1/4
Ep.817 – สำรวจมิติต้องห้าม
“รู้แล้วน่า!” ชูฟ่านกัดฟันกล่าว นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องทำอยู่แล้ว แต่พอถูกฉินเฟิงย้ำ ชูฟ่านเลยรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
ฉินเฟิงมองไปยังท่าทียอมรับความจริงของอีกฝ่าย เห็นชูฟ่านเริ่มดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
“งั้นฉันไปล่ะ อีกหนึ่งเดือนเจอกันใหม่”
ฉินเฟิงโบกมือ ปลีกตัวออกจากจัตุรัสกลาง
ณ ขณะนี้ ฉงโหลวได้กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว เนื่องจากเคยถูกกระแสกองทัพสัตว์ร้ายเข้ารุกราน ก่อความเสียหายทุกหนแห่ง
ฉินเฟิงพบรถบรรทุกคันใหญ่รุ่นเก่า เขาขึ้นไปขับมัน เดินเครื่องชนรถล่องเวหาที่ขวางทาง หากเป็นเมื่อก่อนรถพวกนี้มีมูลค่าหลายสิบล้านเหรียญ แต่ตอนนี้ไม่ต่างจากเศษเหล็ก
ฉินเฟิงมุ่งหน้าไปยังทิศใต้ของเมือง เสียงคำรามของเครื่องยนต์ทำให้ทั้งสัตว์ร้ายและมนุษย์ตื่นตกใจ หลังการหลบหนีครั้งใหญ่จบลง ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองฉงโหลว หวาดกลัวกระแสกองทัพสัตว์ร้ายจนไม่กล้าออกมาอีก แม้ฉินเฟิงขับรถผ่านก็ไม่กล้าร้องเรียก บางทีพวกเขาอาจคิดว่า สิ่งที่ฉินเฟิงกระทำอยู่ในตอนนี้ อาจเป็นการแส่หาที่ตาย
ฉินเฟิงไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร สำหรับเขานี่ถือเป็นการกวาดล้างสัตว์ร้ายไปในตัว
หากมีสัตว์ร้ายตัวใดเสนอหน้าเข้ามา เขาจะสังหารมันพวกมันให้สิ้น เจอตัวเล็กก็กระแทกคันเร่งขับชน ตัวใหญ่ค่อยลงไปหั่นมันเป็นชิ้นๆ ปัดอุปสรรคขวางทางออกไป
ในที่สุด รถบรรทุกคันใหญ่ก็ค่อยๆออกจากอาณาเขตพื้นที่ทับซ้อน เริ่มเข้าสู่อาณาเขตมิติต้องห้ามอย่างแท้จริง
…
ในโลกภายนอก คนที่ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มเฟิงหลี ผู้ที่เลือกติดตามฉินเฟิง ทั้งหมดได้ขึ้นเรือเหาะ เริ่มเดินทางสู่เมืองเฟิงหลี
ส่วนคนที่เหลือ กำลังรอรถไฟล่องเวหาของกลุ่มซ่งเฉิง หลี่หยวนซานถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เหลียวมองกลับไปยังผู้ติดตามที่มีไม่ถึง 10,000 คน กระทั่งจำนวนผู้ใช้พลังยังเหลือเพียงน้อยนิด
ฉากที่เห็นทำให้เขาพาลนึกสงสัยตัวเลือกของตนเอง
อย่างไรก็ตาม ยังไงเขาก็ไม่สามารถทำใจยอมรับเลือกข้อติดตามฉินเฟิงไปอยู่ดี
ทำได้เพียงเฝ้ามองกลุ่มชาวเมืองจากไป พวกเขาเดินทางโดยเทคโนโลยีมิติล้ำสมัย กลุ่มเฟิงหลีคอยรับส่งชาวเมืองอย่างต่อเนื่อง ช่างเป็นภาพที่งดงามและน่าตื่นตา
“อา! น่าเสียดายจริงๆ ทำไมในเวลานั้นฉันถึงไม่เลือกเฟิงหลีนะ!”
“ท่านผู้ใหญ่รุ่ยจากไปแล้ว แผนการก่อสร้างเมืองฉงโหลวขึ้นใหม่เป็นอันล้มพับ”
“ฉันควรเลือกเฟิงหลีตั้งแต่แรก ตอนนี้ไม่รู้ว่ารถไฟของกลุ่มซ่งเฉิงจะมาถึงเมื่อไหร่ ใครจะรู้ในทุ่งล่าอาจมีสัตว์ร้ายโผล่มาได้ทุกเมื่อ”
คนที่เหลือบ่นซ้ำซาก บ่นไม่หยุด สำหรับความรู้สึกที่มีต่อเมืองฉงโหลว เวลานี้พวกเขาไม่หลงเหลือเศษเสี้ยวของความภักดีและความเชื่อใจอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก นอกจากทำได้แค่รอ
ระหว่างกลุ่มซ่งเฉิงกำลังเดินทางขนส่งผู้ลี้ภัย นอกจากขยะเกลื่อนกลาดที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังแล้ว เมืองฉงโหลวในมิติทับซ้อน ไม่มีใครคิดสนใจใยดีอย่างสิ้นเชิง ทั้งยังถูกจัดตั้งให้เป็นเขตหวงห้าม!
ตรงกันข้ามกับเมืองเฟิงหลี ตอนนี้มีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
ในช่วงที่ผ่านมา ประชากรเมืองเฟิงหลีเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวเมืองแม้เดิมถูกสร้างให้กว้างมากอยู่แล้ว ไม่นานมานี้เริ่มขยายออกไปอีกครั้ง มีการก่อสร้างกำแพงเมืองวงแหวนรอบสี่
หรือกล่าวอีกความหมายนึงก็คือ ตำแหน่งที่ตั้งเดิมของกำแพงเมืองเฟิงหลี ได้ขยับออกไปข้างนอกอย่างต่อเนื่องถึงสามครั้ง ก่อสร้างเป็นกำแพงเมืองชั้นสี่
กระนั้น เมืองเฟิงหลีก็ยังแออัดไปด้วยผู้คนอยู่ดี
นับจากช่วงเริ่มก่อตั้ง นี่ก็ใกล้จะครบสองปีแล้ว เมืองเฟิงหลีขยับขยายต่อเนื่อง มีเลเวล B และ C เพิ่มขึ้น ผู้ใช้พลังเริ่มถูกดึงดูดเข้ามา ส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมากต้องการลงหลักปักฐานและเข้าทำงานที่นี่
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ขยายพื้นที่เมืองอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวลานี้มันเริ่มกินพื้นที่เพาะปลูกมากเกินไป ดังนั้นหลังจากสร้างวงแหวนรอบสี่ของเมืองเฟิงหลี จะไม่มีการขยายพื้นที่อีกต่อไป กฏนี้อีกหลายๆเมืองก็ใช้เช่นกัน ส่วนหากคิดขยายพื้นที่เพิ่มเติมหลังจากนี้ จะต้องสร้างแยกออกไปในรูปแบบสถานชุมชนโดยตั้งอยู่รอบๆเมืองเฟิงหลี
ด้วยเหตุนี้ พื้นที่ดั้งเดิมของทะเลทรายทะเลเหนือ ในทางทิศใต้ของเมืองเฟิงหลี เลยมีการจัดตั้งสถานชุมชนขนาดใหญ่กว่าสามแห่ง ก่อตั้งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขนาดของมันใกล้เคียงกับสถานชุมชนเฉิงเป่ยในตอนแรก ส่วนชื่อก็จะเรียงตามสีเป็น แดง(赤 = ชี่) , ส้ม(橙 = เฉิง) , เหลือง(黄 = หวง) ตามลำดับ แต่ชื่อของทุกเมืองจะมีคำว่าเฟิง(风) นำหน้าเสมอ
ยิ่งไปกว่านั้น สถานชุมชนทั้งสามแห่งนี้ ถือเป็นจุดตั้งต้นในห่วงโซ่อุตสาหกรรมของกลุ่มเฟิงหลี
ณ ขณะนี้ เหนือน่านฟ้าของสถานชุมชนเฟิงหวง ปรากฏเรือเหาะขนาดใหญ่ผลุบออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า ขนส่งผู้ลี้ภัยลงที่นี่
…
ลึกลงไปใต้สถานชุมชนเฟิงหวง มีฐานทัพขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ใต้ดิน ช่วงเวลานี้ ไป๋หลี , วังเฉิน และบุคคลที่วังเฉินคัดเลือกเอาไว้ ทั้งหมดต่างมารวมตัวกันที่นี่
“ท่านผู้ใหญ่ไป๋ คนที่ฉันเลือก ทั้งหมดได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตามคำอธิบายของท่านประธาน ฉันเลยเลือกพวกเขา ครึ่งหนึ่งในกลุ่มเป็นมือปืน อย่างน้อยก็มีโอกาสรอดชีวิตบ้าง อีกครึ่งเป็นคนธรรมดา มีผู้สมัครกว่า 2,000 คน พร้อมเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อ!” วังเฉินกล่าว
“เข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้บอกให้พวกเขารอก่อน ดูเหมือนฉินเฟิงยังหาสถานที่เหมาะสมไม่เจอ เวลานี้ยังไม่มีการติดต่อใดๆจากเขา”
“รับทราบ ถ้างั้นระหว่างนี้ ฉันจะไปฝึกฝนพวกคนธรรมดาก่อน จะได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ต่อสู้ในอนาคต”
“ดีมาก!” ไป๋หลีพยักหน้า จากนั้นก็กล่าวว่า “แล้วเรื่องที่ฉันขอให้คุณจัดเตรียมห้องทดลองของดร.แซด ไปถึงไหนแล้ว”
“เสร็จเรียบร้อยแล้ว ห้องทดลองของเขาอยู่ถัดจากห้องทดลองของพวกเรา แบบนี้ทางเราจะสามารถสังเกตการณ์เขาได้ตลอดเวลา!”
“อืม!” ไป๋หลีพยักหน้าด้วยความพอใจ
แซดร้องขอให้ฉินเฟิงนำวัตถุดิบบางอย่างกลับมา นอกจากนี้อีกฝ่ายยังคิดวิจัยค้นคว้าอีกหลายอย่างในอนาคต นั่นหมายความว่าแซดอาจทำเรื่องไม่คาดฝันในรัฐทะเลเหนือก็ได้ ไป๋หลีเลยตัดสินใจวางเขาไว้ใต้จมูก แบบนี้จะดีกว่าการปล่อยอีกฝ่ายเป็นอิสระ สร้างความวุ่นวายได้ทุกเมื่อ
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้มีเพียงฉินเฟิงเท่านั้นที่มีความสามารถ หรือกล้าเข้าไปยังมิติต้องห้าม ดังนั้นภารกิจนี้ มีฉินเฟิงคนเดียวที่ทำได้ แซดยังต้องคอยพึ่งพาเขา
ฉินเฟิงเริ่มเกิดความคิดว่า นับจากนี้ไปอาจหาเวลาคุยกับแซด สนทนาเกี่ยวกับการร่วมมือ
ส่วนตอนนี้ ทุกคนทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอการติดต่อจากฉินเฟิงในมิติต้องห้าม
เผลอแปปเดียว เวลาก็ผ่านไปกว่าสามวันเต็ม!
…
ภายในมิติต้องห้าม หลังจากฉินเฟิงขับรถออกนอกเมือง เนื่องจากภูมิประเทศ ทำให้ขับไปได้ไม่ไกลเขาต้องยอมทิ้งรถ แล้วเดินเท้า
ในป่าด้านนอก เห็นได้ชัดว่าป่าแห่งนี้ไม่เหมือนกับที่ฉินเฟิงคิด เขาค่อยๆเริ่มเข้าสำรวจมิติต้องห้าม
เมื่อไร้ซึ่งอบิลิตี้มืดไว้คอยกลบซ่อนกลิ่นอาย การสำรวจในครั้งนี้ของฉินเฟิงเลยเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องเผชิญกับการลอบโจมตีของสัตว์ร้ายในทุกๆ 2 – 3 นาที
ฉินเฟิงต้องใช้เวลากว่าสองวัน ถึงจะสามารถออกจากป่านี้ไปได้ ในที่สุดแสงสว่างก็กระทบเข้ากับดวงตาเขา
ฉินเฟิงเดินไปตามแม่น้ำสายเล็กๆ แต่สักพักก็พบว่าแม่น้ำสายนี้ กำลังไหลลงสู่เบื้องล่าง
ฉินเฟิงเดินเข้าไปไม่กี่ก้าว เหยียบลงบนหินก้อนใหญ่ และพบว่าที่แท้ นี่คือส่วนยอดของน้ำตก
น้ำตกแห่งนี้ชันเป็นแนวนิ่งลงไปกว่า 800 เมตร ปรากฏชั้นหมอกบางๆปกคลุมอยู่ด้านล่าง หากที่ฉินเฟิงเจอในตอนแรกเป็นแม่น้ำใหญ่ เกรงว่านี่คงเป็นน้ำตกที่น่าตื่นตาไม่น้อย
กระนั้น ที่เขาเจอเป็นเพียงแม่น้ำสายเล็กๆ มันคดเคี้ยวและกว้างเพียง 2 เมตร กระทั่งการไหลของกระแสน้ำก็เอื่อยมาก ฉินเฟิงก้มลงมองไปยังน้ำตกเบื้องล่าง และพบว่าห่างออกไป 100 เมตร มีพื้นที่พอให้พอเหยียบย่าง หินด้านล่างถูกชะล้างจนกลมกลึงและเรียบเนียน แต่ตอนนี้มันแห้งไปหมดแล้ว
บางที อาจเป็นเพราะแม่น้ำสายนี้ถูกเบี่ยงเส้นทาง หรือเกิดการเคลื่อนตัวของพื้นดิน แต่จะยังไงก็ช่าง สรุปได้ว่าปัจจุบันน้ำตกแห่งนี้กว้างเพียง 2 เมตร และเมื่อไหลลงไป สายน้ำก็ไม่รวมเป็นเส้นเดียว พวกมันแยกวิ่งไปตามรอยแตกของหินผา เลยไม่ก่อเสียงใดๆ
ด้านล่างสุด สามารถมองเห็นแอ่งน้ำขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังมีฝูงยูนิคอร์นกำลังดื่มน้ำ ความแข็งแกร่งแต่ละตัวอยู่ที่เลเวล D3 แต่มีตัวนึงเป็นราชันย์เลเวล D7
บนยอดผา ยามแหงนมองออกไปในระยะไกล จะพบทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล ปรากฏให้เห็นถึงร่างของสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน อุดมไปด้วยนานาชีวิต