรวดเร็ว

 

“นี่น่ะหรือเล่าบิงที่แข็งแกร่งที่สุดในค่ายชั้นยอด? ช่างอ่อนแอจนน่าผิดหวังจริงๆ”

 

ลุจจิกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกพร้อมกับท่าทีไม่แยแส

 

เมื่อเขาอายุสิบสามปี อาณาจักรหนึ่งภายใต้ความคุ้มครองของรัฐบาลโลกได้ถูกโจรสลัดบุกโจมตี และโจรสลัดได้จับตัวประกันไว้กว่า 500 คนโดยยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนว่าจะปล่อยตัวประกันไป หากราชายอมสละบัลลังก์ ลุจจิในวัยสิบสามปีจึงถูกส่งไปจัดการเรื่องในครั้งนี้ โดยก่อนการเจรจาจะเริ่มขึ้น ลุจจิก็ลอบเข้าเมืองและสังหารตัวประกันทั้ง 500 คนจนหมดสิ้น! รวมไปถึงพวกโจรสลัดที่ก่อความวุ่นวายก็ล้วนถูกเขาสังหาร!!

 

สำหรับลุจจิตัวประกันเหล่านั้นช่างอ่อนแอ และคนอ่อนแอไม่มีสิทธิที่จะอยู่รอด!

 

ในความคิดของลุจจิ ความอ่อนแอนั้นคือบาปมหันต์

 

รัฐบาลโลกได้ส่งเขามาต่อสู้กับเหล่าเล่าบิงในค่ายชั้นยอด แต่พวกมันกลับอ่อนแอจนเกินไป !

 

หากไม่ได้รับคำสั่งให้ออมมือ ลุจจิคงฆ่าพวกมันทั้งหมดไปแล้ว!

 

ในมุมมองของลุจจิเหล่าเล่าบิงที่แสนอ่อนแอนั้นเป็นบาปมหันต์ และไม่มีคุณสมบัติที่จะปกป้องความยุติธรรม!

 

“บัดซบ!”

 

“อย่าคิดว่าแกเป็นเพียงคนเดียวที่แข็งแกร่งนะ!”

 

ลุจจินั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คำพูดของเขามันหยิ่งผยองจนเกินไป ทำให้เหล่าเล่าบิงในค่ายชั้นยอดต่างโกรธแค้น จนหลงลืมความหวาดกลัวในจิตใจไปชั่วขณะ

 

ลุจจิเหลือบไปมองรอบๆก่อนที่จะเค่นเสียงอย่างเย็นชาว่า

 

“พวกแกทั้งหมดล้วนอ่อนแอ แม้แต่ในตอนนี้พวกแกก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะฉันได้ … ใช่มั้ย? ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้โอกาสพวกแก — บุกเข้ามาพร้อมๆกันได้เลย!”

 

“หยิ่งผยองเกินไปแล้ว!!”

 

เล่าบิงบางคนโกรธจนลุกเป็นไฟ แล้วพุ่งเข้าหาลุจจิทันที

 

อย่างไรก็ตาม ร่างของพวกเขาก็ถูกเจาะเป็นรูทันทีด้วยวิชา ‘ชิกัน’ ของลุจจิ ส่งผลให้เลือดสาดกระจายไปทั่ว

 

จากนั้น ก็ได้มีเหล่าเล่าบิงอีกหลายคนที่พุ่งไปสู้กับลุจจิด้วยความโกรธแค้น แต่ภายใต้ความแข็งแกร่งของลุจจิ พวกเขาล้วนไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับเขาได้ ช่องว่างระหว่างลุจจิกับพวกเขานั้นห่างชั้นกันมากเกินไป! จนทำให้พวกเขาถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว

 

เลือดสาดกระจายไปทั่ว ด้วยความแข็งแกร่งของลุจจิ เหล่าเล่าบิงที่กำลังลุกไหม้ด้วยความโกรธกลับรู้สึกราวกับถูกน้ำเย็นสาดใส่ จนพวกเขาหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ

 

แข็งแกร่งมาก!

 

นอกจากโค่นสโมคเกอร์ได้แล้ว ยังสามารถโค่นพวกเขาที่ร่วมมือกันได้อีก — แบบนี้พวกเขาก็ไม่มีโอกาสชนะเลยน่ะสิ!

 

“มีใครต้องการจะสู้อีกไหม?”

 

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าขึ้นมาท้าทายเขาอีก ลุจจิก็ส่ายหัวก่อนที่จะสะบัดเลือดออกจากนิ้วมือ

 

เมื่อหน่วย CP คนอื่นๆเห็นแบบนั้นพวกเขาก็กล่าวออกมาว่า

 

“ลุจจิ นายจัดการพวกมันด้วยตัวคนเดียวจนหมดเลย .. นี่กะจะไม่ปล่อยให้พวกเราแสดงฝีมือบ้างเลยหรอ?”

 

“ศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดเสื่อมโทรมลงอย่างที่คาดไว้ … อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าภารกิจในครั้งนี้ของพวกเราจะเสร็จสิ้นแล้ว”

 

จาบราและคนอื่นๆต่างจ้องมองเหล่าเล่าบิงด้วยความดูถูกเหยียดหยาม ก่อนที่พวกเขาจะส่ายหัวและเตรียมที่จะเดินจากไป

 

ส่วนลุจจิเหลือบไปมองเหล่าเล่าบิงอีกรอบเพื่อดูว่ามีคนที่ยินดีจะต่อสู้กับเขาอีกรึเปล่า แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวัง

 

เหล่าเล่าบิงต่างโกรธแค้นจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมากเกินไป พวกเขาจึงทำได้เพียงอดกลั้นความโกรธเอาไว้ในจิตใจเท่านั้น!

 

และในเวลานี้พวกเขาต่างก็คิดถึงโรจา

 

แม้ว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โรจาจะเอาแต่ฝึกซ้อมคนเดียว และแทบไม่เคยโผล่มาให้พวกเขาเห็นเลย แต่เมื่อสามเดือนก่อน ฉากที่โรจาต่อสู้กับเหลาจีอย่างดุเดือดและสามารถเอาชนะเหลาจี ได้ประทับอยู่ในจิตใจของพวกเขา

 

“อย่ามาทำอวดดีมากจนเกินไป ถ้าโรจาอยู่ที่นี่ พวกแกจะไม่กล้าอาละวาดแบบนี้!”

 

ประโยคนี้ทำให้ ลุจจิ จาบรา และคนอื่นๆที่กำลังจะเดินจากไปหยุดชะงักทันที ก่อนที่จะหันกลับมาแล้วกล่าวว่า

 

“โรจา? ใครคือโรจา?”

 

 

ณ ป้อมปราการยักษ์ของศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด

 

ภายในสนามฝึกซ้อมขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยแผ่นโลหะ

 

“โคกะ”

 

โรจาถือโฮโนะสึกิอยู่ในมือขณะที่เขากำลังยืนอยู่อย่างเงียบๆ ทันใดนั้นเอง จู่ๆดวงตาของเขาก็เป็นประกาย ก่อนที่ฮาคิเกราะจะปรากฏขึ้นและถูกบีบอัดเข้าไปตรงใบดาบของโฮโนะสึกิอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ้ม—!

 

จู่ๆใบดาบสีแดงเพลิงของโฮโนะสึกิก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีดำหมึกและเต็มไปด้วยความมันวาวของโลหะ

 

โรจาจ้องมองไปยังแผ่นเหล็กที่หนากว่า 10 เซนติเมตร ก่อนที่จะตวัดดาบออกไปอย่างรวดเร็ว!

 

“เก็ทสึงะ … เท็นโช!”

 

วูซ—!

 

คลื่นพลังรูปจันเสี้ยวถูกปลดปล่อยออกมาในพริบตา ก่อนที่มันจะพุ่งทะลุผ่านเหล็กหนากว่า 10 เซนติเมตรได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่าแผ่นเหล็กเป็นเพียงคุชิกิ(ต้นไม้เปราะ) แต่คลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยวก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น มันยังคงพุ่งออกไปไกลอีกกว่าสิบเมตร แล้วปะทะเข้ากับผนังจนเป็นรอยลึก

 

“แม้แต่เก็ทสึงะ เท็นโชก็ยังแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยฮาคิ .. ในที่สุดฉันก็สามารถใช้โคกะได้อย่างชำนาญซักที แถมฉันยังฝึกฝนจนความแข็งแกร่งของฮาคิเกราะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงขีดจำกัดของร่างกายแล้ว”

 

“ทุกการโจมตีของฉันรุนแรงขึ้นกว่าเดิมเกือบสามเท่า ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของฉันอยู่ในระดับไหน แต่ที่แน่ๆทหารเรือยศพลเรือตรีนั้นไม่น่าจะใช่คู่ต่อสู้ของฉันอีกต่อไป!”

 

เมื่อมองไปยังผลงานเมื่อครู่ ใบหน้าของโรจาก็เผยให้เห็นถึงความพึงพอใจ

 

เขาใช้เวลากว่าครึ่งเดือนเพื่อเรียนรู้ฮาคิเกราะ และใช้เวลาเกือบสามเดือนจนในที่สุดเขาก็สามารถฝึกฝนฮาคิเกราะจนถึงขีดกำจัดร่างกายของเขา!

 

ความแข็งแกร่งของโรจาในตอนนี้ทิ้งห่างจากเมื่อสามเดือนก่อนอย่างไม่เห็นฝุ่น! ทั้งหมดที่เขาต้องการในตอนนี้ก็คือ …

 

หากระสอบทรายมาทดสอบความแข็งแกร่งของเขา!!