GOS ตอนที่ 39 – โทษที ฉันกำลังรีบ
ขนาดตัวระหว่างโรจากับเวรี่ กู๊ดดูเหมือนจะต่างกันพอสมควร
ถ้าเปรียบเทียบเรื่องความสูง ในค่ายสามัญ โรจาก็นับว่าเป็นคนที่สูงคนหนึ่ง แต่เมื่อเขาอยู่ต่อหน้าเวรี่ กู๊ด โรจากลายเป็นคนตัวเตี้ยและดูอ่อนแอขึ้นมาทันที
สำหรับเวรี่ กู๊ด โรจาไม่ค่อยประทับใจในตัวละครตัวนี้สักเท่าไหร่นัก ในตอนทีเขาอ่านวันพีช เขาจำได้แค่ว่าเวรี่ กู๊ดนั้นกินผลปีศาจ เบริ เบริ* สายพารามีเซียเข้าไป ซึ่งพลังของมันจะช่วยให้เขาแยกร่างเป็นลูกบอลได้ และมันช่วยให้เขาสามารถหลบการโจมตีร้ายแรงจากศัตรูหรือแม้แต่ใช้มันโจมตีศัตรูก็ยังได้
*(เบริ เบริ ภาษาญี่ปุ่นแปลว่าผลไม้ลูกเล็กๆ)
ภายใต้สายตาของเหล่าเล่าบิง เวรี่ กู๊ด กล่าวด้วยความหยิ่งยะโสกับโรจาว่า
“เข้ามาได้เลย! เซ็นไป*คนนี้ขอต่อให้แกก่อน 3 กระบวนท่า!”
(*รุ่นพี่)
“โทษที ฉันกำลังรีบ สามกระบวนท่าคงจะเยอะไป … ฉันขอแค่กระบวนท่าเดียวก็พอ”
โรจากล่าวอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะจ้องมองเวรี่ กู๊ด แล้วค่อยๆเอื้อมมือไปจับโฮโนะสึกิ
ฟุ่ม–!
ทันทีที่โรจาชักโฮโนะสึกิออกมา ใบดาบของโฮโนะสึกิก็ลุกไหม้!
“อิตโตริว … ผลาญ!”
ตูม—!
ทันใดนั้นโรจาก็ตวัดดาบออกไปทันที! คมดาบสายลมสีเงินขาวได้ปรากฏออกมาก่อนที่จะมันจะหลอมรวมเข้ากับเปลวเพลิงจากวิชาผลาญ แล้วพุ่งตรงไปยังเป้าหมาย!
ภาพในตอนนี้ราวกับมังกรเพลิงทะยานออกจากถ้ำ!
เปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวได้ปะทุขึ้น ก่อนที่จะกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่มันพุ่งผ่านจนมอดไหม้! คมดาบสีเงินขาวได้หลอมรวมกับเปลวเพลิงทำให้มันดูราวกับมังกรทะยาน!
ตอนแรกเมื่อได้ยินโรจากล่าวว่ากำลังรีบ เวรี่ กู๊ด และเหล่าเล่าบิงคนอื่นๆต่างก็หัวเราะออกมา ก่อนที่จะจ้องมองโรจาด้วยความสมเพชพลางพากันคิดว่า โรจานั้นกำลังหวาดกลัวและต้องการที่จะหลบหนี แต่ในตอนนี้ พวกเขาถึงกับตกตะลึง — พวกเขาอ้าปากค้างจนคางแนบติดกับพื้น! ( นึกภาพออกไหม ในวันพีช เวลาตัวละครในเรื่องตกใจ มันจะอ้าปากค้างจนคางตกถึงพื้น)
“เปลวเพลิง!”
“นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน … นี่ .. หรือว่านี่จะเป็นพลังจากผล เมระ เมระ* สายโลเกีย?”
*(ผลปีศาจของเอส)
ขนาดเหล่าเล่าบิงที่เป็นผู้ชมอยู่รอบๆยังเผยให้เห็นถึงตกตะลึง คงไม่ต้องพูดถึงเวรี่ กู๊ด ที่กำลังเผชิญหน้ากับวิชาดาบเฉือนนภาผสมกับเปลวเพลิง! — จิตใต้สำนึกของเขาร้องเตือนให้รีบหลบทันที!
อย่างไรก็ตาม ความเร็วของคมดาบสายลมที่กำลังลุกไหม้ นั้นรวดเร็วเกินไป แม้ว่าเวรี่ กู๊ด จะพยายามหลบให้เร็วที่สุด แต่เขากลับหลบมันได้เพียงครึ่งตัวเท่านั้น!
สายตาของเวรี่ กู๊ด จ้องมองไปยังคมสายลมที่พุ่งเข้ามา จนในที่สุดมันก็กวาดร่างครึ่งนึงที่ไม่อาจหลบได้ทันของเขา
ภาพนี้ทำให้เหล่าเล่าบิงรู้สึกตื่นตระหนก! แม้แต่ไอน์หรือเซดี้*ก็ยังไม่อาจสงบใจได้ พวกเธอจ้องมองไปยังเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้และส่องประกายระยิบระยับอยู่บนดาบของโรจา ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
*(เซดี้ เชน หรือ ซาดี้จัง เป็นตัวละครหญิงในวันพีช มีผมสีทองและชอบไว้หน้าม้าปิดดวงตาทั้งสองข้าง หน้าที่ของเธอคือคุมคุกนรกอิมเพลดาวน์เลเวล 4 (ชั้นนรกร้อนระอุ))
ตูม—!
ภายใต้การโจมตีจากเปลวเพลิง ร่างกายของเวรี่ กู๊ด ก็แตกออก กลายเป็นลูกบอลลูกกลมๆกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับคมดาบสายลมที่กำลังลุกไหม้!
เมื่อเห็นฉากนี้ โรจาก็ไม่ได้แสดงท่าทีแปลกใจออกมาแม้แต่น้อย เขาไม่ได้วาดดาบออกไปอีก เพียงแค่จ้องมองเวรี่ กู๊ดด้วยแววตาสมเพช!
เปลวเพลิง … ไม่สำคัญว่าเวรี่ กู๊ด จะอยู่ในรูปร่างมนุษย์หรือว่าลูกบอล … เพราะอย่างไรเสียเขาก็ไม่อาจรอดพ้นจากเปลวเพลิงไปได้!
ชี่ ชี่ ชี่
แม้ว่าเวรี่ กู๊ด จะแยกตัวออกเป็นลูกบอลจำนวนมาก แต่ลูกบอลเหล่านั้นก็ยังคงลุกไหม้อยู่
ทันใดนั้นลูกบอลที่กำลังโดนไฟลวก ก็เริ่มกลิ้งไปมาบนพื้น อย่างไรก็ตาม ไฟก็ไม่มีทีท่าว่าจะดับลง
“ร้อน! ร้อน!”
ลูกบอลลูกใหญ่ที่สุดที่กลิ้งไปมาบนพื้นนั้นคือหัวของเวรี่ กู๊ด ในตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่ได้เผยให้เห็นถึงความหยิ่งยะโสอีกต่อไป เขาถูกไฟเผาและกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าโรจาจะเป็นผู้มีพลังในการใช้เปลวเพลิง!
ในเวลานี้เหล่าเล่าบิงคิดว่า วิชาดาบที่โรจาใช้นั้นคือพลังของผลปีศาจเมระ เมระ สายโลเกีย และเมื่อเทียบกับพลังจากผลปีศาจของสโมคเกอร์แล้ว พวกเขาคิดว่าพลังจากผลปีศาจของโรจานั้นแข็งแกร่งกว่า เพราะพลังจากผลปีศาจของสโมคเกอร์ไม่ได้มีพลังโจมตีที่รุนแรงเหมือนกับเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่ในตอนนี้!
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถดับไฟที่กำลังลุกไหม้ได้ เวรี่ กู๊ดในร่างลูกบอลก็กล่าวออกมาทันทีว่า
“ฉันยอมแพ้!! ฉันยอมแพ้แล้ว!”
เวรี่ กู๊ดไม่มีทางเลือก นอกจากโยนผ้าขาวยอมรับความพ่ายแพ้!
เคร้ง—!
เสียงโฮโนะสึกิของโรจาถูกเก็บเข้าฝัก และแทบจะในทันทีที่ดาบกลับเข้าไปในฝัก เปลวเพลิงรอบๆก็มอดดับลง
ลูกบอลทั้งหมดที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆค่อยๆเคลื่อนเข้ามารวมตัวกัน ก่อนที่จะกลับกลายเป็นเวรี่ กู๊ดในร่างมนุษย์อีกครั้ง แต่คราวนี้เวรี่ กู๊ดไม่ได้มีท่าทีหยิ่งยะโสแบบในตอนแรกอีกต่อไป
โชคดีที่เวรี่ กู๊ดไม่ได้ถูกไฟของโรจาเผาจนนานเกินไป เปลวเพลิงจึงเผาได้แค่เพียงเสื้อผ้าของเขาเท่านั้น
หลังจากที่เก็บดาบเข้าไปในฝัก โรจาก็ส่ายหัว ก่อนที่จะเดินออกไปทันที โดยไม่แม้แต่จะหันไปมองเวรี่ กู๊ด
ถึงแม้ทหารเรือฝึกหัดที่มากับโรจา จะรู้อยู่แล้วว่าโรจาสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมาได้ แต่เมื่อเห็นว่าเขาสามารถใช้เปลวเพลิงบดขยี้เวรี่ กู๊ด จนยอมรับความพ่ายแพ้ได้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“เผชิญหน้ากับเล่าบิงในค่ายชั้นยอด … นอกจากนั้นยังสามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้ด้วยการโจมตีเพียงกระบวนท่าเดียว!?”
“หมอนั่นใช่ทหารเรือฝึกหัดจริงๆหรอ?”
เหล่าเล่าบิงต่างพึมพำออกมา
ขนาดเหล่าทหารเรือฝึกหัดที่รู้เรื่องพลังของโรจาอยู่แล้วยังตกตะลึง แล้วจะนับประสาอะไรกันเล่าบิงในค่ายชั้นยอด!
ต้องรู้นะว่าเวรี่ กู๊ดไม่ใช่เพียงเล่าบิงธรรมดาๆ!
เขานั้นได้กินผลปีศาจ เบริ เบริเข้าไป แถมยังได้รับการฝึกฝนในค่ายชั้นยอด และที่สำคัญอันดับของเขายังอยู่ในอันดับกลางๆจากคนทั้งหมดในค่ายอีกด้วย!
แต่!
แต่โรจาที่เป็นทหารเรือฝึกหัดกลับสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
พูดไปใครจะเชื่อ!
แล้วพลังที่โรจาใช้ล่ะ? มันคืออะไร?
การที่สโมคเกอร์สามารถครองอันดับ 1 ในค่ายชั้นยอดได้อย่างยาวนานไม่ใช่เพียงเพราะพละกำลังและความแข็งแกร่งของเขา แต่มันเป็นเพราะพลังจากผลปีศาจสายโลเกีย! ซึ่งเป็นพลังเดียวกันกับที่โรจาใช้!
ในเวลานี้ เหล่าเล่าบิงที่กำลังตกตะลึงต่างพากันหันไปมองสโมคเกอร์ที่กำลังดูดซิการ์สองมวนอยู่โดยไม่รู้ตัว
“เขาไม่ใช่ผู้ใช้พลังจากผลปีศาจสายโลเกีย”
สโมคเกอร์จ้องมองแผ่นหลังของโรจากำลังเดินหายลับไป หลังจากระลึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาก็กล่าวออกมาว่า
“เปลวเพลิงของเขาไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกาย แต่มันถูกปลดปล่อยออกมาจากดาบ นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างจากพลังของผู้ใช้ผลปีศาจสายโลเกีย”
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่า ‘พลังไฟ’ ของเขาคืออะไร แต่มันไม่ใช่พลังจากผลปีศาจอย่างแน่นอน”
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ใช้พลังจากผลปีศาจสายโลเกีย สโมคเกอร์จึงคุ้นเคยรายละเอียดเล็กๆน้อยเกี่ยวกับผลปีศาจชนิดนี้ ดังนั้นเขาจึงสามารถระบุได้ว่าโรจาไม่ใช่ผู้ใช้พลังจากผลปีศาจ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าพลังไฟของโรจานั้นคืออะไรก็ตาม
“นี่นายไม่ได้แกล้งฉันให้ตกใจเล่นใช่ไหม? นั่นไม่ใช่พลังจากผลปีศาจจริงๆงั้นหรอ?”
“แกจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่แก แต่ฉันที่เป็นผู้ใช้ผลปีศาจสายโลเกียสามารถยืนยันได้แน่นอนว่ามันไม่ใช่พลังจากผลปีศาจ ”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของสโมคเกอร์ เหล่าเล่าบิงในห้องโถงต่างก็โล่งใจและถอนหายใจออกมา
“ในอีกความหมายนึงก็คือการที่เด็กใหม่สามารถเอาชนะได้ด้วยการโจมตีเพียงกระบวนท่าเดียว นั้นก็เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ? ถ้าหากเวรี่ กู๊ดหลบการโจมตีจากเปลวเพลิงในครั้งนั้นได้ เขาก็จะสามารถโจมตีสวนกลับ และไม่พ่ายแพ้ยับเยินแบบนี้”
“ฮ่า ฮ่า นั่นเป็นเพราะ เวรี่ กู๊ด ประมาทฝ่ายตรงข้ามมากเกินไป มันกลัวว่าเด็กใหม่เป็นผู้ใช้ผลปีศาจ เลยรีบโยนผ้าขาวขอยอมแพ้”
เล่าบิงบางคนกล่าวขึ้น พลางจ้องมองไปยังเสื้อผ้าที่ถูกเผาจนเป็นรูโบ๋ของเวรี่ กู๊ด ถึงแม้ว่าเวรี่ กู๊ดจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนี้เขาอับอายเป็นอย่างมากเนื่องจากถูกพวกเดียวกันหัวเราะเยาะ
“แบบนี้ไม่ดีแน่ ฉันจะต้องไปตามหาเจ้าสารเลวนั่น และท้ามันสู้อีกครั้ง!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อย่างแรกที่แกควรจะทำก็คือไปเปลี่ยนเสื้อก่อน ลองหันไปดู ไอน์สิ เธอเขินจนหน้าแดงไปหมดแล้ว”
หนึ่งในเล่าบิงกล่าว พร้อมกับชี้ไปยังรูโบ๋ขนาดใหญ่ที่เกิดจากรอยไหม้บนกางเกงของเวรี่ กู๊ด
เวรี่ กู๊ดก้มลงมองเป้ากางเกงที่ถูกเผาจนเป็นรูขนาดใหญ่ ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบวิ่งออกจากห้องโถงทันที