Ep.592 – ภารกิจของซางฮัน

 

‘เด็กคนนี้ อยู่เฉยๆไม่เป็นเลยจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้เขาถึงไปที่รัฐซูหยวน’

 

แน่นอน ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไร ซางฮันก็ไม่คิดเอ่ยถามออกไป เพราะหวั่นว่าฉินเฟิงจะรู้สึกว่าตนกำลังจับตาดูเขาอยู่

 

“ผู้การฉิน ตอนนี้ ฉันในฐานะจ้าวพรมแดนทางเหนือ ขอมอบภารกิจให้คุณอย่างเป็นทางการ” สีหน้าของซางฮันกลายเป็นเคร่งขรึม

 

“พร้อมรับคำสั่ง!” สีหน้าของฉินเฟิงเองก็จริงจังขึ้นมา ขานรอรับภารกิจจากซางฮัน

 

“ขอสั่งให้ผู้การฉินเฟิง ไปยังเส้นชายแดนของตู่ซาน ลุ่มน้ำลิหว๋า เข้าร่วมภารกิจกวาดล้าง ส่วนเนื้อหาภารกิจคุณเป็นคนเลือกเอง แต่ระยะเวลาปฏิบัติงานทั้งสิ้นคือหนึ่งเดือน”

 

ร่องรอยของความประหลาดใจวาบผ่านเข้ามาในดวงตาของฉินเฟิง ไม่ใช่ว่าเขาประหลาดใจกับคำสั่งของซางฮัน แต่ภารกิจนี้ดันตรงกับความต้องการของเขาพอดี

 

หลังจากนั้น ซางฮันยังบอกรางวัลให้แก่ฉินเฟิง และรางวัลนี้ อาจเทียบเท่าได้เลยกับนายพลเลเวล B เพราะในสายตาของซางฮัน ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงมากกว่านายพลเลเวล B ซะอีก

 

หากให้รางวัลเป็นในส่วนของเลเวล C มันคงไม่ยุติธรรมกับฉินเฟิง จะให้ฉินเฟิงทำงานหนักแล้วได้รับเงินเดือนต่ำ มันคงไม่ดี

 

ซางฮันถือว่าเป็นเจ้านายที่ใจกว้างอย่างแท้จริง!

 

“น้อมรับคำสั่งท่านจ้าวพรมแดน”

 

“ดีมาก ตอนนี้ขอให้คุณไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด ฉันจะส่งตัวเชื่อมมิติให้แก่คุณ” ซางฮันกล่าว

 

“ตอนนี้ผมอยู่ในปราการหานตงอยู่แล้ว”

 

“งั้นก็ไม่มีปัญหา สิ่งของจะถูกจัดส่งอย่างช้าที่สดภายใน 30 นาที”

 

“รับทราบ” ฉินเฟิงพยักหน้า แต่จู่ๆก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เอ่ยถามออกไป “จ้าวพรมแดนซาง ภูมิภาคตอนเหนือของเรา มีสุดยอดตัวตนทรงอำนาจมาซ่อนตัวอยู่รึเปล่า อย่างเช่น … ผู้ใช้พลังเลเวล S!”

 

ซางฮันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนถามสวนกลับมาว่า “ทำไมคุณถึงถามแบบนั้นล่ะ? หรือว่าอยากจะหาอาจารย์ช่วยฝึกฝน?”

 

“แค่ถามไปเรื่อยน่ะครับ”

 

“ถ้าจะบอกว่ามีก็คงมีนั่นแหละ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่ผู้ใช้อบิลิตี้ธาตุมือหรือธาตุไฟ ไม่ใช่ทั้งผู้ใช้วรยทุธโบราณ แต่เป็นผู้ใช้อบิลิตี้น้ำแข็งเลเวล S !”

 

เมื่อได้รับคำตอบ ข้อสงสัยในจิตใจของฉินเฟิงก็ถูกแถลงไข

 

ใช่จริงๆ ซางฮันเองก็ทราบถึงตัวตนของอีกฝ่าย

 

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”

 

“หรือว่าที่คุณไปยังรัฐซูหยวน ก็เพราะต้องการพบกับตัวตนทรงอำนาจคนนั้น?” ซางฮันเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

 

ฉินเฟิงพยักหน้าและกล่าว “ถ้าคุณกำลังพูดถึงท่านผู้ใหญ่หูซานล่ะก็ คงใช่”

 

ซางฮันจ้องค้างมายังฉินเฟิง เด็กคนนี้มีเรื่องให้เธอรู้สึกประหลาดใจไม่หยุดหย่อนเลยจริงๆ

 

“สารภาพตามตรง ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร กระทั่งตัวฉันเองก็ไม่เคยเห็นเขามาก่อน แต่ตอนที่พ่อฉันยังมีชีวิตอยู่ ท่านเคยบอกว่า ภายในภูมิภาคเหนือของพวกเรา แท้จริงแล้วสถานที่ที่อันตรายที่สุดไม่ใช่เมืองเป่ยหัว แต่อยู่ในรัฐซูหยวน ท่ามกลางยอดเขาหิมะที่ทอดยาว มีสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัวอยู่มากมาย แต่โชคยังดี ที่มีบางคนคอยปกป้อง ทุกชีวิตเลยยังอยู่รอดมาได้”

 

“คนที่คอยปกป้องผู้นั้น พ่อฉันเรียกเขาว่า ‘บรรพชนทะเลสาบน้ำแข็ง’ คำเรียกค่อนข้างฟังดูแปลกๆ แต่ฉันคิดมาโดยตลอดว่านั่นน่าจะเป็นคำที่ใช้อธิบายถึงความแข็งแกร่งของเขา ที่สามารถแช่แข็งทะเลสาบได้ในพริบตาเดียว ไม่นึกเลยว่าที่แท้เขาจะนามสกุลหู”

 

ฉินเฟิงตกใจไปพักหนึ่ง เขาเองก็ไม่คิดว่าหูซานจะถูกเรียกแบบนั้น ต้องทราบนะว่าซางฮันเองก็มีอายุพอสมควรแล้ว ฉะนั้นพ่อของเธอย่อมอายุมากกว่าเยอะ หากให้ฉินเฟิงเรียก อาจเป็นปู่หรือตาได้เลย จากข้อมูลนี้ พอสันนิษฐานได้ว่า บรรพชนทะเลสาบน้ำแข็งผู้นี้ แท้จริงแล้ว อาจอยู่มาตั้งแต่ช่วงต้นยุคของรอยแยกมิติ

 

“อย่าบอกนะว่าคุณได้รับคำแนะนำจากอีกฝ่าย?”

 

ตอนนี้ กลับเป็นซางฮันบ้างแล้ว ที่เกิดความอยากรู้อยากเห็น เอ่ยถามออกมา

 

“ไม่ใช่หรอกครับ แต่เขาช่วยชีวิตผมเอาไว้ ดังนั้นเลยอยากรู้ว่าผู้มีพระคุณคือใคร ”

 

“ฉินเฟิง เธอนี่มันเป็นเด็กที่โชคดีจริงๆ” ซางฮันถอนหายใจ แต่ไม่ได้เอ่ยถามแบบเจาะลึกลงไปอีก เพราะข้อมูลก่อนหน้านี้มันก็มากเกินพอแล้ว

 

ทั้งสองไม่ได้สนทนากันต่อ พอประกาศภารกิจจบ ซางฮันก็ไม่มีธุระอะไรอีก วางสายไป

 

รอไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผู้ใช้พลังเลเวล D จากเมืองเป่ยหัวก็ใช้ตัวเชื่อมมิติเดินทางมายังปราการหานตงเพื่อส่งของ

 

แต่แค่เพื่อส่งภารกิจให้แก่ผู้ใช้พลังเลเวล C คนเดียว ใช้วิธีส่งของแบบนี้ถือว่าฟุ่มเฟือยมาก!

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว มูลค่าการเดินทางอย่างน้อยต้องเสียไปมากกว่าร้อยล้าน

 

หลังจากได้รับตัวเชื่อมมิติ ฉินเฟิงก็ส่งข้อความหาเจ้าเมืองหานตง จากนั้นเปิดใช้งานตัวเชื่อมมิติ พาไป๋หลีมุ่งหน้าสู่อีกสถานที่หนึ่ง สถานที่นี้ดูอาจแปลกตาสำหรับไป๋หลี แต่สำหรับฉินเฟิง มันช่างเป็นสภาพแวดล้อมที่แสนคุ้นเคย

 

เพราะฉินเฟิงมีอาชีพเป็นทหารรับจ้าง และสมญาราชาทหารรับจ้างของเขาก็เริ่มต้นขึ้นจากที่นี่!

 

ลุ่มน้ำลิหว๋า!

 

ที่นี่มีสามผู้ใช้พลังเลเวล B ประจำการอยู่ตลอดทั้งปี และหากจำเป็น จะทำการระดมผู้ใช้พลังเลเวล B นับสิบมาในวันเดียวเพื่อทำภารกิจกวาดล้าง

 

ช่วงเวลานี้ เมื่อวิสัยทัศน์ของฉินเฟิงกลับคืน เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องโถงกว้างขวางใหญ่โต จากนั้น แสงสว่างอีกดวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากเขา

 

“โอ๊ะ? ฉินเฟิง นั่นนายหรอ?”

 

“นายพลซื่อ!”

 

ฉินเฟิงระบุตัวตนของอีกฝ่ายได้ทันที กลับกลายว่าเป็นซื่อฉิง

 

“นายเองก็ถูกส่งมาทำภารกิจกวาดล้างด้วยหรอ”

 

“ดูเหมือนว่านายพลซื่อเองก็เหมือนกัน”

 

“ถ้าฉันรู้ว่าซางฮันจะส่งนายมาที่นี่ ฉันคงไม่มาแล้ว เพราะนายสามารถกำจัดกองทัพสัตว์ร้ายได้อย่างไม่ยากเย็น นับประสาอะไรกับที่นี่!” ซื่อฉิงตบไหล่ฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงส่ายหัว “กองทัพแมลงกับกองทัพสัตว์ร้ายต่างกัน อาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นก็ได้ ที่นี่อันตรายมาก ถ้ามีนายพลซื่อฉิงคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ผมคงสบายใจกว่าเดิมเยอะ”

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันจะถือว่านั่นคือคำชมก็แล้วกัน เอาล่ะ พวกเรามาใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสภาพอากาศในช่วงเวลานี้ รีบเก็บกวาดพวกแมลงที่จำศีลอยู่กันเถอะ ถึงตอนฤดูใบไม้ผลิปีหน้า กองทัพแมลงจะได้อ่อนแอลง”

 

“ถูกของคุณ”

 

ทั้งสองคนหัวเราะ เดินออกไปข้างนอกด้วยกัน

 

ไม่นาน บางคนก็ออกมาต้อนรับพวกเขา โค้งหัวด้วยความเคารพ ในพื้นที่แนวหน้า มีแค่ไม่กี่คนที่ให้ความสนใจกับข่าวสารบนเครือข่ายนักสู้ ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องงานประลองลูกรักของพระเจ้า นั่นมีไว้สำหรับรุ่นเยาว์ที่อายุไม่ถึง 20 ปีรับชม หรือไม่ก็คนส่วนใหญ่ที่ทั้งชีวิตอาจไปไม่ถึงเลเวล D

 

แต่ที่นี่ต่างออกไป ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ทหารแต่ละคนล้วนอยู่ในเลเวล C ขึ้นไปทั้งสิ้น

 

“นายพลซื่อฉิง โปรดเชิญทางนี้ ว่าแต่ทั้งสองท่านนี้คือ … ?”

 

เนื่องจากฉินเฟิงกับไป๋หลียังไม่ได้ติดตราผู้ใช้พลัง ชายคนนั้นเลยเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ทราบว่าจะปฏิบัติตัวต่อพวกเขาอย่างไรดี

 

“โอ้ ขออภัย” ว่าจบฉินเฟิงก็หยิบตราผู้ใช้พลังของเขาออกมา และติดมันกลับดังเดิม ไป๋หลีก็ทำตาม

 

“ผมได้รับภารกิจจากจ้าวพรมแดนซาง ให้มากวาดล้างแมลงสัตว์ร้ายที่นี่”

 

“ได้รับภารกิจจากจ้าวพรมแดนซาง?” เลเวล C มองฉินเฟิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ กระทั่งสีหน้าของเขายังเผยถึงร่องรอยของการดูถูกเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ฉินเฟิงพูด มันเป็นคำที่ดูโอ้อวดมากเกินไป

 

จ้าวพรมแดนซางเป็นถึงผู้ใช้พลังเลเวล A แล้วท่านจะสั่งการเป็นการส่วนตัวให้เลเวล C คนหนึ่งมารับหน้าที่กวาดล้างได้อย่างไร?

 

เจ้าหมอนี่น่าจะคิดประกาศศักดา เขียนเสือให้วัวกลัวซะมากกว่า ช่างน่าขำซะจริง

 

“เข้าใจแล้ว พวกคุณสามารถไปตรงส่วนไหนก็ได้ตามใจชอบ นายพลซื่อ โปรดเชิญทางนี้ ทางเราได้จัดเตรียมห้อง VIP บนชั้นสามของตึกรับรองผู้ใช้พลังแก่คุณแล้ว”

 

ฉินเฟิงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ต้องรู้นะว่า ซางฮันต้องการรักษาหน้าฉินเฟิง เลยมอบสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงรางวัลแก่เขาเหมือนกับพวกเลเวล B การได้พักบนชั้นสามของตึกรับรองผู้ใช้พลัง ก็เป็นสิทธิ์ของเขาเช่นกัน แต่คนตรงหน้ากลับบอกให้เขาไปไหนก็ไป?

 

ซื่อฉิงพอได้ยินคำอีกฝ่าย ก็กลายเป็นตกตะลึง สีหน้าเริ่มหม่นลง และกำลังจะกล่าวตำหนิ

 

แต่ฉินเฟิงรีบหยุดซื่อฉิงเอาไว้ก่อน จากนั้นเอ่ยปาก “นายพลซื่อ ช่างมันเถอะ ผมเองก็กำลังอยากเคลื่อนไหวอย่างอิสระสักพักอยู่พอดี ถ้าคุณมีเรื่องเร่งด่วนอะไร ขอให้ติดต่อผมผ่านอุปกรณ์สื่อสาร ”

 

ภายใต้สายตาดูหมิ่นของพนักงานต้อนรับ ฉินเฟิงทำท่าทีเคาะลงบนอุปกรณ์สื่อสารแก่ซื่อฉิง แต่ในความคิดของพนักงาน มองยังไงก็เห็นว่าฉินเฟิงกำลังโอ้อวด–

 

–นี่อีกฝ่ายกล้าพูดแบบนั้นกับนายพลซื่อฉิงได้อย่างไร!