GOS ตอนที่ 106 – จอมวางแผน ซึรุ

 

หากมันเป็นเพียงแค่การบุกทำลายฐานที่มั่นของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่แล้วก็คงจะไม่มีอะไร แต่ตัวแทนกองกำลังใต้ดินหลากหลายกองกำลังก็ยังพลอยโดนลูกหลงไปด้วย จนทำให้โลกใต้ดินของเขตเวสต์บลูเกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ขึ้น!

 

เรื่องนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อหน้าตาและศักดิ์ศรีของดองกี้โอเต้ในเขตเวสต์บลูเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาไม่สามารถละเลยเรื่องนี้ได้

 

ระยะห่างระหว่างศูนย์ใหญ่มารีนฟฟอร์ดและฐานสาขาที่ 1 ในเขตทะเลเวสต์บลูนั้นอยู่ไกลกันมากเกินไป หากดองกี้โอเต้ต้องการที่จะทำอะไรบางอย่างในเขตทะเลเวสต์บลู มันก็คงเป็นไปได้ยากที่ทางศูนย์ใหญ่จะส่งกำลังสนับสนุนมาได้อย่างทันท่วงที

 

และ

 

สำหรับโดฟลามิงโก้ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มดองกี้โฮเต้แฟมิลี่และมีฉายาว่าปีศาจสวรรค์นั้น ในมุมมองของเซนโงคุ เขาไม่ใช่เพียงแค่ขยะตามท้องทะเลเหมือนดั่งพวกโจรสลัดทั่วไป แต่เป็นโจรสลัดตัวก่อปัญหา!

 

มิใช่ว่าโดฟลามิงโก้ไม่แข็งแกร่ง

 

ถึงแม้โดฟลามิงโก้จะด้อยกว่าเหล่าพลเรือเอกและไม่อาจนำไปเปรียบเทียบกับเหล่า 4 จักรพรรดิ แต่ปัญหาก็คือโดฟลามิงโก้นั้นเคยเป็นคนของเผ่ามังกรฟ้ามาก่อน แม้ว่าเขาจะสูญเสียสิทธินั้นไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเป็นตัวตนที่มีความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนกับรัฐบาลโลกอยู่ดี

 

ซึ่งความสัมพันธ์อัน ‘ละเอียดอ่อน’ นี้ทำให้กองทัพเรือไม่อาจไล่ล่าพวกเขาได้อย่างอิสระ สิ่งเดียวที่คอยป้องกันไม่ให้โดฟลามิงโก้ไม่ให้ทำสิ่งชั่วร้ายนั้นก็คือรัฐบาลโลก

 

ใบหน้าของเซนโงคุเปลี่ยนเป็นมืดมนก่อนที่เขาจะหยิบเด็นเด็นมูชิขึ้นมาแล้วกดโทรออก

 

“สวัสดี ซึรุจัง”

 

“ฉันกำลังฟังอยู่”

 

“ซึรุจัง เธอยังไล่ตามโดฟลามิงโก้อยู่รึเปล่า?”

 

เสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างเงียบสงบว่า

 

“ไม่ มีปัญหานิดหน่อย ฉันหยุดไล่ตามแล้ว เกิดอะไรขึ้น?”

 

“คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ …”

 

เซนโงคุได้กล่าวอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในเขตทะเลเวสต์บลู

 

ซึรุซึ่งอยู่ปลายสายตั้งใจฟังอย่างสงบ ก่อนที่จะจมลงสู่ความเงียบ ไม่นานนักเธอก็กล่าวตอบกลับมาว่า

 

“โดฟลามิงโก้ยังคงอยู่ในนอร์ทบลู … อย่างไรก็ตาม หากมีผู้บริหารคนอื่นของดองกี้โฮเต้อยู่ในเขตทะเลเวสต์บลูแล้วล่ะก็ มันคงสายเกินไปที่พวกเราจะตอบสนองได้ทัน”

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวของซึรุ เซนโงคุก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า

 

“ใช่ เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าโรจาจะพบฐานที่มั่นของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่หลังจากที่เขาไปประจำการในฐานเขตเวสต์บลู  แถมยังบุกเข้าไปทลายงานจัดแสดงสินค้าของพวกมัน จนทำให้เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในโลกใต้ดินอีกด้วย”

 

“เรื่องสถานะและตัวตนของโรจาทั้งหมดยังคงถูกปิดเป็นความลับใช่ไหม?”

 

ซึรุถามเซนโงคุอย่างเยือกเย็น

 

“ใช่”

 

เซนโงคุกล่าวยืนยัน ข้อมูลทุกอย่างของโรจาก่อนที่จะมาเป็นพลเรือตรีนั้นเหลือแค่เพียงแผ่นกระดาษที่ว่างเปล่า

 

“อีกนัยหนึ่งก็คือ โรจานั้นแข็งแกร่ง ตราบใดที่เขาไม่ได้เผชิญหน้ากับโดฟลามิงโก้ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงคนไหนของดองกี้โอเต้ อย่างน้อยเขาก็น่าจะสามารถป้องกันตัวเองได้ คุณไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลอะไรมากมายนัก ตอนนี้ที่คุณต้องทำก็คือรีบส่งเรือรบไปยังเขตเวสต์บลูให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

 

“แต่ฉันเกรงว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ …”

 

ซึรุที่อยู่ปลายสาย เผยให้เห็นประกายตาที่จมลึกลงไป พร้อมกับกล่าวพึมพำออกมาเบาๆ

 

 

เกาะบานาร์

 

หลังจากที่ถูกบุกทลายโดยโรจาในช่วงไม่กี่วันก่อน สองสามวันต่อมาเกาะทั้งเกาะก็ถูกตรวจค้นอย่างละเอียด เพื่อหาพวกโจรสลัดที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มชาวบ้าน

 

เนื่องจากในสายตาของชาวบ้าน การปรากฏตัวของโรจาและทางกองทัพนั้นเปรียบดั่งเป็นตัวแทนของความยุติธรรม ไม่เพียงแต่เกาะบานาร์จะไม่ตกอยู่ในความวุ่นวาย ตรงกันข้าม มันค่อนข้างที่จะสงบสุขกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ จะมีบ้างเป็นบางครั้งที่เกิดความวุ่นวายเล็กๆน้อยๆขึ้น แต่ก็สามารถคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็ว

 

บนเกาะ

 

เหล่า ‘ทรัพยากร’ ของดองกี้โฮเต้แฟมิลี่ กำลังอยู่ในระหว่างการขนย้าย

 

บนเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยทาสและอาวุธเป็นจำนวนมาก มากยิ่งกว่าฐานที่มั่นในเขตทะเลเซาท์บลูที่โรจาเคยไปบุกทลายครั้งล่าสุดเสียอีก .. บางทีอาจจะเป็นเพราะฐานแห่งนี้กำลังจัดงานประมูลอยู่ก็เป็นได้

 

เรือรบจากฐานได้มาถึงที่นี่แล้ว และกำลังช่วยขนย้ายทรัพยากร ออกจากเกาะแห่งนี้

 

หัวหน้าสาขาไทกะ ก็มาที่นี่เช่นกัน ถึงแม้เขาจะยืนยันข้อมูลที่ได้มาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามันถูกต้องจริงๆ แต่เขาก็ยังอดที่จะทำใจเชื่อไม่ได้ จนมาพบเห็นฉากดังกล่าวบนเกาะด้วยตาของตัวเอง และแน่นอนว่าเมื่อเห็นฉากนี้ ทัศนคติที่เขามีต่อโรจาก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง

 

ในสำนักงานชั่วคราวของโรจา

 

ไทกะโค้งคำนับโรจาที่กำลังนั่งอยู่ และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคารพว่า

 

“ถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ผมคงต้องขอตัวก่อน”

 

“อืม .. เชิญตามสบาย”

 

โรจาพยักหน้า ส่วนไทกะก็เดินออกไปจากสำนักงานไป

 

โรจาไม่ได้ใส่ใจกับการจากไปของไทกะ ตัวเขาในเวลานี้กำลังจดจ่ออยู่กับเอกสารในมือ และผลไม้แปลกๆทั้งสามผลที่วางอยู่บนโต๊ะ

 

แน่นอนว่าผลไม้เหล่านั้นคือผลปีศาจที่ยึดมาได้

 

เอกสารในมือของโรจาเป็นเอกสารที่บันทึกข้อมูลของผลปีศาจจากศูนย์ใหญ่มารีนฟอร์ด

 

ภาพของผลปีศาจในเอกสารที่โรจากำลังถืออยู่ มันไม่มีอันไหนที่มีรูปร่างตรงกับผลปีศาจทั้งสามผลที่อยู่ตรงหน้าเขาเลย

 

แต่มองจากรูปทรงภายนอกมันน่าจะไม่ใช่ผลปีศาจสายโลเกีย

 

“สองผลเป็นสายโซออน ส่วนอีกผลเป็นสายพารามีเซีย ..”

 

เมื่อดูจากภาพประกอบในมือกับรูปร่างของผลปีศาจสามผลที่วางอยู่บนโต๊ะ หลังจากที่ตรวจสอบมันอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดโรจาก็ยืนยันได้และพยักหน้าเล็กน้อย

 

“พวกมันไม่ใช่ผลปีศาจสายโลเกียจริงๆ”

 

หลังจากที่รู้ถึงตัวตนของผลปีศาจทั้งสาม โรจาก็สูญเสียความสนใจจากพวกมันไปอย่างสิ้นเชิง ผลปีศาจพวกนี้เป็นพวกแค่ผลปีศาจธรรมดาๆ ไม่ใช่สายพันธ์ที่โรจาจะต้องสนใจ

 

ในความเป็นจริง การที่เขาได้12ดาบชั้นเลิศมาครอบครองก็นับว่าโชคดีมากแล้ว หลังจากที่เขามาอยู่ในเขตทะเลเวสต์บลูได้ไม่นาน

 

หากพบผลปีศาจสายโซออนรูปแบบตำนาน หรือผลปีศาจสายโลเกีย มันก็คงฟังดูเกินไปหน่อย

 

และมันก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล การที่ผลปีศาจเหล่านี้ถูกส่งมาขายยังเขตเวสต์บลู นั่นก็เพราะผลปีศาจพวกนี้ไร้ค่า จนพวกดองกี้โฮเต้ไม่ต้องการที่จะใช้งานมันนั่นเอง

 

“จากที่ลองคำนวนระยะเวลาดูคร่าวๆ ฉันคิดว่า ‘ระบบเจ็ดเทพโจรสลัด’ คงจะปรากฏขึ้นในเร็วๆนี้ ..”

 

โรจาโยนเอกสารลงบนโต๊ะ โดยที่ไม่แม้แต่จะเหลียวแลผลปีศาจทั้งสาม แต่กลับแหงนหน้ามองไปยังข้างบนพร้อมกับเอามือลูบคางของเขา

 

ระบบเจ็ดเทพโจรสลัดจะปรากฏขึ้นเมื่อไหร่นั้น ในมังงะไม่ได้ระบุเวลาเอาใช้ชัดเจน ดังนั้นโรจาจึงค่อนข้างรู้สึกสงสัย

 

ตามความทรงจำของเขา โรจาจำได้เพียงแค่ว่า ในช่วงยุคสมัยของโจรสลัดในปีที่ 10 โดฟลามิงโก้ยังไม่ได้เป็นเจ็ดเทพโจรสลัด และเขายังคงถูกซึรุไล่ล่ามาโดยตลอดจนกระทั่ง ยุคสมัยของเหล่าโจรสลัดในปีที่ 14 หลังจากที่โดฟลามิงโก้ได้ครอบครองเดรสโรซ่า เขาจึงได้เป็นเจ็ดเทพโจรสลัด

 

ซึ่ง ณ เวลาปัจจุบันยังเหลือเวลาอีก 10 ปี ก่อนที่ลูฟี่จะเริ่มออกเดินทางสู่ท้องทะเล และเป็นเวลาอีก 12 ปี ก่อนที่ลูฟี่จะมอบความพ่ายแพ้ให้แก่โดฟลามิงโก้