GOS ตอนที่ 115 – การปะทะกันระหว่างฮาคิราชันย์
ตูมมมมมม—!
เมื่อจิตคุกคามทั้งสองปะทะกัน ก็พลันเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นราวกับกัมปนาท!
นี่ไม่ใช่เพียงแค่การปะทะกันด้วยโคกะธรรมดาๆ แต่เป็นการปะทะที่หาดูได้ยากยิ่งสำหรับคนธรรมดาสามัญ … เพราะมันปะทะกันระหว่างฮาคิราชันย์!
ฟุ้ม–!
ฮาคิของทั้งสองได้พยาพยามฉีกกระชากซึ่งกันและกันจนเกิดรอยแยกขึ้นในอากาศคล้ายกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาจากเบื้องบน! เพียงแต่สายฟ้าดังกล่าว มันเป็นสายฟ้าที่มีสีดำราวกับหมึก!
บรรยากาศโดยรอบพลันปั่นป่วน!
เมฆสีขาวที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้าเมื่อครู่พลันแปรเปลี่ยนกลายเป็นเมฆสีดำทะมึน และเกิดเสียงลมหวีดหวิวดังระงมไปทั่ว
ในคุกใต้ดิน จู่ๆดวงตาของไดอาเมนเต้ก็เบิกโพลง พร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา
‘กลิ่นอายนี่ … ไม่ผิดแน่ๆ!’
“ฉันเคยบอกไปแล้วใช่ไหม .. ว่ามันจะไม่จบลงเพียงเท่านี้… ฐานทัพแห่งนี้จะต้องถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงและแกก็จะพบกับจุดจบ!”
ภาพของโรจาได้ปรากฏขึ้นมาในหัวของไดอาเมนเต้ ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยันบนใบหน้า ราวกับว่าไดอาเมนเต้ได้เห็นโรจาตายลงด้วยความสิ้นหวังโดยมีฉากพื้นหลังเป็นฐานทัพแห่งนี้ที่ถูกทำลายจนย่อยยับ!
…
“ฮาคิ .. ราชันย์ …?”
โดฟลามิงโก้ได้เผยให้เห็นถึงความประหลาดใจออกมาซึ่งโดยปกติแล้วเขามักจะไม่เคยเผยท่าทีแบบนี้กับศัตรูคนไหน การปะทะกันของฮาคิราชันย์ ทำให้บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังรู้สึกสั่นไหวในจิตใจ
เห็นได้ชัดว่าโดฟลามิงโก้ไม่คาดคิดว่าโรจาจะครอบครองฮาคิราชันย์ด้วยเช่นกัน!
เนื่องจากโดฟลามิงโก้ได้สูญเสียผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นดั่งแขนขาของเขาไปถึงสองคน ดังนั้นโดฟลามิงโก้จึงไม่กล้าที่จะประมาท ก่อนบุกมาที่นี่ เขาได้รวบรวมข้อมูลมากมายเกี่ยวกับโรจา แต่ข้อมูลของจริงส่วนใหญ่นั้น ก็เป็นเพียงแค่ข้อมูลก่อนที่โรจาจะมาประจำตำแหน่งในเขตทะเลเวสต์บลูเท่านั้น!
สำหรับข้อมูลหลังจากที่โรจามาประจำตำแหน่งในเวสต์บลูนั้นมีมากมายเกินไป จนไม่รู้ว่าข้อมูลไหนเป็นของจริงหรือปลอม บางข้อมูลก็กล่าวว่าโรจานั้นแข็งแกร่งราวกับเทพพระเจ้า ขณะที่บางข้อมูลก็กล่าวว่าโรจาสามารถฆ่าศัตรูของเขาได้โดยเพียงแค่ใช้สายตาจ้องมอง ซึ่งข้อมูลพวกนี้มันโคตรจะไร้สาระ! โดฟลามิงโก้ทำใจเชื่อไม่ลงจริงๆ
แต่เมื่อได้ปะทะกับโรจา เขากลับพบว่าโรจานั้นได้ครอบครองฮาคิราชันย์! ที่สำคัญมันยังเป็นฮาคิที่แข็งแกร่งจนราวกับว่าจะสามารถฉีกกระชากทุกอย่างลงได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งท้องฟ้า!
ฮาคิราชันย์ได้ฉีกกระชากซึ่งกันและกัน การปะทะกันระหว่างการโจมตีของทั้งสอง ทำให้ฮาคิที่โดฟลามิงโก้ต้องการจะปลดปล่อยออกไปถูกหยุดเอาไว้ — ดังนั้นเหล่าทหารเรือที่กำลังล่าถอยจึงไม่ได้รับผลกระทบ
แต่
เมื่อเหล่าทหารเรือจ้องมองไปยังฉากอันน่าสยดสยองที่ให้ความรู้สึกราวกับต้องการฉีกกระชากสวรรค์และโลกให้แยกจากกันนี้ จิตใจของพวกเขาก็สั่นสะท้านและไม่อาจรักษาความสงบเอาไว้ได้ สำหรับพวกเขาแล้ว นี่มันเป็นการต่อสู้ของพวกเหนือมนุษย์!
เปรี้ยง–!
เสียงระเบิดที่ราวกับต้องการฉีกกระชากสวรรค์และโลกออกจากกันได้ดังก้องสะท้อนอยู่ในหูของทุกผู้คนที่อยู่รอบๆ — พร้อมๆกับโดฟลามิงโก้ที่เริ่มจะถูกกดดันให้ค่อยๆถอยร่นกลับไป
ภาพตรงหน้าทำให้โดฟลามิงโก้แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง … ว่าฮาคิราชันย์ของเขานั้นจะด้อยกว่า!
การปะทะกันระหว่างฮาคิราชันย์นั้น หากมีความแข็งแกร่งแตกต่างกันเพียงน้อยนิด มันจะไม่ส่งผลขนาดนี้ การที่เขากำลังถูกกดดันจนถอยร่นออกมา นั่นหมายความว่าฮาคิราชันย์ของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าเขาเป็นอย่างมาก!
นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?
ตูม–!
การปะทะกันระหว่างฮาคิราชันย์ของทั้งสองได้จบลงอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงสองถึงสามลมหายใจ
รอบๆตัวโดฟลามิงโก้และโรจาก็พลันเกิดระเบิดคลื่นโซนิคบูมขึ้น — เสื้อขนสัตว์ของโดฟลามิงโก้ได้โบกสะบัดไปข้างหลังอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่ทางฝั่งเสื้อคลุมพลเรือตรีของโรจาสั่นไหวเพียงเล็กน้อยราวกับพึ่งถูกสายลมอันแสนจะอ่อนโยนพัดผ่านไป
ที่เป็นแบบนั้น นั่นก็เพราะ แรงปะทะเกือบทั้งหมดพุ่งไปทางโดฟลามิงโก้ จนเสื้อขนสัตว์ของเขาปลิวไสวอยู่ตลอดเวลา!
ผลการปะทะระหว่างฮาคิราชันย์ได้ถูกตัดสินออกมาแล้ว!
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ … สามารถปลดปล่อยฮาคิราชันย์ออกมาได้มากขนาดนี้ .. แกเป็นใครกันแน่?”
แม้ว่าหน้าแข้งของโดฟลามิงโก้ที่เตะออกไปจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลยก็ตาม แต่ใบหน้าอันแสนดุร้ายของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงความตกใจ และจ้องมองโรจาด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
ฮาคิราชันย์ที่แข็งแกร่งระดับนี้ … เขาเคยสัมผัสมันมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง มันคือความรู้สึกเดียวกับในตอนที่เขาได้เผชิญหน้ากับแชงคูสผมแดง!
“ชื่อของฉันคือ มังกี้ D โรจา ไม่ใช่ว่าแกไปสืบเรื่องของฉันมาจนหมดแล้วหรอกหรือ?”
โรจายังคงยืนอยู่อย่างสงบ เขาจ้องมองไปยังโดฟลามิงโก้พร้อมกับเผยให้เห็นถึงสีหน้าเย้ยหยันเล็กน้อย
โดฟลามิงโก้สูดหายใจลึก ก่อนที่จะกลับมาสงบดังเดิมอีกครั้ง แต่ท่าทีของเขาไม่ได้เผยให้เห็นถึงความหยิ่งผยองอีกต่อไป
ฮาคิราชันย์
การที่ได้ครอบครองมันไม่ใช่เป็นแค่เพียงการบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่มันยังหมายความว่าคนๆนั้นมีคุณสมบัติของราชันอีกด้วย!
ในท้องทะเลโลกวันพีชนั้น ผู้ที่มีคุณสมบัติแห่งราชันย์นั้นมีอยู่หลากหลายคน แต่ … คนที่จะได้เป็นราชันนั้นมีเพียงคนเดียวเท่านั้น!
ในขณะเดียวกันคนที่ครอบครองฮาคิราชันย์แทบทุกคน ก็แทบจะไม่มีใครอยู่ฝ่ายเดียวกันเลย พวกเขาเลือกที่จะเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน โดยไม่คำนึงว่าตัวตนและสถานะของอีกฝ่ายนั้นจะเป็นใครและมีที่มาอย่างไร เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่จะได้เป็นราชันนั้นมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!
“ตอนแรกฉันคิดว่า ‘ตัวตน’ ของแกนั้นจะเป็นเพียงแค่ทหารเรือที่เก่งกาจ … แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้น”
โดฟลามิงโก้กล่าวพร้อมกับเผยให้เห็นท่าทีที่ดูชั่วร้าย พลางจ้องมองไปยังโรจา
“ตัวตนที่แกหมายถึงน่ะสำหรับฉันแล้ว …”
เมื่อโรจาได้ยินคำพูดของโดฟลามิงโก้ จู่ๆเขาก็ยิ้มออกมา พร้อมกับจ้องมองไปยังโดฟลามิงโก้แล้วกล่าวว่า
“ไม่ว่าจะเป็นกองทัพเรือหรือโจรสลัด .. มันก็ไม่แตกต่างกัน”
ได้ยินแบบนั้นโดฟลามิงโก้ก็จ้องมองไปยังโรจา ก่อนที่จะจมลงสู่ห้วงความคิด พร้อมๆกับระรึกถึงชายคนหนึ่ง ซึ่งเคยทรยศต่อดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ และสุดท้ายก็ถูกสังหารลงด้วยน้ำมือของเขาเอง โดยการถูกกระหน่ำลูกปืนใส่ ก่อนที่จะกลับมาได้สติอีกครั้งแล้วหัวเราะอย่างชั่วร้าย
“อย่างงั้นหรือ … ฟุฟุฟุฟุฟุ”
สิ่งหนึ่งของผู้ที่มีคุณสมบัติแห่งราชันย์ควรจะมีก็คือ พวกเขานั้นจะมีทัศนคติที่แตกต่างจากผู้อื่นและมักจะไม่ยอมทำตามกฏ … เพราะหากกษัตริย์ยอมทำตามกฏของผู้อื่น แล้วเขาจะยังคงเป็นกษัตริย์ต่อไปได้อย่างไร?
นี่สินะ คือเหตุผลที่ไม่มีทหารเรือคนไหนเลยที่ครอบครองฮาคิราชันย์เพราะพวกมันเป็นพวกที่เคร่งครัดในกฏเกณฑ์! … แต่ในความเป็นจริงแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีอยู่อีกคนหนึ่งที่มักจะไม่ยอมทำตามกฏ
คนๆนั้นก็คือการ์ป ที่เคยถึงขั้นถูกแต่งตั้งให้เป็นพลเรือเอก แต่เขาก็กลับเลือกที่จะปฏิเสธ … เพราะสำหรับการ์ปแล้ว ไม่ว่าจะยศพลเรือเอกหรือจอมพลเรือ มันแทบจะไร้ความหมายสำหรับเขา!
โรจานั้นเป็นญาติของการ์ป จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะมีทัศนคติที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้นการที่โรจาสามารถครอบครองฮาคิราชันย์จึงยังพอเข้าใจได้
ณ บริเวณท่าเรือ
นอกเหนือจากโรจาและโดฟลามิงโก้แล้ว ไม่มีใครอยู่ที่นั่นอีกเลย เหล่าทหารเรือในขณะนี้ต่างพากันล่าถอยไปไกลแล้ว
เมื่อเห็นการปะทะอันน่าสยดสยองระหว่างฮาคิราชันย์ หัวใจของพวกเขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าอยู่ไปก็รังแต่จะเป็นภาระของโรจา และต่างพากันเชื่อฟังคำสั่งและพากันล่าถอยไปยังเกาะอื่นๆ เพื่อที่จะไม่โดนลูกหลง
ขณะที่กำลังล่าถอย พวกเขาก็หันไปมองโรจาและโดฟลามิงโก้
อย่างไรก็ตาม เหล่าทหารเรือก็ไม่ทราบว่าโรจาและโดฟลามิงโก้นั้นกำลังพูดคุยเรื่องอะไรกัน แต่หัวใจของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกและจ้องมองทั้งสองจากจุดที่ห่างไกล
จุดที่ขณะนี้ เมฆสีขาวๆบนท้องฟ้าได้แปรเปลี่ยนเป็นเมฆสีดำทะมึนและส่งเสียงหวีดหวิวของสายลมดังระงมไปทั่ว ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความกดดัน แม้จะหายใจก็ยังยากลำบาก!