GOS ตอนที่ 23 – เขี้ยวจันทรา ทะลวงสวรรค์
ในลานฝึก โรจายังคงตวัดดาบของเขา — อย่างไรก็ตาม การกตวัดดาบของเขาในตอนนี้รวดเร็วกว่าเดิมมาก! มันเกือบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า! และทุกๆครั้งที่ตวัดดาบ แต่ละครั้งจะดูเหมือนมีดาบอีกเล่มซ้อนทับอยู่
แม้ว่าโรจาพึ่งจะบรรลุการฝึกฝนในขั้นแรก แต่ในตอนนี้เขาก็สามารถฟันดาบแบบซ้อนทับได้แล้ว ซึ่งนั่นส่งผลให้ระยะของวิชาเฉือนนภาขยายกว้างขึ้น!
ระยะของเฉือนนภาจะสัมพันธ์กับพละกำลังและความเร็วในตวัดดาบ
เหมือนจอมดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก — มิฮอร์คที่สามารถตวัดดาบอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนเฉือนนภาของเขาสามารถแยกภูเขาออกเป็นสองซีกได้!
*(คนแต่งคงชอบมิฮอร์คมากๆ พูดถึงบ่อยมาก)
แม้ว่าในตอนนี้โรจาจะสามารถใช้เฉือนนภาได้แล้ว แต่ระยะที่ทำได้ก็ยังไม่มากพอ มันไม่เหมือนกับเฉือนนภาที่มิฮอร์คปลดปล่อยออกมา — เมื่อโรจา ปลดปล่อยโทบุ ซันเกคิออกไป ไม่นานมันก็สลายหายไปในอากาศ
วูซ วูซ—!
โรจาตวัดดาบอย่างรวดเร็ว โดยเล็งมันลงไปยังพื้นดิน — โทบุ ซันเกคิถูกปลดปล่อยออกมา แล้วพุ่งไปยังจุดที่เขาเล็งไว้ทันที
ตูม–!
พื้นดินตรงหน้าโรจาแยกออกเป็นสองซีก และเป็นรอยยาวประมาณ 1 เมตร
“ยังไม่ดีพอ! อีกครั้ง!”
ดวงตาของโรจาหรี่แคบลง ก่อนที่เขาจะตวัดดาบอีกครั้ง!
วูซ วูซ—!
ดาบเดียวที่ซ้อนทับกันถึงสองครั้ง ได้หลอมรวมเข้ากับวิชาเฉือนนภาอย่างสมบูรณ์ ก่อนที่มันจะพุ่งแหวกอากาศออกไปเฉือนพื้นดินตรงหน้าเป็นระยะทางกว่า 2 เมตร
ถึงแม้ครั้งแรกจะค่อนข้างแย่ แต่ในครั้งนี้เขาทำได้ดีทีเดียว
วูซ วูซ—!
เฉือนนภาถูกปปลดปล่อยออกไปอีกสองครั้ง แต่คราวนี้มันระยะสั้นกว่าครั้งก่อน
“ถ้าใช้สองครั้งซ้อนระยะจะลดลง? งั้นลองอีกครั้ง!”
วูซ วูซ—!
“ยังไม่ดีพอ! อีกครั้ง!!”
โรจาปลดปล่อยเฉือนนภาจนพื้นของลานฝึกเต็มไปด้วยร่องลึก
สภาพของลานฝึกในตอนนี้ถูกหั่นเป็นชิ้นดูราวกับลูกเต๋า
แน่นอนว่าการ์ปก็รู้เห็นเหตุการณ์นี้ แต่เขายังคงปล่อยให้โรจาฝึกฝนตามที่โรจาต้องการ เพราะเขาเห็นว่า การฝึกฝนของโรจาในตอนนี้ก้าวหน้าขึ้นมากอย่างชัดเจน
โรจาฝึกฝนมามากกว่าครึ่งเดือนแล้ว และในตอนนี้ก็เหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงงานประลอง
….
ณ ลานฝึก
โรจาก็ยังคงฝึกซ้อมเหมือนดั่งเช่นทุกวัน
สรีระร่างกายของโรจาในตอนนี้ไม่แตกต่างจากเดิมมากมายนัก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สรีระของเขาจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่บรรยากาศรอบตัวของเขาเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ตูม—!
พื้นดินตรงหน้าโรจาเกิดระเบิดขึ้น เฉือนนภาของเขาฟันลึกลงไปใต้พื้นดิน มากกว่า 5 เมตร! คมดาบลึกเสียจนไปโดนท่อน้ำที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน!
“ในตอนนี้ ฉันสามารถตวัด 1 ดาบซ้อนทับกันได้ 3 ครั้งแล้ว แต่การซ้อนทับในครั้งที่ 4 ยังคงไม่สมบูรณ์ — แต่ก็เกือบจะสมบูรณ์แล้ว”
โรจาจ้องมองไปยังพื้นดินที่เต็มไปด้วยหลุมลึก ก่อนที่จะพยักหน้าเล็กน้อย
ในความเป็นวิชาที่ได้จากการฝึกฝนในครั้งนี้เป็นเพียงของแถม
เป้าหมายที่แท้จริงของโรจาคือเพิ่มค่าสเตมิน่าจนเต็ม! จากนั้นก็เสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ!
และในตอนนี้!
ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของเขาก็พร้อมที่จะวิวัฒนาการเป็นขั้นสามแล้ว!!
นอกจากนี้ การวิวัฒนาการจากขั้นสองเป็นขั้นสามยังไม่มีเงื่อนไขใดๆอีกด้วย!
โรจาได้เสริมความแข็งแกร่งให้จิตวิญญาณแห่งดาบโบราณจนเป็น +10 จากนั้นก็เสริมความแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยไร้ซึ่งอุปสรรคหรือเงื่อนไขใดๆ
ในที่สุด ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบของเขาได้วิวัฒนาการเป็นขั้นสาม
หน้าต่างสถานะได้ปรากฏขึ้น
ขั้นสาม :จิตวิญญาณดาบแห่งความรอบรู้ +0
สถานะ: พลังโจมตี +135, พละกำลัง +40, ว่องไว +40
สกิลพิเศษ : บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน — การโจมตีด้วยดาบจะเสริมความเสียหายด้วยไฟ (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)
สกิลพิเศษ : เก็ทสึงะ เท็นโช (เขี้ยวจันทรา ทะลวงสวรรค์) — เมื่อใช้สกิลนี้ จะเกิดคลื่นพลังเป็นรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งตรงไปยังทิศทางที่ฟาดฟันดาบออกไป
สเตมิน่า : 34/120
หลังจากวิวัฒนาการไปสู่ขั้นสาม นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่! นอกจากคุณสมบัติเสริมสีเขียว ‘ว่องไว’ ที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคุณลักษณะแล้ว ยังมีสกิลพิเศษที่เป็นคุณสมบัติเสริมสีฟ้าอีกด้วย!
เก็ทสึงะ เท็นโช!
และก็เหมือนเช่นในครั้งก่อน โรจาสามารถสกัดคุณสมบัติเสริมได้ 1 ครั้ง
ในตอนแรกเมื่อโรจาเห็นว่าตนเองได้รับสกิลพิเศษสีฟ้า เขาผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อพบว่ามันคือ เก็ทสึงะ เท็นโช ความผิดหวังก็หายไปทันที! เนื่องจากสกิลนี้เป็นสกิลจากดาบฟันวิญญาณของเจ้าหัวส้ม! (คุโรซากิ อิจิโกะ)
อย่างไรก็ตาม โรจาพบว่าสกิลเก็ทสึงะ เท็นโชไม่ได้มีวงเล็บอยู่ข้างหลัง บางทีอาจจะเป็นเพราะว่ามันไม่ใช่ ชิไค หรือ บังไค แต่เป็นเพียงสกิลที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากดาบฟันวิญญาณเฉยๆ ไม่เหมือนกับริวจินจักกะของเขาที่เป็นชิไคของ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากได้รับคุณสมบัติเสริมสีเขียว ‘ว่องไว’ ทำให้ตัวของโรจาในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นมาก!
เขาทดลองใช้สกิลเก็ทสึงะ เท็นโช และพบว่ามันรุนแรงเป็นอย่างมาก! ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆคือ การใช้เก็ทสึงะ เท็นโช 1 ครั้ง จะเท่ากับการใช้ เฉือนนภา ถึงสามครั้งซ้อน!
ถึงแม้เขาจะได้สกิลนี้มาโดยบังเอิญ แต่การครอบครองมันก็จะทำให้โรจาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น! เพราะการปลดปล่อยมันครั้งเดียวรุนแรงเท่ากับการใช้เฉือนนภาถึงสามเท่า!
ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวของ เก็ทสึงะ เท็นโชก็คือ การใช้มันแต่ละครั้งนั้นกินพลังงานและพลังใจค่อนข้างมาก หากโรจาปลดปล่อยเก็ทสึงะ เท็นโชออกมาหลายๆครั้ง เขาก็จะเกิดความเหนื่อยล้าทั้งกายใจ
นอกจากนั้นก็ไม่มีข้อจำกัดอะไรอีก และแน่นอนว่าเขาสามารถปลดปล่อยมันได้โดยไม่มีเงื่อนไข!
และ
หลังจากที่จิตวิญญาณแห่งดาบได้วิวัฒนาการไปเป็นขั้นสาม การสร้างความเสียดายด้วยไฟของโรจาก็เพิ่มระยะการโจมตีมากขึ้นเป็น 10 เมตร ซึ่งมันก็ไม่ได้มากมายอะไร
ตัวโรจาในตอนนี้แข็งแกร่งมากกว่าตัวเขาในตอนการประเมินผลการต่อสู้ถึงสองเท่า!!
นี่นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!
เมื่อโรจาเหลือบมองไปยังหน้าต่างสถานะ ทันใดนั้นก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นในจิตใจของเขา
“ด้วยคุณสมบัติเสริมที่เพิ่มเข้ามาจากการวิวัฒนาการในครั้งนี้ น่าจะทำให้ฉันสามารถตวัดดาบเดียวซ้อนทับกันได้ถึง 4 ครั้ง!”
ขณะที่โรจากำลังจะเริ่มฝึกฝนต่อนั่นเอง เสียงเปิดประตูจากด้านหลังก็ดังขึ้น
โรจาหันกลับไปมอง — เขาพบว่าการ์ปกำลังเดินเข้ามายังลานฝึก
“โรจา หลังจากที่ฝึกฝนด้วยตัวเองมาเกือบหนึ่งเดือนแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?”
การ์ปกล่าว พลางใช้นิ้วก้อยแคะขี้มูก ก่อนที่จะแอบเหลือบมองไปยังพื้นของลานฝึก จากนั้นเขาก็แอบพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่ให้โรจาสังเกตเห็น
หลังจากที่ปล่อยให้โรจาฝึกฝนด้วยตัวเอง โดยไม่มีเขาคอยควบคุม การ์ปก็ได้กลับไปทำงานที่ศูนย์ใหญ่และแวะมาเยี่ยมเขาบ้างเป็นครั้งคราว
โรจาจ้องมองไปยังพื้นดินทีใช้เป็นตัวทดสอบวิชาดาบ ก่อนที่จะกล่าวว่า
“ผมรู้สึกว่า … ผมควรจะไปเป็นเกษตกร ดูจากสภาพพื้นดินในลานฝึกที่ผมเป็นคน ‘พรวน’ ผมจะต้องเป็นเกษตกรระดับสูงแน่ๆ”
แค่ก แค่ก–!
แม้ว่าการ์ปจะคุ้นเคยกับวิธีการพูดของโรจาแล้วก็ตาม แต่เขาก็เกือบจะสำลักน้ำลายตัวเองเมื่อได้ยินสิ่งที่โรจากล่าว — ใช้วิชาเฉือนนภาพรวนดิน??? ปู่แกเถอะ!
“ไอ้เด็กเหลือขอ .. ช่วยจริงจังหน่อยเถอะ”
“ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จากการฝึกฝนด้วยตัวเองในช่วงเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาจะดีไม่น้อย แต่! แต่แกก็ไม่ควรที่จะทะนงตนมากเกินไป พอแกได้เข้าไปฝึกในค่ายชั้นยอด แกอาจจะได้ปะทะกับพวกผู้ใช้พลังจากผลปีศาจ … แกจะต้องระมัดระวังให้มากถ้าเจอพวกมัน!”
แม้เกือบทั้งเดือนที่ผ่านมา การ์ปจะไม่ได้เฝ้าดูโรจาฝึก แต่ดูจากร่องรอยบนพื้น การ์ปก็พอที่จะคาดเดาความแข็งแกร่งของโรจาได้ ถึงแม้โรจาจะแข็งแกร่งกว่าเดิม และสามารถปลดปล่อยเจตนารมณ์แห่งอัคคีได้ แต่ก็ยังมีบางคนในค่ายชั้นยอดที่แข็งแกร่งกว่าเขา หรือไม่บางทีอาจจะมีทหารเรือฝึกหัดที่อยู่ในค่ายสามัญแต่ยังคงแอบปกปิดพลังที่แท้จริงของตัวเองอยู่ก็ได้
อย่างไรก็ตาม
ความแข็งแกร่งของโรจาในตอนนี้ก็สมควรที่จะได้ฝึกในค่ายชั้นยอด
วัตถุประสงค์ของงานประลองที่จะมาถึงนี้ ไม่ใช่เพื่อเฟ้นหาคนที่แข็งแกร่งที่สุดในค่ายสามัญ แต่เป็นแผนของเซเฟอร์ที่ต้องการตรวจสอบความแข็งแกร่งของทหารเรือฝึกหัด และดูว่าใครพอจะมีคุณสมบัติได้เข้าไปฝึกฝนในค่ายชั้นยอด!