GOS ตอนที่ 3 – ชิไค : จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน ริวจินจักกะ
คุณสมบัติเสริมสีต่างๆที่กระพริบสลับไปสลับมาเริ่มช้าลง ช้าลงเรื่อยๆ
พอมันเริ่มช้าลง โรจาก็เห็นว่า คุณสมบัติเสริมสีเขียวส่วนใหญ่นั้นจะ + เพิ่มพวก สเตมิน่า , ความว่องไว ฯลฯ ซึ่งไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่สำหรับโรจา
การ ‘สกัด’ คุณสมบัติเสริมดูเหมือนว่าจะหยุดลงที่สีเขียว ทำให้โรจารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่โรจานึกไม่ถึงก็ได้เกิดขึ้น! คุณสมบัติเสริมที่ดูเหมือนจะหยุดลงแล้วที่สีเขียว ได้กระพริบขึ้นอีกครั้ง แล้วมันก็กลายเป็น —-
คุณสมบัติเสริมสีม่วง!!
แต่ก่อนที่โรจาจะทันได้อ่านว่ามันคืออะไร คุณสมบัติเสริมสีม่วงนี้ก็กลาย ประกายดาวสีม่วงระยิบระยับนับไม่ถ้วนลอยอยู่กลาวอากาศ ก่อนที่ไหลเข้าสู้ หน้าต่างสถานะ
นี่มันคุณสมบัติเสริมระดับแรร์!
โรจาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นฉากนี้
ในตอนแรกหัวใจของเขารู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นว่าการสกัดหยุดลงที่สีเขียว แต่เขาไม่คาดหวังเลยว่าในตอนท้ายมันจะกระพริบอีกครั้งแล้วเปลี่ยนเป็นสีม่วง!
ไม่นานนัก หน้าต่างสถานะก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
ขั้นสอง : จิตวิญญาณแห่งดาบโบราณ +0
สถานะ: พลังโจมตี +40 , พละกำลัง +10
สกิลพิเศษ : บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ — จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)
สเตมิน่า: 0/20
ดวงตาของโรจาจ้องมอง หน้าต่างสถานะ ตรงช่อง สกิลพิเศษ อยู่ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าเขาเคยได้ยินมันที่ไหนมาก่อน —
“นี่มัน … “
โรจาเหมือนจะนึกออก แต่เขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ จึงเพ่งมองคำอธิบายของสกิลพิเศษแล้วทวนมันซ้ำๆ
‘จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน …’
คำอธิบาย : เสริมพลังโจมตีด้วยไฟ
ขั้นต้น : ชิไค : ริวจิน จักกะ (ยังไม่เปิดใช้งาน)
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ : บังไค : ซันกะโนะทาจิ (ยังไม่เปิดใช้งาน)
นะ … นี่มัน …
เมื่ออ่านคำอธิบายอย่างละเอียดแล้ว ในที่สุดโรจาก็นึกออก! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงคุ้นเคยกับคำเหล่านี้
‘จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน …’
นี่มันสกิลชิไคของหัวหน้าหน่วยที่ 1 หรือหัวหน้าใหญ่แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ — ยามาโมโตะ เก็นริวไซ!!
ชิไค : ริวจินจักกะ — เมื่อเปิดใช้งาน อุณหภูมิจะสูงขึ้นถึง 6000 องศา มันร้อนระอุราวกับพื้นผิวของดวงอาทิตย์! แผดเผาทุกอย่างจนมอดไหม้!
บังไค : ซันกะโนะทาจิ — เมื่อเปิดใช้ อุณหภูมิจะสูงขึ้นถึง 1500000 องศา ซึ่งเป็นความร้อนเดียวกับแกนกลางของดวงอาทิตย์ ทะเลจะระเหยเป็นไอน้ำ และโลกจะถูกแผดเผา!!
สกิลนี้อาจเรียกได้เลยว่ามันเป็นสกิลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก! และมันควรจะเป็น ซัมปาคุโต (ดาบฟันวิญญาณ) ที่แข็งแกร่งที่สุด!
ในทางตรงกันข้าม ความสามารถนี้ เป็นความสามารถที่คล้ายคลึงกับผลปีศาจสายโลเกีย ‘แม็กม่า’ ของนายพล อาคาอินุ อย่างไรก็ตาม ถ้าอาคาอินุสู้กับ ‘ปู่ยามะ’ เขาคงกลายเป็นเด็กอมมือไปในทันที
แม็กมาจะไปสู้กับความร้อนจากแกนกลางของอาทิตย์ได้อย่างไร?
เพียงแค่จ้องมองไปยังสกิลพิเศษที่พึ่งได้มา จิตใจของโรจาก็ลุกเป็นไฟ เขาอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงทะเลเพลิงที่สามารถเผาผลาญโลกทั้งใบ
จนทำให้เขาอดใจไม่ไหวรีบเปิดดูวิธีการใช้งาน ชิไค : ริวจินจักกะ ทันที
ขั้นต้น : ชิไค : ริวจิน จักกะ
เงื่อนไขเปิดใช้งาน : ขั้นห้า ของระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ
—
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ : บังไค : ซันกะโนะทาจิ
เงื่อนไขเปิดใช้งาน: จะต้องได้รับ ชิไค ก่อนถึงจะสามารถอ่านเงื่อนไขได้
หลังจากอ่านเงื่อนไขทั้งสอง หัวใจของโรจาก็สงบลงเล็กน้อย
“นี่มันไม่ง่ายเลย .. ฉันจะต้องเสริมความแข็งแกร่งของระบบจิตวิญญาณแห่งดาบไปถึงขั้นที่ห้า เพื่อที่จะเปิดใช้งานชิไค”
“หรืออีกความหมายนึงคือ ฉันจะต้องรีบเสริมความแข็งแกร่งของตัวเองให้ถึงขั้นห้า หรือสูงกว่านั้น”
…
…
เช้าวันรุ่งขึ้น
แสงแห่งรุ่งอรุณขึ้นจากขอบฟ้า ช่วยเติมเต็มความมีชีวิตชีวาให้กับโลกทั้งใบ
แต่โรจานั้นไม่ได้นอนแทบทั้งคืน เขามัวแต่เฝ้ารอเวลาให้วันนี้มาถึงเร็วๆ เพราะเขาต้องการเริ่มฝึกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ
และเมื่อแสงแห่งรุ่งอรุณสาดส่องสาดส่อง เขาก็ดีดตัวลุกออกจากเตียงทันทีด้วยความตื่นเต้น
โดยไร้ซึ่งความรู้สึกงัวเงียหรือเหนื่อยล้าใดๆ
นอกเหนือจากความปรารถนาที่ต้องการจะฝึกฝนอย่างแรงกล้าแล้ว ดูเหมือนว่าระบบจิตวิญญาณแห่งดาบที่เลื่อนเป็นขั้นสอง จะทำให้เขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย!
โลกแห่งนี้นั้นแสนวิเศษสำหรับโรจา เพราะถึงแม้ร่างกายของเขาจะเหนื่อยล้าหรือเฉื่อยชาแค่ไหน วันต่อมาเขาก็จะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ความเหนื่อยล้าต่างๆจะมลายหายไปจนสิ้น!! — ซึ่งนั่นจะทำให้โรจาอยู่ในสถาวะที่พร้อมที่สุดในการฝึกฝน
แต่แล้วเขาก็พบว่าการ์ปยังคงนอนหลับอยู่
ทั้งๆที่เป็นคนบอกเองว่าจะช่วยโรจาฝึกฝน แต่ตอนนี้การ์ปก็ยังคงหลับอยู่ โรจาขี้เกียจไปปลุกเขา และโรจาคิดว่าถึงจะปลุกไปการ์ปก็ไม่ยอมตื่นอยู่ดี
โรจาเดินออกจากบ้าน ก่อนที่จะไปวอร์มร่างกายที่ลานฝึก
ที่แห่งนี้คือศูนย์ฝึกขั้นพื้นฐานของศูนย์บัญชาการใหญ่มารีนฟอร์ด ยังไม่มีใครสามารถเรียนรู้วิชา โรคุชิกิได้เลย แม้แต่คนในศูนย์มารีนฟอร์ด ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถใช้วิชาโรคุชิกิได้ เพราะร่างกายของทหารเรือส่วนใหญ่นั้นไม่แข็งแรงพอที่จะใช้มัน
สำหรับโรจานั้น วิชาโรคุชิกิที่เขาสนใจจะเรียนรู้ก็คือ ‘โซรุ’ ‘เก็ปโป’ และ ‘รันเฮียคุ’*
*โซรุ — เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง คล้ายๆก้าวพริบตา
*เก็ปโป — เดินเหยียบอากาศ
*รันเฮียคุ — เท้าวายุ (ปลดปล่อยพลังออกจากแรงเตะ คล้ายๆปราณดาบ)
ส่วนอีกสามวิชาโรคุชิกิ ‘ชิกัน’ ‘เทคไค’ ‘คามิเอะ’* นั้นเขาไม่สนใจที่จะเรียนรู้มันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะ ‘ชิกัน’ เพราะเขานั้นใช้ดาบเป็นอาวุธ ทำไมจะต้องไปใช้มือเปล่าโจมตีศัตรูด้วยเล่า?
*ชิกัน — ดัชนีพิฆาต(ตามชื่อใช้นิ้วโจมตีศัตรู)
*เทคไค — กายาเหล็ก(บีบอัดกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่งเพื่อรับการโจมตี)
*คามิเอะ — กายากระดาษ(ร่างกายพลิ้วไหวสลายการโจมตีจากศัตรู)
อย่างไรก็ตาม วิชาเหล่านั้นก็เป็นพื้นฐานที่จะต้องเรียนรู้เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง
สำหรับโรจาในตอนนี้ เขาไม่เกี่ยงทั้งนั้นว่าจะได้รับการฝึกฝนวิชาอะไร หรือแบบไหน ตราบใดที่การ์ปเป็นคนถ่ายทอดให้เขา หน้าที่ของเขาก็คือพยายามฝึกฝนให้หนัก และแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด …
จากนั้นก็เสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ
“ฟู่ว ….”
หลังจากที่วอร์มร่างกายเสร็จ โรจาก็ออกกำลังกายเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ในตอนนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เสื้อผ้าเปียกชุมไปหมด เขาจึงหยุดพักและถอนหายใจออกมา
และตอนนี้ … การ์ปก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น
ใบหน้าของโรจาแสดงออกถึงความรู้สึกหมดหนทาง
แต่การ์ปเป็นพวกปลุกยังไงก็ไม่ตื่น ดังนั้นโรจาจึงใช้สมาธิเรียกระบบขึ้นมาอีกครั้ง และหน้าต่างสถานะก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ขั้นสอง : จิตวิญญาณแห่งดาบโบราณ +0
สถานะ: พลังโจมตี +40 , พละกำลัง +10
สกิลพิเศษ : บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ — จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)
สเตมิน่า: 1/20
นอกเหนือจากแต้มสเตมิน่าที่เพิ่มขึ้น 1 แต้ม อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“ดูเหมือนว่าค่าสเตมิน่าเพิ่มขึ้นช้าลงกว่าเดิม? มันเพิ่มขึ้นเพียง 1 แต้ม?”
หลังจากที่ฝึกฝนด้วยตัวเองมานานกว่า 1 ชั่วโมง แต้มสเตมิน่ากลับเพิ่มเพียง 1 แต้ม แต่โรจาก็ดูจะไม่ประหลาดใจ เหมือนว่าเขาจะคาดการเรื่องนี้มานานแล้ว
หลังจากครุ่นคิดเรื่องค่าสเตมิน่า โรจาก็หยิบดาบที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา
หนึ่งใน นิได คิเซ็ทสึ (21ดาบชั้นยอด) — ดาบโฮโนะสึกิ
เป็นเพราะดาบเล่มนี้ เขาจึงสามารถเสริมความแข็งแกร่ง จนผ่านขั้นแรกมาได้ และก็เพราะมันเช่นกัน โรจาถึงสามารถได้รับ คุณสมบัติเสริมสีม่วง
กึด—-!
เสียงใบมีดจากดาบกระทบกับฝักได้ดังขึ้น — นี่เป็นครั้งแรกที่โรจาดึงโฮโนะสึกิออกจากฝัก
ตัวดาบโฮโนะสึกินั้นค่อนข้างยาวและเพรียวบาง ในขณะที่แสงจากดวงอาทิตย์สะท้อนอยู่บนใบดาบทำให้เกิดประกายสว่างวาบ ด้วยใบดาบที่เป็นสีแดงเล็กน้อย ทำให้ดูราวกับว่าใบดาบกำลังลุกไหมด้วยเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ
ราวกับว่าสกิลพิเศษ ริวจินจักกะ กับดาบเล่มนี้นั้นเกี่ยวข้องกัน
จู่ๆความคิดนี้ก็โผล่ขึ้นมาในจิตใจของโรจาอย่างกระทันหัน เขายืนขึ้นและตรงไปกลางลานฝึก
แม้ว่าโรจาจะไม่ใช่นักดาบ แต่โฮโนะสึกิที่อยู่ในมือเขาก็ยังคงเปล่งประกายออกมาภายใต้แสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์
โรจาเริ่มคิดเกี่ยวกับสกิลพิเศษที่เขาพึ่งได้รับมา ชิไค ริวจินจักกะ และ บังไค ซันกะโนะ ทาจิ ที่เป็นสกิลดาบที่จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีด้วยไฟ ทันใดนั้นดวงตาของโรจาก็เป็นประกาย
“เรามาดูกันว่า ‘เสริมพลังโจมตีด้วยไฟ’ ที่ว่านั่นหมายถึงอะไร”
โรจากระซิบอย่างแผ่วเบา พลางจ้องมองไปยังดาบในมือเขา ก่อนที่จะยกมันขึ้นอย่างนุ่มนวล
ช่วงเวลาต่อมา
โรจาก็กระชับดาบด้วยมือทั้งสองข้างแล้ววาดดาบไปข้างหน้า!
วูซ—!
ระหว่างที่วาดดาบ โรจารู้สึกได้อย่างขัดเจนว่าร่างกายและจิตวิญญาณของเขาเกิดพลังบางอย่างขึ้น ก่อนที่มันจะถูกปลดปล่อยออกมา
“อ๊าาาา”
โรจาตะโกนก้อง
เมื่อเขาวาดดาบเสร็จ ภายในอากาศก็ได้เกิดเปลวเพลิงสีทางขึ้นเป็นเส้นตามทางที่ดาบได้วาดผ่าน มันพุ่งตรงไปยังกองขยะที่วางอยู่ในลานฝึก
ทันใดนั้นเศษขยะเหล่านั้นก็ติดไฟทันที
เปลวไฟลุกโชนขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนที่จะเปลี่ยนสิ่งที่มันเผาไหม้เป็นเศษฝุ่นดำๆแล้วจึงค่อยๆดับลง
โรจามองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกพอใจ
นี่สินะ ‘เสริมการโจมตีด้วยไฟ’
นี่ขนาดเขาใช้เพียงเปลวไฟธรรมดายังขนาดนี้ โรจาอดคิดไม่ได้เลยว่า หากเขาใช้ สกิลไฟจาก ริวจินจักกะ หรือ ซันกะโนะทาจิ … มันจะรุนแรงขนาดไหน
********************
ทุกคนสามารถติชมได้นะ ถ้าผู้แปล แปลอะไรผิด ยินดีรับฟัง — และฝากกดไลค์เพจด้วยจ้า
เพจ : คลิ๊ก