GOS ตอนที่ 44 – แสดงตัวอย่าง
“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะสามารชำนาญวิชาโซลได้รวดเร็วแบบนี้ ตอนแรกฉันคิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะซักสองเดือน แล้วหลังจากนั้นฉันก็จะสอนฮาคิให้เธอ … แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเก่งกว่าที่ฉันคาดไว้มาก”
เซเฟอร์กล่าวพร้อมกับยิ้มออกมา ตัวเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ชื่นชม มีความสุข และยินดี
นี่ก็นับว่าเป็นเวลานานมากแล้วที่เซเฟอร์ไม่ได้มีลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมดั่งเช่นโรจา ในฐานะเซนเซย์ เขาตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ในหัวใจว่า เขาจะต้องเจียระไนหยกชิ้นนี้ให้กลายเป็นหยกที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้จงได้!
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เซเฟอร์ก็ได้อธิบายคำถามของโรจาทีละคำถาม
เมื่อฟังคำอธิบายของเซเฟอร์ในบางครั้งสีหน้าของโรจาก็เผยให้เห็นร่องรอยของการขบคิด บางครั้งก็เผยให้เห็นว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่เซเฟอร์กล่าว เนื่องจากโรจานั้นถูกส่งมาจากโลกอื่น ระบบความคิดของเขาจึงยืดหยุ่นกว่าของคนในโลกนี้มาก ถึงแม้เซเฟอร์จะตอบคำถามไปมากมาย แต่โรจาก็สามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
ในที่สุดคำถามสุดท้ายของโรจาก็ได้รับคำตอบ
“ขอบคุณมากๆสำหรับแนวทางฝึกฝนครับ เซเฟอร์เซนเซย์”
“มีคำถามอะไรอีกไหม?”
โรจาส่ายหัวก่อนที่จะกล่าวว่า
“ไม่มีแล้วครับ”
เซเฟอร์พยักหน้าให้โรจา
“ถ้ามีอะไรที่ยังสงสัย อย่าลังเลที่จะถามฉัน เข้าใจไหม?”
ความจริงแล้วเซเฟอร์ต้องการที่จะสอนวิธีฝึกฝนฮาคิให้โรจาในตอนนี้เลย แต่เนื่องจากเวลานี้กำลังอยู่ในช่วงภารกิจต่อสู้ — มันจึงยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
ในใจของเซเฟอร์ได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าหลังจากจบภารกิจต่อสู้ เขาจะช่วยโรจาฝึกฝนฮาคิด้วยตัวเอง
“งั้นก็ดี”
โรจาพยักหน้าตอบ และหันหลังกลับเตรียมเดินออกจากห้อง
ส่วนเซเฟอร์ก็กำลังจะกลับลงไปที่ห้องพักของเขาเช่นกัน แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป — เซเฟอร์หันขวับไปยังจุดๆหนึ่งทันที!
หืม…?
เมื่อเห็นว่าจู่ๆเซเฟอร์ก็มีท่าทีเปลี่ยนไป โรจาจึงหันไปมองตามทิศทางเดียวกันกับเขา อย่างไรก็ สิ่งที่โรจาเห็นก็เป็นเพียงท้องทะเลที่เงียบสงบเท่านั้น
ในตอนแรกโรจารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ครู่ต่อมา ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป!
ขณะที่เรือรบกำลังแล่นไปเรื่อยๆ จู่ๆก็เริ่มปรากฏเงาขนาดยัก์สองเงาในพื้นที่เขตทะเลคาล์มเบล — ท้องทะเลที่ไร้คลื่นและไร้ซึ่งลมทะเล จู่ๆก็เกิดคลื่นระรอกใหญ่ราวกับคลื่นสึนามิ!
เรือรบค่อยๆแล่นไปใกล้ เงาขนาดยักษ์ทั้งสอง … เข้าไปใกล้ และใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเงาขนาดยักษ์ทั้งสองแท้จริงแล้วคือจ้าวแห่งท้องทะเล!
จ้าวแห่งท้องทะเลสองตัวกำลังโรมรันกันอยู่
“นั่นจ้าวแห่งท้องทะเลใช่ไหม?”
“โอ้โห … ตัวใหญ่โคตรๆ”
การปรากฏตัวของจ้าวแห่งท้องทะเลขนาดยักษ์ ทำให้เหล่าเล่าบิงและเด็กใหม่ต่างรู้สึกตื่นเต้น พวกเขาได้ขึ้นไปรวมตัวกันบนดาดฟ้าเรือเพื่อที่จะได้เห็นจ้าวแห่งท้องทะเลชัดๆ
จ้าวแห่งท้องทะเลทั้งสองตัวสู้กันอย่างดุเดือด ทำให้ท้องทะเลอันเงียบสงบเต็มไปด้วยคลื่นขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น และกระจายออกไปทุกทิศทาง
เมื่อเห็นจ้าวแห่งท้องทะเลทั้งสองกำลังห้ำหั่นกันด้วยพละกำลังเหนือจินตนาการ สมาชิกทุกคนในค่ายชั้นยอดต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้น!
ถึงแม้ทุกคนจะเคยแล่นเรือรบผ่านทะเลคาล์มเบลมาแล้ว รวมไปถึงโรจาที่เคยแล่นเรือผ่านในตอนการประเมินผลการต่อสู้ แต่ฉากที่จ้าวแห่งท้องทะเลห้ำหั่นกันนั้นนับว่าหาดูได้ยากมาก และมีน้อยคนนักที่จะได้พบเห็น
“คุณเซเฟอร์ ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องอ้อม”
ทหารเรือที่ทำหน้าที่ต้นหนได้กล่าวขึ้นในขณะที่เขายังคงจ้องมองไปยังสัตว์ยักษ์ที่กำลังทำให้ท้องทะเลปั่นป่วน
เซเฟอร์จ้องมองไปยังจ้าวแห่งท้องทะเลทั้งสอง ก่อนที่จะเหลือบไปมองโรจาและเหล่าเล่าบิงที่อยู่บนดาดฟ้า จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า
“ไม่จำเป็น”
“ในโลกใบนี้มีผู้ใช้พลังจากผลปีศาจมากมาย จนลืมเลือนไปแล้วว่าแท้จริง‘พื้นฐานร่างกาย’ต่างคือสิ่งที่ทำให้ผู้คนแข็งแกร่ง”
ถึงแม้ในตอนนี้จะเต็มไปด้วยเสียงกระทบกันของคลื่นทะเล แต่เสียงของเซเฟอร์กับดังก้องชัดเจนอยู่ภายในหูของเหล่าทหารเรือที่กำลังช็อกเนื่องจากเห็นจ้าวแห่งท้องทะเลสู้กัน — เหล่าคนที่กำลังจ้องมองดูฉากต่อสู้อันดุเดือดอยู่พลันไปมองเซเฟอร์ทันที
สายตาของเซเฟอร์จ้องมองไปยังจ้าวแห่งท้องทะเลทั้งสองจากระยะไกล ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาว่า
“ไม่ว่าพวกเธอจะมีพลังจากผลปีศาจหรือไม่ ก็ไม่ควรละเลยถึงการฝึกฝนพื้นฐานร่างกาย หากฝึกฝนพื้นฐานร่างกายจนแข็งแกร่งแล้วล่ะก็ ถึงแม้จะไม่มีผลปีศาจพวกเธอก็สามารถแข็งแกร่งพอๆกับพวกเขาได้”
“ดังนั้นไม่ต้องไปมัวแต่กังวลอยู่กับพลังของผลปีศาจ หรือมัวแต่หวังว่าซักวันจะได้รับผลปีศาจที่มีพลังแข็งแกร่ง — เพราะเมื่อเราฝึกฝนพื้นฐานร่างกายจนแข็งแกร่ง พละกำลังของพวกเธอก็จะไม่อ่อนแอไปกว่าพลังจากผลปีศาจเลย”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ จู่ๆเซเฟอร์ก็จ้องมองไปยังโรจา ก่อนที่จะค่อยๆยกหมัดขึ้น
ดูเผินๆ อาจจะเห็นว่าเซเฟอร์นั้นกล่าวแนะนำเหล่าเล่าบิงทั้งหมด แต่สำหรับโรจาแล้ว เขารู้ได้ทันทีว่าเซเฟอร์สอนเขาและกำลังจะแสดงให้เขาเห็นถึงสิ่งที่พึ่งกล่าวไป ดังนั้นโรจาจึงจ้องมองทุกๆการเคลื่อนไหวของเซเฟอร์ พร้อมๆกับเข้าสู่สภาวะมุ่งเน้นเพื่อที่จะได้รับรู้ได้คมชัดยิ่งขึ้น
ฟุ้ม–!
เมื่อเซเฟอร์กำหมัด ทันใดนั้นบรรยากาศแปลกๆก็พลันก่อตัวขึ้น ก่อนที่บรรยากาศรอบๆจะบิดเป็นเกลียวแล้วเข้าครอบคลุมแขนของเซเฟอร์ จากนั้นก็รวมตัวกันกลายเป็นแขนจักรกลที่มีสีดำเหมือนหมึกและเป็นเงาแวววาว
‘บุโซโชกุ … ฮาคิ’
วิซ—!
วินาทีต่อมา จู่ๆร่างของเซเฟอร์ก็พุ่งออกไปจากเรือรบอย่างรวดเร็ว — เก็ปโป! เซเฟอร์ใช้เก็ปโปเดินไปบนอากาศแล้วพุ่งตรงไปยังจุดที่จ้าวแห่งท้องทะเลทั้งสองกำลังตะลุมบอลกันอยู่!
ร่างของเซเฟอร์เล็กจนแทบจะมองไม่เห็นเมื่อเทียบกับจ้าวแห่งท้องทะเลทั้งสอง — พวกมันไม่สนใจร่างขนาดเท่าแมงหวี่แมงวันของเซเฟอร์ที่กำลังเหยียบอากาศมาแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา จู่ๆเซเฟอร์ก็ตรงดิ่งไปยังจ้าวแห่งท้องทะเลตัวหนึ่ง แล้วกระแทกหมัดจักรกลของเขาออกไปทันที!
ปัง—!!
หมัดของเซเฟอร์อัดกระแทกเข้ากับร่างของจ้าวแห่งท้องทะเลขนาดยักษ์! — หมัดของเซเฟอร์นั้นมีขนาดเล็กเพียงเส้นขนของจ้าวแห่งท้องทะเลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แรงปะทะกลับรุนแรงจนเกิดแรงระเบิดขนาดใหญ่ จนจ้าวแห่งท้องทะเลตัวนั้นถึงกับล้มหงายหลังจมลงไปใต้ท้องทะเลทันที!
ภายใต้สายตาของเหล่าเล่าบิงที่กำลังตื่นเต้น จ้าวแห่งท้องทะเลตัวหนึ่งกลับถูกสยบลงภายใต้กำปั้นของเซเฟอร์!
แต่เซเฟอร์ก็ยังไม่หยุดแค่นั้น ร่างของเขายังคงหยุดยืนอยู่กลางอากาศก่อนที่จะง้างอีกหมัดกระแทกเข้ากับหัวของจ้าวแห่งท้องทะเลอีกตัวทันที!
ปัง—!
เกิดแสงสว่างวาบขึ้น ตามมาด้วยเสียงดังสนั่น ร่างทั้งร่างของจ้าวแห่งท้องทะเลตัวนั้นขาดครึ่งทันที พร้อมกับเกิดคลื่นทะเลขนาดใหญ่กวาดออกไปทั่วทุกทิศทาง!
คลื่นขนาดใหญ่พุ่งเข้ากระแทกกับเรือรบจนเกือบจะพลิกคว่ำ!
กระบวนท่าเดียว — สั่นสะเทือนไปทั้งโลก!
อย่างไรก็ตามจู่ๆคลื่นที่กำลังจะกวาดเรือรบของพวกเขาจู่ๆก็สลายไปทันที พร้อมกับการกลับมายังดาดฟ้าเรือของเซเฟอร์
ในที่สุด
ท้องทะเลก็สงบลงอีกครั้ง
เหล่าเล่าบิงทั้งหมดต่างอ้าปากค้างจนคางแนบติดกับพื้น เมื่อเห็นฉากอันน่าตกตะลึงตรงหน้าพวกเขา
“นะ .. นี่น่ะหรอความแข็งแกร่งของเซเฟอร์เซนเซย์”
“สยบจ้าวแห่งท้องทะเลด้วยกระบวนท่าเดียว … พละกำลังของเขามันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว”
หนึ่งในเล่าบิงได้เผยให้เห็นถึงประกายตาที่เต็มไปด้วยความหวังก่อนที่จะกล่าวว่า
“ถ้าหาก … ถ้าหากฉันแข็งแกร่งได้สักครึ่งนึงของเซเฟอร์เซนเซย์ก็คงจะดี”
เมื่อเล่าบิงคนนั้นกล่าวจบ เล่าบิงคนอื่นๆก็กล่าวพูดจาเยาะเย้ยเขาทันที
“แข็งแกร่งได้สักครึ่งหนึ่งของเซเฟอร์เซนเซย์? นี่แกปัญญาอ่อนรึเปล่า? เซเฟอร์เซนเซย์นั้นเป็นถึงอดีตพลเรือเอกของกองทัพเรือ และถ้าแกไม่รู้ ฉันจะบอกให้ แค่ความแข็งแกร่งครึ่งนึงของเขาก็เพียงพอที่จะพลิกผืนทะเลให้ไปอยู่บนท้องฟ้าได้แล้ว!”
อีกด้านหนึ่ง
แม้แต่โรจาที่มาจากต่างโลก เมื่อเห็นฉากนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงความรู้สึกประหลาดใจ
ถึงแม้ในวันพีชที่เคยอ่าน โรจาจะได้พบเห็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นและรุนแรงยิ่งกว่าในตอนนี้อยู่หลายครั้ง แต่โรจากลับพบว่า การเห็นผ่านในหนังสือกับการมาเห็นด้วยตาตัวเองนั้นมันต่างกันขนาดไหน! นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นความแข็งแกร่งอันน่าตกตะลึงเมื่อเขาถูกส่งมายังโลกแห่งนี้!!!
อย่างไรก็ตามความคิดของโรจานั้นแตกต่างจากเหล่าเล่าบิง
นอกเหนือจากการจำจดวิธีการปลดปล่อยบุโซโชกุฮาคิแล้วนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่โรจากำลังคิดก็คือ…
หลังจากที่เขาสามารถปลดปล่อย ริวจินจักกะ ซึ่งเป็นเปลวเพลิงที่มีอุณหภูมิสูงถึง 6000 องศาได้แล้วล่ะก็ … มันจะมีพลังเทียบเท่ากับหมัดของเซเฟอร์เมื่อครู่หรือไม่!!