GOS ตอนที่ 1 – มังกี้ D โรจา
ณ ศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือ — มารีนฟอร์ด
ภายในมารีนฟอร์ดนั้นมีพื้นที่กว้างขวาง และตรงจตุรัสมีเหล่าทหารเรือกำลังวิ่งพร้อมกับลากล้อยางรถยนต์เพื่อฝึกฝนร่างกายกันอยู่
ภายในกลุ่ม มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่วิ่งไม่ทันคนอื่น จนเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และระยะห่างระหว่างเขากับคนอื่นๆยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โรจามองไปยังกลุ่มคนที่ค่อยๆทิ้งห่างเขาออกไปด้วยความกระวนกระวายใจ ก่อนที่จะกล่าวอย่างไร้กำลังว่า
“แม้แต่กลุ่มทหารทหารเรือฝึกหัด ฉันก็ยังวิ่งตามพวกเขาไม่ทัน นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน!”
หนึ่งเดือนก่อน โรจาได้ถูกส่งมายังโลกของวันพีช แถมเขายังกลายเป็น ‘ญาติ’ ของวีรบุรุษแห่งกองทัพเรือ มังกี้ D การ์ป — ซึ่งเป็นปู่ของลูฟี่
นี่ก็ผ่านมา 11 ปีแล้ว นับตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของเหล่าโจรสลัด
โรจากลัวมาก ในตอนแรกที่เขาถูกส่งมายังที่นี่ แต่มันก็ไม่แปลกใช่ไหม? การที่คนๆนึงถูกส่งมายังต่างโลก ในตอนแรกมันก็ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกกลัว อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ว่าตัวเขาถูกส่งมายังโลกวันพีช ซึ่งเป็นการ์ตูนเรื่องโปรดของเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเมื่อนึกถึงเรื่องของผลปีศาจ และดาบที่สามารถตัดภูเขาทั้งลูกได้อย่างง่ายดาย
ยิ่งไปกว่านั้น การที่เขาถูกส่งมาแล้วได้เป็นถึงญาติของการ์ป ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น! เนื่องจากการ์ปนั้นเป็นหนึ่งในชายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกวันพีช!
แต่ใครจะรู้ ว่าสองวันต่อมาหลังจากถูกส่งมายังโลกวันพีช โรจาจะถูกการ์ปจับโยนให้มาฝึกทหารที่ค่ายมารีนฟอร์ด
เดิมทีแล้วโรจาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกองทัพเรือเลย … ก็วันพีชมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับโจรสลัดนี่ ใช่ไหม? นอกจากนี้ทุกคนที่นี่ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับวิชา โรคุชิกิเลย (วิชาของพวก CP9)
และเนื่องจากโรจานั้นอ่อนแอ จึงทำให้ไม่มีใครต้องการที่จะพูดคุยกับเขา
นี่ก็หนึ่งเดือนมาแล้วที่โรจาถูกส่งมายังที่นี่ ถึงแม้เขาจะพยายามฝึกฝน เพื่อไล่ตามคนอื่นๆ แต่มันก็ยังเป็นไปได้ยาก
โรจารู้สึกสิ้นหวังจริงๆ
“ที่นี่คือศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือ ทำให้ทหารเรือที่มาฝึกภายในศูนย์เกือบทั้งหมดนั้นเป็นทหารเรือระดับสูง แม้แต่นายพล การาสุ กับ อาคาอินุ ก็เริ่มต้นจากการฝึกในศูนย์ใหญ่แห่งนี้”
เมื่อคิดได้แบบนั้น จึงทำให้โรจาฝึกซ้อมอย่างหนัก แต่เขาก็ยังรู้สึกสิ้นหวังอยู่ดี
ถ้าหาก … ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถโดดเด่นภายในศูนย์ใหญ่แห่งนี้ได้แล้วล่ะก็ เขาก็จะกลายเป็นเพียงตัวประกอบในโลกแห่งนี้ — ซึ่งทหารเรือที่เป็นเพียงตัวประกอบนั้นส่วนใหญ่มักจะถูกโจรสลัดทุบตีจนตาย!! โรจา จะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด!!
ทำไมกันนะ? ทำไมเขาถึงไม่ได้รับพลังจากสายเลือดของตระกูล D หรือว่าเป็นเพราะเขานั้นไม่ใช่สายเลือดโดยตรง?
ณ ปัจจุบันนี้ โรจานั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ มังกี้ D ดราก้อน ซึ่งเป็นถึงผู้นำกองทัพปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้รัฐบาลโลก ส่วนการ์ปก็ไม่ต้องพูดถึงเขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นสุดยอดที่สามารถไล่ล่าโกลด์ D โรเจอร์ได้ นอกจากนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ลูฟี่นั้นคงจะได้เป็นราชาโจรสลัดคนต่อไป!
(ลูฟี่ตอนนี้อายุ 6 ขวบ)
สายเลือดตระกูล D ทุกๆคนต่างก็เป็นคนที่โดดเด่น
และด้วยความโดดเด่นของแต่ละคนใน ตระกูล D ก็ยิ่งทำให้โรจานั้นรู้สึกกดดัน เพราะภายนอกมารีนฟอร์ดแห่งนี้ เต็มไปด้วยเหล่าโจรสลัดและกองทัพปฏิวัติที่ทรงอำนาจ! โรจารู้ดีว่าหากเขายังเป็นเพียงตัวประกอบที่ยังคงอ่อนแอและไม่โดดเด่น วันหนึ่งเขาจะเริ่มถูกกลั่นแกล้งเพื่อระบายความโกรธ
เพราะฉะนั้นถึงแม้เขาจะอยู่ภายในมารีนฟอร์ด แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัย …
ถึงแม้ภายในมารีนฟอร์ดจะไม่ปลอดภัย แต่เขาก็คงไม่ถึงกับถูกฆ่า อย่างไรก็ตาม ในอนาคตถ้าเกิดเขาต้องเข้าร่วมสงคราม แล้ววันหนึ่งเขาพลาดขึ้นมา … เขาก็อาจจะตายได้
นี่มันไม่ถูกต้อง!
แต่แล้วโรจาก็ส่ายหัว ก่อนที่จะโยนความคิดนี้ทิ้งไว้เบื้องหลัง
“ไม่จำเป็นที่จะต้องคิดถึงเรื่องในอนาคต ตอนนี้ฉันต้องทุ่มสมาธิไปกับการฝึกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง!”
หลังจากที่เสร็จสิ้นการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง โรจาก็หาที่ว่างๆเพื่อนั่งพักก่อนที่จะหลับตาลง เขาได้ค้นพบว่า ตั้งแต่ที่เขาถูกส่งมายังโลกวันพีช โรจาสามารถใช้สมาธิแล้วมองเห็นพื้นที่อันว่างเปล่าได้ โดยมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มองเห็น
ณ ใจกลางของพื้นที่ว่างเปล่านั้น มีดาบเล่มหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ
มันอยู่ภายในจิตใจของโรจา และได้หลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาในโลกนี้
โรจาเรียกมันว่า ‘ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบ’
ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นว่าใบดาบเต็มไปด้วยรอยร้าว ราวกับว่ามันสามารถพังทลายลงได้ตลอดเวลา
ในขณะที่โรจากำลังครุ่นคิดอยู่ ก็ได้มี ‘หน้าต่างสถานะ’ ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา
ขั้นแรก : จิตวิญญาณของดาบที่เสียหาย +10 (ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการเสริมความแข็งแกร่ง)
สถานะ : พลังโจมตี +30
สเตมิน่า: 10/10
“ทำไมหลังจากฝึกฝนแล้ว ค่าสเตมิน่าถึงเต็มแค่ 10? อย่าบอกนะว่านี่คือขีดจำกัดของมัน?”
โรจาจ้องมองหน้าต่างสถานะพลางบ่นในใจ
แถมเจ้าระบบบ้านี่ก็ไม่ยอมอธิบายอะไรให้เขาฟังเลยแม้แต่น้อย มันไม่เคยคุยกับเขาเลยด้วยซ้ำ
โรจาจึงพยายามลองใช้ระบบนี้ด้วยตัวเอง
ตอนแรกนั้นหน้าต่างสถานะได้เขียนเอาไว้แบบนี้
ขั้นแรก : จิตวิญญาณของดาบที่เสียหาย +0
หลังจากนั้นโรจาก็ได้รู้ว่าการฝึกฝนหรือการต่อสู้จะสามรถทำให้ค่าสเตมิน่าเพิ่มขึ้นได้ และเมื่อค่าสเตมิน่าถึงจุดที่กำหนดมันก็จะช่วยเสริมพลังให้จิตวิญญาณของดาบที่เสียหาย
ตอนแรกโรจาไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตอนที่จิตวิญญาณของดาบที่เสียหายเปลี่ยนจาก +0 ไปเป็น+1
แต่เมื่อเสริมความแข็งแกร่งไปจนถึง +5 โรจาก็รู้สึกได้ว่ากำปั้นของเขานั้นมีพละกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
จนกระทั่งเขาเสริมความแข็งแกร่งให้จิตวิญญาณของดาบที่เสียหายไปเป็น +10 ! เขาก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นราวกับว่าเขาไม่ใช่เพียงทหารเรือฝึกหัดที่พึ่งถูกส่งมายังมารีนฟอร์ดแห่งนี้
โรจาคิดจะใช้ระบบนี้เพื่อพัฒนาตัวเองให้ยืนอยู่เหนือ ทั้ง4 จักรพรรดิ และ 3 นายพล
แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อเสริมความแข็งแกร่งถึง+10แล้ว มันจะถึงขีดจำกัด และไม่สามารถเสริมความแข็งแกร่งได้อีกต่อไป!
แต่ในหน้าต่างสถานะ ยังมีวงเล็บอยู่ว่า ‘ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการเสริมความแข็งแกร่ง’
สัญชาตญาณของโรจาบอกว่า ถ้าเขาเติมเต็มเงื่อนไขนี้ได้ บางทีอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นก็ได้!
แต่เขาก็ยังไม่ค้นพบวิธีที่ว่า
‘เงื่อนไข? เงื่อนไขที่ว่ามันคืออะไรกัน’
โรจาจ้องมองคำในวงเล็บ ก่อนที่จะเริ่มทำสมาธิอีกครั้ง
เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โรจายังไม่ทันได้คิดอะไร เขาก็ได้ยินเสียงครูฝึกดังขึ้น โรจาจึงลืมตาขึ้นแล้วกลับไปฝึกฝนต่อ
หลังจากนั้นไม่นาน การฝึกภายในวันนี้ก็สิ้นสุดลง
เมื่อฝึกเสร็จโรจากับเหล่าทหารเรือที่ฝึกฝนด้วยกันต่างก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ถึงแม้โรจานั้นไม่ได้อ่อนแอ แต่การฝึกของเขาก็ทำได้ไม่ค่อยดี ดังนั้นถึงเขาจะโดนดูถูกมันก็ไม่แปลก
เมื่อเสร็จสิ้นการฝึก โรจาก็ออกจากสนามฝึกซ้อม
ศูนย์บัญชาการใหญ่มารีนฟอร์ดนั้นเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ ไม่เพียงแต่มีพื้นที่กว้างขวางไว้สำหรับฝึกซ้อมเท่านั้น แต่มันยังเป็นเมืองเล็กๆ ที่เป็นดั่งป้อมปราการไว้ให้ครอบครัวของคนในกองทัพได้พักอาศัยอีกด้วย!
และแน่นอนว่าความจริงแล้วโรจาไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก
เขาถูกการ์ปจับโยนมาฝึกที่มารีนฟอร์ด ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงอาศัยอยู่ในบ้านของการ์ป
แต่ตอนนี้การ์ปไม่อยู่บ้าน โรจาไม่รู้ว่าเขาหายหัวไปไหน เมื่อมาถึงบ้านโรจาก็เข้าไปอาบน้ำ จากนั้นก็เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ระบบจิตวิญญาณแห่งดาบต่อ
อย่างไรก็ตาม เมื่อโรจาเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาก็พบว่าลุงของเขาที่หายหัวไปนานกว่า 1 สัปดาห์ ได้กลับมาแล้ว
เจ้าแก่นี่ …
โรจาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา การ์ปนั้นหายหัวไปเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ ถ้าโรจาไม่รู้มาก่อนว่าการ์ปคือวีรบุรุษแห่งมารีนฟอร์ดแล้วล่ะก็ เขาคงจะไปแจ้งความตามหาคนหายแล้ว
ในตอนนี้การ์ปกำลังจัดการอะไรบางอย่างอยู่ และเมื่อเขาเห็นโรจาเดินออกมา เขาก็ยิ้มให้แล้วกล่าวว่า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน แกเป็นยังไงบ้าง?”
“ช่างเรื่องของผมเถอะ ว่าแต่ลุงการ์ป … ”
โรจาพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่จะยิ้มออกมา แล้วหันไปมองการ์ปก่อนที่จะกล่าวว่า
“ผมไม่ได้เจอลุงตั้ง 1 สัปดาห์ บอกตรงๆว่าผมค่อนข้างกังวล แต่ตอนนี้ผมโล่งใจแล้วที่เห็นว่าคุณยังมีชีวิตอยู่”
ได้ยินแบบนั้นการ์ปก็แทบจะกระอักเลือดออกมา พร้อมกับมีเส้นเลือดดำๆโผล่ขึ้นมาเต็มกำปั้นของเขา ก่อนที่จะยกกำปั้นขึ้นแล้วชี้ไปยังโรจา
“โรจา ไอ้เด็กเหลือขอ อยากจะลิ้มรสกำปั้นเหล็กที่เต็มไปด้วยความรักไหม?”
“ไม่ล่ะ … ลุงการ์ปพักผ่อนตามสบายนะ ผมขอตัวก่อน”
โรจากล่าวพร้อมกับยักไหล่ให้การ์ป ก่อนที่จะเดินเข้าไปยังห้องของเขา
แต่ในตอนนั้นเองการ์ปก็ได้กระโดดมาคว้าตัวเขาจากด้านหลัง แล้วกล่าวว่า
“ไอ้เด็กเหลือขอ มานี่ มาจูบกำปั้นฉัน!”
ดูเหมือนว่าไม่ว่ายังไง การ์ปก็ต้องการที่จะเอาชนะเขาให้ได้ในครั้งนี้
โรจาคิดถึงเรื่องนี้ด้วยความเบื่อหน่าย แต่ความจริงแล้วตั้งแต่ที่เข้าถูกส่งมายังโลกนี้ เขาก็ได้รับกำปั้นแห่งความรักจากการ์ปอยู่หลายครั้งเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามเมื่อโรจาหันกลับไปเขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขากลับไม่ใช่กำปั้นของการ์ป แต่เป็น …
ดาบที่ดูเรียบหรูและสวยงาม!!