1/5
Ep.833 – มิติล่มสลาย
คลิฟส์แน่นิ่งอยู่บนโล่พลังงานของเครื่องบินขนาดใหญ่ นอนค้างอยู่กลางอากาศ แรงกระแทกไม่รุนแรงถึงขั้นทำร้ายให้เขาบาดเจ็บสาหัส ทว่าใบหน้าของเขา เวลานี้ดำเมี่ยมเป็นก้นหม้อ
“ไม่มีอะไร!” คลิฟส์กล่าวเสียงหม่น
สายตาของเขาจ้องมองฉินเฟิงอย่างโหดเหี้ยม แต่ไม่เคลื่อนไหวใดๆอีกต่อไป –คลิฟส์ไม่เหลือความตั้งใจที่จะสู้อีกแล้ว
บนเครื่องบินลำใหญ่ น้ำเสียงกึ่งเล่นกึ่งจริงของน็อคลินถ่ายทอดผ่านพลังสมาธิออกมา “อ้องั้นหรอ คลิฟส์ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็หลีกไปซักที มันเกะกะ!”
พอได้ยิน สีหน้าของคลิฟส์ยิ่งมืดมน
รังสีจรัสกลับมารวมตัวกันเป็นปีกแห่งแสงอีกครั้ง ยกร่างเขาขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าตัวไม่มีความคิดโจมตีฉินเฟิงอีกต่อไป ฝั่งฉินเฟิง แม้เห็นว่าคลิฟส์ยังแสดงเจตนาเป็นศัตรู แต่ไม่เหลือความปรารถนาจะสู้อีก ก็ถอนกำลังภายในกลับคืน มุมปากยกยิ้มเย็นชา
คนพวกนี้ ต้องทุบตีเสียบ้าง ถึงจะยอมเชื่อง
ฉินเฟิงก้าวไปในอากาศ กลับสู่เรือเหาะ สั่งการสมาชิกของเขาเก็บกู้สมบัติต่อไป
ระหว่างกำลังต่อสู้กัน เครื่องบินและลูกน้องของคลิฟส์ปลีกตัวห่างจากสนามรบ แต่กลุ่มของฉินเฟิงมีไป๋หลีคอยดูแลอยู่ ดังนั้นสามารถเคลื่อนไหวในพื้นที่ของรอยแยกมิติได้อย่างอิสระ สะดวกสบาย
ตรงกันข้ามกับกลุ่มของคลิฟส์ พวกเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้
หากพวกเขาต้องการปักหลักที่นี่ เกรงว่าคลิฟส์ต้องกลับไปนำอุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติมา
แต่ถึงเวลานั้น น่ากลัวว่าฉินเฟิงอาจกวาดสมบัติจนเกลี้ยงแล้ว ต่อให้มีของหลงเหลือ แต่ก็คงไร้ค่าและแทบไม่มีราคา
อาจกล่าวได้ว่าคลิฟส์ขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวไปอีกหนึ่งกำมือ!
“พวกเราทำงานต่อ!” ฉินเฟิงออกคำสั่ง เรือเหาะและยานรบกว่า 30 ลำเดินเครื่อง มุ่งสำรวจไปข้างหน้า โดยเบื้องหลังเขา ผู้มาเยือนเริ่มทยอยกันเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
คนของสหภาพสาธารณรัฐแอฟริกาเหนือ เกือบทั้งหมดได้มารวมตัวกันรอบๆแม่น้ำสติกซ์ตั้งแต่วันแรกแล้ว เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวว่ามีคนเดินทางเข้าไปในรอยแยกมิติ แต่ละกลุ่มก็พากันก้าวตามเข้ามา เหนือท้องฟ้าและแม่น้ำ บัดนี้คราคร่ำไปด้วยมนุษย์
เบื้องล่างของพวกเขาเป็นแม่น้ำเลือด รอบข้างเต็มไปด้วยรอยแยกมิติน้อยใหญ่ที่ต้องคอยหลบเลี่ยง เบื้องหน้าในสายตาปรากฏภูเขาใหญ่สองลูก
ภูเขาที่ว่าถูกปกคลุมไปด้วยสีแดงอมส้ม หากคุณมองผ่านๆอย่างไม่ใส่ใจ อาจคิดว่ามันเป็นเพียงใบเมเปิ้ลในฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น ดูเป็นทิวทัศน์อันกว้างใหญ่และงดงาม แต่แท้จริงแล้ว ใบไม้แดงเหล่านั้น ทั้งหมดล้วนเป็นพืชกลายพันธุ์ที่คอยดูดซับพลังงานจากเลือด
นี่เอง ที่เป็นเหตุผลข้อหนึ่งที่ทำให้มิตินี้ถูกเรียกว่าธารโลหิต
ฉินเฟิงเป็นคนแรกที่ออกสำรวจพร้อมคนของเขา เก็บเกี่ยวความมั่งคั่งได้เยอะที่สุด ขณะที่คนอื่นๆเมื่อเห็นว่าภายในมิติธารโลหิตไม่มีอันตรายใดๆ ก็ส่งคนไปรับอุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติมา อย่างไรก็ตาม การไปๆกลับๆมันเสียเวลา สมบัติที่ดีที่สุด และสามารถเก็บกู้ได้ง่ายที่สุด ล้วนตกอยู่ในมือของฉินเฟิง
เวลานี้ คนจากกลุ่มแอฟริกาเหนือ ทั้งหมดต่างหยุดสายตาลงบนเรือเหาะของฉินเฟิง ยกอุปกรณ์สื่อสาร สนทนาผ่านช่องสัญญาร่วมกัน
“กลุ่มนั้นมาจากไหน? ใช่กลุ่มพันธมิตรหัวเซี่ยรึเปล่า?”
“ไอ้บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงเก็บกู้สมบัติได้ง่ายขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าบนเรือเหาะติดตั้งอุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติเอาไว้ก่อนแล้ว?”
“เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าเหมือนรู้อนาคตเลย”
“ฉันรู้จักกลุ่มนี้ ได้ยินมาว่าเป็นผู้ผลิตอาวุธปืนรายใหญ่ที่สุดในหัวเซี่ย! แถมยังสามารถศึกษาเกี่ยวกับมิติจนเชี่ยวชาญ ครอบครองเทคโนโลยีดีๆมากมาย!”
“อา! ฉันก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกัน มีข่าวลือว่าประธานของกลุ่ม อาศัยกำลังตนเพียงลำพัง สามารถสังหารผู้ใช้พลังระดับสูง ‘ทั้งหมด’ ของพันธมิตรวู้ดแลนด์ลงได้”
ภายใต้ข่าวลือที่ถูกใส่สีตีไข่ ภาพลักษณ์ของฉินเฟิง เริ่มกลายเป็นตัวตนที่น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆในจิตใจของพวกเขา
ส่วนตัวคลิฟส์ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อ เพราะหากฉินเฟิงน่ากลัวขนาดนั้น เมื่อครู่นี้เขาคงตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?
เจ้าตัวเร่งตะโกนออกไป “จะยังไงก็ช่าง แต่รอยแยกมิติแห่งนี้เกิดขึ้นบนแม่น้ำสติกซ์ของพวกเรา ทำไมต้องยอมให้ชาวหัวเซี่ยเป็นคนรับทรัพย์ไปด้วย? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าฉันรู้ข้อมูลมาอีกอย่างหนึ่งแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันเสียเรือไป เพราะในแม่น้ำมีหนอนโลหิต แถมยังอยู่ในระดับเลเวล C ใครแส่หาที่ตายก็ลงไป ฉันไม่ห้าม!”
คนอื่นๆกำลังคิดลงไปสำรวจในน้ำ แต่พอเห็นศพอยู่บนเรือของกลุ่มตำหนักเทพ ก็เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ตอนนี้เมื่อได้ฟัง ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
ขณะเดียวกัน พวกเขาเบนสายตาไปมองกลุ่มเฟิงหลี สังเกตอย่างรอบคอบ ถึงตอนนี้แววตาของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
เพราะมันช่างแตกต่างกับพวกเขา ที่ตัดสินใจเดินทางมาอย่างเร่งรีบ กลุ่มเฟิงหลี เตรียมอุปกรณ์มาพร้อมเกินไปแล้ว!
“คลิฟส์ นายหมายความว่ายังไง?”
“ฉันหมายความว่ายังไง? ยังไม่เข้าใจอีกหรอ ลองดูไอ้ยานบินที่เหมือนรถศึกล่องเวหาของพวกนั้นสิ วิธีการเก็บกู้ของพวกมัน … ”
ก่อนที่คลิฟส์จะทันได้เอ่ยจนจบประโยค เสียงไซเรนแจ้งเตือนพลันดังขึ้น
【คำเตือน! คำเตือน! เกิดรอยแยกมิติขนาดใหญ่ สิ่งมีชีวิตไม่ทราบชนิดกำลังปรากฏตัวในไม่ช้า】
“ว่ายังไงนะ!?”
คลิฟส์สะดุ้งตกใจ
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงที่อยู่บนเรือเหาะก็ได้รับข้อมูล
ระบบตรวจจับของเรือเหาะ ค้นพบรอยแยกมิติที่กำลังขยายวงกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ภาพสามมิติยังแสดงข้อมูลของรอยแยกเหล่านั้นออกมา
ไป๋หลีเร่งปลดปล่อยรูนมิติ ปกคลุมล้อมบริเวณรอบๆเรือเหาะ พื้นที่ภายในนี้เสถียรมั่นคง ไม่มีรอยแยกมิติใดๆสามารถรุกรานเข้ามาได้
ยานรบที่เดิมทีลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ก็กลับมาเช่นกัน
กระนั้น แม้พื้นที่ๆพวกเขาอยู่จะมีเสถียรภาพ แต่ที่อื่นไม่ใช่
รอยแยกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ต่อมา บางสิ่งบางอย่างได้ร่วงหล่นจากมัน มีทั้งก้อนดิน , ต้นไม้ , สัตว์ร้าย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมนุษย์
ไกลออกไปเท่าที่สายตาจะมองเห็นได้ สายฟ้าที่มีความยาวมากกว่า 10,000 เมตรฟาดผ่าลงมา จากนั้น ราวกับเป็นภาพลวงตา เมืองใหญ่เริ่มปรากฏขึ้น ตามมาติดๆด้วยการล่มสลายของเมือง มันร่วงจากท้องฟ้า ตกลงสู่มิติธารโลหิต
ไม่ไกลออกไป เกิดรอยแยกมิติขึ้นเหนือยอดเขา ขณะนี้ เพียงรอยแยกเปิดออก น้ำก็ไหลทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง น้ำพวกนี้มีสีเหลือง คล้ายกับว่าเป็นน้ำที่ผสมกับตะกอนโคลน ไหลมาตามเนินเขา ถมทับพืชกลายพันธุ์นับไม่ถ้วน แต่สุดท้ายก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดของมิตินี้
โลกทั้งใบสั่นสะเทือน
ฉินเฟิงเฝ้ามองฉากอันตระการตานี้ ในหัวใจคล้ายถูกกระหน่ำซัด
“นี่มันมิติทับซ้อน!”
ในชีวิตใหม่ของฉินเฟิง หากเขาไม่ได้เข้าไปในเมืองฉงโหลว ฉินเฟิงคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามิติต้องห้ามแห่งนั้นเคยถูกเรียกว่าเมืองฉงโหลวมาก่อน แต่หลังจากศึกษาค้นคว้ามัน เขาก็เกิดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้
ดังนั้น เมื่อฉากเบื้องหน้าปรากฏขึ้น ฉินเฟิงเลยสามารถตระหนักได้ทันทีว่าคืออะไร
แต่มิติทับซ้อนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เมื่อเทียบกับของเมืองฉงโหลวแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันดีกว่ามาก
ภาพการล่มสลายของโลกปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาฉินเฟิง สถานการณ์ในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิง เพียงแต่ว่า เมื่อสองมิติระนาบเข้าหากันแล้ว จะเกิดสถานการณ์แปลกประหลาดแบบไหนขึ้น ไม่สามารถคาดเดาล่วงหน้าได้
อย่างเดียวที่รู้ คือมิติทับซ้อนเบื้องหน้านี้ ได้ชักนำบางสิ่งบางอย่างมาสู่ฉินเฟิง
รอยแยกยังคงขยับขยายต่อไป ขณะเดียวกัน สิ่งมีชีวิตใหม่ได้มาถึงแล้ว
เสียงคำรามของสัตว์ร้าย และเสียงโวยวายของมนุษย์ดังขึ้นจากระยะไกล ก้องกังวานไปทั้งมิติธารโลหิต
ขณะเดียวกัน ต้นไม้เมเปิ้ลสีแดงบนภูเขา เริ่มเปิดเผยเขี้ยวเล็บของพวกมันออกมา เคลื่อนไหวตรงเข้ากลืนกินผู้รุกราน
อีกด้านหนึ่ง เหล่าผู้ใช้พลังของพันธมิตรแอฟริกาเหนือ เริ่มกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก
วึ้งงง!
ฮอลศึกที่กำลังลอยลำ ถูกตัดขาดเป็นสองซีกโดยรอยแยกมิติที่ผุดขึ้นมาอย่างกะทันหัน จนสุดท้าย
บรึ้ม!
ตามมาติดๆด้วยแรงระเบิด แหลกละเอียดไปทั้งลำ