GOS ตอนที่ 131 – โบอา แฮนค็อก
“เฮบิฮิเมะ โบอา แฮนค็อก … ”
โรจาจ้องมองไปยังเอกสารในมือก่อนที่จะจมลงสู่ห้วงความคิด
ภารกิจนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นการจีบสาวว่าก็ได้ เพียงแต่การจะจีบสาวคนนี้ ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะเธอนั้นเป็นคนที่มีเสน่ห์อันเย้ายวน แต่หากเผลอหลงเสน่ห์เธอเข้าแล้วล่ะก็ คนผู้นั้นก็จะกลายเป็นหิน!
แน่นอน
มันเป็นไม่ไปได้โรจาจะหลงเสน่ห์เธอ
“ก็นะ ตั้งแต่ที่ฉันถูกส่งมายังโลกใบนี้ ฉันยังไม่เคยพบเจอกับผู้หญิงคนไหนที่เป็นโจรสลัดมาก่อนเลย”
โรจาเงยหน้าขึ้นแล้วเผยให้เห็นถึงความภาคภูมิเล็กน้อย ก่อนที่จะยื่นเอกสารกลับไปให้ผู้ช่วยแล้วกล่าวว่า
“ไปเตรียมเรือรบให้พร้อม ถ้าฉันไปถึงเมื่อไหร่ เราจะต้องออกเดินทางได้ในทันที”
“รับทราบ!”
ผู้ช่วยโค้งทำนับให้โรจาด้วยความเคารพ แล้วหันหลังวิ่งไปยังท่าเรืออย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมเรือรบสำหรับการเดินทางในครั้งนี้
ส่วนทางด้านโรจา เขาได้กลับไปที่บ้านและถอดเสื้อผ้าที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อออก ก่อนที่จะอาบน้ำแล้วสวมเสื้อตัวใหม่ จากนั้นก็เดินทางไปยังท่าเรือของศูนย์ใหญ่
เรือรบได้เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางเรียบร้อยแล้ว
บนเรือรบ ทหารเรือบางคนก็ตระเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เมื่อพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับภารกิจที่จะต้องไปทำ ท่าทีของเหล่าทหารเรือบนเรือรบก็เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย
บางคนก็ตื่นเต้น ขณะที่บางคนก็กังวลและหวาดกลัว … แต่ดูเหมือนส่วนใหญ่จะตื่นเต้นกันเสียมากกว่า
“ราชินีแห่งเกาะอเมซอนลิลลี่ โบอา แฮนค็อก เป็นที่รู้จักกันในสมญานามจักรพรรดินีโจรสลัด และเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดในโลก”
“จริงๆหรอ? นายเคยเห็นเธอด้วยตาตัวเองมาแล้ว?”
“เปล่า”
ทหารเรือบางคนได้พูดคุยกัน พลางจินตนาการถึงหน้าตาของแฮนค็อก แต่จู่ๆเหล่าพลเรือตรีหลายคนที่อยู่บนเรือรบก็ได้ตะโกนออกมาว่า
“พวกคุณทั้งหมดตั้งใจฟังให้ดี โบอา แฮนค็อกนั้นเป็นโจรสลัดหญิงที่อันตรายเป็นอย่างมาก เขาว่ากันว่าเธอมีพลังที่สามารถทำให้ผู้ชายทุกคนที่พบเจอกับเธอกลายเป็นหิน!”
พลเรือตรีกล่าวเพียงสั้นๆไม่กี่ประโยค ทันใดนั้นเหล่าทหารเรือต่างพากันได้สติกลับคืนมาทันที ก่อนที่สีหน้าแต่ละคนจะเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว … พลังที่ทำให้คนที่พบเห็นกลายเป็นหิน นี่มันช่างเป็นพลังที่น่าหวาดกลัวเสียจริงๆ
เมื่อเหล่าทหารเรือจินตนาการถึงภาพของตนเองที่ถูกสาปกลายเป็นหิน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วพากันถอนหายใจออกมา
ทางศูนย์ใหญ่นั้นมักจะเตรียมเรือรบไว้ให้พร้อมที่จะออกท่าอยู่ก่อนแล้ว บนเรือจึงเต็มไปด้วยทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง ดังนั้นการเตรียมการทุกอย่างจึงเป็นไปอย่างราบลื่น ครู่ต่อมา เรือรบก็ได้ออกจากท่าเรือ และมุ่งเข้าสู่เขตทะเลคาล์มเบลอย่างรวดเร็ว
เกาะอาเมซอนลิลี่นั้นตั้งอยู่ในเขตทะเลคาล์มเบล
เนื่องจากคาล์มเบลนั้นเปรียบดั่งสวนหลังบ้านของจ้าวแห่งท้องทะเล เรือโจรสลัดขนาดทั่วๆไปและเหล่ากองกำลังต่างๆจึงไม่สามารถแล่นเรือเข้าไปยังเกาะสตรีแห่งนี้ได้ นอกจากนี้ หญิงสาวทุกคนบนเกาะนั้นยังได้รับการฝึกฝนฮาคิมารุ่นต่อรุ่น ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ใช่เพียงพลเรือนธรรมดาๆ แต่เป็นนักรบ! เป็นนักรบหญิงที่มีความแข็งแกร่ง! ดังนั้นเกาะแห่งนี้จึงไม่เคยถูกรุกรานมาก่อน
และเหล่านักรบที่โดดเด่นที่สุดบนเกาะก็คือกลุ่มโจรสลัดคุจาซึ่งมีแฮนค็อกเป็นผู้นำ
แฮนค็อกได้รับเลือกให้เป็น 1ใน7เทพโจรสลัด ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด นอกจากความแข็งแกร่งของเธอแล้ว เหล่าลูกเรือโจรสลัดที่แข็งแกร่งของเธอก็คงกองหนุนที่ดีเยี่ยม
โรจาเคยแล่นเรือเข้ามาในเขตทะเลคาล์มเบลอยู่หลายครั้ง
เขาได้เคยพบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆมามากมายในท้องทะเลเขตนี้ ไม่ว่าจะเป็นเห็นจ้าวแห่งท้องทะเลสองตัวกำลังห้ำหั่นกันจากระยะไกล หรือถูกโจมตีโดยจ้าวแห่งท้องทะเลขนาดกลางที่จู่ๆก็พรวดขึ้นมาจากใต้ทะเล
แต่ปัจจุบันนี้ โรจาสามารถแล่นเรือผ่านเขตทะเลคาล์มเบลได้อย่างอิสระและง่ายดาย ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ทำให้โรจาไม่ต้องกลัวว่าจะพบเจอกับอันตรายในเขตทะเลแห่งนี้ ต่อให้เขาแล่นเรือมาเพียงลำพังก็ตาม
…
ณ เกาะ อเมซอนลิลลี่
ใจกลางเกาะ มีพระราชวังคุจาตั้งอยู่และเป็นที่อยู่ของเฮบิฮิเมะ หรือก็คือที่อยู่ของโบอา แฮนค็อก
ในตอนนั้นเอง ได้มีเสียงตะโกนดังออกมาจากห้องโถงพระราชวัง
“เฮบิฮิเมะ นี่เป็นโอกาสเดียวในรอบพันปี ได้โปรดอย่าทำตัวดื้อรั้นอีกเลย!”
หญิงชราที่มีขนาดตัวค่อนข้างเล็กได้กล่าวขึ้น เธอยืนอยู่ภายในพระราชวังพร้อมกับเผยให้เห็นถึงท่าทีเคร่งขรึม หญิงชราคนนี้มีชื่อว่าโครริโอซ่า แต่ทุกคนมักจะเรียกเธอว่ายายเนียว และที่สำคัญเธอยังเป็นอดีตจักรพรรดินีของเกาะแห่งนี้อีกด้วย!
เบื้องหน้าของหญิงชรา เป็นบัลลังก์ของจักรพรรดินี และได้มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ เธอมีผมยาวดำสลวย และมีดวงตาสีฟ้าอำพันอันน่าหลงไหลราวกับว่าจะสามารถดูดวิญญาณออกจากร่างของทุกคนที่สบตา นอกจากนี้ยังมีริมฝีปากราวกับเชอร์รี่และผิวที่เรียบลื่นนวลขาวราวกับหิมะ
หากแม้นผู้ชายได้สบตาเธอจากระยะไกล ก็อาจสูญเสียจิตวิญญาณได้
หญิงสาวคนที่กล่าวมาก็คือ จักรพรรดินีโจรสลัด — โบอา แฮนค็อก!
ปัจจุบันจักรพรรดินีแฮนค็อกเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปี เธอยังอายุน้อยกว่าในมังงะ เธอยังสาวกว่า และน่าหลงไหลยิ่งกว่า
“ยายเนียว ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่สน!”
แฮนค็อกที่นั่งอยู่บนบัลลังก์และกำลังนั่งไขว้ขาอยู่ได้กล่าวออกมาพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น
“เฮบิฮิเมะ!”
เมื่อยายเนียวเห็นว่าแฮนค็อกยังคงดื้อรั้น เธอจึงกระแทกไม้เท้ารูปงูของเธอลงบนพื้นพร้อมกับกล่าวด้วยความเคร่งขรึมว่า
“ในอดีตเกาะอเมซอนลิลลี่ของเราอาศัยสภาพแวดล้อมในเขตทะเลคาล์มเบลเพื่อต่อต้านและป้องกันศัตรูจากภายนอก แต่ในเวลานี้ กองทัพเรือได้คิดค้นเรือรบที่เสริมหินไคโรเข้าไปในเรือได้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถแล่นเรือเข้าและออกจากเขตทะเลคาล์มเบลได้ตามต้องการ”
“เกาะอเมซอนลิลลี่ของพวกเราจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไปและอาจถูกทำลายโดยกองทัพเรือได้ตลอดเวลา”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ยายเนียวก็อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้น ขณะที่เธอยังคงถือหนังสือพิมพ์ไว้ในมือของเธอพร้อมกับกล่าวว่า
“ระบบ 7 เทพโจรสลัด ที่ถูกอนุมัติโดยรัฐบาลโลก นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ประทานมาให้แก่พวกเรา ตราบใดที่เธอเป็น1ใน7เทพโจรสลัด เธอก็จะสามารถปกป้อง และคุ้มครองเกาะแห่งนี้ไม่ให้ถูกพวกกองทัพเรือรุกราน!”
ยายเนียวกล่าวด้วยความตื่นเต้น ขณะที่คิ้วคู่งามของแฮนค็อกได้ขมวดเข้าหากัน ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากขัดจังหวะยายเนียวว่า
“พอเถอะยายเนียว ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่สนใจ!”
แฮนค็อกขบฟันสีเงินระเรื่อของเธอแน่น ก่อนที่จะลุกขึ้น แล้วกล่าวด้วยความหยิ่งยะโสว่า
“ไม่ว่ารัฐบาลโลกคิดจะทำอะไร ฉันไม่เห็นด้วยทั้งนั้น ฉันเกลียดมัน! ถ้ายายเนียวต้องการให้อเมซอนลิลลี่ปลอดภัย ยายเนียวก็ไปเป็น7เทพโจรสลัดซะเองสิ!”
ขณะที่กล่าวแฮนค็อกก็หันไปสั่งให้ มารีโกลร์ และธันเดอร์โซเนียร์ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ และคอยทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ให้พายายเนียวออกไป
“เฮบิฮิเมะ! เรื่องนี้เกี่ยวพันธ์กับความเป็นความตายของทุกคนบนเกาะอเมซอนลิลลี่ ถ้าเธอไม่ … ”
ยายเนียวได้ถูกอุ้มออกไป แต่ก็ยังคงพยายามดิ้นรนตะโกนบอกแฮนค็อก
เมื่อได้ยินดังนั้น แฮนค็อกจึงเดินไปหายายเนียวอย่างนุ่มนวล พร้อมกับสั่งให้ผู้พิทักษ์ทั้งสองให้วางยายเนียวลง
เห็นแบบนั้น
ยายเนียวก็รู้สึกผ่อนคลายลง เธอคิดว่าในที่สุดแล้วแฮนค็อกก็ฟังคำพูดของเธอเสียที
ขณะนั้นเอง จู่ๆแฮนค็อกก็ได้เหยียดมือชี้นิ้วออกไปยังยายเนียว พร้อมๆกับยกศีรษะของเธอขึ้นจนมันเงยไปข้างหลัง เหลือให้เห็นเพียงแต่คางอันเรียบเนียนราวกับหยก พร้อมกับกล่าวว่า
“แม้ว่าเกาะแห่งนี้จะถูกทำลายลง แต่ฉันก็ยังได้รับการให้อภัยจากทุกคน เพราะว่าฉัน … งดงามยังไงล่ะ!”
พริบตาที่เธอเอ่ยคำพูดออกมา ก็ราวกับมีพลังอะไรบางอย่างที่แฝงออกมาจากน้ำเสียงของเธอด้วย
แน่นอนว่าแฮนค็อกนั้นเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์ แม้กระทั่งยายเนียวและผู้พิทักษ์ทั้งสอง ก็พลันเกิดอาการสั่นไหวในจิตใจพร้อมกับเริ่มหอบหายใจถี่รัว
“เฮบิ .. เฮบิฮิเมะ …”
ยายเนียวหายใจอย่างถี่รัว แต่โชคดีที่เธออยู่กับแฮนค็อกมานาน เธอจึงพอจะมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง และจึงได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะรีบวิ่งไปยังแฮนค็อกพร้อมกับกล่าวว่า
“แม้แต่ในเวลาแบบนี้ก็ยังคงดื้นรั้น? เฮบิฮิเมะ นี่เธอ …”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้!”
แฮนค็อกมองยายเนียวด้วยสายตาชิงชังและแฝงไปด้วยความหยิ่งยะโส ก่อนที่จะคว้ายายเนียวไปยังหน้าต่างแล้วเตรียมที่จะโยนเธอออกไป
แต่ในเวลานั้นเอง
จู่ๆเสียงแตรที่มีไว้ใช้เป่าในยามฉุกเฉินก็ได้ดังขึ้น ทำให้แฮนค็อกชะงักไปครู่หนึ่ง พร้อมๆกับท่าทีของทุกคนที่อยู่ในพระราชวังได้เปลี่ยนไป
“เฮบิ .. เฮบิฮิเมะ แย่แล้ว เรือรบของทางกองทัพได้ปรากฏตัวขึ้นจากระยะที่ไกลออกไป และดูเหมือนว่าพวกเขาจะมุ่งตรงมายังเกาะแห่งนี้!”