GOS ตอนที่ 149 – สั่นสะเทือนอีกครั้ง

 

ณ ศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด

 

ภายในสำนักงานของเซนโงคุ เบื้องหน้าเขา ได้มีทหารเรือนายหนึ่งกำลังกล่าวรายงานถึงข้อมูลที่พึ่งได้รับมาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ พร้อมๆกับเหงื่อเย็นเยียบที่ผุดขึ้นมาเต็มหลัง

 

แต่เมื่อได้ยินรายงานจากปากของทหารเรือนายนั้น ในตอนแรกเซนโงคุคิดว่าเขาหูฝาดไป ก่อนที่จะทุบกำปั้นลงบนโตะ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึง

 

“ว่ายังไงนะ?”

 

ทหารเรือรู้สึกหวาดกลัวต่อท่าทีของเซนโงคุในตอนนี้เป็นอย่างมาก หัวใจของเขารู้สึกสั่นไหว แม้แต่คำพูดก็ยังตะกุกตะกัก

 

ทหารเรือนายนั้นพยายามที่จะสงบจิตสงบใจ และรายงานสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นในนิวเวิลด์ บริเวณอาณาเขตรอบนอกของหนึ่งในสี่จักรพรรดิ ร้อยอสูรไคโด แก่เซนโงคุ

 

เมื่อเซนโงคุได้ฟังรายงาน เขาก็แทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ เหงื่อเย็นเยียบผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด และลุกขึ้นเดินวนไปมาอยู่ภายในห้อง

 

เดิมที ที่เขาส่งโรจาออกไปก็เพื่อที่จะให้สังเกตุการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร แต่อีกไม่กี่วันต่อมา เซนโงคุกลับได้รับรายงานว่า โรจาได้โค่นแจ็คแห่งภัยแล้ง และยึดผลปีศาจที่หาได้ยากยิ่ง มาได้!

 

ความรู้สึกของเซนโงคุในตอนนี้ มันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับในตอนที่การ์ปก่อเรื่อง!

 

“โค่นแจ็คแห่งภัยแล้ง และทำลายเรือโจรสลัดแมมมอส แถมยังขโมยผลปีศาจสายโซออนรูปแบบโบราณอันหาได้ยากยิ่ง … ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ … ”

 

ในเวลานี้ เซนโงคุไม่รู้ว่าควรจะประเมินสถานการณ์ไปในทิศทางไหนดี

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า

 

นี่นับเป็นข่าวดีสุดๆ ที่จะช่วยเพิ่มชื่อเสียงให้แก่ทางกองทัพเรือและโรจาอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่าหรือจับกุมตัวแจ็คแห่งภัยแล้งได้ แต่ก็นับว่าเป็นความสำเร็จอันยอดเยี่ยม!

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็เท่ากับเป็นการตบหน้า ร้อยอสูรไคโด อย่างแรง ซึ่งไอ้เจ้าหมอนั่นมันบ้า และยากจะคาดเดาการกระทำของมันได้ หากมันโกรธขึ้นมาแล้วล่ะก็ … !

 

“ไปเรียกคุซัน กับซากาสุกิให้มาที่สำนักงานของฉัน และส่งคำสั่งออกไปให้โบซาริโน่หยุดภารกิจของเขาที่นิวเวิลด์ แล้วกลับมาที่นี่ ไม่ต้องไปสังเกตุการณ์ผมแดงกับไคโดแล้ว”

 

“รับทราบ!”

 

ทหารเรือที่อยู่เบื้องหน้าเซนโงคุ เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเยียบบนแผ่นหลัง แม้จะเดินออกจากสำนักงานของเซนโงคุไปแล้ว แต่ร่างของเขาก็ยังคงสั่นไม่หยุด

 

นั่นก็เพราะเขากำลังหวาดกลัว … หวาดกลัวว่าบางทีในเร็วๆนี้อาจจะเกิดหนึ่งในเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นก็เป็นได้!

 

 

ณ นิวเวิลด์

 

การต่อสู้ระหว่างร้อยอสูรไคโด และ แชงคูสผมแดง ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และยาวนานยิ่งกว่าในตอนที่สู้กับหนวดขาว — พวกเขาต่อสู้กันถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน!

 

ในโลกวันพีชนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่มีร่างกายอยู่ในระดับที่เรียกว่า ‘ผิดปกติ’ อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้อยอสูรไคโด กับแชงคูสผมแดง ที่เป็นตัวตนที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของท้องทะเล ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง

 

ในมังงะ

 

แม้แต่ในตอนที่อาโอคิยิ กับ อาคาอินุ ต่อสู้กันเพื่อชิงตำแหน่งจอมพลเรือ พวกเขายังใช้เวลาสู้กันนานถึงสิบวันสิบคืน จนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศบนเกาะพังค์ฮาซาร์ดในนิวเวิลด์ไปตลอดกาล!

 

 

ตูม ตูม ตูม—!

 

บนเกาะที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และมีสภาพอากาศอันแปรปรวน ได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

และทุกๆเสียงระเบิดเหล่านั้น จะเกิดคลื่นโซนิคบูมอันน่าสยดสยองกวาดกระจายออกไปทั่วทั้งเกาะ แม้คลื่นโซนิคบูมจะจางหายไปในระยะเวลาอันสั้น แต่มันก็มากพอที่จะสั่นสะเทือนสวรรค์และโลก!

 

“ไอ้เจ้าบ้าสองตัวนั่น … มันเป็นสัตว์ประหลาดของแท้เลยนี่นา”

 

อีกฟากหนึ่งของเกาะ ได้มีเรือรบขนาดใหญ่ 5 ลำจอดเรียงรายอยู่ หนึ่งในนั้นคือเรือรบของพลเรือเอกโบซาริโน่ หรือที่รู้จักกันในนาม คิซารุ ในขณะนี้เขากำลังจ้องมองไปบนเกาะ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกสูงขึ้น

 

การต่อสู้ระหว่างผมแดงและไคโด ดำเนินมากว่า 5 วันแล้ว ส่วนคิซารุ เขาพึ่งมาถึงเมื่อสองวันก่อน

 

ในตอนนั้นเอง

 

เปเร๊ะ เปเร๊ะ เปเร๊ะ เปเร๊ะ–!

 

เสียงของเด็นเด็นมูชิได้ดังขึ้น คิซารุได้เอื้อมมือเข้าไปในอกเสื้อของเขา ก่อนที่จะ แตะๆอยู่สองครั้ง ถึงจะเจอเด็นเด็นมูชิ

 

จากนั้นก็กดรับสาย

 

“เฮ้ เฮ้ นี่ฉันโบซาริโน่ กำลังรับสาย”

 

“พลเรือเอกคิซารุ! จอมพลเรือเซนโงคุให้มารายงานเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นในนิวเวิลด์ … ”

 

หลังจากที่คิซารุ กล่าวว่าเขากำลังรับสายอยู่ ปลายสายก็เริ่มกล่าวรายงานอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ เห็นได้ชัดว่าทหารเรือนายนั้นไม่อาจทำใจให้สงบลงได้

 

“โอ้ … นี่เรื่องจริงใช่ไหม?”

 

เมื่อได้ยินรายงานจากปลายสาย ท่าทีของคิซารุก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน แม้ว่าน้ำเสียงของเขายังคงเดิม แต่ท่าทีในตอนนี้ของเขาไม่อาจที่จะรักษาความสงบเอาไว้ได้

 

เขาอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมอง ผมแดงกับไคโดที่ยังคงต่อสู้กันบนเกาะ ก่อนที่จะหันหน้ากลับมายังเด็นเด็นมูชิ แล้วกล่าวว่า

 

“เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว จะรีบกลับไปยังศูนย์ใหญ่เดี๋ยวนี้”

 

“โรจา เจ้าปีศาจน้อย ได้ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันเกรงว่าไคโดคงไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆอย่างแน่นอน”

 

 

เวลานี้

 

เรือรบของโรจาก็ได้กลับมายังศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ดแล้วเช่นกัน

 

แจ็คแห่งภัยแล้งถูกโจมตีจนตกลงไปในทะเล ส่วนเรือโจรสลัด 2 ลำของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรก็ได้ถูกทำลายลง หนึ่งในนั้นเป็นถึงเรือโจรสลัดขนาดใหญ่ของหนึ่งในสามภัยพิบัติ ขณะเดียวกันโรจาก็สามารถยึดผลปีศาจสายโซออนรูปแบบโบราณที่หายากมากๆ จากเรืออีกลำได้

 

ทางด้านเซนโงคุ เมื่อเขารู้ว่าโรจาได้กลับมาแล้ว เขาจึงเรียกตัวโรจาให้ไปพบเขาอย่างเร่งด่วน แต่โรจายังคงไม่ไปหาเขาในทันที แต่กลับนำผลปีศาจไปแลกแต้มคุณุปการเสียก่อน

 

หลายวันต่อมา

 

โรจาได้เสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบจิตวิญญานแห่งดาบ จากแต้มสเตมิน่า ที่เขาได้รับมาเป็นจำนวนมากในตอนที่สู้กับแจ็คแห่งภัยแล้ง และเหลืออีกเพียงไม่กี่แต้มเท่านั้นก็จะสามารถเสริมความแข็งแกร่งได้ในครั้งถัดไป

 

ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ที่ยังอยู่บนเรือรบ การฝึกฝนของโรจาได้เปลี่ยนจากการฝึกฝนเพื่อเพิ่มพละกำลังร่างกาย เปลี่ยนไปเป็นการทำสมาธิอย่างสงบเพื่อตระหนักรู้ลึกลงไปในวิชาดาบและการดึงฮาคิที่อยู่ในร่างกายออกมาใช้ให้ได้เยอะขึ้น ดังนั้น แม้จะอยู่บนเรือรบ แต่โรจายังคงสามารถฝึกฝนได้

 

หลังจากที่ฝึกฝนไปได้ไม่กี่วัน แต้มสเตมิน่าของโรจาก็เพิ่มขึ้นจนเต็ม

 

หลังจากที่แต้มสเตมิน่าถูกเติมเต็มแล้ว โรจาก็เลือกที่จะเสริมความแข็งแกร่งอีกรอบ ทันใดนั้นก็มีแสงสีทองสว่างวาบ พร้อมกับหน้าต่างสถานะอันโปร่งใสได้รับการเปลี่ยนแปลงข้อมูล และปรากฏขึ้นอีกครั้งเบื้องหน้าโรจา

 

ขั้นสี่ : จิตวิญญาณดาบแห่งความประณีต +3

 

สถานะ : พลังโจมตี +540 , พละกำลัง +180 , ว่องไว +180 , พละกำลังร่างกาย + 180

 

สกิลพิเศษ :  บันโช อิซไซ ไคจิน โตะ นาเสะ [คำปลดปล่อย] – จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน — การโจมตีด้วยวิชาดาบจะเสริมความเสียหายด้วยไฟ (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการวิวัฒนาการ)

 

สกิลพิเศษ :  เซ็มบงซากุระ (ซากุระพันดอก) [คำปลดปล่อย] – จงโปรยปราย

 

สกิลพิเศษ : เก็ทสึงะ เท็นโช (เขี้ยวจันทรา ทะลวงสวรรค์) — เมื่อใช้วิชาดาบนี้ จะเกิดคลื่นพลังเป็นรูปจันทร์เสี้ยวพุ่งตรงไปยังทิศทางที่ฟาดฟันดาบออกไป

 

สเตมิน่า : 0/260

 

การที่แต้มสเตมิน่าของเขาก่อนหน้านี้ที่กลายเป็น 249 ไม่ใช่ 250  ยังคงเป็นเรื่องลึกลับ แต่ในเวลานี้มันกลับคืนเป็นปกติอีกครั้ง และกลายเป็น 260

 

ซึ่งเป็นสิ่งที่โรจาคาดการณ์เอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกประหลาดใจเป็นพิเศษ

 

ข้อมูลบนหน้าต่างสถานะ ปรากฏขึ้นแค่เฉพาะข้อมูลทางกายภาพ ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับจิตวิญญาณนั้นไม่ได้ระบุเอาไว้ แต่โรจาก็รู้ดีว่า พลังวิญญาณของเขานั้นเพิ่มสูงขึ้น แม้มันจะไม่ได้มีข้อมูลเขียนบอกเอาไว้ก็ตาม

 

‘แม้ว่าความเร็วในการเสริมความแข็งแกร่งของฉันจะยังคงเชื่องช้า แต่มันก็ค่อยๆขยับไปเข้าใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบที่จะไปถึงขั้นห้าแล้ว’

 

โรจากล่าวกับตัวเอง