GOS ตอนที่ 22 – การฟันแบบซ้อนทับ
หลังจากที่พึมพำกับตัวเอง โรจาก็โยนความคิดทั้งหมดทิ้งไป และตัดสินใจเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ
ประกายแสงสีทองสว่างวาบ ก่อนที่หน้าต่างสถานะจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ขั้นสอง : จิตวิญญาณแห่งดาบโบราณ +8
สถานะ: พลังโจมตี +85 , พละกำลัง +24
สกิลพิเศษ : บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน — การโจมตีด้วยดาบจะเสริมความเสียหายด้วยไฟ (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)
สเตมิน่า: 66/90
เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่บ้ามากๆ! เวลาแค่สามวัน ไม่เพียงแต่โรจาจะได้มาแต้มสเตมิน่ามาเสริมความแข็งแกร่งจนเป็น +8 แต่มันยังใกล้จนเกือบจะสามารถเสริมความแข็งแกร่ง +9 !!
“ดูเหมือนว่าเวลาอีกสองสัปดาห์ที่จะถึง ฉันคงสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบไปเป็น +10 ได้ เพียงแต่ฉันยังไม่รู้ว่าการวิวัฒนาการเป็นขั้นสามนั้นจะมีเงื่อนไขอะไรหรือเปล่า”
โรจาจ้องมองไปยังหน้าต่างสถานะ อย่างไรก็ตามเขาไม่จำเป็นที่จะต้องคิดอะไรล่วงหน้า ไว้ถึง +10 ก่อน ค่อยกลับมาว่ากันอีกที
สิ่งสำคัญในตอนนี้ก็คือการฝึก! ฝึกเพื่อที่จะได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!!
หลังจากที่สามารถเข้าใจและควบคุมสภาวะจดจ่อได้แล้ว พละกำลังของโรจาก็เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้
เมื่อคิดเกี่ยวกับ การ์ป สี่จักรพรรดิ และเหล่าพลเรือเอก
หัวใจของโรจาก็กระตุกเล็กน้อย ปัจจุบันนี้ระยะห่างระหว่างเขากับบุคคลเหล่านั้นที่เป็นถึงบุคคลอันทรงพลังแห่งท้องทะเลยังคงห่างไกลอยู่มาก หากเขาสามารถวิวัฒนาการเป็นขั้นสามได้ บางทีระยะห่างอาจจะสั้นลง …
…
หลังจากที่สามารถควบคุมสภาวะจดจ่อได้แล้ว โรจาในตอนนี้ก็เปรียบดั่งนักดาบฝึกหัดที่ได้ก้าวเข้ามายังดินแดนของเหล่าจอมดาบ — ถึงแม้เส้นทางแห่งดาบที่อยู่ตรงหน้าของโรจาจะเต็มไปด้วยขวากหนามก็ตาม
จอมดาบ
เป็นคำที่ใช้เรียกนักดาบที่แข็งแกร่ง!!
อย่างไรก็ตาม โรจาพึ่งย่างก้าวเข้ามายัง ‘ดินแดน’ ของเหล่าจอมดาบเท่านั้น ตัวเขาในตอนนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะถูกเรียกว่าจอมดาบ
การที่จะทำให้ตัวเองเหมาะสมกับจอมดาบได้นั้น จะต้องมีสามารถควบคุม สภาวะจดจ่อ และสามารถใช้วิชาเฉือนนภาได้!
แต่ในหมู่จอมดาบด้วยกัน ก็มีทั้งคนที่สามารถใช้วิชาเฉือนนภาได้เก่งและไม่เก่ง
จอมดาบที่ใช้โทบุ ซันเกคิไม่เก่ง การตวัดดาบครั้งนึง จะทำได้เพียงตัดบ้านทั้งหลังเท่านั้น
แต่จอมดาบที่ใช้โทบุ ซันเกคิได้เก่ง การตวัดดาบครั้งนึง สามารถแยกได้ทั้งฟ้าดิน!
ตอนนี้โรจาสามารถปลดปล่อยเฉือนนภาได้เพียงระยะ 2 นิ้วเท่านั้น หากนำไปเปรียบเทียบกับจอมดาบที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง มิฮอร์ค ตาเหยี่ยวที่สามารถใช้เฉือนนภาตัดภูเขาทั้งลูกได้แล้วล่ะก็ — ช่องว่างระหว่างเขากับมิฮอร์คในตอนนี้คงมากเกินกว่าที่จะคำนวนได้
ความรุนแรงของเฉือนนภานั้นแปรผันตามพละกำลังในการกวัดแกว่งดาบ
หากอยู่ในสภาวะจดจ่อ โรจาจะสามารถฟันได้เร็วขึ้น และรุนแรงขึ้น ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อการใช้วิชาเฉือนนภา
อย่างไรก็ตาม การปลดปล่อยเฉือนนภานั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในสภาวะจดจ่อ
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เกี่ยวข้องกัน
หากจะกล่าวให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ในการตวัดดาบหนึ่งครั้ง โดยใช้พละกำลังและความเร็ว 9 ส่วนอีก 1 ส่วนคือใช้ไปกับสภาวะจดจ่อ
โทบุ ซันเกคิที่ถูกปลดปล่อยออกมาจะมีพลังโจมตีเท่ากับ 9
แต่หากตวัดดาบหนึ่งครั้ง โดยใช้พละกำลังและความเร็ว 5 ส่วน อีก 5 ส่วนใช้ไปกับสภาวะจดจ่อ
พลังโจมตีของเฉือนนภาที่ถูกปลดปล่อยออกมาจะเท่ากับ 25
พูดง่ายๆก็คือทั้งสองอย่างช่วยส่งเสริมกันและกัน
โรจาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงจอมดาบอันดับ 1 ของโลกอย่างมิฮอร์ค ที่สามารถไปถึงจุดสูงสุดของเส้นทางแห่งดาบ — การฟาดฟันด้วยเฉือนนภาของเขาสามารถตัดได้แม้กระทั่งภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์!
โรจาเหม่อลอยไปพักใหญ่ ก่อนที่จะได้สติ และกลับมาอ่านหนังสือต่อ
ในหมู่จอมดาบ นอกจากใช้เฉือนนภาเป็นตัวตัดสินความแข็งแกร่งแล้ว การที่สามารถปลดปล่อยเจตนารมณ์แห่งดาบได้ ก็เป็นหนึ่งในเกณ์ฑ์ที่ใช้ตัดสินความแข็งแกร่งเช่นกัน!
นอกจากนี้ยังมีจอมดาบที่เน้นความว่องไวเป็นหลัก เพราะความว่องไวสามารถหลบหลีกจอมดาบที่เน้นพละกำลังเป็นหลักได้
“เพราะงั้นสกิลเสริมการโจมตีด้วยไฟของฉัน จึงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นไฟที่เกิดขึ้นจากเจตนารมณ์แห่งดาบ?”
ก่อนหน้านี้โรจาได้ยินการ์ปพูดเกี่ยวกับคนที่เกิดมาเพื่อเป็นจอมดาบ และเปลวเพลิงที่โรจาปลดปล่อยออกมาก็บังเอิญเหมือนกับเจตานารมณ์แห่งอัคคีเข้าพอดี
ในหนังสือได้บันทึกข้อมูลวิชาดาบเอาไว้มากมาย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่โรจาต้องการในตอนนี้ — เขาต้องการที่จะฝึกแต่วิชาสำคัญๆเท่านั้น!
ขั้นต่อไปที่เขาต้องการฝึกคือ เพิ่มระยะการปลดปล่อยเฉือนนภา … ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ได้บันทึกวิธีฝึกฝนที่ง่ายที่สุดและเป็นประโยชน์มากที่สุดเอาไว้!
วิธีที่ว่านั่นคือ การฟันแบบซ้อนทับ*
*การฟันแบบซ้อนทับคือ การตวัดดาบซ้อนๆกันในจุดเดียวกันอย่างรวดเร็ว จนเห็นเป็นเพียงตวัดดาบเพียงแค่ 1 ครั้ง
ว่ากันว่าการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วด้วยวิชา ‘โซล’ หนึ่งในหกวิชาโรคุชิกิ นั้นเกิดจากการใช้เท้าย่ำลงบนพื้นด้วยความเร็วสูงสุด ติดกันถึง10ครั้ง จนเกิดความเร็วที่ผิดปกติ ทำให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วจนคนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวพวกเขาด้วยตาเปล่า
และการฟันแบบซ้อนทับนั้นก็คล้ายคลึงกับวิธีฝึกวิชา’โซล’ — ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับที่โซโลใช้ฝึกฝน
เมื่อใดก็ตามที่โรจาสามารถฝึกจนฟันแบบซ้อนทับกันได้ ความรุนแรงของโทบุ ซันเกคิก็จะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า!
“ไม่จำเป็นต้องฝึกอะไรที่มันดูเลิศหรู เพียงแค่ ฟัน ฟัน ฟัน ฟัน และ ฟัน! ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะสามารถฟันแบบซ้อนทับได้”
โรจาจ้องมองวิธีการฝึกฝนจากในหนังสือ เขาพยักหน้าเล็กน้อย วิธีฝึกแบบนี้ค่อนข้างง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อน ช่างเหมาะกับเขาเสียจริงๆ
หลังจากที่ซ่อมแซมกำแพงเรียบร้อย โรจาก็เริ่มฝึกการฟันแบบซ้อนทับ
เมื่อเปรียบเทียบการฝึกฟันแบบซ้อนทับ กับการฝึกสภาวะจดจ่อแล้ว โรจาบอกได้เลยว่าการฟันแบบซ้อนทับนั้นเหนื่อยและยากกว่ามาก
แต่หากเขาสามารถฝึกฝนมันสำเร็จ เขาจะก้าวเข้าสู่การเป็นจอมดาบที่แท้จริง!
โรจาเริ่มฝึกซ้อม โดยเริ่มจากวิธีที่ง่ายที่สุด
วิธีง่ายๆที่แสนน่าเบื่อหน่าย เพราะต้องทำเพียงฟันซ้ำๆ แบบไม่มีจุดหมาย ฟันไปเรื่อยๆจนกว่าแขนจะรับภาระไม่ไหว และไม่สามารถกำดาบได้อีกต่อไป
สำหรับคนธรรมดา การฝึกแบบนี้มันเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น แต่สำหรับโรจาแล้ว นรกจริงๆคือการฝึกฝนภายใต้การควบคุมของการ์ปในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาต่างหาก! — การฝึกแบบนี้เป็นเรื่องหมูๆสำหรับเขา!
พันครั้ง
สองพันครั้ง
ห้าพันครั้ง
หมื่นครั้ง …
โรจาฝึกฝนต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำไปเรื่อยๆจนแขนของเขาจะไร้ซึ่งความรู้สึก โรจาจึงหยุดพัก หลังจากพักเสร็จเขาก็จะเริ่มฝึกแบบเดิมต่อ
ไม่กี่วันต่อมา
เนื่องจากการฟันซ้ำๆอย่างต่อเนื่อง ทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกช่วงแขนของโรจาเริ่มชินชา
และนั่นทำให้เขาสามารถตวัดดาบได้เร็วขึ้น!
ดาบแล้วดาบเล่า ได้ถูกตวัดออกไป
จนในตอนนี้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ทุกครั้งที่โรจาตวัดดาบออกไปท่วงท่าของเขาค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบ
ทุกการตวัดดาบ และร่างกายส่วนต่างๆที่เคลื่อนไหวราวกับ .. ราวกับท่วงท่าก่อนหน้าที่พึ่งตวัดดาบไปทุกครั้ง!
“ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถบรรลุการฝึกในขั้นแรกได้สำเร็จแล้ว … ขั้นต่อไป — ฟันแบบซ้อนทับ 2 ครั้งใน 1 ดาบ!”