4/4

 

Ep.820 – พิชิตทุ่งหญ้า

 

“ร่างกายรับไหวไหม? รู้สึกผิดปกติอะไรรึเปล่า”ฉินเฟิงถาม

 

หานหมิงเหวินส่ายหัว “ไม่รู้สึกผิดปกติอะไรเลย ตรงกันข้าม ฉันเหมือนสามารถกินวัวได้ทั้งตัว!”

 

การยกระดับนี้ มิได้ทำให้หานหมิงเหวินรู้สึกเจ็บปวดสักนิด ทั้งยังสามารถช่วยให้เขาได้กลายเป็นผู้ใช้พลังแทบจะในทันที และสามารถระเบิดความแข็งแกร่งที่มีออกมาได้

 

เมื่อเห็นว่าการทดสอบได้ผล ฉินเฟิงก็โล่งใจในที่สุด ทั้งยังรู้สึกว่ามิติต้องห้ามแห่งนี้ช่างน่าทึ่งนัก

 

หากสามารถเปิดช่องว่างเข้าสู่โลกของมิติต้องห้ามได้จริงๆ เกรงว่าเวลาที่มนุษยชาติจะหวนคืนสู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร จะอยู่อีกไม่ไกลแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลา และฉินเฟิงก็มิใช่คนที่ยอมเสียสละอะไร อันดับแรก เขาต้องการเพาะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เฉพาะกลุ่มของตัวเองก่อน

 

“กินพวกมันให้หมด ยังเหลือซากสัตว์ร้ายอยู่ด้านนอก ขอให้ทุกคนไปเก็บกู้มันมา และจัดการกินให้หมด ถ้ากินไม่หมด ก็ส่งกลับไปทางประตูมิติ”

 

“ขอรับท่านประธาน!”

 

เมื่อได้ยินฉินเฟิงออกคำสั่งวังเสี่ยวก้าวออกมาเป็นคนแรก เคลื่อนนำกำลังพลด้วยตัวเอง

 

เนื่องจากพวกเขามาโผล่ในถ้ำ คนเหล่านี้เลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาอยู่ในสถานที่แบบไหน

 

แต่เมื่อเดินออกมาข้างนอก กลิ่นอายของเลือดก็ทำให้สีหน้าของคนธรรมดาและมือปืนระดับต่ำที่ถูกสะกดพลังสมาธิแปรเปลี่ยนไปทันที ความตื่นเต้นที่มีก่อนหน้านี้ค่อยๆหายไป ทั้งที่สิ่งที่พวกเขาเห็น เป็นแค่ซากศพสัตว์ร้ายนอนกองอยู่รอบๆเท่านั้น ไม่มีอันตรายใดๆด้วยซ้ำ

 

“รีบยกกลับไป ทำความสะอาดคราบเลือด แล้วโรยผงขับไล่สัตว์ร้ายไว้รอบๆ”

 

“รับทราบครับหัวหน้า!”

 

ฝูงชนเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แม้พวกเขาจะไม่ถึงขั้นร่วมมือทำงานได้ดี แต่ก็สามารถเก็บกวาดอย่างสะอาดและเรียบร้อย ไม่มีใครคิดคดโกง ฉกฉวยบางอย่างเก็บไว้เองแต่เพียงผู้เดียว! ด้วยความร่วมมือของทีมทั้ง 100 คน ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ซากสัตว์ร้ายกว่า 50 ตัวก็ถูกเก็บกู้ ลากเข้ามาหน้าประตูมิติ

 

อ้างอิงตามปริมาณอาหาร พวกเขากินยูนิคอร์นแค่ 10 ตัวก็อิ่มแล้ว ส่วนศพที่เหลือ ทั้งหมดต้องทำใจส่งกลับไปยังโลกเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

หัวหน้าห้องทดลองที่รออยู่อีกฟากหนึ่ง วิ่งเข้ามาทันที จัดการแบ่งสรรปันส่วนวัตถุดิบทดลองเหล่านี้ ครึ่งหนึ่งเป็นของพวกเขา อีกครึ่งมอบให้ห้องทดลองของแซด

 

ภายในถ้ำ หลี่เยว่แสดงทักษะของเขาอีกครั้ง แต่เวลานี้ไม่มีใครคิดอยู่เฉย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวังเสี่ยว

 

วังเสี่ยวกลับไปยังสถานชุมชนเฟิงหวงอีกครั้ง และใช้แหวนมิติบรรจุสิ่งของที่จำเป็น นำมาวางไว้ในโถงหมายเลข 0 จากนั้นเปิดประตูมิติเพื่อจัดส่งของใช้จำเป็น

 

ไม่ว่าจะเป็นพลั่ว , แผ่นเหล็ก , รถศึก , กระสุน , เครื่องครัว , ถ่านหิน ฯลฯ ค่อยๆทยอยกันขนเข้ามา

 

จากนั้น ระหว่างขั้นตอนการปรุงเนื้อสัตว์ร้าย คนที่เหลือเริ่มสร้างฐานด้วยมือเปล่า

 

ณ ขณะนี้ เกรงว่าเนื่องจากไม่มีความช่วยเหลือของผู้ใช้อบิลิตี้ดิน ป้อมปราการแห่งนี้อาจพังทลายด้วยฝีมือของสัตว์ร้ายได้ทุกเมื่อ ทว่าวังเสี่ยวก็ยังลงมือสร้างมันอย่างจริงจัง มุ่งมั่นพยายามให้คนเหล่านี้สามารถรอดชีวิตได้นานที่สุด

 

ฉินเฟิงเห็นแบบนั้นก็หมดห่วง คราวนี้มีวังเสี่ยวคอยใช้งาน นับว่าวังเฉินเลือกคนได้เหมาะสมแล้ว

 

“พวกคุณทำไปก่อนนะ แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ผมขอตัวไปสำรวจดูรอบๆ”

 

ระหว่างกล่าว ฉินเฟิงเดินออกจากถ้ำไป

 

เมื่อฉินเฟิงจากไป บรรยากาศภายในถ้ำ ก็ผ่อนคลายลง

 

เนื่องจากฉินเฟิงเป็นประธานกลุ่มเฟิงหลี ขณะที่บรรดา 100 คน มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เคยรับชมงานประลองคัดเลือกลูกรักของพระเจ้าในเมืองเฟิงหลีเมื่อปีที่แล้ว

 

ขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยพบกับเขา เมื่อฉินเฟิงจากไป คนเหล่านี้เลยรู้สึกกดดันน้อยลง

 

“กินเร็วเข้า รีบกินเท่าที่จะกินได้!”

 

“สุกแค่ครึ่งเดียวก็ช่างหัวมัน! ยังไงซะในเนื้อมีพลังงานอยู่แน่นอน บางดีการกินดิบอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าก็ได้!”

 

“อา! พลังนี่มัน … ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ ฉัน- ฉันได้กลายเป็นผู้ใช้พลังแล้วจริงๆ!!”

 

คนกลุ่มนี้ ทุกคนตื่นเต้นกันมาก

 

อีกด้านหนึ่ง ฉินเฟิงออกจากถ้ำ เริ่มสำรวจทุ่งหญ้า

 

บนทุ่งหญ้าแห่งนี้ เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายหลากหลายสายพันธุ์ มีสัตว์จำพวกแกะหรือม้าเช่นเดียวกับยูนิคอร์นอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังมีหมาป่า , เสือ และเสือดาว พวกมันมีขนาดตัวไม่ใหญ่มาก แต่ด้วยกลิ่นอายและความแข็งแกร่งของพวกมัน น่าหวาดกลัวพอสมควร ดูแล้วไม่ควรประมาท

 

แค่กวาดมองไปรอบๆผ่านกล้องส่องทางไกล ก็พบว่าสถานที่แห่งนี้ ไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัยจริงๆ

 

อย่างเช่น ไม่ไกลออกไปมีฝูงหมาป่าเล็กๆ แม้มีจำนวนไม่มากนัก อาจแค่ 5 – 6 ตัว แต่ฉินเฟิงไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ตลอดเวลา

 

ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือการกวาดล้างทุ่งหญ้าทั้งหมด ละเลงมันด้วยเลือด!

 

กระนั้น หากต้องมาไล่ค้นหาสัตว์ร้ายทีละฝูง เห็นได้ชัดว่าเสียเวลาฉินเฟิง ดังนั้นจะดีกว่า หากล่อสัตว์ร้ายให้เข้ามาเอง

 

ส่วนวิธีการล่อน่ะหรือ ง่ายมาก! ตราบใดที่มีผงดึงดูดสัตว์ร้ายก็พอแล้ว!

 

ฉินเฟิงรู้สึกว่าแผนการนี้แม้โหดร้ายและอาจมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่มีโอกาสเป็นไปได้สูง

 

หลังจากสำรวจรอบๆจนเสร็จสิ้น ฉินเฟิงกลับเข้ามาในถ้ำ บอกวังเสี่ยวให้เตรียมสิ่งของมาให้พร้อม

 

หลังจากได้ยินว่าฉินเฟิงต้องการผงดึงดูดสัตว์ร้าย วังเสี่ยวประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาไม่คิดตั้งคำถามใดๆ รีบปฏิบัติตามทันที

 

“คุณกลับไปประจำการฝั่งเฟิงหลีก็ได้นะ ทางผมทุกอย่างโอเคแล้ว ถ้ามีปัญหาเดี๋ยวจะติดต่อไปเอง” ฉินเฟิงกล่าว

 

วังเสี่ยวขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ยังคงกล่าวว่า “พวกเรารั้งอยู่ที่นี่ก่อนดีกว่า ช่วยคุณหามร่างสัตว์ร้ายที่ตายแล้ว แต่วางใจเถอะ พวกเราดูแลตัวเองได้”

 

ฉินเฟิงไม่ปฏิเสธ วังเสี่ยวและคนอื่นๆล้วนเป็นคนธรรมดา ให้เห็นเลือดซะบ้างถือเป็นการเรียนรู้ที่ดี แน่นอน ตรงปากทางเข้าถ้ำ วังเสี่ยวได้กระจายผงขับไล่สัตว์ร้ายซ้อนทับๆกันหลายชั้นเอาไว้แล้ว ส่วนบ่อน้ำที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตร ฉินเฟิงเริ่มโรยผงดึงดูดสัตว์ร้าย กลิ่นหอมฟุ้งกระจายออกมาในพริบตา

 

ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อครั้งฉินเฟิงอยู่ในเมืองไห่ เขาเคยถูกปองร้าย ระเบิดผงชนิดนี้ใส่ตัว ดึงดูดสัตว์ทะเลให้ตรงเข้ามา แต่ครั้งนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้น

 

อย่างไรก็ตามเอฟเฟกต์และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เหมือนกันทุกประการ!

 

แค่ไม่รู้ว่าสัตว์ร้ายในมิตินี้ จะได้รับผลกระทบไหม

 

และแล้วผลลัพธ์ ก็ปรากฏขึ้นในไม่ช้า

 

ซ่า ซ่าาาา!

 

กลางทุ่งหญ้า นักล่าที่ซุ่มซ่อนเผยโฉมออกมาเป็นฝูงแรก ดวงตาของหมาป่าเหล่านั้นมองตรงมายังทิศทางของฉินเฟิงด้วยสีแดงฉาน

 

พวกมันกระสับกระส่าย วิ่งแข่งกันมา เมื่อเห็นการดำรงอยู่แสนอ่อนแอของฉินเฟิง ก็กระโจนเข้าสังหารทันที

 

ด้วยเหตุนี้ ฝูงหมาป่าจึงถูกล้างบางไป

 

ภายในฝูงมีหมาป่าเพียง 30 ตัว ความแข็งแกร่งอยู่ในเลเวล D ฉินเฟิงเดินก้าวตรงไปสังหารพวกมันอย่างเกียจคร้าน สามารถเก็บเกี่ยวชีวิตพวกมันทั้งหมดในพริบตาเดียว

 

หลังจากฝูงหมาป่าตายลง ก็เกิดเสียงดังซวบซาบแว่วเข้ามา สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่อีกฝูงก้าวออกจากทุ่งหญ้า

 

ฉินเฟิงโฉบกายไปข้างหน้า ไล่สังหารสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อีกครั้ง

 

ถัดออกไป บริเวณธารน้ำตกอันคดเคี้ยว ภายในถ้ำ วังเสี่ยวยกหน้าไม้ ยิงเข้าใส่ศพหมาป่าทันที ศพใหญ่แทงทะลุเนื้อของมัน หัวลูกศรกางออก ยึดติดกับเนื้อชิ้นนั้น

 

โดนปลายลูกศร ผูกติดเอาไว้ด้วยเชือก

 

“ดึงกลับได้!”

 

“รับทราบ!”

 

คนธรรมดาที่อยู่เบื้องหลังวังเสี่ยว ช่วยกันลากศพกลับมาทันที กระนั้น เห็นได้ชัดว่าการขนย้ายของพวกเขาเชื่องช้าเกินไป ดึงมาได้ 7 – 8 ศพ ฉินเฟิงก็สังหารสัตว์ร้ายไปอีกฝูงหนึ่งแล้ว

 

กลิ่นสาบของเลือดค่อยๆฟุ้งกระจาย ผสมเข้ากับผงดึงดูดสัตว์ร้าย ส่งผลให้สัตว์ร้ายในทุ่งหญ้า รุมแห่แหนกันเข้ามา

 

–ปล่อยให้ฉินเฟิงสังหารตามอำเภอใจ!