1/5

 

Ep.748 – เสียงคำรามของเลเวล S

 

“ผิดตัวแล้ว อย่าไล่ตามไป เขาอยู่ที่นี่!”

 

เสียงตะโกนดังขึ้น

 

เป็นหลิวฮัง!

 

หลิวฮังเคยประมือกับฉินเฟิงมาก่อน ดังนั้นรู้จักกลิ่นอายของฉินเฟิง จู่ๆเมื่อพบว่าฉินเฟิงหายตัวไป ก็บังเกิดความสงสัยโดยสัญชาตญาณ รีบปลดปล่อยพลังการรับรู้ของตน กวาดสำรวจอย่างรวดเร็ว และตรึงมันลงบนร่างฉินเฟิงทันที

 

ด้วยเหตุนี้เอง หลิวฮังเลยเป็นคนแรกที่ตะโกนออกมา

 

อย่างไรก็ตาม ในการดวลครั้งก่อน ทำให้หลิวฮังทราบว่าฉินเฟิงทรงพลังเพียงใด อีกอย่างมือของเขายังได้รับบาดเจ็บ ฉะนั้นไม่กล้ากระโจนลงสู่สมรภูมิด้วยตนเอง แต่แหกปากร้องให้คนอื่นแก้แค้นแทน หากฉินเฟิงตาย หลิวฮังต่อให้ไม่ได้รับสมบัติแต่ก็ยังสะใจ

 

กวนจินฮ่าวที่ร่างเงาวูบไหวดูประหลาดตา ช่วงเวลานี้ยังวิ่งไปได้ไม่ไกล ทักษะหมื่นภูติสำแดงอานุภาพร้ายกาจชวนให้ผู้คนสับสน แต่ในด้านความเร็วมันไม่ถือว่าโดดเด่นอะไร

 

เมื่อได้ยินว่ามีใครบางคนกำลังช่วยเขาเบี่ยงเบนความสนใจ ในใจของกวนจินฮ่าวบังเกิดความสุขยิ่ง รีบตะโกนส่งเสริมว่า “ใช่แล้ว! พวกเขาอยู่นั่น! พวกคุณต้องไปทางนั้นต่างหาก”

 

ผู้ใช้อบิลิตี้หลายคนพอได้ยินก็กวาดพลังสมาธิออกไปทันที และพบร่างของฉินเฟิงกับไป๋หลีอย่างรวดเร็ว

 

อีกฝ่ายเหมือนในข้อมูลจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเลเวลอยู่ที่ B2 ตามหลิวฮังอธิบายเป๊ะ … อย่างน้อยกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมา ก็บอกแบบนั้นล่ะนะ

 

“เจ้าหนู มอบแก่นอบิลิตี้สัตว์เทวะมา แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก!”

 

คนหนึ่งตะโกน ดีดผึงตรงเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ที่แท้เป็นผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้า

 

ก้าวอัสนีของคนๆ รวดเร็วเป็นอย่างมาก

 

ฉินเฟิงยิ้มเย็น โอบเอวไป๋หลี ใช้ออกด้วยวิชาตัวเบาทันที

 

“ทักษะหมื่นภูติ!”

 

ฉินเฟิงเพิ่งทำความเข้าใจกับวิชาตัวเบานี้ แต่เพราะเขาทราบทฤษฏีมาก่อน ดังนั้นพอคาดเดาได้หลายส่วน สามารถเรียนรู้และใช้งานมันได้ทันที ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าการทำงานของวิชานี้ เดิมเป็นการใช้ออกด้วยกำลังภายใน โดยความเร็วจะขึ้นอยู่กับว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพแบกรับได้มากน้อยแค่ไหน

 

และด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพในปัจจุบันของฉินเฟิง จะไม่สามารถแบกรับความเร็วนี้ได้อย่างไร?

 

แทบจะในทันที ฉินเฟิงทะยานไปไกลกว่าร้อยเมตร ยังไม่พอ หลายร้อยร่างเงาภูติยังถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง เมื่อเทียบกับกวนจินฮ่าวแล้ว มันดูสมจริงยิ่งกว่าซะอีก ร่างเงาทั้งหมดกระจายไปคนละทิศละทาง

 

ร่างเงาเสมือนของกวนจินฮ่าว เกิดจากคุณสมบัติของชุดคลุมซ่อนภูติ สามารถเปิดใช้งานได้โดยการอัดฉีดกำลังภายใน ทว่าร่างเงาเสมือนของฉินเฟิง ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยอักษรรูนมืด!

 

ณ ขณะนี้ กวนจินฮ่าวเมื่อเห็นฉินเฟิงสำแดงทักษะหมื่นภูติออกมา ก็ต้องอ้าปากสบถอีกครั้ง

 

“บัดซบ บัดซบเอ๊ย!!”

 

เขาอยากจะแหกปากออกไปดังๆ แต่ขณะเดียวกันก็ตื่นตะลึงกับการกระทำของฉินเฟิง

 

ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายเพิ่งเรียนรู้ทักษะหมื่นภูติจากปากเขาหรือ? ทำไมตอนนี้จู่ๆก็ใช้ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายไม่มีชุดคลุมซ่อนภูติ แล้วฉินเฟิงทำได้อย่างไร? เขาสามารถสร้างเงาร่างนับร้อยเหล่านั้นให้ออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าได้งั้นหรือ?

 

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ที่สามารถทำให้กรามของกวนจินฮ่าวอ้าค้างด้วยความตกตะลึง

 

ช่วงจังหวะนี้ ผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าพุ่งเข้าไล่ล่าอย่างบ้าคลั่ง และเพราะความว่องไวของเขามันรวดเร็วมาก ก่อนหน้านี้ยังเกือบจับกวนจินฮ่าวได้ทัน แต่ในเวลานี้ เมื่อเขาพุ่งเข้าหาเงาร่างที่ฉินเฟิงทิ้งไว้–

 

–แทบจะในทันที เงาร่างทะมึนราวกับมีชีวิตจิตใจขึ้นมา มันหันขวับ กระโจนเข้าใส่ร่างของผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าทันที

 

ฟุฟ ฟุฟฟฟ

 

เงาร่างนี้ก็เหมือนฉินเฟิง ที่กุมมีดยาวในมือ แทงพรึ่บ! ลงไปในร่างของผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้า

 

ผู้ใช้สายฟ้าไม่ทันป้องกัน ถูกเงาทะมึนเข้าพัวพันทันที ยังไม่พอ ร่างกายของเขาจู่ๆก็ค่อยๆอ่อนแรงลง

 

ผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าตวาดคำหนึ่ง ทันใดนั้นบังเกิดประกายสายฟ้าระยิบระยับ ระเบิดกระแสไฟฟ้าออกมารอบกาย หมายขับไล่ร่างเงานี้ไป

 

อย่างไรก็ตาม ในจังหวะนั้นเอง พลันปรากฏร่างหนึ่งผลุบออกมาจากเงาที่ทอดยาวอยู่เบื้องหลังเขาและ–

 

–ฟัฟฟฟ

 

มีดแหลมคมของจริงแทงเข้าช่วงท้องของผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้า วินาทีต่อมา ปากแผลก็เริ่มขยายใหญ่ ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

 

“อ๊ากกกก!”

 

เสียงกรีดร้องน่าเวทนาดังลั่น

 

ผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าตัวแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆทันที

 

“เทคนิคแปรผันสายฟ้า!”

 

ในพริบตา ผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าพลันกลายร่างเป็นเมฆสายฟ้าคะนอง แตกกระเจิงไป 7 – 8 ทิศทาง แม้มีร่างเงาพุ่งเข้าปะทะมากมาย แต่ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย ยามเผชิญกับสายฟ้าเหล่านั้น

 

ทว่ายิ่งถูกปะทะ อานุภาพก็ยิ่งลดทอน เมฆสายฟ้าคะนองเริ่มทยอยกันดับลง จนเหลือเพียงลูกสุดท้าย เมื่อถูกทิ่มแทงมันก็กรีดร้อง และกลับคืนสู่ร่างเดิมอีกครั้ง

 

เวลานี้อีกฝ่ายมีเลือดไหลตรงมุมปาก ช่วงท้องปรากฏรูใหญ่ เขาพยายามปลดปล่อยสายฟ้าอย่างบ้าคลั่ง แต่ยิ่งนาน เงาร่างเสมือนกลับไม่ลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น

 

ฉัวะ!

 

รังสีใบมีดกระพริบไหว สุดท้ายร่างของผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าถูกสับแยกกลายเป็นศพ

 

แม้อีกฝ่ายจะเป็นถึงผู้ใช้พลังเลเวล A แต่เมื่อต้องทานรับการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ อย่างไรย่อมไม่อาจทนไหว ไร้หนทางจะต่อต้านโดยสิ้นเชิง ตกตายไปอย่างสมบูรณ์

 

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงดูเหมือนเป็นนักฆ่ายิ่งกว่ากวนจินฮ่าวซะอีก!

 

เมื่อมีทักษะหมื่นภูติในครอบครอง ไม่ต้องกล่าวถึงเลเวล A ต่อให้เป็นเลเวล S ฉินเฟิงยังกล้าลอบสังหาร!

เปลวไฟกองหนึ่งลุกโชน แผดเผาผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าจนกลายเป็นขี้เถ้า ฉินเฟิงคว้าแหวนมิติของอีกฝ่าย วูบกายหายไปอีกครั้ง

 

คนอื่นๆเมื่อเห็นฉากสังหารของฉินเฟิง ทั้งหมดต้องสูดหายใจลึก แต่ไม่นาน พวกเขาก็ชะล้างภาพนี้ออกไปจากจิตใจ และเริ่มไล่ตามฉินเฟิงอีกครั้ง

 

“ผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าเมื่อกี้ใช่หัวหน้าของกลุ่มลี่หยิงรึเปล่า?”

 

“ได้ยินมาว่ากลุ่มของเขาครอบครองทรัพย์สินกว่า 30,000 ล้านเหรียญพลังงาน!”

 

“แต่ตอนนี้ถูกเจ้าเด็กนั่นเอาไปแล้ว!”

 

“ร่วมมือกันฆ่ามัน! แล้วทุกคนมาแบ่งเงินกัน”

 

ดวงตาของคนเหล่านี้ล้วนกลายเป็นแดงฉานด้วยความละโมบ

 

ทั้งหมดตัดสินใจไล่ตามอีกครั้ง หากคิดปิดล้อมฉินเฟิง แน่นอนว่ามีโอกาสตาย แต่คนเหล่านี้เชื่อมั่นสุดใจ ว่าไอ้คนที่ตายย่อมไม่ใช่ตนเอง แต่เป็นคนอื่น

 

ดังคำกล่าวที่ว่า 鹬蚌相争渔翁得利 (นกกับหอยไม่ปรองดองกัน ถูกชาวประมงจับไปทั้งคู่) และพวกเขาทั้งหมดล้วนต้องการเป็นชาวประมง!

 

ดังนั้นฝูงชนจึงเริ่มวิ่งเข้าหาฉินเฟิงอย่างบ้าคลั่ง แต่ในครั้งนี้ พวกเขาไม่กล้าที่จะกระโจนเข้าไปในร่างเงาเสมือนของฉินเฟิงอีกต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเอง เสียงคำรามเสมือนดั่งฟ้าร้อง ดังกึกก้องออกมาจากใจกลางเมืองแห่งความมืด มังกรดำตัวใหญ่ยักษ์ว่ายวนขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

“ไสหัวออกไปจากเกาะของฉัน!”

 

ฉินเฟิงเหลือบสายตามองไปทางศิลามังกรดำ

 

นั่นคือสิ่งก่อสร้างชนิดพิเศษ ถือเป็นอุปกรณ์รูนอันเป็นเอกลักษณ์ ยามบังเกิดคลื่นความผันผวนจากการต่อสู้รุนแรง ที่อาจก่อภัยคุกคามมากเกินไป ศิลามังกรดำนี้จะถูกเปิดใช้งาน ปลดปล่อยเสียงคำรามเกรี้ยวกราดของเลเวล S

 

นี่ถือเป็นการข่มขู่ชนิดหนึ่ง บ่งบอกให้คนอื่นทราบ ว่านี่คือเกาะของเลเวล S มิใช่สถานที่ให้พวกหมาแมวมากัดกัน

 

แม้ว่ากลุ่มเลเวล A จะมีจำนวนมากมาย แต่พวกเขาไม่กล้าท้าทายความยิ่งใหญ่ของตัวตนทรงอำนาจเลเวล S

 

“บ้าจริง ถึงจะแค่เสียงก็เถอะ แต่ชักไม่แน่ใจแล้วว่าเลเวล S คนนั้นยังอยู่บนเกาะรึเปล่า”

 

“แล้วแบบนี้พวกเราจะทำยังไงดี? ต้องปล่อยเด็กนั่นไปจริงๆหรือ?”

 

“คงไม่มีทางเลื– เอ๊ะ? ดูนั่น! เขากำลังวิ่งออกไปนอกเกาะ!”

 

บังเกิดความประหลาดใจขึ้นท่ามกลางฝูงชน แต่ถ้าอีกฝ่ายหนีออกจากเมืองหลวงแห่งความมืดก็ดีเลย ถึงเวลานั้นก็ไม่ต้องเหยียบเท้าเลเวล S แล้ว เมื่อคิดได้ ทั้งหมดก็รีบไล่ตามไปทันที

 

ขณะเดียวกัน สีหน้าของฉินเฟิงยิ้มเยาะด้วยความเย็นชา ที่เลือกออกจากเกาะ เพราะเขามีแผนที่จะสู้!

 

เมื่อนึกย้อนไปถึงผลกำไรที่ได้มาจากพันธมิตรวู้ดแลนด์ ฉินเฟิงแม้ไม่ยกระดับ แต่กำลังภายในเพิ่มพูนขึ้นกว่าเดิมสามเท่า

 

และในครั้งนี้ ศัตรูของเขาไม่ใช่แค่ผู้ใช้พลังเลเวล A เพียง7 คนอีกต่อไป

 

การต่อสู้ในครั้งนี้ เขาจะได้รับผลประโยชน์ยิ่งกว่า!

 

ศัตรูครั้งนี้แม้มากมายมหาศาล แต่ฉินเฟิงไม่หวาดกลัว

 

ครั้งนี้มีดกษัตริย์ครามของเขาอัพเกรดใหม่แล้ว ทั้งยังมีการดำรงอยู่เช่นไป๋หลีคอยเคียงข้าง นี่เพียงพอให้ฉินเฟิงอยู่ในสภาวะคงกระพัน

 

หวือออ!

 

ร่างเงาเสมือนับไม่ถ้วนวิ่งปาดซ้าย กระโจนขวา ทำให้คนอื่นไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนของฉินเฟิงได้ แต่เนื่องจากเงาร่างยังคงเคลื่อนที่ต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกัน และไม่จางหายไป ทำให้ทุกคนพอจะคาดเดาได้ ว่าฉินเฟิงต้องแฝงตัวอยู่ท่ามกลางเงาร่างเหล่านั้น

 

จนในที่สุด ฉินเฟิงก็หนีออกมานอกเกาะได้สำเร็จ

 

ฉินเฟิงวิ่งออกไปอย่างดุเดือด เหยียบย่ำผิวทะเล ทิ้งระยะห่างจากเมืองหลวงแห่งความมืดนับพันเมตร

 

‘ตรงตำแหน่งนี้ น่าจะโอเคแล้ว!’

 

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้พลังที่ไล่หลังฉินเฟิงมา กลับไม่ลดลง ตรงกันข้ามมันเพิ่มขึ้น!