2/2

 

Ep.259 – ตูดยังคงสะอาด

 

สกิลปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์สามารถสร้างสนามพลังในรัศมีที่กำหนด

 

คนนอกเข้าห้ามเข้า คนในห้ามออก

 

เว้นแต่จะมีตัวตนพลังรบระดับทรราชย์ หรือระดับเจ้าถิ่นที่เลเวลสูงกว่า 12 ขึ้นไป มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะสามารถทำลายการปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ปลดปล่อยออกมาจากคัมภีร์สกิลเลเวล 8 ม้วนนี้ได้

 

และอีกเหตุผลหนึ่งที่ฮังอวี่ซื้อคัมภีร์สกิลนี้จากมือของพ่อค้าลึกลับ

 

นั่นคือสกิลปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากกับมอนสเตอร์ธาตุมืด , ประเภทปีศาจ และประเภทอันเดธ

 

เห็นแค่เพียงลิซและโครงกระดูกของมันเกิดสะเก็ดไฟสีขาวตามตัว สร้างดาเมจอย่างต่อเนื่อง โครงกระดูกนักเวทย์เลือดน้อยอยู่แล้ว หากปล่อยทิ้งไว้ซัก 20 วินาที สุดท้ายคงกลายเป็นซากกองกระดูกผุพัง

 

ต้องเผด็จศึกเดี๋ยวนี้!

 

สกิลปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์สามาถรแสดงผลได้เพียง 90 วินาทีเท่านั้น!

 

ซูหยุนปิงยืนนิ่ง และยังคงรักษาสถานะสกิลของเธอต่อไป

 

ด้านหวังเอ๋อเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าดำตัวใหญ่ เปล่งเสียงหอน รีบวิ่งเข้าหาเหล่าโครงกระดูกนักเวทย์ กระโจนเข้าขย้ำพวกมัน ขณะที่ฮังอวี่กับเสี่ยวไป๋ตรงเข้าหาลิซ

 

ลิซตระหนักว่ามันตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายอย่างถึงที่สุด

 

มนุษย์ผู้นี้เจ้าเล่ห์และทรงพลังกว่าที่คาดไว้มาก!

 

อย่างไรก็ตาม ลิซทราบดีว่าหากมันฝืนทนเป็นเวลาราวๆ 90 วินาทีได้ ก็มีโอกาสที่จะหลบหนี

 

มันอาจไม่สามารถเอาชนะการร่วมมือกันของคนพวกนี้ก็จริง

 

แต่หากคิดหลบหนีจริงๆ

 

ต่อให้ภูติมายาตนนี้คอยขวาง ก็อย่าหวังว่าจะหยุดมันได้

 

โครงกระดูกชั้นยอดขั้นโกลด์ทั้งสามตัวเข้าโจมตีพร้อมกัน

 

ฮังเสี่ยวไป๋ปลดปล่อยสกิลขั้น 3 อย่างฝุ่นลวงตาออกมาตั้งแต่แรก ละอองเรืองแสงจำนวนมากเข้าปกคลุมทุกทิศทางอย่างรวดเร็ว สกิลนี้สามารถหลอกลวงการรับรู้และสร้างภาพลวงตาได้

 

ร่างของฮังอวี่หายไปจากขอบเขตการรับรู้ของลิซ

 

แม้ค่าคุณสมบัติจิตรับรู้ของลิซจะสูงมาก แต่ด้วยฝุ่นละอองเรืองแสงจากสกิลฝุ่นลวงตา มันจึงไม่สามารถล็อคตำแหน่งของฮังอวี่ ได้แต่เบนเป้าหมายมาโจมตีเสี่ยวไป๋แทน

 

เปลวเพลิงสีเขียวโหมเข้ากลืนกินเสี่ยวไป๋

 

เสี่ยวไป๋หลบไม่ทัน ไหล่เธอถูกเผาเกิดอาการแสบร้อน บางจุดบนปีกเธอถูกสะเก็ดไฟเผาเป็นรูใหญ่ ทว่าเด็กสาวตัวน้อยคนนี้กลับไม่แม้จะขมวดคิ้วหรือแสดงท่าทีว่าเจ็บปวดเลย

 

“ศรน้ำแข็งโปรยปราย!”

 

ศรน้ำแข็งนับสิบร่วงโรยลงจากฟากฟ้า

 

ศรหลายดอกปักลงบนร่างลิซ สร้างอาการบาดเจ็บแก่มัน เนื้อตัวคล้ายมีไอน้ำแข็งเกาะ ความเร็วในการเคลื่อนไหวลดลงเป็นอย่างมาก

 

ณ จุดนี้ ลิซถึงค่อยยืนยันได้ ว่าศัตรูตัวน้อยของเขา ที่แท้ก็เป็นระดับเจ้าถิ่นจากโลกวิญญาณที่มีสติปัญญาเช่นกัน!

 

เธอไม่ได้อ่อนแอ อีกทั้งยังมีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย!

 

เมื่อตระหนักถึงพลังรบของเสี่ยวไป๋ ลิซโจมตีสวนกลับ ขณะเดียวกันสั่งการผ่านความคิดให้โครงกระดูกชั้นยอดขั้นโกลด์ทั้งสามกลับมา ร่วมมือกันปราบปรามเสี่ยวไป๋

 

แต่ใครจะคาด

 

ณ จุดนี้ ลิซกลับสัมผัสได้อย่างชุดเจนกว่าโครงกระดูกหนึ่งในสามสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไป คล้ายถูกใครบางคนทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

แน่นอนว่าต้องเป็นฮังอวี่!

 

ฮังอวี่อาศัยจังหวะที่เสี่ยวไป๋พัวพันกับลิซ

 

เริ่มโจมตีอย่างป่าเถื่อนใส่โครงกระดูกชั้นยอดที่ลิซอัญเชิญออกมา

 

พลังรบของฮังอวี่นั้นด้อยกว่าระดับเจ้าถิ่นอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าเขาแก่กล้ากว่าชนชั้นยอดขั้นโกลด์อย่างเห็นได้ชัด และในไม่ช้า เขาคงสามารถกำจัดโครงกระดูกทั้งหมดนี้ลงได้

 

ในเวลาเดียวกัน

 

หวังเอ๋อกำลังไล่ล่าโครงกระดูกนักเวทย์อย่างเมามัน

 

โครงกระดูกนักเวทย์ที่เปราะบางอยู่แล้วถูกฟันแหลมของสุนัขขย้ำไม่มีชิ้นดี

 

ณ ตอนนี้

 

โครงกระดูกชั้นยอดขั้นโกลด์ตกอยู่ในการควบคุมของฮังอวี่อย่างสมบูรณ์

 

โครงกระดูกนักเวทย์ถูกสุนัขปราบปรามและสังหารสิ้น

 

ขณะเดียวกัน ลิซถูกระดมโจมตีอย่างรุนแรงจากเสี่ยวไป๋ เธอไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองเลยสักนิด โหมโจมตีไม่ยอมให้หยุดพัก

 

นอกจากนี้ มันยังถูกสกิลปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์และเขตแดนแห่งความเงียบสะกดข่มเอาไว้ … สถานการณ์เลวร้ายมาก!

 

ลิซเปลี่ยนกลยุทธ์ของมันทันที ไม่สำคัญอีกต่อไปว่าจะต้องตอบโต้กลับหรือไม่ ในตอนนี้ มันแค่พยายามหลบเลี่ยงการโจมตี เอาตัวเองให้รอดก็พอ ทว่าทันทีที่คิดได้แบบนี้ ร่างเล็กๆของเสี่ยวไป๋ก็ยิงใบมีดสายลมหลายสายเข้าหามัน

 

“เพลิงผีคุ้มกาย”

 

ลิซวาดไม้เท้าในมือ ทั้งร่างของมันถูกล้อมรอบไปด้วยเปลวเพลิง ใบมีดสายลมปะทะกับเปลวเพลิงสีเขียว สีเขียวสดใสหมองลงคร่งหนึ่งทันที

 

“โล่วิญญาณ!”

 

“เทคนิคโนโครแมนเซอร์ฟื้นฟูพลังชีวิต!”

 

ลิซปลดปล่อยสกิลป้องกันและฟื้นฟูติดต่อกัน

 

มันไม่สนใจโต้กลับอีกต่อไป เพียงแค่ต้องการออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุดก็เท่านั้น

 

เสี่ยวไป๋มีประสบการณ์มากมาย เธอตระหนักได้ทันทีว่าลิซพยายามจะทำอะไร จึงเร่งเร่งการควบคุมฝุ่นลวงตาให้แคบลง การป้อมล้อมจะได้แน่นหนาขึ้น

 

ฝุ่นลวงตาคือสกิลที่มีคุณสมบัติพิเศษ

 

ยิ่งความเข้มข้นสูงเท่าไหร่ ช่องว่างที่เล็ดลอดจะมีน้อยลง ขณะเดียวกันเอฟเฟกต์ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

 

เสี่ยวไป๋ตั้งใจปล่อยให้ลิซหลงทางอยู่ข้างใน เพื่อปิดตายหนทางในการหลบหนีของมัน

 

แต่เห็นได้ชัดว่าลิซมีวิธีแก้ปัญหานี้ มันหยิบคัมภีร์สกิลออกมาทันที นี่คือคัมภีร์เดียวกับที่ช่วยให้มันรอดจากสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อวาน

 

“เทคนิคปัดเป่า!”

 

เอฟเฟกต์ของสกิลระเบิดออก

 

ฝุ่นเรืองแสงกระจัดกระจายหายไปอย่างรวดเร็ว

 

เสี่ยวไป๋รีบใช้สกิลน้ำแข็งเพื่อเสริมการโจมตี สกิลดังกล่าวสามารถก่อให้เกิดสถานะแช่แข็ง ซึ่งช่วยลดความปราดเปรียวของลิซได้ นี่เป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถลดโอกาสหนีของมัน

 

และในช่วงเวลานี้เอง

 

ฮังอวี่สามารถโค่นโครงกระดูกชั้นยอดขั้นโกลด์ตัวสุดท้ายลงได้สำเร็จ

 

เขาไม่กล้าเข้าใกล้ลิซมากเกินไป เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะยังมีไพ่ตายที่ทรงพลัง ดังนั้นเว้นระยะ 30 เมตรแล้วเรียกธนูคำสาปหินออกมาเปิดด้วยศรจู่โจม

 

ไม่ได้การ!

 

ลิซถูกรุมโจมตีจากทั้งเสี่ยวไป๋และฮังอวี่

 

มันรู้สึกได้ชัดมากๆว่าหากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปจะต้านไม่ไหว

 

ยังเหลือเวลาอีกประมาณ 20 วินาทีกว่าที่ปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์อันร้ายกาจนี้จะหมดลง หากต้องถูกทุบตีเช่นนี้ต่อไป มันคงตายแน่นอน หรือต่อให้ปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์หายไปแล้ว แต่โดนโจมตีอย่างหนักถึงเวลานั้นคงไม่เหลือแรงหลบหนี

 

ลิซไม่ลังเลอีกต่อไป

 

มันเปิดใช้งานสกิลขั้น 3 – แผดเผาพลังวิญญาณ!

 

สกิลนี้จะลดค่าคุณสมบัติพลังวิญญาณของลิซลงชั่วคราว อีกทั้งยังทำให้การโจมตีด้วยสกิลของลิซเบาลง แต่จะช่วยเสริมให้พลังชีวิต พลังจิต และพลังป้องกันเพิ่มมากขึ้นแทน สามารถฝืนอดทนต่อไปได้นานกว่าเดิม

 

เสี่ยวไป๋ไม่นึกว่าลิซจะมีสกิลเช่นนี้

 

นี่เป็นครั้งแรกที่สีหน้าเลือดเย็นของเธอแสดงออกถึงความวิตกกังวล

 

เนื่องจากพลังชีวิตของลิซจะได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้บนตัวของมันยังถูกปกป้องด้วยสกิลป้องกันถึงสองอย่าง ถ้าให้พยายามกำจัดภายในเวลา 10 วินาที คงเป็นไปไม่ได้

 

ฮังอวี่เองก็ตระหนักถึงปัญหานี้เช่นกัน

 

แม้พลังของนักธนูจะช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็ยังไม่มากพอในตอนนี้

 

และในที่สุด

 

ปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มหรี่แสงลง ลิซเห็นว่าโอกาสหลบหนีมาถึงแล้ว รีบเปิดใช้งานคัมภีร์ปัดเป่าอีกครั้ง ตามมาติดๆด้วย

 

สกิลขั้น 3 : เทคนิคลับอีกาลี้ภัย!

 

ร่างของลิซลอยขึ้นไปในอากาศ และแตกตัวเป็นอีกาตาแดงหลายสิบตัวบินกระจายไปทุกทิศทาง พุ่งเข้าหาแสงศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะมอดดับลงในไม่ช้า

 

เจ้ามนุษย์น่าตาย!

 

เจ้าจะต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำ!

 

หากรอดจากภัยพิบัตินี้ไปได้ ลิซจะต้องกลับมาแก้แค้นอย่างแน่นอน

 

มันตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริงๆ แต่ใครจะรู้ ว่าในเวลานั้นเอง

 

ณ ช่วงเวลาที่แสงศักดิ์สิทธิ์จางลงอย่างถึงที่สุด และกำลังจะหายไป

 

จู่ๆแสงศักดิ์สิทธิ์ใหม่เอี่ยมกลับปิดล้อมอีกครั้ง!

 

ร่างแปลงอีกาดำของลิซไม่ทันตั้งตัว พุ่งเข้ากระแทกตัวติดไฟทันที หลายจุดบนร่างกายถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิงสีขาวจำนวนมาก ร่วงตกจากฟ้าสู่พื้น กลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม

 

ได้ไงกัน?

 

ลิซตกตะลึงอย่างสมบูรณ์

 

ฮังอวี่ผ่อนลมหายใจโล่งอก

 

คิดถูกจริงๆที่เตรียมคัมภีร์ปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้อีกม้วน!

 

ลิซล้มเหลวในการหลบหนี สภาพของมันย่ำแย่มาก สุมนโครงกระดูกทั้งหมดหายไป แล้ว เช่นนี้มันจะสู้กับกลุ่มของฮังอวี่ต่อไปได้อย่างไร? เมื่อไม่เหลือจากเลือกอื่น จึงใช้ฝีปากเข้าช่วยทันที

 

“ช้าก่อน ข้ายินดีเจรจากับพวกเจ้า”

 

อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่ไม่คิดเจรจาใดๆ

 

เสี่ยวไป๋ระเบิดสกิลหลากหลายติดต่อกัน ฮังอวี่ทิ่มแทงหอกประกายแสง ระดมทุบตีอย่างต่อเนื่อง ไม่เปิดโอกาสให้ลิซได้ต่อต้าน

 

“เสร็จซักที”

 

เมื่อลิซกลายเป็นกองขี้เถ้าหลังจากที่มันตาย

 

ฮังอวี่ก็พบกล่องและใส่ลในมิติเก็บของ

 

[กล่องวิญญาณของลิซ] สีฟ้าคุณภาพต่ำ , ไอเท็มที่ลิซเหลือทิ้งไว้ , บรรจุไปด้วยพลังวิญญาณมหาศาล

 

ไม่เลว

 

ใช่มันจริงๆ!

 

“เจ้าหมา เสี่ยวไป๋ ทั้งคู่ทำได้ดีมาก”

 

ฮังอวี่เริ่มจากชื่นชมหวังเอ๋อและเสี่ยวไป๋

 

หากปราศจากจมูกของหวังเอ๋อ ฮังอวี่ไม่มีทางหาศัตรูพบ และหากปราศจากพลังรบอันแข็งแกร่งของเสี่ยวไป๋ ฮังอวี่เพียงลำพังคงไม่สามารถโค่นลิซลงได้

 

วันนี้ที่สามารถขจัดภัยคุกคามอย่างลิซ

 

ต้องยกเครดิตให้ทั้งคู่

 

ใบหน้าเลือดเย็นของเสี่ยวไป๋กลับมาเป็นธรรมชาติและแสดงท่าทีมีความสุขอีกครั้ง

 

หมาหวังเอ๋อคล้ายมองหาอะไรบางอย่าง มันทำจมูกฟุดฟิดดมไปรอบๆ

 

ฮังอวี่หันมาพูดกับซูหยุนปิง “เป็นยังไงบ้าง ถ้าอาจารย์ตบตูดก่อนออกจากบ้านจริงๆ ผมกล้าพูดได้เลยว่าตอนนี้บนตูดอาจารย์ แม้ฝุ่นซักเม็ดคงไม่มีติดอยู่”

 

“นายนี่มัน … จริงๆเลย … ”

 

ซูหยุนปิงอยู่ในอารมณ์อันซับซ้อน

 

ตั้งแต่เริ่มจนจบ การต่อสู้นี้กินเวลาไม่ถึงห้านาที

 

แต่ผลลัพธ์อันลึกล้ำนี้มันทำให้ซูหยุนปิงต้องรู้สึกช็อก

 

เธอเห็นกับตาตัวเอง ว่าฮังอวี่ฉีกทึ้งชนชั้นยอดขั้นโกลด์ทั้งสามออกเป็นชิ้นๆราวกับของเล่น

 

เธอยังเห็นเสี่ยวไป๋และลิซ สองสิ่งมีชีวิตอันทรงพลังจากโลกวิญญาณเผชิญหน้ากัน

 

เอาจริงๆแม้แต่พลังรบของสุนัขก็ไม่ควรมองข้าม!

 

ซูหยุนปิงรู้แค่ว่าเมื่อก่อนฮังอวี่แข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าฮังอวี่แข็งแกร่งขนาดไหน อีกทั้งยังมีไพ่ตายที่ทรงพลังอย่างเสี่ยวไป๋

 

ฮังอวี่ไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป เดิมเขาคิดว่าลิซถูกฆ่าเสร็จแล้วจะจากไปทันที

 

แต่ในตอนนี้ สุนัขกลับค้นพบอะไรบางอย่าง

 

มันวิ่งกระโดดหาเขาอย่างกระตือรือร้น

 

“ฮ่ง เจ้านาย ดูเหมือนว่าลิซจะซ่อนสมบัติไว้!”