***

ขอบคุณสำหรับทุกโหวตครับ  ใน 3 เรื่องจะลงแค่ 2 เรื่องที่ผลโหวตมากที่สุดนะครับ

****

3/3

 

Ep.300 – สิบแปดโจรแห่งเมืองหุบเขาเดียวดาย

 

พลรบชั้นยอดทั้งหกที่นำโดยมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงถูกสังหาร

 

ในระหว่างการต่อสู้ มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงได้พยายามใช้คัมภีร์เทเลพอร์ตเพื่อหลบหนีหลายครั้ง ทว่าการเปิดใช้งานคัมภีร์จำเป็นต้องใช้เวลาพักหนึ่ง และนั่นมีโอกาสถูกขัดจังหวะได้ทุกเมื่อ

 

ขณะที่ฮังอวี่มีทั้งสกิลประจัญบาน , ปะทะเดือด , และศรจู่โจมที่สามารถสร้างเอฟเฟกต์มึนงง

 

นอกจากนี้ยังมีสกิลโจมตีอีกมากมายของเสี่ยวไป๋ที่สามารถขัดจังหวะ และอีกหลายสกิลสายควบคุมของผู้ใช้วิญญาณ

 

ยังไม่พอ

 

ยังมีแส้พลังจิตของมดยักษ์ที่รวดเร็วมากจนไม่สามารถหลบเลี่ยงได้อีกด้วย

 

แม้ ‘ราชาหมาป่าคำรน’ ของหวังเอ๋อจะไม่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาได้ แต่ก็ยังสามารถยับยั้งและสะกดให้ค่าคุณสมบัติของมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงอ่อนแอลง นอกจากนี้เอฟเฟกต์สกิลยังมีผลทำให้เกิดอาการมึนงงสั้นๆ และนั่นเกินพอที่จะทำให้กระบวนการใช้คัมภีร์เทเลพอร์ตล้มเหลว

 

มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงทั้งสองอายุยังน้อย

 

อีกทั้งยังไม่ได้มากจากขุมกำลังใหญ่ใดๆ

 

ทว่าฮังอวี่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะพวกมันได้หากต่อสู้กันตัวต่อตัว

 

อย่างไรก็ตาม ภายใต้การสู้กันแบบเป็นทีม คิดเอาชนะพวกมันนั้นไม่ยาก

 

เคร้ง เคร้ง!

 

เสียงคมดาบปะทะกันสั้นๆ

 

ฮังอวี่ถือดาบในมือขวา และกระบี่ในมือซ้าย เขาเปิดใช้สกิลโจมตีต่อเนื่อง และเนื่องจากเขาถืออาวุธสองชิ้น ดังนั้นเอฟเฟกต์ของสกิลจึงเพิ่มเป็นสองเท่า ทุกการโจมตีเสมือนดั่งลมกรรโชก พริบตาเดียวฟาดฟันได้มากกว่า 6 – 7 ครั้ง

 

แม้ความเร็วในการโจมตีจะว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อ

 

แต่ด้วยความสามารถของเย่กู่ มันยังคงปัดป้องได้

 

ยังไงก็ตาม ด้วยการเข้าพัวพันของหมาป่าหายนะชั้นยอดและอัศวินอันเดธ การรับมือของเย่กู่จึงเป็นไปอย่างยากลำบาก มีบางครั้งที่หลุดการป้องกัน บาดแผลเริ่มปรากฏขึ้นตามคอ ต้นขา หน้าท้อง และแขนของมัน

 

ไม่ได้การ!

 

เย่กู่รู้สึกได้ว่าพลังชีวิตของมันลดลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว

 

พละกำลังของมันถดถอย ปฏิกิริยาเชื่องช้าลง เกิดอาการเหนื่อยหอบ

 

กระบี่ในมือซ้ายฮังอวี่แทงเข้าที่ไหล่ขวาของเย่กู่ ตอกคมกระบี่ลึกเข้าไป เลื่อยไปมาจนแขนซ้ายขาด ขณะเดียวกัน ดาบในมือขวาฟันลงที่แขนซ้ายของมัน สะบั้นแขนเย่กู่ขาดกระเด็นทันที จากนั้นก็ดีดตัวถอยออกมา สั่งการหมาป่าหายนะชั้นยอดเข้าขย้ำและฉีกขาคู่ต่อสู้

 

เย่กู่ล้มลงกับพื้น สูญสิ้นเรี่ยวแรง

 

มันตกอยู่ในสภาวะใกล้ตาย

 

สถานการณ์ของเย่โน่ก็คล้ายคลึงกัน มันถูกเสี่ยวไป หวังเอ๋อทุบตีจนการเป็นจิ้งจอกพิการ

 

ฮังอวี่สั่ง “อย่าพึ่งฆ่าพวกมัน เสี่ยวไป๋รีบใช้สกิลผนีก อย่าให้พวกมันฟื้นตัว”

 

ตามคำขอฮังอวี่ เสี่ยวไป๋เปิดใช้งานเทคนิคผนึกดอกไม้ภูติบนร่างเย่โน่และเย่กู่ สำหรับมนุษย์จิ้งจอกทั้งสอง เอาจริงๆสกิลนี้จะมีผลได้แค่เฉพาะตอนที่พวกมันใกล้ตายเท่านั้น

 

เมื่อปิดผนึกแล้ว

 

อัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตจะหยุดลง

 

สกิลทั้งหมดไม่สามารถใช้งาน

 

แน่นอนว่าไม่มีโอกาสที่จะได้ดื่มโพชั่นรักษาหรือใช้คัมภีร์สกิล

 

พูดได้เลยว่าหากฝั่งฮังอวี่ไม่ปลดผนึก ต่อให้ถูกคนเลเวลต่ำฆ่าพวกมันก็ไม่มีโอกาสได้ตอบโต้

 

ณ ตอนนี้

 

ฝูงหมาป่าหายนะที่หวังเอ๋อรวบรวมมา

 

มีมากกว่า 30 ถูกสังหาร!

 

ส่วนหมาป่าหายนะชั้นยอดขั้นโกลด์ที่ฮังอวี่อัญเชิญผ่านคัมภีร์สกิลถูกฆ่าตายไป 3 ตัว อัศวินอันเดธเสียเลือดไปไม่น้อย กระทั่งมดยักษ์ชั้นยอดที่ถูกราชินีมดเรียกยังมีตายและบาดเจ็บหลายตัว

 

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความสูญเสียที่เกิดจากการตอบโต้ของมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงทั้งสองตัว

 

พวกมันไม่เพียงแต่แข็งแกร่ง แต่ยังมีคัมภีร์สกิลและไอเท็มเฉพาะ มีไพ่หลายใบในมือ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีจ่ะต่อกร แต่โชคดีที่มีเพียงสองตัวเท่านั้น ทุกอย่างจึงผ่านไปได้อย่างราบรื่น

 

ฮังอวี่ยังไม่ฆ่าพวกมันในตอนนี้

 

แต่ที่แน่ๆเขาไม่คิดพยายามเจรจาข้อตกลงกับพวกมนุษย์จิ้งจอกอย่างแน่นอน

 

เพราะในโลกวิญญาณ

 

มีเพียงแค่พิชิตคนอื่นเท่านั้น

 

ไม่งั้นก็จะเป็นคุณเองที่ถูกพิชิต!

 

คนอ่อนแอไม่มีโอกาสต่อรอง!

 

ฮังอวี่แจ้งข่าวแก่จ้าวหมิง ขอให้พาคนอื่นๆในฐานที่มั่นมาที่นี่โดยเร็วที่สุด

 

ใช้เวลาไม่นาน

 

คน 20 – 30 คนก็ตรงมาที่นี่อย่างรีบร้อน

 

จ้าวหมิง ฉูเทียนหัว เจียงหนาน และคนอื่นๆต่างอยู่กันพร้อมหน้า

 

เจียงหนานจ้องไปยังมนุษย์จิ้งจอกทั้งสองและกล่าวว่า “ฮึ่ม เพราะพวกแกกล้าโจมตีสหายของพวกเรา เลยต้องถูกพี่มหาเทพลงโทษ!”

 

จ้าวหมิง ฉูเทียนหัวต่างก็ประหลาดใจ

 

ฮังอวี่สามารถจับตัวมนุษย์จิ้งจอกได้จริงๆ

 

เขาช่างทรงพลัง!

 

อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกัน

 

ทุกคนในที่นี้เผยสีหน้าวิตกกังวล

 

มนุษย์พึ่งบุกเข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกา และไม่มีเวลามากพอที่จะตั้งหลัก ปัจจุบันพลังของพวกเขายังอ่อนแอ ดังนั้นการปะทะกับชนพื้นเมืองในท้องที่จึงไม่ใช่เรื่องน่ายินดี

 

“ใครมีมนตร์สายเสน่ห์หรือสกิลสะกดจิตบ้าง?”

 

ฮังอวี่เอ่ยถามในไปฝูงชน

 

จุดประสงค์ของเขานั้นง่ายมาก : ทรมานเพื่อรีดข้อมูล!

 

ทุกคนมองหน้ากันแต่ไม่มีใครตอบ

 

จริงอยู่ที่พวกเขาบางคนมีสกิลพรสวรรค์ที่มีเอฟเฟกต์ประมาณที่ฮงอวี่ต้องการ แต่ปัญหาคือ มนุษย์จิ้งจอกทั้งสองมีเลเวลสูงเกินไป แม้พวกมันจะอยู่ในสถานะปิดผนึก แต่ด้วยความสามารถของพวกเขา เป็นเรื่องยากที่จะใช้สกิลใส่พวกมันอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ไม่มีเลยหรือ?

 

ดูท่าจะเป็นเรื่องยากซะแล้วสิ!

 

มนุษย์จิ้งจอกทั้งสองไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป

 

จำนวนมนุษย์เดิมก็มีน้อยอยู่แล้ว และพวกเขาต้องออฟไลน์ทุกวัน ดังนั้นไม่สามารถเฝ้าพวกมันได้ 24 ชั่วโมง ขณะที่ความสามารถของมนุษย์จิ้งจอกสองตัวนี้ไม่อ่อนแอ และระยะเวลาผนึกของเสี่ยวไป๋ก็มีจำกัด

 

“ฉันจะลองดู”

 

เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน

 

ทุกคนหันไปตามเสียง และพบว่าชายชราที่ผอมแห้งและดูมืดมนก้าวออกมา

 

คนๆนี้มีอายุเกิน 70 ปีแล้ว เป็นหนึ่งในคนที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม

 

แน่นอน หลังจากเข้าสู่โลกวิญญาณ อายุไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป สมรรถภาพทางกายภาพโดยรวมทุกคนเทียบเท่ากัน

 

และความจริงที่ว่าชายชราสามารถมายังอาณาจักรมังกรโลกาได้ แสดงว่าพลังรบของเขาไม่อ่อนแอ แท้จริงคนผู้นี้มาถึงเลเวล 7 แล้ว!

 

ฮังอวี่ จ้าวหมิง ฉูเทียนหัว ไม่ได้มีความทรงจำเกี่ยวกับคนผู้นี้มากนัก เพราะถึงแม้พลังรบของเขาจะไม่เลว แต่ก็อยู่ในระดับปานกลางของกลุ่ม ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ

 

“บอสฮัง ฉันชื่อว่าถังรู่ เคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีสกิลพรสวรรค์คือการอ่านใจ” ชายชราแนะนำตัวกับฮังอวี่และกล่าวว่า “สกิลนี้แทบไม่มีประโยชน์ในป่าแห่งการเริ่มต้น แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนเป็นโอกาสเหมาะที่จะใช้มัน”

 

อ่านใจ?

 

นั่นเป็นความสามารถที่พิเศษมาก

 

สกิลนี้สามารถดึงความทรงจำของสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาออกมาได้โดยตรง

 

ยิ่งสกิลแก่กล้า เอฟเฟกต์การอ่านใจก็จะยิ่งแข็งแกร่ง มันสามารถรุกล้ำเข้าสมองของสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาเหมือนแฟลชไดรฟ์ จากนั้นคัดลอกข้อมูลและถ่ายโอน นำออกมาตามต้องการ

 

ต่อให้เป็นความทรงจำที่เป้าหมายโยนทิ้งๆขว้างๆไว้ในมุมลึกๆมุมหนึ่ง

 

สกิลนี้ก็ยังสามารถคัดลอกออกมาได้

 

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขในการอ่านใจนั้นไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่ ประการแรก อีกฝ่ายต้องเป็นมอนสเตอร์ที่มีสติปัญญา ประการที่สอง ต้องมีการสัมผัสตัว ซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน

 

ถังรู่?

 

จำได้แล้ว!

 

สกิลพรสวรรค์ของเขาไร้ประโยชน์ในป่าแห่งการเริ่มต้น

 

แต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างออกไป ความสามารถดั่งซี่โครงไก่ไร้เนื้อในตอนนั้น บัดนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

 

ฮังอวี่พยักหน้าและกล่าวว่า “งั้นคงต้องรบกวนเหล่าถังแล้ว ผมจำเป็นต้องรู้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับมนุษย์จิ้งจอก ไม่ว่าจะเป็นจำนวน พลังรบ ฐานที่มั่นของมัน ฯลฯ!”

 

“ตกลง”

 

ถังรู่วางมือลงบนมนุษย์จิ้งจอกที่ถูกกลีบดอกไม้พันเป็นมอมมี่

 

ในไม่ช้า เขาก็ประสบความสำเร็จในการคัดแยกและถอดรหัสหน่วยความจำ

 

ขนาดกลุ่มมนุษย์จิ้งจอกกลุ่มนี้ไม่ใหญ่นัก มีพวกระดับสูงทั้งหมด 18 ตัว และกองทัพประมาณ 800 – 900 ตัว ซึ่งเดิมอาศัยกันอยู่ในรูปแบบกองโจร

 

ในตอนแรกพวกมันเป็นแค่กลุ่มโจร

 

ออกร่อนเร่พเนจรไปทั่วไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง

 

รวมกลุ่มกันออกล่ามอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่น ไล่ฆ่า BOSS ตัวเล็กๆในพื้นที่เพื่อรับทรัพยากรมาดำรงชีวิต

 

แต่เมื่อประมาณครึ่งปีก่อน กลุ่มมนุษย์จิ้งจอกได้เดินทางมาถึงบริเวณใกล้ๆกับเมืองที่ชื่อว่าหุบเขาเดียวดาย พวกมันได้ยินว่ามีการต่อสู้ภายในเกิดขึ้นในเมือง

 

เมืองหุบเขาเดียวดายถูกครอบครองโดยก็อบลินหมีมานานกว่าสิบปี

 

แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผู้นำก็อบลินหมีตายลงอย่างกะทันหัน

 

ก็อบลินหมีระดับสูงตัวอื่นๆจึงต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งขุนนางเล็กที่ว่างลง พวกมันสู้กันเองเหมือนสุนัข ส่งผลให้กำลังรบส่วนใหญ่ของก็อบลินหมีถูกฆ่าตาย และอยู่ในระหว่างรอฟื้นคืนชีพ พลรบตายลงมากกว่าครึ่ง

 

กองโจรมนุษย์จิ้งจอกเล็งเห็นโอกาสนี้

 

พวกมันเฝ้ารอจังหวะที่ก็อบลินหมีต่อสู้กันจนถึงจุดที่ดุเดือดที่สุด และฉวยโอกาสจากสถานการณ์เข้าโจมตีเมืองในคราเดียว กวาดล้างก็อบลินหมีทั้งหมดที่เหลืออยู่ ทำลายแผ่นศิลาฟื้นคืนชีพทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันฟื้นคืนชีพอีกต่อไปแล้วเข้ายึดครองเมืองหุบเขาเดียวดาย

 

สรุปคือ

 

กองโจรมนุษย์จิ้งจอกได้กลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของเมืองนี้

 

หัวหน้ากองโจรมนุษย์จิ้งจอกได้ขึ้นเป็นขุนนางเล็กคนใหม่

 

เจ้าเมืองหุบเขาเดียวดายเกิดการเปลี่ยนมือ ขุนนางใหญ่ผู้ปกครองพื้นที่แถบนี้ย่อมทราบ แต่ตราบใดที่เมืองหุบเขาเดียวดายยอมจ่ายค่าธรรมเนียมความคุ้มครองแบบเต็มจำนวนให้แก่ขุนนางใหญ่ ขุนนางใหญ่ก็ไม่สนใจว่าเจ้าเมืองหุบเขาเดียวดายจะเป็นใคร

 

ซึ่งหลังจากครอบครองดินแดนได้แล้ว

 

ก็เท่ากับมีทรัพยากรมากขึ้น

 

ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา กองโจรมนุษย์จิ้งจอกสามารถเพิ่มพูนพลังรบได้อย่างรวดเร็ว

 

เย่โน่ เย่กู่คือหนึ่งในสิบแปดโจรแห่งเมืองหุบเขาเดียวดาย และความแข็งแกร่งของพวกมันจัดอยู่ในระดับอ่อนแอเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆในกองโจร

 

หลังจากได้รับข้อมูลดังกล่าว สีหน้าของทุกคนยิ่งเคร่งเครียดกว่าเดิม ดูเหมือนว่าสถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญอยู่จะร้ายแรงกว่าที่คาดไว้ … นี่ไม่ใช่ชนพื้นเมืองเร่ร่อน แต่เป็นชนพื้นเมืองที่มีดินแดน!

 

พวกมันคือเจ้าของเมืองหุบเขาเดียวดาย

 

และมีมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงมากถึง 18 ตัว!

 

นอกจากนี้ยังมีทหารอีกเกือบพันนาย!

 

จ้าวหมิงขมวดคิ้ว “ตอนนี้จะจัดการกับสองตัวนี้ยังไง?”

 

ทางเลือกไม่ฆ่าแล้วปล่อยกลับเมืองหุบเขาเดียวดาย จากนั้นขอโทษเจ้าเมืองถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคงทำไม่ได้เว้นแต่สมองจะพิการ เพราะการปรองดองกันระหว่างมนุษย์กับพวกมันคงไม่มีทางเกิดขึ้น!

 

เมื่อมนุษย์จิ้งจอกรู้ว่ามีชาวต่างถิ่นปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ

 

พวกมันจะต้องส่งพลรบและทีมล่าออกค้นหาอย่างแน่นอน

 

ทุกคนพึ่งออกจากป่าแห่งการเริ่มต้น ตอนนี้มีฐานที่มั่นแค่แห่งเดียวในถ้ำ ไม่มีอาณาเขตของตัวเองแบบตายตัว ไม่สามารถต่อกรกับศัตรูได้ในช่วงนี้ สถานการณ์ร้ายแรงมาก และจำเป็นต้องคิดหาทางออก!