2/2

 

Ep.855 – ฉินเฟิงต้องการแก้แค้น

 

หลงเยว่ไล่ตามไป แต่ผลลัพธ์ก็อย่างที่รู้ มันไม่มีประโยชน์ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสังหารเหอเทียนสิงหรือจับตัวอีกฝ่าย

 

หลงหยุนอี้ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเหอเทียนสิงจะแค้นฉินเฟิงถึงขนาดนี้ เขาไม่ไล่ตามเหอเทียนสิง ตรงเข้าไปด้านข้างฉินเฟิง พลิกฝ่ามือและหยิบขวดใบหนึ่งออกมา

 

ยาเม็ดกลมถูกเทออก หลงหยุนอี้กำลังจะป้อนมันให้ฉินเฟิง

 

ยาล้ำค่าเม็ดนี้สามารถช่วยชีวิตได้!

 

“ให้ไป๋หลีเถอะ!” ฉินเฟิงรีบหยุดมือหลงหยุนอี้ กล่าวต่อว่า “ผมยังไหว!”

 

หลงหยุนอี้มองใบหน้าซีดเซียวของฉินเฟิง แต่จิตใจยังคงแข็งแกร่ง ก็คิดว่าน่าจะยังไหวจริงๆ

 

ครั้งนี้ ถือว่าหลงหยุนอี้ปาดเลือดตัวเองเช่นกัน เจ้าสิ่งที่อยู่ในมือเขาเป็นสมบัติชั้นเลิศ ปกติแล้วเขาไม่เต็มใจใช้มัน แต่ถ้าสามารถช่วยชีวิตคนได้ ก็โอเค!

 

กระนั้น ทั้งๆที่เขานำมันออกมาแล้ว แต่ฉินเฟิงกลับปฏิเสธ หลงหยุนอี้ได้แต่ถือยาแบบอึ้งๆ ตอนนี้จะเก็บกลับไปก็คงไม่ได้แล้ว

 

“กินมันซะ” ฉินเฟิงรู้ว่าในมือหลงหยุนอี้เป็นของดี ดังนั้นไม่มากมารยาท เพราะแม้ไม่ใช่ความผิดของทั้งสองที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่หลงหยุนอี้กับหลงเยว่ประมาทเกินไปจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเฟิงมีความสามารถ วันนี้คงเป็นวันตายของเขา

 

ดังนั้นถือซะว่าแลกเปลี่ยนกับยาเม็ดนี้แล้วกัน

 

ไป๋หลีสัมผัสได้ถึงความรักใคร่ของฉินเฟิง ดังนั้นรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เธอรับเม็ดยามากินอย่างไม่ลังเล

 

อย่างไรก็ตาม เม็ดยายังคาอยู่บนริมฝีปาก เธอกัดมันเพียงครึ่งเดียว ส่วนที่เหลือประกบปากฉินเฟิง ป้อนมันให้เขา

 

หลงหยุนอี้ที่อยู่ข้างๆเกิดความรู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ก็ไม่ว่าอะไร

 

“เสี่ยวไป๋เด็กโง่ ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่เป็นไร!” ฉินเฟิงกินยาเม็ดอีกครึ่ง รับรู้ได้ถึงประสิทธิภาพมหาศาล อย่างน้อยรอยดาบเบื้องหลังเขาก็ไม่มีเลือดไหลอีกต่อไป

 

“ฉันก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน!” ไป๋หลีดื้อรั้น เธอเป็นสัตว์ยักษ์มิติ ร่างกายของเธอแข็งแรงมาก แม้ครั้งนี้เธอได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ความสามารถในการฟื้นตัวก็แข็งแกร่งเช่นกัน ปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวเธอก็ดีขึ้นเอง

 

หลงหยุนอี้รู้สึกอึดอัดอีกครั้ง เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป รีบพูดว่า “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคุยกัน รีบรักษาอาการบาดเจ็บได้แล้ว!”

 

“อ๊ะครับ ขอโทษที”

 

ฉินเฟิงพยักหน้า เขาไม่ได้ปิดซ่อนมันจากหลงหยุนอี้ ขอให้ไป๋หลีใช้พื้นที่มิติ เรียกเอาเนื้อสดๆออกมา

 

ความจริงที่ว่าฉินเฟิงเป็นผู้ใช้อบิลิตี้มืด ทุกคนต่างรู้ดี ดังนั้นไม่ต้องปิดบัง ต่อหน้าหลงหยุนอี้ ฉินเฟิงคว้าเนื้อชิ้นโตขึ้นมาและ–

 

“–พลังพิเศษดูดกลืน!”

 

เนื้อชิ้นใหญ่แห้งและลีบแบนทันที สูญสิ้นชีวิตชีวาของมันไป ขณะเดียวกัน อาการบาดเจ็บบนหลังของฉินเฟิง ภายใต้การเติมเต็มของพลังงาน มันดีขึ้นจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

เนื้อจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล A ถูกนำมาใช้ รักษาบาดแผล ลดทอนความเจ็บปวดของฉินเฟิง

 

แต่ทว่า การต่อสู้เมื่อครู่ ฉินเฟิงสูญเสียกำลังภายในไปเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ตันเถียนของเขาแห้งแล้ง ความสามารถในการต่อสู้ของฉินเฟิงในปัจจุบัน เกรงว่าลดลงอย่างมาก

 

หากเหอเทียนสิงกลับมาอีกครั้ง กลัวว่าครั้งนี้ฉินเฟิงคงต้านไม่อยู่

 

ในเวลานั้นเอง หลงเยว่กับหูซานก็กลับมา เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของฉินเฟิง สองตัวตนทรงอำนาจเลเวล S แสดงออกถึงความอับอายบนใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหูซาน

 

ฉินเฟิงคอยปกป้องเขา รั้งอยู่ที่นี่เป็นเวลาสองวันหนึ่งคืน เฝ้าจนตัวเองหายดี สามารถรักษาอาการบาดเจ็บ พร้อมทั้งได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ แต่เขากลับทิ้งฉินเฟิงไว้ที่นี่ ปล่อยให้ถูกลอบโจมตีโดยเหอเทียนสิง!

 

“สหายน้อยฉิน ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ครั้งนี้คุณปกป้องฉันอย่างดี แต่ฉันกลับไม่สามารถทำได้ โปรดรับโสมภูเขาอายุ 10,000 ปีนี้ไป และหวังว่าจะหายป่วยในเร็ววัน” ในมือของหูซานปรากฏสมบัติรักษาระดับแนวหน้าของเลเวล A มันค่อนข้างหายาก อันที่จริงที่หยิบขึ้นมา เป็นเพราะเขารู้สึกผิดเช่นกัน

 

ยังไม่พอ หูซานกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ขอให้คุณวางใจ ครั้งต่อไปที่เจอเหอเทียนสิง ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เขาหลุดมือแน่นอน!”

 

แต่ฉินเฟิงส่ายหัว กล่าวเสียงหนักแน่น “เรื่องเหอเทียนสิง ผมจะแก้แค้นเอง!”

 

ท่าทีของฉินเฟิงดูจริงจังมาก ไม่เหมือนกำลังกล่าวล้อเล่น คล้ายตั้งปณิธานแน่วแน่ ว่าต้องฆ่าเหอเทียนสิงให้จงได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเห็นการต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่มีใครสงสัยเลยว่าฉินเฟิงจะแข็งแกร่งขึ้นพอที่จะทำแบบนั้นได้หรือไม่ อาจใช้เวลาไม่ถึงสิบปี ฉินเฟิงก็คงเหนือกว่าเหอเทียนสิงได้แล้ว

 

เพียงแต่ว่า … นั่นเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบปีน่ะนะ!

 

“มันจะเกิดขึ้นแน่ในอนาคต แต่ตอนนี้นายควรหลีกเลี่ยงเขา เหอเทียนสิงไม่ประสบความสำเร็จครั้งแรก มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าเขาจะมาหาอีกเป็นครั้งที่สอง ไม่ได้อีกก็สามและสี่ ”

 

“นายกลับไปพักผ่อน รักษาอาการบาดเจ็บก่อนเถอะ รอให้วันที่พร้อมจริงๆ แล้วค่อยกลับมาแก้แค้นก็ยังไม่สาย!” หลงเยว่พยายามกล่าวอย่างใจเย็น

 

ประโยคนี้ เป็นการเตือนกลายๆให้ฉินเฟิงออกจากมิติธารโลหิต ที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เหอเทียนสิงยังอยู่ในมิตินี้ หากกลุ่มเฟิงหลียังคงดื้อรั้น อาจตกเป็นเป้าหมาย บางทีอาจถูกโจมตีโดยคนไร้จรรยาบรรณอย่างเหอเทียนสิง

 

สีหน้าของฉินเฟิงกลายเป็นเย็นชา แต่ไม่โต้แย้ง ผงกศีรษะรับ

 

“ผมคงต้องขอตัวไปพักฟื้นก่อนจริงๆ”

 

ฉินเฟิงหยิบบัตรหยกออกมา เขาวางแผนที่จะกลับไปยังสุสานเทพสงคราม ส่วนเรือเหาะ ตอนนี้ให้ทำการบันทึกพิกัดมิติของที่นี่ แล้วกลับไปยังเฟิงหลี

 

แน่นอน นี่ไม่ใช่การยอมแพ้เรื่องมิติธารโลหิต ฉินเฟิงจะกลับมาอีกครั้ง ขอเวลาแค่ไม่นาน

 

ก่อนออกเดินทาง หลงเยว่ยังมอบชิ้นส่วนเหล็กซึ่งเป็นวัตถุเลเวล S ให้ฉินเฟิง คำนวณตามขนาดของมัน มูลค่าไม่น่าสูงเกินไป แต่นี่เป็นสิ่งที่ผู้ใช้พลังเลเวล A ทำได้เพียงเฝ้าฝันถึง

 

“ฉันเห็นว่าเกราะในของนายถูกเหอเทียนสิงทำลาย นายมีรูบิควิเศษไม่ใช่หรอ ฉันขอมอบเหล็กหนักชิ้นนี้ให้แล้วกัน เอามันไปสร้างเกราะใหม่ซะล่ะ”

 

หูซานพอเห็นแบบนี้ ก็กล่าวเสริมว่า “รูบิควิเศษมีคุณสมบัติในการสร้างสรรค์งั้นหรือ? ฟังดูไม่เลว งั้นบางทีคุณอาจต้องการสิ่งนี้เช่นกัน”

 

หูซานหยิบวัตถุรูปทรงไข่ขนาดเท่าฝ่ามือออกมา ทันทีที่ปรากฏ ทุกคนสัมผัสได้ถึงความร้อนแผดเผา ไม่เพียงแค่นั้น วัตถุนี้กำลังสั่นสะเทือนไม่หยุด คล้ายกับว่ากำลังจะบินหนีไปได้ทุกเมื่อ

 

–อุกกาบาตจากขั้วโลก!

 

สิ่งนี้เป็นของดีอย่างไม่ต้องสงสัย

 

แต่ฉินเฟิงรู้ดี คงเป็นเพราะหูซานเห็นหลงเยว่แสดงน้ำใจ แต่เขากลับมอบให้แค่โสมภูเขา แบบนั้นมันดูทุเรศเกินไป แต่ในมือเขาไม่มีอะไรที่เหมาะกับฉินเฟิงเลย ทว่าเมื่อเห็นหลงเยว่พูดเรื่องเกราะ หูซานก็นึกขึ้นมาได้ หยิบบางสิ่งออกมา

 

ฉินเฟิงไม่มากมารยาท ครั้งนี้เขาพยายามสุดฝีมือเหมือนกัน ของพวกนี้ ถือซะว่าเป็นการสานสัมพันธ์กับเลเวล S ไว้ล่วงหน้าแล้วกัน

 

แน่นอน เรื่องนี้ก็มีผลประโยชน์ต่อหลงเยว่กับหลงหยุนอี้ ในเมื่อทั้งสองยินดีดูแลผู้ใช้พลังรุ่นน้อง ฉินเฟิงก็ยินดียอมรับความสัมพันธ์

 

“ขอบคุณท่านผู้ใหญ่หู ขอบคุณปรมาจารย์หลงและนายน้อยหลง ผู้น้อยขอลา!”

 

ฉินเฟิงเปิดใช้งานบัตรหยก พาไป๋หลีไปด้วย หายวับไปจากสายตาของทั้งสาม

 

“อนาคตของฉินเฟิงคงไร้ขีดจำกัด!” หลงหยุนอี้ถอนหายใจ

 

“ถ้าเขาไม่ยั่วโมโหเหอเทียนสิง เขาสมควรเปล่งประกายได้มากกว่านี้ แต่นับจากนี้ไป กลัวว่าคงทำได้แค่หลบๆซ่อนๆ” หูซานกล่าวเสียงหม่น

 

หลงเยว่กับหลงหยุนอี้เผยสีหน้าดูไม่ดีนัก

 

หูซานคงไม่รู้ ว่าการแลกเปลี่ยนระหว่างฉินเฟิงกับหลงเยว่ เอาจริงๆถือเป็นการกระทำที่ผิด มันสร้างความโกรธแค้นให้แก่เหอเทียนสิง ยังไงก็ตาม เวลานี้สองเลเวล S ตระกูลหลงรู้สึกโกรธเช่นกัน พวกเขาไม่สามารถปกป้องฉินเฟิงซึ่งเป็นเลเวล B เอาไว้ได้ ช่างน่าอัปยศนัก

 

ตอนนี้ คงทำได้แค่ให้ฉินเฟิงซ่อนตัว

 

อย่างไรก็ตาม เลเวล S ทั้งสามคงไม่ทราบ ว่าฉินเฟิงไม่มีความคิดที่จะซ่อนตัวเลย เมื่อกลับไปยังสุสานเทพสงคราม ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมา–

 

–คือแผนการสังหารเหอเทียนสิง!