1/4

 

Ep.753 – ความน่ากลัวของเกาะนรก

 

หลังกำจัดดอกไม้กินคน ฉินเฟิงยังได้รับหัวใจต้นไม้(แก่นสัตว์ร้าย)ของอีกฝ่ายมา นี่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เขาพอใจกับผลกำไรในปัจจุบันมาก

 

แน่นอน เพราะคนที่ตกลงมาที่นี่เป็นฉินเฟิงหรอกถึงรอด หากเป็นคนอื่น พวกเขาคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

 

คนอื่นๆที่เข้ามาที่นี่ บางคนเลือกผูกเชือกรัดตัวเองกับคู่หูของพวกเขา แล้วกระโดดลงประตูวังวนนรก จะได้ไปโผล่ในสถานที่เดียวกัน กระนั้น เนื่องจากช่องว่างมิติปรากฏแบบสุ่ม ดังนั้นคนที่เข้ามา แล้วพบเจอกับความตายในทันที เลยมีมากถึงหนึ่งในสิบ

 

 

ผู้ใช้พลังเลเวล B สามคนจับมือ กระโดดเข้ามาพร้อมกัน หลังจากปรากฏตัวขึ้นเหนือผืนฟ้าของเกาะนรก ก็พบว่าทิศทางพวกเขากำลังตกลงเป็นหนองน้ำ

 

ทว่าโชคยังดี ที่มีพื้นดินอยู่ไม่ไกล สามารถโน้มตัวไปลงจอดบนฝั่งได้

 

แต่ในตอนนั้นเอง เพียงเท้ากระทบผิวดิน ผืนดินพลันพลิกตลบ หัวจระเข้ขนาดใหญ่ผุดออกมา กลืนกินทั้งสามในคำเดียว!

 

 

อีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้พลังเลเวล A หลายคน ถูกช่องว่างมิติปล่อยลงมายังขอบปากปล่องภูเขาไฟ แต่เพียงได้รับวิสัยทัศน์กลับคืน สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าพวกเขากลับเป็นการดำรงอยู่ที่น่าหวาดกลัวสุดแสน!

 

–เป็นมังกรปีกแดงเพลิงที่มีความยาวกว่า 100 เมตร! เวลานี้มันกำลังโฉบลงมาจากท้องฟ้า

 

มังกรตัวนี้ เทียบกับมังกรตัวอื่นๆแล้วขนาดไม่ถือว่าใหญ่โตอะไร ทว่ากลิ่นอายของมันน่ากลัวมาก

 

เพราะมันคือสัตว์เทวะเลเวล A !

 

กลุ่มผู้ใช้พลังเลเวล A ตกใจ เร่งซ่อนกลิ่นอายของพวกเขาทันที แต่มังกรตัวนั้นดันเห็นพวกเขาเสียก่อน

 

มังกรเทวะเอียงคอเล็กน้อย ปากยาวแหลมค่อยๆเผยอ พ่นลมหายใจมังกรอันน่าสะพรึงออกมา!

 

“ฮู้มมม … ”

 

เปลวไฟอันร้อนแรงพวยพุ่ง ท่วมทับผู้ใช้พลังเลเวล A กลืนพวกเขาหายไป!

 

 

ฉากอันน่าสยดสยอง เกิดขึ้นทุกหนแห่งบนเกาะนรก อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายคนโชคดีอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน บ้างตกลงมาเจอสมุนไพรวิญญาณหรือซากศพของผู้ใช้พลังที่ตายไปก่อนหน้านี้ สามารถฉกฉวยความมั่งคั่งจากชีวิตของผู้อื่น

 

ในเวลานี้ ฉินเฟิงยังคงสำรวจภายในป่า

 

รอบๆงอกเงยไปด้วยสมุนไพรและผลไม้วิญญาณ สำหรับผู้ใช้พลังธรรมดา บางทีนี่อาจมีคุณค่า แต่สำหรับฉินเฟิงที่เคยสัมผัสภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว และยังเป็นคนถมทรายธารเวลาลงใต้เมืองเฟิงหลี เจ้าพวกนี้ย่อมไม่เด่นพอจะดึงดูดความสนใจเขา

 

กระนั้น สิ่งที่ชุกชุมในป่าของเกาะนรก มิใช่แค่สมุนไพร แต่สัตว์ร้ายก็เช่นกัน พวกมันมีจำนวนมากพอๆกับขนบนตัววัว

 

หลังเดินออกจากอาณาเขตของดอกไม้กินคน ทันใดนั้นปรากฏฝูงหมาป่ากระจายตัวกันเข้าห้อมล้อมฉินเฟิง ในฝูงมีหมาป่าทั้งสิ้น 20 ตัว มีราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล B4 เป็นหัวหน้าฝูง ขณะที่สัตว์ร้ายตัวอื่นๆทั้งหมดเป็นระดับนายพลเลเวล B2!

 

สำหรับฝูงสัตว์ร้ายเช่นนี้ ต่อให้เป็นทีมเลเวล B กว่า 20 คนเข้าปะทะ ก็ยังพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย กลายเป็นอาหารตกลงในท้องของพวกมัน

 

แต่ช่างเป็นอะไรที่น่าเสียดาย เพราะคนที่พวกมันพบ ดันเป็นฉินเฟิง!

 

ฝูงหมาป่าถูกสังหารลงอย่างง่ายดาย ศพพวกมันถูกจับโยนลงในอุปกรณ์รูนมิติ ฉินเฟิงเริ่มเดินสำรวจต่ออีกครั้ง

 

เขาหยุดระหว่างทางเป็นครั้งคราว ตรงเข้าสังหารศัตรูอย่างเมามัน

 

สัตว์ร้ายมหาศาลเช่นนี้ สำหรับหลายๆคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนขององค์กรมืด มันเป็นปัญหาที่ยากจะจัดการมาก

 

ยังไงก็ตาม สำหรับฉินเฟิง สัตว์ร้ายพวกนี้รับมือง่ายกว่ามนุษย์เยอะ ตัวอย่างเช่น แม้ทั้งมนุษย์และสัตว์ร้ายสามารถหลบหนีได้ แต่ฝั่งหลังไล่ตามง่ายกว่ามาก

 

ภายในป่า สัตว์ร้ายเลเวล B ที่ทรงพลัง หน้าไหนขวางทางล้วนถูกฉินเฟิงสังหารสิ้น และต่อให้เป็นสัตว์ร้ายเลเวล C หากมาเคาะประตูถึงที่ พวกมันก็จะถูกฉินเฟิงกวาดล้างทั้งฝูงเช่นกัน

 

ฉินเฟิงไล่เชือดไปตลอดทั้งผืนป่า ฉากนี้คล้ายไม่มีจุดสิ้นสุด แต่จริงๆแล้วการเดินทางของฉินเฟิงถือว่าเร็วมากแล้ว

 

“อึก ..!” ฉินเฟิงกลืนน้ำลาย เบิกตากว้างเมื่อพบเจอกับยอดเขาเบื้องหน้า

 

ภายในพลังสมาธิ มันบอกฉินเฟิงว่าเขาลูกนี้ไม่ต่างจากภูเขาสมบัติ!

 

ทั้งยอดเขาประกอบไปด้วยหิน แต่ในพลังสมาธิของฉินเฟิง มันช่วยให้เขารู้ว่าหินพวกนั้นไม่ใช่หินธรรมดา

 

“มันคือศิลาซวนเหลียว!” (กำมะถันลี้ลับ)

 

“แถมยังมีเป็นจำนวนมาก!”

 

ไม่อาจบรรยายได้เลยว่าฉินเฟิงตกใจแค่ไหน ที่แน่ๆในตอนนี้ หากยังไม่คว้ามันมาในครอบครอง เขาจะไม่ยอมจากไป

 

เพราะศิลาซวนเหลียวขนาดแค่เท่าฝ่ามือ คุณค่าของมันเทียบได้กับสมุนไพรวิญญาณเลเวล B แต่เบื้องหน้าฉินเฟิงมีกองเป็นภูเขาลูกหนึ่ง คิดเอาเถิดว่ามันจะมีมูลค่าขนาดไหน

 

ฉินเฟิงจะยกภูเขาทั้งลูก กวาดสมบัติทั้งหมดให้เหี้ยนไปเลย!

 

พลังสมาธิของฉินเฟิงแทรกซึมลงไปในหินเหล่านั้น กวาดพวกมันลงอุปกรณ์รูนมิติอย่างเมามัน

 

เพียงแต่เริ่มย้ายศิลาซวนเหลียวไปได้ไม่กี่สิบก้อน กลิ่นอายอันน่าหวาดกลัวบางอย่าง ก็กวาดเข้ามาปะทะเข้ากับพลังสมาธิของฉินเฟิง

 

ไม่เพียงเท่านั้น แต่กลิ่นอายนี้ยังคงใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าฉินเฟิงก็พบเจ้าของกลิ่นอาย บนภูเขาหิน ร่างเทาดำปรากฏตัวขึ้น

 

ร่างๆนี้ยาวประมาณ 5 เมตร สูงราวๆ 2 เมตร ลำตัวดูคล้ายกับขบวนรถไฟ รูปลักษณ์เหมือนมดที่ถูกขยายขนาดใหญ่

 

“มิน่าเล่า ที่มีศิลาซวนเหลียวอยู่มากมาย ที่แท้ก็เป็นเพราะภูเขาลูกนี้คือรังของมดซวนเหลียวนี่เอง!”

 

มดซวนเหลียว เป็นสัตว์จำพวกแมลงที่อันตรายมาก แต่ละตัวมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าเลเวล A2 สาเหตุที่ทำให้ศิลาซวนเหลียวมีราคาแพง เป็นเพราะเจ้าสิ่งนี้เกิดจากสัตว์ร้ายระดับนายพลเลเวล A ขึ้นไป มดนายพลกลืนกินพลังงาน หลังจากนั้นก็ขับพลังงานที่ไม่จำเป็นออกมา เกิดเป็นศิลาซวนเหลียว

 

สัตว์ร้ายเลเวล A คือการดำรงอยู่ระดับสูงบนโลกใบนี้ หากต้องการพิชิต จำเป็นต้องใช้ผู้ใช้พลังเลเวล A หลายสิบคน แต่เบื้องหน้าฉินเฟิงในเวลานี้ มีศิลาซวนเหลียวที่เกิดจากการขับถ่ายของมดซวนเหลียวกองเป็นภูเขา ลองคาดเดาเอาเถิดว่าภายในรังจะมีมดซวนเหลียวสักกี่ตัว?

 

ระหว่างขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยอดเขาสีเทาก็เริ่มสั่นไหว

 

หัวใหญ่หัวแล้ว หัวเล่า เริ่มผุดออกมาให้เห็นจากอีกด้านหนึ่งของภูเขา สีหน้าของฉินเฟิง ในที่สุดเริ่มแปรเปลี่ยนไป

 

เพราะทั้งหมดนั่นคือหัวของพวกมดซวนเหลียว!

 

ภายใต้พลังสมาธิ ฝูงมดซวนเหลียวเริ่มคืบคลานออกมาจากถ้ำใหญ่ ทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คร่าวๆอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10,000 ตัว

 

“วิ่ง!”

 

ฉินเฟิงไม่เสียเวลาคิด เลือกหลบหนีทันที

 

จินตนาการเอาเถิด กระทั่งฉินเฟิงยังไม่กล้ามีปัญหากับมัน

 

อย่างไรก็ตาม ถูกชิงสมบัติไปดื้อๆแบบนี้ มีหรือมดซวนเหลียวจะยอมปล่อยฉินเฟิงไป?

 

ร่างของฉินเฟิงปนเปื้อนไปด้วยกลิ่นของศิลาซวนเหลียว ดังนั้นไม่สามารถสลัดพวกมันหลุดได้!

 

แม้ศิลาซวนเหลียวคือพลังงานส่วนเกินที่สัตว์ร้ายเหล่านี้ขับออกมา แต่สิ่งนี้สามารถใช้เป็นอาหารสำรองของพวกมันได้เช่นกัน มีไว้สำหรับเพาะพันธุ์ลูกหลาน ถือเป็นของสำคัญยิ่ง

 

แต่ฉินเฟิงดันฉกอาหารสำรองของพวกมันไป แล้วแบบนี้จะให้ยอมง่ายๆได้อย่างไร?

 

ครืน ครืน ครืนนนน!

 

เกรงว่าหากบอกไปจะไม่มีใครเชื่อ ว่าฝูงมดสามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์ภูเขาถล่มได้ แต่เมื่อเป็นฝีมือของฝูงมดขนาดเท่ารถบรรทุก ฉากดังกล่าวโคตรน่ากลัว แม้แต่ฉินเฟิงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน ทำได้เพียงถูกกดดันให้ถอยร่นกลับเข้าไปในป่า

 

แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่คิดปล่อยฉินเฟิงไป พวกมันไล่กวดเขาตลอดเส้นทาง

 

ทุกที่ที่ฝูงมดวิ่งผ่าน ต้นไม้จะถูกบดขยี้เป็นผุยผง!

 

“ทักษะหมื่นภูติ!”

 

“เทคนิคโอบกอดทมิฬ!”

 

ฉินเฟิงพยายามทุกวิถีทาง เพื่อสลัดหลุดมดเหล่านั้น

 

หลังวิ่งเตลิดหนีออกมาไกลนับหมื่นเมตร เขาถึงค่อยสามารถสลัดมดซวนเหลียวได้เกือบทั้งหมด แต่ยังเหลืออีกสามตัว และทั้งสามไม่เพียงรวดเร็วกว่าตัวอื่นๆ แต่ยังไล่ล่าอย่างไม่ลดละ

 

มดซวนเหลียวเป็นสัตว์ร้ายที่มีวิวัฒนาการค่อนข้างพิเศษ ดังนั้นความเร็วไม่ด้อยไปกว่าฉินเฟิง

 

“เหอ เหอ พวกแกไม่ควรตามมาเลยจริงๆ เพราะถ้าเหลือจำนวนแค่นี้ ที่ฉันต้องทำก็แค่ฆ่า!”

 

ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์ครามออกมา พลิกตัวเข้าประจัญหน้า เปลี่ยนสถานะตนให้กลายเป็นผู้ล่า

 

ไอ้ชนะน่ะชนะแน่ แต่จะติดก็แค่มดซวนเหลียวเหล่านี้รับมือได้ยากกว่าที่คิด เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกมันอยู่ในเลเวล A2

 

“ลำแสงแห่งความมืด!”

 

“มีดเปลวเพลิง!”

 

“ตายซะ!”

 

คมมีดสามารถตัดเปิดกระดองของฝ่ายตรงข้ามได้ก็จริง แต่กำลังภายในของฉินเฟิง ถูกสูบไปใช้เป็นจำนวนมากเช่นกัน!

 

โครม!

 

ในที่สุด มดซวนเหลียวตัวสุดท้ายล้มลงกับพื้น

 

ภายในรัศมี 100 เมตร เกลื่อนไปด้วยเศษชิ้นส่วนศพของมดซวนเหลียว

 

“ฟู่ว … ” ฉินเฟิงผ่อนลมหายใจยาว

 

“ต่อจากนี้ไป ถ้าเจอกับสัตว์ร้ายเลเวล A อีก คงเป็นการดีกว่าถ้าฉันจะไม่ไปยุ่งกับพวกมัน”

 

เนื้อของสัตว์ร้ายเหล่านี้สามารถต้านทานการโจมตีจากกำลังภายในของมนุษย์ได้ หากไม่ใช่เพราะคุณสมบัติของมีดกษัตริย์คราม เกรงว่าฉินเฟิงคงต้องทุ่มแรงมากกว่านี้ เพราะขนาดในปัจจุบัน ฉินเฟิงยังสูญเสียกำลังภายในเป็นจำนวนมาก

 

เขาครอบครองกำลังภายในมหาศาลก็จริง แต่หลังจบการต่อสู้ในครั้งนี้ จากเดิมมีทะเลสาบอยู่ทั้งสิ้น 560 แห่ง เมื่อครู่เขาแค่ล่าสัตว์ร้ายเลเวล A ไปสามตัว กลับสูญเสียไปกว่า 50 ทะเลสาบอย่างกะทันหัน ถ้าเป็นแบบนี้คงได้ไม่คุ้มเสีย

 

“อ๋า?” แต่ในตอนนั้นเอง ภายใต้การรับรู้ของฉินเฟิง เขาสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นอายของจักรพรรดิสัตว์ร้ายกำลังใกล้เข้ามา