1/2
Ep.410 – บุกโจมตีเมืองรังอินทรีย์
ฮังอวี่เพิ่งเสร็จสิ้นการประชุมไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
สื่อใหญ่ก็เริ่มนำเสนอข่าวเรื่องนี้แล้ว
กระทู้สนทนาของสมาคมโลกวิญญาณและสื่อโซเชี่ยลสำคัญๆก็มีชีวิตชีวาเช่นกัน
《เผ่ามนุษย์ในแคว้นเดียวดายกำลังเผชิญบททดสอบแห่งความเป็นความตาย!》
《ตำนานของบอสฮังและมังกรครามจะสุดสิ้นลงแค่นี้หรือไม่?》
《มังกรครามตกอยู่ในอันตราย!เปรียบเทียบพลังรบของสี่เมืองมนุษย์กับเมืองธารทะเลทราย!》
《สี่เมืองมนุษย์VSเมืองธารทะเลทราย มนุษยชาติจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้งได้หรือไม่? 》
…
ไม่ถึงครึ่งวัน หัวข้อนี้ก็กลายเป็นการอภิปรายระดับชาติ
ปัจจุบันมนุษย์ได้สร้างฐานที่มั่นและดินแดนมากมายในโลกวิญญาณ แต่ดินแดนใน อาณาจักรมังกรโลกาคืออาณาเขตแห่งแรกที่ตั้งขึ้น ไม่ใช่แค่มีความก้าวหน้าในด้านการสำรวจมากที่สุด แต่มันยังได้รับความสนใจและความสำเร็จสูงสุดเช่นกัน
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่แห่งแรกที่เกิดความขัดแย้งกับขุนนางใหญ่ในโลกวิญญาณ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหากจะบอกว่าสงครามนี้คือจุดเปลี่ยนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในโลกวิญญาณ ไม่ทราบว่ามีกี่สื่อทั่วโลกที่ติดตามข่าวในแคว้นเดียวดาย ไม่ทราบว่ามีกี่สถาบันที่ใช้แคว้นเดียวดายเป็นกรณีศึกษา
กลุ่มของฮังอวี่ได้รับความนิยมและความสนใจจากทั่วโลก ทุกสายตามองมายังพวกเขา
แต่ไม่มีใครคาดคิดเลย
ว่าสงครามใหญ่จะมาเยือนเร็วขนาดนี้!
คงจะแปลกถ้าเรื่องนี้ไม่กลายเป็นข่าวด่วน!
ครั้งที่แล้วพวกฮังอวี่ยึด 3 เมืองติดต่อกันยังไม่หายจากประเด็นร้อน เวลานี้พวกเขาสร้างคลื่นระลอกใหม่อีกครั้ง! ทุกคนพร้อมรับชมความสนุก! น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าการดูบอลโลก! เพราะมันคือสงครามที่แท้จริง ฮ๊าาาา!
แม้ดูเหมือนห่างไกล แต่แท้จริงแล้วผลลัพธ์ของสงครามเกี่ยวข้องกับทุกคน
สิ่งแรกที่ผู้คนให้ความสนใจคือการเปียบเทียบดแข็งของทั้งสองฝ่าย
ใครไม่รู้ถือว่าตกข่าว
สื่อรายงานสถานการณ์จริงของเมืองธารทะเลทราย และแผนการของคาลิมัว ทั้งหมดถูกเปิดเผยบนอินเทอร์เน็ต ให้ทุกคนได้สูดอากาศเย็นเยียบ
ทั้งสองกลุ่มห่างชั้นกันเกินไป!
ไม่ใช่แค่เฉพาะกำลังทหารของเมืองธารทะเลทรายเพียงอย่างเดียว
แต่ตามข้อมูลที่เชื่อถือได้ มีข่าวว่าเมืองธารทะเลทรายได้ระดมขุนนางเล็กทั่วดินแดนให้มาเข้าร่วมกองทัพ
ตราบใดที่ขุนนางเล็กตอบรับเข้าร่วมการต่อสู้ เมืองมนุษย์ทั้งสี่ก็จะพบกับทางตันที่ไม่อาจฝ่าไปได้
มีหลายคนเตือนเรื่องนี้มาซักพักแล้ว พวกเขาพร่ำบ่นว่าสักวันมังกรครามจะพบจุดจบ บรรดาคนที่วิพากษ์วิจารณ์ฮังอวี่ เวลานี้ได้รับแสงสว่าง เริ่มกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง
นักสังคมวิทยาโลกวิญญาณที่มีชื่อเสียงทาโร่ โยชิฮาระก็เป็นหนึ่งในนั้น
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขามักเป็นคนแรกๆที่วิเคราะห์สถานการณ์ของทั้งสี่เมืองในแคว้นเดียวดายมาโดยตลอด
เนื่องจากฮังอวี่ เจียงหนาน และคนอื่นๆมีแฟนๆมากมาย ดังนั้นโยชิฮาระจึงถูกก่นด่าอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แม้แต่ประธานาธิบดีแห่งอเมริกาก็ยังทวีตตำหนิเขา
ยังไงก็ตาม
ยิ่งถูกก่นด่ามากเท่าไหร่ แสงไฟก็ยิ่งฉายมาทางโยชิฮาระมากขึ้นเท่านั้น
ตอนนี้โยชิฮาระได้กลายเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านโลกวิญญาณที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ขุมกำลังบอกกลุ่มเชิญเขาไปกล่าวสุนทรพจน์ ค่าจ้างในการเชิญเขาให้มาปรากฏตัวสร้างรายได้มากกว่าเหล่านักรบเดนตายยามออกศึก
สำหรับผู้ที่อาศัยชื่อเสียงในการหากิน ที่ต้องทำไม่มีอะไรมากไปกว่าการสร้างประเด็น
ยิ่งชาวเน็ตก่นด่าเข้ามามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโด่งดังและรู้สึกพอใจมากขึ้นเท่านั้น
ครั้งนี้เขาเห็นโอกาสมาเยือน ตัดสินใจรับสัมภาษณ์ในฐานะแขกผู้เชี่ยวชาญทันที
โยชิฮาระประกาศต่อสาธารณะชนว่า “ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้ว ว่าการวิเคราะห์ของฉัน ถูกต้องครบถ้วน ทุกวันนี้เกิดอะไรขึ้น? มันคือสิ่งที่ฉันทำนายเอาไว้เมื่อสิบกว่าวันก่อน … บอสฮังคนนี้ทำผิดพลาดเชิงกลยุทธ์อย่างไม่น่าให้อภัย การล่มสลายของสี่เมืองในแคว้นเดียวดายไม่อาจแก้ไขได้!”
ผู้ประกาศข่าวถามว่า “การต่อสู้ยังไม่เริ่ม ทำไมคุณโยชิฮาระถึงมั่นใจว่าสี่เมืองในแคว้นเดียวดายจะล้มเหลวในการผ่านบททดสอบนี้?”
โยชิฮาระหัวเราะและกล่าวว่า “ฉันคือนักวิชาการคนแรกที่เริ่มศึกษารูปแบบทางสังคมและสถานะทางอารายธรรมโลกวิญญาณ คิดว่าทั้งในละนอกประเทศ ฉันนี่แหละคือนักวิเคราะห์ที่เก่งที่สุด”
“คนที่เรียกว่าบอสฮัง ผลจากการกระทำของเขาไม่ต่างจากการทุ่มหินใส่เท้าตัวเอง เป็นแค่คนประมาท!”
“พิจารณาจากสถานการณ์ พลังรบที่ขุนนางใหญ่สามารถระดมได้ น่าจะมากกว่าสี่เมืองมนุษย์ถึงสิบเท่า และตอนนี้พวกเขากำลังระดมกองทัพขุนนางเล็กทั้งหมด! สงครามใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ ฉันคิดไม่ออกจริงๆว่าพวกเขาจะแก้ไขมันยังไง”
“ … ”
ผู้ประกาศข่าวถามอีกครั้งว่า “แล้วถ้ามนุษย์ในแคว้นเดียวดายชนะล่ะ?”
“นั่นเป็นไปไม่ได้!” โยชิฮาระกล่าวอย่างเด็ดขาด “ถ้าคนที่ชื่อบอสฮังกับมังกรครามไม่ถูกทำลาย ฉันโยชิฮาระจะขอถอนตัวจากการวิจัยโลกวิญญาณ จากนี้จะหุบปากเงียบไม่พูดอะไรอีก!”
…
ไม่นาน
คำพูดของโยชิฮาระก็แพร่กระจายไปทั่วเน็ต
หลายคนที่ปากร้ายและต้องการเห็นคนอื่นพินาศพากันเห็นด้วยกับเขา
กลายเป็นประเด็นร้อนแรง คำว่าร้ายหลั่งไหลไม่มีที่สิ้นสุด
ดูจากความห่างชั้นระหว่างสี่เมืองเผ่ามนุษย์กับเมืองธารทะเลทราย มองยังไงก็ไม่เห็นความหวัง!
และเมื่อคำพูดเหล่านี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในเน็ต ก็เริ่มเกิดสงครามคีบอร์ดขึ้นทันที
“ไอ้เวรนี่!”
ไป๋เสวียนเห็นผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นกล่าววาจาฉะฉาน เธอโกรธถึงขั้นเดินไปเตะทีวีจนแตกกระจาย
ไอ้พวกนี้มันจะมากเกินไปแล้ว!
ฮังอวี่กับคนอื่นๆคือผู้บุกเบิกของเผ่ามนุษย์ พวกเขาต่อสู้แทบตายในโลกวิญญาณ แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญพวกนี้พูดถึง กลับกลายเป็นเรื่องเลวร้าย
และที่น่ารังเกียจที่สุดก็คือ คนพวกนี้ต้องการให้ฮังอวี่พ่ายแพ้
น่าแปลกที่ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้
การพล่ามเรื่องความล้มเหลวอย่างบ้าคลั่งกลับเป็นที่ถูกอกถูกใจ ตามหลักเหตุผลแล้วมนุษย์ควรสามัคคีกัน
เพราะยิ่งสังคมวุ่นวาย ก็ยิ่งห่างไกลจากความหวังที่จะปักหลักอย่างมั่นคงในโลกวิญญาณ
หากมีหนึ่งคนรุ่งโรจน์ อีกหลายคนก็จะรุ่งเรือง
ทว่าหากหนึ่งคนสูญเสีย คนอื่นๆก็จะสูญเสียเช่นกัน
ถ้าฮังอวี่พ่ายแพ้ สำหรับมนุษย์แล้ว มันไม่ใช่แค่การสูญเสียยอดฝีมือเท่านั้น!
ไป๋เสวียนเดิมเป็นคนไม่สนใจโลกอินเตอร์เน็ต แต่นับตั้งแต่เจอกับฮังอวี่ครั้งก่อน ตอนนี้เธอให้ความสนใจกับเรื่องของฮังอวี่มาก ข่าวทั้งหมดของเขา ไป๋เสวียนเข้าไปดูอย่างแข็งขัน
ตอนนี้เท่าที่เธอรู้
ฮังอวี่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสิ่งที่เขาคิดก่อนหน้านี้
ฮังอวี่ไม่เพียงแต่ไม่เคยคิดที่จะโฆษณาตัวเอง ตรงกันข้ามเขาทำตัวติดดินมาก และยิ่งอ่านเธอก็ยิ่งรู้ถึงตัวตนของฮังอวี่และความรับผิดชอบที่เขาแบกรับอยู่
จะแพ้ไม่ได้!
ต้องชนะเท่านั้น!
ไป๋เสวียนภาวนาในใจอย่างเงียบๆ
…
ณ เมืองเจียงเฉิง
ในชุมชนมังกรฟ้า
ซูหยุนปิงนำโนมส์ระดับสูงมาเบื้องหน้าเขา
ฮังอวี่กล่าวว่า “ทีเกอร์ หลังจากนี้ไปนายคือหัวหน้าที่ปรึกษาด้านเทคนิคเหนี่ยวนำมนตราของกลุ่มมังกรฟ้า ฉันจะเตรียมสถานที่ทำงานกับห้องทดลองให้นายโดยเฉพาะ มีคำถามอะไรไหม?”
ทีเกอร์ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์เหนี่ยวนำมนตราไม่มีท่าทีการแสดงออกที่ผิดปกติใดๆ ทำให้มองไม่ออกเลยว่าครั้งหนึ่งเขาคือผู้ก่อการร้ายอันดับหนึ่งในลู่เฉิง
เขาตอบด้วยน้ำเสียงของลูกน้องเวลาพูดกับเจ้านาย “เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่จะทำงานให้กับเถ้าแก่และเจ้านาย ข้าผู้ใต้บังคับบัญชาไม่มีคำถามใด”
ฮังอวี่พยักหน้าและยกนิ้วให้ ซูหยุนปิง “ทำได้ดีมาก!”
ซูหยุนปิงโบกมือ ส่งสัญญาณให้ ทีเกอร์ออกไปก่อน
“นายเข้าไปอ่านในเน็ตแล้วใช่ไหม คนพวกนั้น … ”
ฮังอวี่ขัดจังหวะด้วยรอยยิ้มบาง และกล่าวว่า “ไม่ต้องสนใจพวกเขา”
บอกตามตรงนะ ซูหยุนปิงกังวลมาก
ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีความมั่นใจในตัวฮังอวี่
แต่ครั้งนี้คู่ต่อสู้แข็งแกร่งเกินไป!
เธอกับฮังอวี่ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น
ฮังอวี่ไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายได้หากปราศจากซูหยุนปิง
ซูหยุนปิงไม่สามารถทำหลายๆอย่างได้หากปราศจากฮังอวี่
อย่างไรก็ตาม
ด้วยอุปนิสัยของซูหยุนปิง แน่นอนว่าเธอจะไม่มาพูดปลอบโยนหรือให้กำลังใจ หรืออะไรที่ทำไปแล้วไม่มีประโยชน์
เมื่อเห็นท่าทีสงบของฮังอวี่ ความหนักอึ้งในใจเธอก็ลดลงครึ่งหนึ่งแล้ว
สองเดือนที่ผ่านมา
ซูหยุนปิงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เก่ามาโดยตลอด
กล่าวได้ว่าเธอใช่เวลาร่วมกับฮังอวี่ตลอดทั้งวันทั้งคืน
ซูหยุนปิงเชื่อว่าเธอเข้าใจในตัวฮังอวี่มากกว่าใครๆ
ณ ขณะนี้เธอไม่สามารถแบ่งปันความกดดันให้ฮังอวี่ได้ แต่สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้คือรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดี เพื่อที่จะปล่อยให้เขากระโจนสู่แนวหน้าโดยไม่ต้องฟุ้งซ่าน
“ฉันจะช่วยอะไรได้บ้าง?”
“อืม ทีเกอร์ เขาสำคัญมาก อาจารย์ต้องใช้ความสามารถของเขา ทำให้เขาสร้างผลงานโดยเร็วที่สุด มันอาจเป็นประโยชน์ในการต่อสู้ครั้งต่อไป”
ซูหยุนปิงพยักหน้าและกล่าวว่า “เข้าใจแล้ว!”
ณ ขณะนี้ จ้าวหมิงโทรเข้ามา
เขาบอกข่าวดีกับฮังอวี่ว่า “ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ฉันคุยกับจิ้งจอกสามแล้ว และเขาต้องการหินสกิลสีฟ้า ‘เรียกขานจากเบื้องลึกทะเลสาบ’ เป็นข้อแลกเปลี่ยน”
การขอให้ใครสักคนทำงานให้ มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันบ้าง
หินสกิลนี้คือหนึ่งใในหินสกิลสีฟ้าที่ได้รับจากคุกโบราณครั้งก่อน แม้มันจะล้ำค่า แต่ก็คุ้มค่าสำหรับการแลกเปลี่ยนนี้
ฮังอวี่ไม่เสียดาย
เขาเข้าสู่เมืองหุบเขาเดียวดาย
ฉูเทียนหัวเพิ่งเสร็จสิ้นการรวบรวมชนชั้นยอดทั้ง 500 นาย
คนทั้ง 500 นายเหล่านี้ล้วนเป็นชนชั้นยอดทั้งหมดในแคว้นเดียวดาย มีทั้งเสาหลักของมังกรคราม หัวหน้าทั้งสามจากสำนักกระบี่วิญญาณ ผู้นำของกองกำลังขนาดเล็ก กลาง ฯลฯ
นอกเหนือไปจากนี้
ยังมีเจ้าฟันแดงอดีตขุนนางเมืองขุนเขาเหล็ก เช่นเดียวกันกับพวกคนแคระเทาจากเมืองเตาหลอมศิลา และก็อบลินหมีจากเมืองทรายดำก็เข้าร่วมเช่นกัน
ในส่วนของการจัดเตรียมไอเท็ม เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็ม ทุกคนได้รับโพชั่นระดับกลางถึงระดับสูง นอกจากนี้ยังมีคัมภีร์สีเขียว โพชั่นมนตราสีเขียว และอุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราสีเขียว ทุกคนถือพวกมันไว้อย่างละหนึ่ง หากใช้พร้อมกันสามารถระเบิดพลังมหาศาล
“ทุกคนในที่นี้”
“ผมจะขออธิบายภารกิจของพวกคุณก่อน”
ฮังอวี่กวาดสายตามองฝูงชน “ภารกิจนี้ง่ายมาก ทำลายเมืองรังอินทรีย์!”