1/2

Ep.406 – น่ากลัวอะไรอย่างนี้

ได้ข่าวว่าเกิดการซุ่มโจมตีขึ้นจริงๆ

ฝางจิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก : ดีจริงๆที่พวกมันติดกับ !

แต่คิดดูดีๆยังไงพวกมันก็ต้องติดกับอยู่แล้ว เพราะทางเราส่งผู้คุมกันไปแค่ 20 คน ขณะที่ชาวโลกวิญญาณแต่ละตนมีพลังรบแกร่งกว่ามนุษย์มาก อีกทั้งพวกมันยังดูถูกมนุษย์

พวกมันไม่คิดว่ามนุษย์จะเติบโตแข็งแกร่งได้ในเวลาอันสั้นแค่สามสี่เดือน ตราบใดที่ไม่ยกพลมาในระดับกองทัพ ชาวโลกวิญญาณย่อมไม่เห็นมนุษย์อยู่ในสายตา

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า

บรรดาสมาชิกทีมในครั้งนี้ นอกจากไป๋เสวียนแล้ว แทบไม่มีคนอื่นอยู่ในระดับยอดฝีมือชั้นหนึ่งอีกเลย

ชาวโลกวิญญาณคงคาดไม่ถึงว่าบอสฮังจะซ่อนตัวอยู่ในคนกลุ่มนี้

พลังรบของบอสฮังนั้นบิดเบือนกว่าคนทั่วๆไป! นี่แสดงให้เห็นแล้วในตอนที่เขาสู้กับขุนนางสามตัวแบบต่อเนื่องในโลกวิญญาณ

ฝางจิงซานได้รับข้อมูลใหม่อย่างรวดเร็ว “อะไรนะ! หุ่นพิฆาตรุ่นใหม่ 20 ตัว? แถมทีเกอร์หัวหน้าสมาคมเหนี่ยวนำมนตรายังมาด้วยตัวเอง นี่มันบ้าไปแล้ว!”

ฝางจิงซานเกือบคำรามออกมา

ทีเกอร์คือหนึ่งในบุคคลที่อันตรายที่สุดในเมืองลู่เฉิง

เขาคือนักเหนี่ยวนำมนตราชั้นสูง

สมาคมเหนี่ยวนำมนตราก่อตั้งโดยทีเกอร์เช่นกัน และน้อยครั้งนักที่เจ้าหมอนี่จะปรากฏตัว

ไม่คาดคิดเลย

ว่าครั้งนี้ มันไม่เพียงแต่ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมหุ่นรบต้นแบบของหุ่นพิฆาต เรียกได้ว่าแทบจะยกขุมกำลังทั้งหมดมาทั้งสมาคม นำกองทัพหุ่นรบอันทรงพลัง

นี่เป็นเรื่องร้ายแรง

และมีความเสี่ยงมาก

ตรงกันข้ามกับสไตล์การต่อสู้ที่ระมัดระวังตัวเสมอมาของมัน!

เป็นไปได้ไหมว่าทีเกอร์อาจรู้อยู่แล้วว่านี่เป็นกับดัก? ดังนั้นจึงใช้โอกาสจากเรื่องในครั้งนี้ ส่งกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกไป ทางหนึ่งเพื่อช่วยเหลือสหายตน อีกทางหนึ่งเพื่อถล่มสกายเน็ตสาขาลู่เฉิงอีกครั้ง!

ไม่ได้การ!

เกรงว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น!

ฝางจิงซานหลั่งเหงื่อเย็น

ไม่ใช่ว่าเขาไม่มั่นใจในพลังรบของบอสฮัง แต่ทีเกอร์มาพร้อมกับทีมหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตรา อำนาจอันน่าสยดสยองเช่นนี้คืออะไร? ต่อให้เป็นยอดฝีมือชั้นนำอย่างฮังอวี่คอยดูแล ก็ยังไม่กล้าพูดว่ารับประกันความสำเร็จได้!

แล้วถ้าเกิดกรณีที่พ่ายแพ้ขึ้นมา … เรื่องอัปยศน่ะแค่เล็กน้อย

แต่สิ่งที่ต้องรับผิดชอบยิ่งใหญ่มาก!

ถึงตอนนั้นเขาจะอธิบายให้หัวหน้าฟังได้อย่างไร?

“เร็วเข้า! รีบออกเดินทาง ไปสนับสนุนทันที!”

ฝางจิงซานนำทีมสกายเน็ตมุ่งหน้าสู่สนามรบด้วยตัวเอง และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าก็คือ เมื่อมาถึง การต่อสู้ในสนามรบได้สิ้นสุดลงแล้ว

พื้นดินเต็มไปด้วยหลุมบ่อที่เกิดจากการระเบิด

หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตรานับสิบนอนนิ่งกับพื้น

หัวหน้ากองไป๋เสวียนนั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง คล้ายกำลังจมอยู่ในภวังค์ ราวกับได้รับเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจอย่างแรง และเมื่อสังเกตดีๆ จะพบว่าทีมสกายเน็ตลู่เฉิงที่ส่งมา ไม่มีใครตายแม้แต่คนเดียว

นี่มันบ้าอะไรกัน?

ฝางจิงซานรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

เขารีบเดินไปและถามว่า “คนของสกายเน็ตเจียงเฉิงอยู่ไหน?”

ไป๋เสวียนฟื้นจากอาการสับสน “พวกเขาบอกว่าภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ก็เลยขอแยกตัวออกไป …. ”

“พวกเราชนะจริงๆ? ฉันกะแล้ว! บอสฮังน่าทึ่งมาก!” ฝางจิงซานวิเคราะห์จากคำพูดของไป๋เสวียนกับสถานการณ์ตรงหน้า หินก้อนใหญ่ในใจเขาก็ถูกวางลงในที่สุด แต่แล้วก็เกิดคำถามขึ้นอีกครั้ง

เขายังคงถามต่อไปว่า “แล้วเกิดอะไรขึ้นกับหุ่นรบพวกนี้ ทำไมพวกมันถึงยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์? สมาคมเหนี่ยวนำมนตราทุ่มสุดตัว ครั้งนี้คงขาดทุนไม่น้อย … จริงสิ แล้วทีเกอร์ล่ะ? มันถูกบอสฮังจัดการแล้วใช่ไหม?”

ไป๋เสวียนเผยรอยยิ้มขมขื่น “บอสฮังไม่ใช่แค่กำจัดทีเกอร์ แต่เขายังกำจัดหุ่นรบทั้ง 20 ตัว และจับตัวทีเกอร์กลับไปแบบเป็นๆ”

“อะไรนะ!?”

ฝางจิงซานคิดว่าตัวเองหูฝาดไป

ไป๋เสวียนกล่าวต่อว่า “เขาบอกว่าเพื่อความปลอดภัยของลู่เฉิง ทีเกอร์จะถูกพาตัวกลับไปเจียงเฉิงพร้อมกับเชลยคนอื่นๆ และยังบอกอีกว่าเขาทิ้งหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราในสนามรบเอาไว้ให้ ถือเป็นของขวัญขอบคุณสำหรับสกายเน็ตลู่เฉิง”

ฝางจิงซานกลายเป็นโง่งมอย่างสมบูรณ์

ฮังอวี่ไม่เพียงเอาชนะกองทัพหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราของทีเกอร์เท่านั้น

แต่เขายังโค่นหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราทั้งหมดโดยที่พวกมันยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ในเวลาเดียวกัน เขาจับตัวทีเกอร์ผู้ก่อตั้งสมาคมเหนี่ยวนำมนตราไป

นี่ฉันฝันอยู่ใช่ไหม?

เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้จริงๆน่ะหรอ?

จิตใจของฝางจิงซานตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย

สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวของเขา : ทีเกอร์คือคนที่ทำให้สกายเน็ตลู่เฉิงต้อทนปวดหัวมานาน แต่สุดท้ายกลับพ่ายแพ้และถูกจับเป็น … นี่มันความสำเร็จครั้งใหญ่ชัดๆ ฮ๊าาาา!

ที่สำคัญก็คือ ปฏิบัติการนี้ ฝางจิงซานเป็นผู้วางแผนหลัก

คาดไม่ถึงว่าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ ทุกอย่างจบลงด้วยดีและไม่เกิดการสูญเสีย!

“ช้าก่อน”

“เธอบอกว่า ทีเกอร์ถูกพวกเขาพาตัวไป?”

ฝางจิงซานตระหนักถึงบางอย่าง ดวงตาคู่หนึ่งเบิกกว้าง!

ไป๋เสวียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “ใช่ แล้วมันทำไมหรือ?”

“แย่แล้ว นี่มันแย่แล้ว! เธอปล่อยให้พวกเขาพาตัวทีเกอร์ไปได้ยังไง? ถึงเจ้าหมอนั่นจะสร้างอาชญากรรมไว้มากมาย แต่ขณะเดียวกันมันเป็นถึงนักเหนี่ยวนำมนตราระดับผู้เชี่ยวชาญ! ”

ไป๋เสวียนตะลึงไปครู่หนึ่ง สมองเธอปั่นเร็วจี๋ และเข้าใจได้ทันทีว่ารองผู้บัญชาการต้องการจะสื่ออะไร

จริงด้วย!

ทีเกอร์อาจทำเรื่องเลวร้ายมากมายในลู่เฉิง แต่สาเหตุหลักๆที่มันทำได้เพราะความแข็งแกร่งของตัวเอง

พลังรบของทีเกอร์ไม่ได้สะท้อนออกมาในรูปแบบความสามารถในการต่อสู้ส่วนบุคคล แต่มันสะท้อนมาจากสติปัญญา

ทีเกอร์คือนักเหนี่ยวนำมนตราระดับผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งยังเป็นปรมาจารย์เขตแดนขั้นสูง!

เจ้าหมอนี่

ตราบใดที่ได้รับวัสดุมากพอ มันสามารถสร้างอุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราสีฟ้าได้!

ทีเกอร์ในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณค่าของมันยากจะวัดคำนวณ ตอนนั้นฮังอวี่เอ่ยสั้นๆว่าเขาจะรับตัวทีเกอร์ไป เธอไม่ทันคิดไตร่ตรองให้ดี

เวลานี้สมองของไป๋เสวียนลัดวงจรอย่างสมบูรณ์

แต่ถ้าคิดตามหลักแล้วเป็นธรรมดาที่เธอจะไม่สามารถโต้แย้งใดๆได้

สุดท้ายได้แต่เฝ้ามอง ฮังอวี่นำตัวทีเกอร์จากไป

เชลยจากโลกวิญญาณทั้ง 14 ก็ถูกพาตัวไปเช่นกัน

แต่เมื่อทีเกอร์ถูกสยบแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องพาเชลยทั้งสิบสี่คนออกไปอีกหรือ!?

พวกมันมีประโยชน์มากที่จะให้ทางลู่เฉิงค้นคว้าและเค้นข้อมูล!

ไป๋เสวียนรู้ตัวแล้วว่าเธอทำพลาด ดวงตาเธอเริ่มชื้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

“ฉัน … ฉัน … ”

“เฮ้อ ช่างมันเถอะ เรื่องนี้จะตำหนิเธอทั้งหมดก็ไม่ได้” ฝางจิงซานเห็นท่าทีของไป๋เสวียนที่ทั้งหดหู่และถูกทำร้ายจิตใจอย่างแรง ได้แต่ตบไหล่เธอเบาๆอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “เธอยังเด็ก วิธีรับมือบางอย่างยังต้องฝึกฝน เมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างฮังอวี่เลยรู้สึกกดดันจนลืมนึกเรื่องสำคัญไปเป็นธรรมดา”

ไป๋เสวียนพอได้ฟังก็ร้องไห้

ซึ่งทางด้านฮังอวี่ แน่นอนเขาไม่รู้สึกผิดใดๆแม้แต่น้อย และเขาไม่สนด้วยว่าไป๋เสวียนจะถูกตำหนิว่าอย่างไร!

แต่ในใจของคนอื่นๆที่อยู่ในสนามรบตอนนี้

ให้ตายเถอะ!

น่าสงสารเธอชะมัด!

กระทั่งรองผู้บัญชาการฝางก็ยังคิดแบบนี้

สายตาของสมาชิกสกายเน็ตคนอื่นๆขณะมอง สะท้อนไปด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ

หัวหน้าทีมสกายเน็ตคนหนึ่งเอ่ยถาม “พวกเราควรตามไปไหม? ขอตัวทีเกอร์กลับมา”

ฝางจิงซานส่ายหัว “ลืมมันเถอะ ฮังอวี่จับเขาแบบเป็นๆได้ด้วยฝีมือของตัวเอง เรามีคุณสมบัติอะไรไปขอคืน? ทำแบบนี้ไม่ใช่แค่ทำให้เขาขุ่นเคือง แต่ยังเป็นการล่วงเกินสกายเน็ตเจียงเฉิงกับสำนักข่าวกรองโลกวิญญาณด้วย”

การจับเป็นกับจับตายนั้น สองสิ่งนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สมาคมเหนี่ยวนำมนตราหากเผชิญหน้าตรงๆกับสกายเน็ตลู่เฉิง ฝ่ายหลังย่อมสามารถกำจัดพวกมันได้อย่างง่ายดาย

แต่ปัญหาก็คือ การกำจัดทีเกอร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับเป็น มันยากเกินไป!

ทางลู่เฉิงไม่มีใครกล้าพูดมามีความสามารถเช่นนี้ !

“นำหุ่นรบพวกนี้กลับไปวิจัย ทุกตัวล้วนแต่เป็นขุมทรัพย์ ยังไงซะวันนี้พวกเราก็กำจัดสมาคมเหนี่ยวนำมนตราได้แล้ว ถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยม” ฝางจิงซานโยนความคิดที่ทำให้เสียสมาธิทิ้ง  “หลังจากกลับไป ทุกคนจะได้รับรางวัล!”

สมาชิกสกายเน็ตทุกคนต่างส่งเสียงเชียร์

แม้พวกเขาจะไม่ได้พบกับฮังอวี่อย่างเป็นทางการ

แต่การกระทำของฮังอวี่ในวันนี้ ไม่ช้าก็จะกระจายไปทั่วสกายเน็ตลู่เฉิง และอาจแพร่กระจายไปทั้งเมืองลู่เฉิง

เช้าวันรุ่งขึ้น

ณ ท่าเรือเมืองหยุนสุ่ย

เรือลำหนึ่งค่อยๆแล่นผ่านหมอกอย่างช้าๆ

ฮังอวี่พาตัวทีเกอร์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้ตายลงจากเรืออย่างราบรื่น

เขาพบกับฉูเทียนหัวที่มารอรับด้วยตัวเอง

“ภารกิจเสร็จสิ้น”

“เยี่ยมมาก! ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว นายแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว!” ฉูเทียนหัวเหลือบมองโนมส์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส “นี่น่ะหรอทีเกอร์? ได้ยินว่ามันก่อเรื่องมากมายในลู่เฉิง นายจะทำยังไงกับมัน?”

ฮังอวี่กล่าวว่า “ให้ซูหยุนปิงล้างสมอง ”

ฉูเทียนหัวพยักหน้า “นั่นน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด”

ขนาดทีเกอร์ซ่อนตัวอยู่ในทิศตะวันออกของลู่เฉิง แต่ก็ยังสามารถค้นหาวัสดุเพื่อสร้างหุ่นรบที่แสนร้ายกาจได้ หากปล่อยให้ชายคนนี้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สามารถทำงานและมีวัสดุเพียบพร้อมในมือ จะไม่เท่ากับทะยานสู่สวรรค์เลยหรือ?

บุคคลเช่นนี้มีเทคโนโลยีและศาสตร์เหนี่ยวนำมนตราระดับผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งศาสตร์เหนี่ยวนำมนตราคือการผสมผสานระหว่างเทคนิคหลอมอาวุธและการเล่นแร่แปรธาตุ

นั่นหมายความว่าเทคนิคหลอมอาวุธและเล่นแร่แปรธาตุของมันอย่างน้อยต้องอยู่ในระดับขั้นสูง เป็นเชลยที่ล้ำค่ามาก

สำหรับเจ้าหมอนี่ แทนที่จะฟันให้ตายด้วยมีด สู้เก็บไว้แล้วหาวิธีใช้งานดีกว่า

และการล้างสมองด้วยเสน่ห์ถาวรถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด!