1/2

 

Ep.854 – เหอเทียนสิงไม่ยอม

 

ระหว่างได้รับบาดเจ็บ ฉินเฟิงไม่ได้ระเบิดความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีออกมา เพื่อล่อให้เหอเทียนสิงตายใจ แต่หลังจากหูซานดูดซับผลึกโลหิตเสร็จสิ้นแล้ว เลเวล S ที่อยู่ฝ่ายเขา ก็จะมีถึงสามคน

 

ด้วยเหตุนี้ ฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องเก็บงำฝีมืออีกต่อไป!

 

สองคมมีดกวาดสังหารสัตว์ร้ายทั้งกองทัพ รูม่านตาของไอซานกับเหอเทียนสิงหดลีบลง ใบหน้าคล้ำเป็นสีเขียว

 

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกหลอก!

 

ฉินเฟิงมีความแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะสัตว์ร้ายฝูงนี้ได้ แต่ไม่ยอมสำแดงมันออกมา แต่เลือกเฝ้ารอให้หูซานปรากฏตัว

 

ด้วยประการฉะนี้ การเดิมพันก่อนหน้า ฟันธงแล้วว่าฉินเฟิงเป็นฝ่ายชนะ

 

แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เหอเทียนสิงต้องการ

 

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเป็นไปได้สูง ที่เขากับไอซานจะโดนหูซานแก้แค้น

 

หูซานมิใช่คนที่สามารถระงับความโกรธได้ ก้าวออกมาข้างหน้าทันที

 

“พวกคุณคิดลอบโจมตีฉัน? มีชีวิตอยู่ดีๆไม่ชอบ … แต่ใจร้อนอยากไปยมโลกแล้วใช่ไหม?”

 

เพียงสิ้นประโยคนี้ บังเกิดพายุหิมะขึ้นรอบตัวหูซาน บนท้องฟ้า เมฆหมอกจับตัวหนาทึบ สายลมกรรโชกแรง พายุหิมะเริ่มก่อตัวเป็นมังกรยาวมากถึง 70 – 80 ตัว แหวกว่ายออกไป!

 

ฉากดังกล่าว ไม่ต่างจากวันสิ้นโลก ผู้ชมที่ไม่ได้อยู่ในเลเวล S ไม่เคยพบเคยเห็นภาพตรงหน้ามาก่อน ความหวาดกลัวกลืนไปทั้งสรรพางค์กาย แต่ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกตื่นเต้นแบบหยุดไม่อยู่

 

พลังของเลเวล S ช่างร้ายกาจ!!

 

ยิ่งไปกว่านั้น หูซานไม่ปราณีเลย ปัจจุบันความแข็งแกร่งของเขาเหมือนจะยกระดับไปอีกขั้น สร้างมังกร 70 – 80 ตัว ตรงไปยังทิศทางของไอซานกับเหอเทียนสิง

 

ทั้งสองโจมตีเข้าต้าน ฝูงมังกรแหลกเป็นเสี่ยงๆ ทว่าก็สามารถกดดันให้พวกเขาถอยร่นได้เช่นกัน

 

แม้อยู่ในสภาวะ 2 – 1 แต่หูซานกลับเหนือกว่าอย่างคาดไม่ถึง

 

ไอซานสังเกตเห็นรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของหูซาน ทั้งค้นพบว่าความแข็งแกร่งเหนือไปอีกขั้น ในหัวใจก็เริ่มเกิดความกังวลไหนจะมีสมาชิกสองคนจากตระกูลหลงกำลังเฝ้าดูอยู่ ณ จุดนี้ ไอซานไม่เสียเวลาคิด หันหลังจากไปทันที

 

เมื่อสามารถมาถึงเลเวล S การ ‘จากไป’ ของพวกเขาว่องไวดุจสายฟ้าฟาด ร่างของไอซานลุกเป็นไฟ ทะยานไปยังเส้นขอบฟ้า

 

แต่หูซานจะปล่อยไอซานหนีไปได้อย่างไร? คนผู้นี้ ก่อนหน้านี้อาศัยจังหวะที่ตนกำลังรักษาบาดแผล มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา

 

ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเฟิง หูซานคงตกอยู่ในอันตรายไปแล้ว แบบนี้จะยอมปล่อยอีกฝ่ายไปได้ยังไง

 

พายุหิมะม้วนเป็นคลื่น ปล่อยให้หูซานเหยียบย่ำอยู่เบื้องบน โต้หิมะไล่ตามไป

 

เส้นแสงสีแดงเพลิง เส้นแสงหิมะสีขาวละมุน เปลวเพลิงกับน้ำแข็ง กรีดกรายไปทั่วฟ้า ก่อนลอยหายลับไป ทิ้งให้ผู้ชมบนพื้นดิน ฟุ้งไปด้วยความตื่นเต้น ก็แล้วใครบ้างเล่าที่ได้รับประสบการณ์ชั้นเลิศ สามารถชมการต่อสู้ของตัวตนทรงอำนาจด้วยตาตัวเองเหมือนพวกเขา?

 

“ดูเหมือนว่า ความแข็งแกร่งของท่านผู้ใหญ่หู จะเพิ่มไปอีกขั้นแล้ว” หลงเยว่กล่าวเสียงทุ้ม

 

หลงหยุนอี้พยักหน้า มิติแห่งนี้ช่างสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนนัก

 

ชนิดที่ว่า ต่อให้เป็นเลเวล S ก็ยังถูกดึงดูดใจ!

 

ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นพวกเขาควรให้เลเวล S ของตระกูลตนมาสำรวจเพิ่มเติม และประจำการที่นี่!

 

หรืออย่างน้อย ต้องมีคนของหัวเซี่ยมาประจำการอยู่ซักคน!

 

ระหว่างทั้งสองกำลังตริตรองว่าจะส่งใครมาดี เหอเทียนสิงผู้ตกตะลึงอยู่บนท้องฟ้า จู่ๆก็ฉวยโอกาสโจมตีอย่างกะทันหัน!

 

“ฉินเฟิง –ตายย!!!”

 

โดยไม่มีใครทันตั้งตัว เหอเทียนสิงบุกมาถึงพื้น ในฐานะผู้ใช้พลังเลเวล S วิชาตัวเบาของเขา แม้ด้อยกว่ากระบวนท่าวรยุทธที่แสนองอาจของตน ทว่าภายใต้การขับหนุนโดยกำลังภายใน ทำให้เขาสามารถฉวยจังหวะที่เลเวล S คนอื่นๆเผลอ ไม่เพียงแค่นั้น อาวุธเทวะเล่มหนึ่งยังปรากฏขึ้นในมือ ถึงมันจะไม่ดีเท่าดาบอสูรฟ้า แต่ที่แน่ๆเป็นอาวุธในเลเวล A อย่างแน่นอน!

 

ระหว่างเหอเทียนสิงกับฉินเฟิง ระยะหดสั้นเหลือเพียง 100 เมตร ห่างกันแค่นี้ หากลงมือ สามารถสังหารได้ง่ายๆ

 

“ทักษะดาบอสูรฟ้า : หมื่นอสูรสังหาร!”

 

เพียงเสี้ยวพริบตา กำลังภายในท่วมทะลัก ปรากฏฝูงอสูรร่ายระบำ เงาดาบสว่างวาบ ผุดยาวเป็น 500 เมตรขึ้นต่อหน้าเหอเทียนสิง ทุกที่ภายในรัศมี 120 องศาถูกกลืนจนหมดสิ้น

 

กระบวนท่านี้ แสดงเจตนาชัดว่าคิดสังหารฉินเฟิง ฉุดลากเขาลงสู่ความตาย

 

ความแข็งแกรงที่ฉินเฟิงเผยออกมา ทำให้เหอเทียนสิงไม่คิดยั้งมืออีกต่อไป เขาไม่สามารถปล่อยฉินเฟิงเอาไว้ได้

 

อายุยังน้อย แต่สามารถเรียนรู้กระบวนท่าเลเวล S ได้แล้ว บุคคลเช่นนี้ อันตรายเกินไป

 

สำหรับข้อตกลงการเดิมพันเมื่อครู่ นั่นมันแค่เรื่องผายลม คนจากพันธมิตรองค์กรมืด ไม่มีทางหยุดจนกว่าพวกเขาจะได้รับในสิ่งที่ตนต้องการ ไร้ซึ่งบรรทัดฐานใดๆ ไอ้เรื่องเดิมพันน่ะช่างหัวมันเถอะ!

 

อย่างไรก็ตาม การที่เขาลงมือเช่นนี้ ทำให้ความโกรธของหลงเยว่และหลงหยุนอี้ลุกโชนขึ้นทันใด

 

“เหอเทียนสิง! กลับเป็นแกที่ผิดสัญญา ไอ้หน้าหนากลืนคำพูดของตัวเอง!”

 

“กล้าดียังไง!!”

 

ความโกรธของทั้งสองทะยานสู่สรวงสวรรค์ แต่มันก็ไม่ช่วยให้พวกเขาสามารถหยุดการโจมตีนี้ของเหอเทียนสิงได้ ฉินเฟิงกับไป๋หลี ถูกโถมทับโดยเงาดาบของเหอเทียนสิง

 

และไป๋หลีไม่มีเวลามากพอที่จะตอบโต้!

 

ฮูมมม!

 

เมื่อไป๋หลีไม่ทันตอบสนอง ฉินเฟิงโอบเอวเธอด้วยมือเดียว ฉุดดึงมาไว้เบื้องหน้า ปลดปล่อยโล่ปราณกำลังภายในขึ้นรอบตัว ซื้อเวลาให้พวกเขาได้พักหายใจ

 

ไป๋หลีใช้เวลาอันแสนมีค่านี้ ปลุกเร้ารูนมิติระเบิดออกทันใด

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงไม่สามารถต้านทานฝ่ามือของเหอเทียนสิงได้ ดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงกระบวนท่าสังหารที่อีกฝ่ายรีดเร้นกำลังทั้งหมดที่มี

 

ทักษะดาบอสูรฟ้า ช่างรวดเร็วยิ่งนัก

 

ความเร็วนี้ หลายคนไม่ทันตอบสนอง มันก็เข้าถึงตัวเป้าหมายแล้ว

 

เพล้งงงง!

 

โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิง ถูกทำลายทันที

 

ภาพสะท้อนนับไม่ถ้วนล็อคเป้าลงบนร่างฉินเฟิง ราวกับว่าไม่ว่าเขาจะหนีไปทางหนี ก็ต้องถูกโจมตีด้วยคมดาบนี้

 

“ทักษะหมื่นภูติ!”

 

ฉินเฟิงไม่ยอมแพ้ รีดเร้นกำลังภายในท่วมไปทั้งกาย ใช้ออกด้วยทักษะหมื่นภูติหลบหนีโดยพลัน

 

ฉับบบ!

 

แผ่นหลังของฉินเฟิง ถูกสามเงาดาบสับในพริบตา

 

แคว่กกก!

 

ชุดต่อสู้ของฉินเฟิงถูกตัดเป็นชิ้นๆ ในภูมิภาคเหนือ ฉินเฟิงเคยใช้แต้มสงครามแลกเปลี่ยนชุดเกราะหวังหมิงระดับเทวะเลเวล B มาก่อน ภายใต้การอัดฉีดกำลังภายในของฉินเฟิง ชุดเกราะก่อร่างชั้นแสงสีเหลืองขึ้น ปกคลุมร่างกายเขา

 

แต่ตอนนี้ ภายใต้การกลบกลืนของเงาดาบ ชุดเกราะหวังหมิงพลันแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

ครืด …

 

ชุดเกราะหวังหมิงแหลกเป็นผงในเสี้ยววิเดียว กระจายออกไป

 

ต่อมา เงาดาบอันไร้ที่สิ้นสุด ก็เฉือนลึกลงมาอีกครั้ง

 

ฟัฟ ฟัฟ ฟัฟ ฟัฟฟฟฟ!

 

ด้วยกายมนุษย์ของฉินเฟิง เป็นเรื่องยากนักที่จะแบกรับมันทั้งหมด แม้เขาใช้ตัวเองเป็นโล่กำบังไป๋หลี แต่ตามตัวของไป๋หลี ก็ยังถูกเฉือนไปอีกสองแผล

 

วินาทีต่อมา ทั้งสองปรากฏตัวขึ้นในจุดที่ห่างออกไป 1,000 เมตร หลุดพ้นจากระยะการโจมตีของเหอเทียนสิงอย่างสิ้นเชิง

 

ความเร็วของฉินเฟิงตกลง เขาย่ำไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว ก่อนทักษะหมื่นภูติจะสลายไป อ้าปากทันที

 

พรวดดด!

 

ฉินเฟิงกระอักเลือดคำโต

 

บนแผ่นหลังเขา ปรากฏร่องรอยบาดแผล ถูกฟันด้วยเงาดาบของเหอเทียนสิงถึง 7 แห่ง!

 

“ฉินเฟิง!!”

 

ไป๋หลีกรีดร้องตื่นตระหนก ไม่สนใจว่าเสื้อสีขาวราวหิมะของเธอเองก็มีเลือดไหลออกมาเหมือนกัน ทั้งสองได้รับบาดเจ็บ โอบกอดกัน ฉากนี้เหมือนสัตว์ร้ายตัวน้อยกำลังเลียแผลให้กันและกัน

 

“ฉันไม่เป็นไร” ฉินเฟิงกัดฟันกล่าว แขนข้างที่โอบเอวไป๋หลี เอื้อมขึ้นมาจับบนไหล่ของไป๋หลี ทำแบบนี้ อย่างน้อยช่วยให้ไป๋หลีได้พยุงเขา ไม่ปล่อยให้ตนเองล้มลง

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าฉินเฟิงก็ตระหนักได้ว่าไป๋หลีได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เวลานี้แววตาของเขาเปลี่ยนไป

 

ฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ ตราบใดที่ใช้พลังพิเศษดูดกลืน ขอเวลาแค่ลมหายใจเดียว เขาก็สามารถรอดชีวิตไปได้

 

แต่ไป๋หลีน่ะต่างออกไป เธอมีเพียงเลือดเนื้อ หากได้รับบาดเจ็บ เธออาจตายได้

 

ประกายแห่งความเกลียดชังถูกจุดขึ้นในใจของฉินเฟิง

 

เขาหันศีรษะไปยังทิศทางเดิม เห็นแค่เพียงเหอเทียนสิงใช้ออกด้วยวิชาตัวเบา พุ่งหายไปอย่างรวดเร็ว!

 

หากเลเวล S ต้องการหลบหนี ไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้!!