GOS ตอนที่ 152 – บทโหมโรง
อีกด้านหนึ่ง
ในอาณาเขตของหนึ่งในสี่จักรพรรดิผมแดง แชงคูสที่พึ่งจะต่อสู้กับไคโดไปได้กล่าวออกมาว่า
“เจ้าบ้าไคโด คิดจะก่อสงคราม? เกรงว่ากองทัพเรือคงต้องพบกับศึกหนักเสียแล้ว”
“พวกเราจะนั่งดูการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อย่างเงียบๆ”
รองกัปตันเบน เบคแมนทีนั่งอยู่ข้างๆแชงคูสได้กล่าวขึ้นขณะที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่ และเหม่อมองออกไปบนท้องทะเล
อีกด้านหนึ่งในนิวเวิลด์ ณ อาณาเขตของหนวดขาว
บนเรือโมบิดิ๊ก หนวดขาวกำลังให้ความสนใจกับการกระทำในครั้งนี้ของไคโดเล็กน้อย
“ต้องการที่จะก่อสงครามกับพวกกองทัพเรือ? คุ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า … ต้องแบบนี้สิ ท้องทะเลแห่งนี้จะได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง”
หนวดขาวกระดกไวน์เข้าปาก ก่อนที่จะยิ้มออกมาจนเห็นฟันขาวๆ ท่าทีของเขาในตอนนี้ดูมีความสุขมาก
…
ในที่สุด
หลังจากฐานทัพเรือในนิวเวิลด์หลายฐานถูกทำลายลง ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของเซนโงคุ เขาได้กระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะแล้วกล่าวว่า
“ฉันไม่สามารถปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อีกต่อไป!”
“ไอ้สารเลวร้อยอสูรไคโด!”
ใบหน้าของเซนโงคุเผยให้เห็นถึงความโกรธ เขาไม่คาดคิดเลยว่าร้อยอสูรไคโดจะมาไม้นี้ มันทำลายฐานทัพเรือในนิวเวิลด์ตลอดเส้นทางที่แล่นเรือผ่าน และเอ่ยปากว่าจะลบฐานทัพเรือให้หายไปจากนิวเวิลด์อย่างสมบูรณ์
หากร้อยอสูรไคโดทำได้สำเร็จจริงๆ กองทัพเรือของเขาจะมีหน้าไปต่อสู้กับพวกโจรสลัดได้อีกหรือ
แล้วชื่อเสียงของกองทัพเรือต่อจากนี้ล่ะ จะเป็นยังไง?
อาจกล่าวได้ว่าไคโดจะไล่ต้อนกองทัพเรือไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด ถึงเวลานั้นต่อให้พวกเขาสามารถเอาชนะกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องพบกับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจากสงครามในครั้งนี้
พวกเขาจำเป็นต้องหยุดการกระทำของไคโดที่นิวเวิลด์ แม้การทำแบบนั้นจะเป็นการทำให้กองทัพเรือตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็ตาม!
“ส่งคำสั่งออกไปให้ คุซัน ซากาสุกิ และโบซาริโน่ ไปเจอฉันที่ห้องประชุม!”
เซนโงคุได้ตะโกนออกมา ก่อนที่จะเดินออกจากสำนักงานของเขา แล้วตรงไปยังห้องประชุมของกองทัพเรือ
นี่เป็นการประชุมฉุกเฉิน และใช้ระยะเวลาเพียงสั้นๆเท่านั้น
หลังการประชุม
จอมพลเรือเซนโงคุได้ออกคำสั่งให้ทหารเรือทั้งหมดในศูนย์ใหญ่ รวมไปถึงพลเรือเอกทั้งสามให้เข้าร่วมสงครามในครั้งนี้
ภายใต้การจับตามองของทั่วทั้งโลก
มหาสงครามที่จะสั่นสะเทือนโลกใบนี้กำลังจะเริ่มเปิดฉากขึ้น ในที่สุดศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดก็ประกาศทำสงครามขั้นเด็ดขาด!
…
ณ ศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด
ในห้องฝึกฝนที่สร้างจากหินไคโร โรจากำลังถือดาบไม้ธรรมดาๆอยู่ ขณะที่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปยังเป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้า ทันใดนั้นเอง โรจาก็ได้วาดดาบออกไป จนอากาศโดยรอบสั่นไหว
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ–!
เกิดประกายเงาซ้อนทับกันมากกว่าสิบครั้งในดาบเดียวที่ถูกวาดออกไป ประกายเงาอันแรกค่อนข้างเชื่องช้า ขณะที่ค่อยๆตามมาด้วยประกายที่สอง ที่สาม …
รวมกันทั้งหมดเป็นประกายดาบซ้อนทับกัน 13 ครั้งที่ถูกวาดออกมาในดาบเดียว
ตูม—!
เฉือนนภาได้ถูกปลดปล่อยออกมา แล้วพุ่งเข้าปะทะกับเป้าหมายตรงหน้าจนมันขาดสะบั้นออกเป็นสองส่วน!
“ในที่สุดก็สำเร็จ!”
โรจาสูดหายใจลึก ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และยิ้มออกมา
เขาสามารถตวัดดาบเดียวซ้อนทับ 13 ครั้งได้อย่างสมบูรณ์แล้ว!
นี่นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองได้ก่อนที่กองทัพเรือและกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรจะทำสงครามขั้นเด็ดขาดกัน
โรจาวางดาบไม้ในมือลง และกำลังจะเดินออกจากห้องฝึกฝน
ในตอนนั้นเอง ผู้ช่วยของโรจาได้พุ่งเปิดประตูเข้ามา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อมากเสียยิ่งกว่าโรจาในตอนนี้เสียอีก
ผู้ช่วยได้เอ่ยปากกล่าวอย่างร้อนรนว่า
“พลเรือโทโรจา จอมพลเรือเซนโงคุส่งคำสั่งย้ำมาว่า …”
“ฉันรู้แล้ว”
โรจาพยักหน้าและเดินออกจากห้องฝึกฝนพร้อมกับผู้ช่วยของเขา
โรจาได้กลับมายังศูนย์ใหญ่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ที่แล้ว หลายวันที่ผ่านมา เขาเอาแต่ฝึกฝนอยู่ในห้องที่สร้างจากหินไคโร ขณะที่นิวเวิลด์กำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย
ภายใต้คำสั่งของไคโด กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรได้ทำการโจมตีฐานทัพเรือในนิวเวิลด์อย่างต่อเนื่อง และบีบให้กองทัพเรือต้องล่าถอยออกจากฐานที่มั่นของพวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก่อนหน้านี้
จอมพลเรือเซนโงคุได้ส่งคำสั่งออกมาว่า จะถ่ายโอนกองกำลังเกือบทั้งหมดในศูนย์ใหญ่ไปยังฐานสาขา G-6 ในนิวเวิลด์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้อยู่ในระดับสูงสุด
อีกนัยหนึ่งก็คือ เซนโงคุได้ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ฐานสาขา G-6 เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการทำสงครามขั้นเด็ดขาดกลับกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรที่นำโดยไคโด เพื่อหยุดยั้งความตั้งใจที่จะทำลายล้างฐานทัพเรือทั้งหมดในนิวเวิลด์!
และในช่วงเวลานั้น
โรจาก็ได้มาถึงจุดสุดท้ายของการฝึกฝนตวัดดาบเดียวซ้อนทับกับ 13 ครั้ง และเพื่อที่จะฝึกฝนจนมันสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้น โรจาจึงละเลยคำสั่งของเซนโงคุไว้ชั่วคราว และยังคงฝึกฝนอยู่ในห้องฝึกที่สร้างจากหินไคโร จนกว่าจะสามารถตวัดดาบเดียวซ้อนทับ 13 ครั้งได้อย่างสมบูรณ์
ทหารเรือเกือบทั้งหมดได้ถูกถ่ายโอนออกไปตามคำสั่งของเซนโงคุ ทำให้ในเวลานี้ศูนย์ใหญ่แทบจะกลายเป็นฐานทัพที่ว่างเปล่า
เซนโงคุได้ย้ายกองบัญชาการไปยังฐานสาขาG-6ในนิวเวิลด์ด้วยเช่นกัน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะปะทะกับร้อยอสูรไคโด และกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรของเขา!
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงสงครามป้องกันเท่านั้น แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร เขาจึงมีตัวเลือกไม่มากนักและจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปบัญชาการที่ฐานสาขา G-6ด้วยตัวเอง
และโรจาก็นับว่าเป็นกำลังรบสูงสุดในตำแหน่งพลเรือโท เพราะเขาสามารถปราบปรามหนึ่งในสามภัยพิบัติของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรได้ ความจริงแล้วเขาไม่ควรที่จะอยู่ภายในศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด แต่จะต้องไปยังฐานสาขาG-6ตั้งนานแล้ว
สงครามในครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษกว่าครั้งอื่นๆ
เซนโงคุไม่ได้ส่งทุกคนไปยังฐานสขาG-6 เขายังคงทิ้งบางคนให้อยู่ดูแลศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด เช่นจอมวางแผนซึรุ และอดีตพลเรือเอกเซเฟอร์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่สูงมากๆ โดยทั่วไปแล้วทั้งสองควรที่จะไปเข้าร่วมสงครามในฐานสาขา G-6
แต่
พวกเขาจำเป็นต้องอยู่ที่นี่เพื่อเตรียมตัวรับมือกับดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ และสี่จักรพรรดิคนอื่นๆที่อาจจะฉวยโอกาสนี้โจมตีศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดขณะที่ กองทัพเรือกำลังทำสงครามกับกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรอยู่
เหล่าผู้คนในโลกใบนี้ไม่ได้เป็นคนที่ชอบลอบกัดเหมือนกับเหล่านินจาในโลกนารุโตะ ผู้คนในโลกวันพีชนั้นค่อนข้างหวาดระแวง และไม่คิดเลยว่าสี่จักรพรรดิคนอื่นๆก็มีความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะแอบลอบโจมตี หรือร่วมมือกับสี่จักรพรรรดิคนอื่นๆ พวกเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้!
ด้วยเหตุนี้เซนโงคุจึงตัดสินใจถ่ายโอนกองกำลังหลักของกองทัพเรือไปยังฐานสาขาG-6ในนิวเวิลด์ เพื่อรอต้อนรับกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรที่นั่น
ในตอนนี้ โรจาได้มาถึงท่าเรือของศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด
“อะรารา ในที่สุดก็มาเสียทีนะโรจา”
ในท่าเรือของศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด พลเรือเอกอาโอคิยิซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการของสงครามในครั้งนี้ แต่กลับยังไม่ได้แล่นเรือออกไปจากศูนย์ได้กล่าวทักทายโรจา
ส่วนคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นเซนโงคุ คิซารุ อาคาอินุ ต่างก็ได้เดินทางไปยังฐานสาขา G-6 กันหมดแล้ว อาโอคิยิเป็นทหารเรือยศอาวุโสคนสุดท้ายที่กำลังจะตามไป เพราะต้องคุยกับจอมวางแผนซึรุเรื่องมาตรการป้องกันศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด
และตอนนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหารือกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว