GOS ตอนที่ 54 – พ่ายแพ้!
*ขอเปลี่ยนชื่อพวกบุโซโชคุฮาคิ เค็นบุนโชกุฮาคิ และฮาโอโชกุฮาคิเป็นภาษาไทยเพื่อง่ายต่อการเข้าใจ
ก่อนหน้านี้ เก็ทสึงะ เท็นโชยังสามารถทะลวงฮาคิเกราะของเหลาจีได้ แล้วถ้าหากพลังโจมตีของมันรุนแรงขึ้นล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้น?
ในเวลาเดียวกัน
สโมคเกอร์ฉวยโอกาสโจมตีไปยังเหลาจี ขณะเดียวกันโรจาก็กระชับดาบด้วยมือทั้งสอง พร้อมกับกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า ..
“เก็ทสึงะ … เท็นโช!”
ฟุ้ม—!
ความรุนแรงจากการฟันปกติที่เพิ่มขึ้นเพียง 3% แต่กลับส่งผลให้เก็ทสึงะ เท็นโช รุนแรงขึ้นถึง 30%!! คลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยวเริ่มปรากฏขึ้นที่ปลายดาบ รูปร่างของมันในตอนนี้เริ่มดูคล้ายคลึงกับพระจันทร์เสี้ยวของจริงมากขึ้นเรื่อยๆ
เหลาจีอัดสโมคเกอร์ที่กำลังก่อกวนเขาจนกระเด็นออกไป แต่นั่นก็ทำให้เขาไม่สามารถหลบการโจมตีของโรจาได้! — เหลาจีจึงยกกำปั้นที่ที่เสริมด้วยฮาคิเกราะขึ้นมาและพยายามที่จะต้านทานมัน
แต่
เมื่อกำปั้นของเหลาจีสัมผัสกับเก็ทสึงะ เท็นโช สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป!
ก่อนหน้านี้เก็ทสึงะ เท็นโชของโรจาทำได้เพียงแค่สร้างบาดแผลให้กำปั้นที่เสริมฮาคิเกราะของเขาได้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น แต่ในตอนนี้! มันกลับรุนแรงจนสามารถเฉือนทะลวงฮาคิเกราะของเขาได้อย่างง่ายดาย!
ฉัวะ—!
เลือดสาดกระจายไปทั่ว ใบหน้าของเหลาจีซีดเผือด ด้วยความตกใจถึงขีดสุดทำให้เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้
ตุบ …
เหลาจีคุกเข่าลงบนพื้น พร้อมกับจ้องมองไปยังโรจาด้วยความหวาดกลัว
‘นี่ .. นี่มันเป็นไปไม่ได้!!’
ฮาคิเกราะของเขาถูกทะลวงโดยการโจมตีของโรจา!!
‘หรือว่าจะเป็นเพราะฉันใช้ฮาคิมากเกินไป มันก็เลยอ่อนกำลังลง?’
‘ไม่! ไม่ใช่แน่ๆ!’
‘มันเป็นเพราะ … เจ้าสารเลวน้อยตรงหน้ามันแข็งแกร่งขึ้น!’
หรืออีกความหมายนึงก็คือ … เจ้าเด็กนี่สามารถทะลวงคอขวดได้ในขณะที่ยังต่อสู้อยู่!!
เหลาจีในตอนนี้ไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวด ในขณะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ! ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังโรจาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ในหัวของเหลาจีนั้นมีเพียงความคิดเดียวที่โผล่เข้ามา — ‘ต้องฆ่าเจ้าเด็กนี่ก่อนที่มันจะเติบโตไปมากกว่านี้!!’
อย่างไรก็ตาม ถึงจะคิดแบบนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถทำมันได้ … ร่างกายของเขาในตอนนี้อ่อนแอเป็นอย่างมาก
สติของเขาค่อยๆเลือนลาง พร้อมกับภาพตรงหน้าเริ่มกลายเป็นสีดำ จนในที่สุดเหลาจีก็จมลงสู่ความมืด
ตุบ …
ร่างของเหลาจีร่วงลงพื้น และนอนจมกองเลือดไปในที่สุด
ตรงหน้าเขา โรจาค่อยๆเก็บโฮโนะสึกิลงในฝักอย่างช้าๆ พร้อมๆกับทะเลเพลิงที่ค่อยๆมอดดับลง
สมาชิกระดับสูงของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ — เหลาจีได้รับความพ่ายแพ้!!!
จนในที่สุด เปลวเพลิงก็ได้มอดดับลง ท้องฟ้าสีแดงฉานเริ่มเปลี่ยนกลับมาเป็นสีครามอย่างช้าๆ
เงียบ …
ทุกคนที่มุงดูเหตุการณ์อยู่รอบๆเงียบสนิท ไม่มีใครกล่าวอะไรออกมา
เหล่าเล่าบิงที่มามุงดูการต่อสู้ในครั้งนี้ ต่างจ้องมองไปยังสโมคเกอร์และโรจาที่ยืนอยู่ … แต่ส่วนใหญ่จ้องมองไปยังโรจาด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ!
นี่ … นี่น่ะหรอความแข็งแกร่งที่แท้จริงของโรจา?
แม้แต่ศัตรูที่ใช้ฮาคิเกราะก็ยังพ่ายแพ้!!
ในขณะนี้
แม้แต่เซเฟอร์ที่อยู่ด้านบนโรงแรมใจกลางเกาะ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง! ในตอนแรกโรจานั้นค่อนข้างเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด แต่ในท้ายที่สุด เขากลับสามารถทะลวงคอขวด จนก้าวข้ามขีดจำกัดความแข็งแกร่งและสามารถเอาชนะเหลาจีได้ในที่สุด
ในมุมมองของเซเฟอร์โรจานั้นแตกต่างจาก สามพลเรือเอก คิซารุ อาคาอินุ และอาโอคิยิ
ในขณะที่สามพลเรือเอก ต่างพึ่งพาพลังจากผลปีศาจแล้วมาเข้าร่วมกับกองทัพเรือ จนทำให้กองทัพเรือแข็งแกร่งขึ้น แต่ตรงกันข้ามกับโรจา เขานั้นไม่ได้เป็นผู้ใช้พลังจากผลปีศาจ ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงเกิดมาจากตัวของเขาเอง!!
…
เมื่อเหลาจีพ่ายแพ้ ภารกิจต่อสู้ในครั้งนี้จึงสิ้นสุดลง
และคนที่โดดเด่นที่สุดในภารกิจนี้ก็คือโรจาอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีเล่าบิงแม้แต่คนเดียวที่กล้าจะคัดค้านเรื่องนี้
เพราะ
พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของโรจาด้วยตาตัวเอง!!
ในการต่อสู้ระหว่างโรจากับเหลาจี จู่ๆโรจาก็ระเบิดพลังออกมาจนสามารถจัดการเหลาจีได้ในกระบวนท่าเดียว! นั่นทำให้ทุกคนในค่ายชั้นยอดต่างจ้องมองโรจาด้วยความหวาดกลัว
เหมือนดั่งที่พวกเขาเคยจ้องมองสโมคเกอร์มาก่อน — นี่คือสายตาที่หวาดกลัวต่อผู้แข็งแกร่ง!!
จากนี้ไปจะไม่มีใครสงสัยถึงความแข็งแกร่งของโรจาอีก พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องนำโรจาไปเปรียบเทียบกับสโมคเกอร์อีกต่อไปแล้ว เพราะไม่ว่าใคร เมื่ออยู่ต่อหน้าโรจา พวกเขาก็จะถูกบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย!
ในศึกครั้งนี้
โรจาเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด เพราะเขาสามารถทะลวงคอขวด ทั้งยังสามารถเข้าถึงสภาวะยืดเวลาได้ นอกจากนี้ยังก้าวหน้าในเส้นทางแห่งดาบได้มากขึ้นอีกด้วย
และเนื่องจากเขาใช้พลังจากระบบจิตวิญญาณแห่งดาบจนถึงขีดจำกัด พลังงานร่างกายและจิตใจของเขาจึงเหนื่อยล้าถึงขีดสุด หลังจากที่เอาชนะเหลาจีได้ โรจาก็กลับขึ้นไปบนเรือรบ ตรงไปยังห้องของตัวเองแล้วล้มตัวลงนอนทันที
ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน แต่เมื่อโรจาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าเรือรบได้แล่นอยู่กลางทะเลแล้ว และกำลังมุ่งหน้ากลับไปยังศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด
หลังจากตื่นขึ้นมา โรจาก็ไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียใดๆ ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกสดชื่นสุดๆ นอกจากนี้บาดแผลเล็กๆน้อยๆบนร่างกายบางส่วนก็ได้หายไปแล้ว
“อืม … หลังจากที่ได้ต่อสู้กับเหลาจีทำให้ฉันได้รับผลประโยชน์มาไม่น้อยเลย”
โรจาลุกขึ้นจากเตียง ในขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประตาของความตื่นเต้น นอกเหนือจากความก้าวหน้าในเส้นทางแห่งดาบ เขายังสามารถเข้าถึงสภาวะยืดเวลา ทำให้แต้สเตมิน่าของเขาพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก!
แต้มสเตมิน่าของโรจาเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 แต้ม!
ขั้นสาม :จิตวิญญาณดาบแห่งความรอบรู้ +2
สถานะ: พลังโจมตี +165, พละกำลัง +50, ว่องไว +50
สกิลพิเศษ : บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน — การโจมตีด้วยดาบจะเสริมความเสียหายด้วยไฟ (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)
สกิลพิเศษ : เก็ทสึงะ เท็นโช (เขี้ยวจันทรา ทะลวงสวรรค์) — เมื่อใช้สกิลนี้ จะเกิดคลื่นพลังเป็นรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งตรงไปยังทิศทางที่ฟาดฟันดาบออกไป
สเตมิน่า: 291/140
หลังจากที่เขาต่อสู้กับกัปตันโรดส์ และเหล่าสมุนโจรสลัดคนอื่นๆ แต้มสเตมิน่าของโรจากลับเพิ่มขึ้นเพียงน้อยนิด แต่หลังจากที่เขาต่อสู้กับเหลาจี แต้มสเตมิน่าที่ได้มาก็เพียงพอที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบได้ถึง 2 ครั้ง!
ก่อนหน้านี้โรจาเหนื่อยเกินไป เขาจึงกลับมาแล้วฟุบหลับลงไปทันที จึงไม่ทันได้เสริมความแข็งแกร่ง แต่ในตอนนี้เขาพร้อมแล้ว จึงเลือกเสริมความแข็งแกร่งทันที
ฟุ้ม–!
หลังจากที่เสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบถึงสองครั้ง ประกายแสงสีทองก็ได้เปล่งประกายออกมาจากร่างกายของโรจา
ขั้นสาม :จิตวิญญาณดาบแห่งความรอบรู้ +4
สถานะ: พลังโจมตี +200, พละกำลัง +60, ว่องไว +60
สกิลพิเศษ : บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน — การโจมตีด้วยดาบจะเสริมความเสียหายด้วยไฟ (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)
สกิลพิเศษ : เก็ทสึงะ เท็นโช (เขี้ยวจันทรา ทะลวงสวรรค์) — เมื่อใช้สกิลนี้ จะเกิดคลื่นพลังเป็นรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งตรงไปยังทิศทางที่ฟาดฟันดาบออกไป
สเตมิน่า: 1/160
คุณสมบัติเสริมทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ความรุนแรงของเปลวเพลิงและเก็ตสึงะ เท็นโชก็เพิ่มมากขึ้น!
“การต่อสู้จริงจะสามารถเพิ่มแต้มสเตมิน่าได้มากกว่าการฝึกฝนอย่างไม่ต้องสงสัย”
โราพึมพำขณะที่จ้องมองไปยังหน้าต่างสถานะ
เวลานี้ โรจาไม่แน่ใจว่าความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับเดียวกับยศพลเรือโทหรือเปล่า แต่อย่างน้อยในตอนนี้หากเขาได้เผชิญหน้ากับเหลาจีอีกครั้ง เขาก็จะสามารถเอาชนะเหลาจีได้ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวโดยไม่ต้องมีสโมคเกอร์คอยสนับสนุนได้อย่างแน่นอน
“หากฉันได้เรียนรู้ฮาคิ บางทีฉันอาจจะแข็งแกร่งพอที่จะสู้กับยศพลเรือเอก …”
ดวงตาของโรจาเป็นประกาย ตัวเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยแรงปรารถนาที่จะฝึกฝนฮาคิ!
และหลังจากที่ฝึกฝนฮาคิจนแข็งแกร่งมากพอแล้ว เขาก็จะท่องทะเลเพื่อออกไปตามหา วันพีช !