1/3
Ep.255 – ผลเก็บเกี่ยว
[ใจศึกห้าวหาญ] (ชิ้นส่วนมรดกของนักรบห้าวหาญ) , สีเขียวคุณภาพสูง , สกิลมรดกขั้น 2 , เงื่อนไขการเรียนรู้ 250 แต้มวิญญาณ
ปรากฏว่าเป็นสกิลหลักของนักรบห้าวหาญ
มรดกขั้น 1 ของนักรบห้าวหาญคือผู้กล้า ซึ่งฮังอวี่ไม่ได้ใช้มัน
อย่างไรก็ตาม จากที่ฮังอวี่รู้มา ฉูเทียนหัวคือผู้สืบทอดมรดกผู้กล้า
และเขายังไม่ได้รับหินสกิลนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะ หินสกิลนี้มีราคาอย่างน้อย 200 หินคริสตัลเขียวหากซื้อกับพ่อค้าลึกลับ ถึงฉูเทียนหัวจะเป็นบุคคลในกองทัพ แต่ก็ไม่สามารถทุ่มทรัพยากรมหาศาลของกองทัพเพื่อซื้อสกิลราคาสูงแก่ตัวเองได้
ฮังอวี่คิดว่าเขาสามารถใช้หินสกิลนี้แลกเปลี่ยนกับฉูเทียนหัวเพื่อสกิลที่ต้องการ
ตัวอย่างเช่น หินสกิลหลัก ‘ควงอาวุธคู่’ ของ”ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้” ซึ่งเป็นอาชีพมรดกของขั้นต่อไปของนักสู้
หรือหินสกิลขั้น 2 ของเบอร์เซิร์กเกอร์อย่างปราณโทสะคลั่ง
สรุปแล้ว
มรดกขั้นต่อไปของผู้กล้านั้นเป็นมรดกที่ดี
ต่อไปในอนาคตจะเป็นที่ต้องการของผู้คนจำนวนมาก ในฐานะที่ใจศึกห้าวหาญเป็นสกิลหลักของมรดกขั้น 2 ฮังอวี่ไม่จำเป็นต้องกังวลว่ามันจะขายไม่ออก ต่อให้เขาเก็บไว้กับตัวชั่วคราว ราคาของมันก็ยังไม่ลดลง แถมยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้น
ฮังอวี่ตรวจสอบไอเท็มสีเขียวที่เหลืออีกสองชิ้น
[หมวกเกราะมิโนทอร์แห่งพละกำลัง] อุปกรณ์เลเวล 8 , สีเขียวคุณภาพกลาง , พละกำลัง +2 , ร่างกาย +2 , พลังป้องกันทางกายภาพ +4 , พลังป้องกันเวทย์ +2 , ต้านทานมึนงง +2 , ค่าความทนทาน 30 (ต้องใช้หินคริสตัลเขียวสิบห้าก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)
[เกราะผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์สภาพเก่า] อุปกรณ์เลเวล 8 , สีเขียวคุณภาพต่ำ , พละกำลัง +3 , ร่างกาย +2 , พลังป้องกันทางกายภาพ +8 , ป้องกันเวทย์ +6 , พลังชีวิต +3 , ค่าความทนทาน 30(ต้องใช้หินคริสตัลเขียวสิบแปดก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)
หมวเกราะสามารถเก็บไว้ใช้เองได้
ฮังอวี่ตอนนี้ยังไม่มีหมวกเกราะสวม มีแค่หน้ากาก
หน้ากากที่เขาใส่อยู่ตอนนี้ดรอปจากโนมส์นักกลั่นโพชั่นมนตราในที่หลบภัยของโนมส์ มันคืออุปกรณ์สีเขียวอ่อนที่ช่วยเพิ่มค่าความว่องไวกับเจตจำนง 2 หน่วย และมาพร้อมกับความสามารถในการเลียนเสียงเล็กน้อย
หน้ากากเป็นอุปกรณ์ตำแหน่งใบหน้า
หมวกเกราะเป็นตำแหน่งศีรษะ
ดังนั้นทั้งสองชิ้นไม่ทับกัน
หมวกเกราะมิโนทอร์เพิ่มพละกำลังและค่าร่างกายได้ 2 หน่วย ค่าพละกำลังช่วยเสริมพลังโจมตีแก่ฮังอวี่ ส่วนค่าร่างกายสามารถเพิ่มพลังชีวิต ความแข็งแกร่งทางกายภาพ ฯลฯ เป็นโบนัสเสริมที่ดีสำหรับเขา
ก่อนหน้านี้ที่ไม่เคยใส่หมวกเกราะเลย
เพราะฮังอวี่ยังไม่เจออุปกรณ์ที่เหมาะสม
แต่หมวกเกราะสีเขียวอ่อนชิ้นนี้
เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีระดับค่อนข้างสูงมันจึงมีโบนัสที่ดี
ส่วนไอเท็มสีขาวทั้ง 4 ชิ้นเป็นอุปกรณ์ทั้งหมด
ไม่มีชิ้นไหนโดดเด่นหรือน่าประทับใจ
ส่วนไอเท็มที่ดรอปจากมอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นโกลด์อีกสองตัว มีแค่พ่อมดมิโนทอร์ที่ดรอปคัมภีร์สกิลที่ดี
[คัมภีร์สกิล : วงแหวนเพลิงมรณะ] คัมภีร์สกิลเลเวล 7 , สีขาวคุณภาพสูง , ปลดปล่อยวงแหวนเพลิงมรณะออกมา กระแทกเป้าหมายทั้งหมดที่อยู่รอบตัวออกไป , สร้างดาเมจไฟ 120 หน่วย , รัศมีเอฟเฟกต์ 10 เมตร , จำนวนการใช้งานคงเหลือ 3/3
สกิลนี้สร้างดาเมจสูงในพริบตา ทั้งยังสามารถบังคับเป้าหมายให้ถอยหลังกลับไป
ในเวลาเดียวกัน ฮัสกี้โผล่หัวออกมาจากกระโจมผู้บัญชาการค่าย “ฮ่ง เจ้านาย เจอหีบสมบัติแล้ว”
ฮังอวี่เดินตามฮัสกี้เข้าไป และพบว่ามันเป็นหีบสมบัติคุณภาพดี
การตกแต่งของหีบสมบัติไม่ต่างจากที่หลบภัยของโนมส์มากนัก
ฮังอวี่เปิดหีบสมบัติ เขาพบหินคริสตัลเขียว 30 ก้อน หินคริสตัลขาว 200 ก้อน นอกเหนือจากหินคริสตัลทั้งสองสีแล้ว ยังมีบอลแสงสีเขียว 2 ลูก และบอลแสงสีขาวอีก 6 ลูก
[กระบี่บัญชาการของนายพลมิโนทอร์] อุปกรณ์เลเวล 8 , การโจมตีทางกายภาพ +17 , พละกำลัง +3 , ว่องไว +3 , ร่างกาย +3 , จิตวิญญาณ +3
[โพชั่นลับพละกำลังของมิโนทอร์ชั้นสูง] สีเขียวคุณภาพกลาง , สามารถเพิ่มพละกำลังอย่างถาวร 2 หน่วย , ใช้ได้เพียงครั้งเดียว
แม้ว่าจะไม่มีหินสกิล พิมพ์เขียว หรือไอเท็มเฉพาะที่มีมูลค่าสูงเป็นพิเศษปรากฏขึ้น แต่ไอเท็มทั้งสองนี้ค่อนข้างดีสำหรับฮังอวี่
กระบี่บัญชาการเป็นไอเท็มสีเขียวอ่อนเลเวล 8
เจ้าสิ่งนี้แม้ไม่ได้มาพร้อมการโจมตีธาตุหรือเอฟเฟกต์พิเศษใดๆ แต่อาวุธที่ช่วยเสริมค่าคุณสมบัติถึง 4 อย่าง เป็นอะไรที่หาได้ยากมาก
การโจมตีทางกายภาพของมันคือ 17 หน่วย
เจ้าสิ่งนี้ด้อยกว่าหอกประกายแสงของฮังอวี่เล็กน้อย
เพราะพลังโจมตีของหอกประกายแสงคือ โจมตีทางกายภาพ 15 หน่วย + โบนัสโจมตีธาตุสายฟ้า 5 หน่วย รวมแล้วเป็น 20 หน่วย
แต่ความแตกต่างก็คือ
หอกประกายแสงเป็นอาวุธสองมือ
ขณะที่กระบี่ผู้บัญชาการมิโนทอร์เป็นอาวุธมือเดียว
ทั้งๆที่เป็นอาวุธมือเดียวแต่กลับมีพลังโจมตีดีขนาดนี้
ยิ่งถ้าได้สวมใส่โล่ในมืออีกข้าง ยิ่งแล้วใหญ่
ไม่เลวจริงๆ
ฮังอวี่ดื่มโพชั่นลับต่อ
พละกำลังที่สูงอยู่แล้วเพิ่มขึ้นอีก 2 หน่วยทันที
ฐานพละกำลังของเขาเพิ่มเป็น 14 หน่วย!
ฮังอวี่ตรวจสอบไอเท็มสีขาวชิ้นอื่นๆ และพบว่ามีชิ้นหนึ่งที่พอใช้ได้ มันคือหินสกิลสีขาวของนักบวช ‘พรแห่งความกล้าหาญ’
นี่คือหินสกิลขั้น 2
มันสามารถร่ายแก่เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในรัศมีที่กำหนด
และช่วยให้ทุกคนในทีมเกิดความกล้าหาญ สามารถต้านทานสถานะความกลัว , ลดดาเมจทางจิต และขณะเดียวกัน ยังช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติอีกเล็กน้อย
แม้ไม่น่าประทับใจเป็นพิเศษ
แต่เจ้าสิ่งนี้ก็ไม่ได้แย่
“แต่โดยรวมแล้วไม่น่าพอใจเลยแฮะ”
“เสียดายจริงๆที่เทพธิดานักเปิดสมบัติของฉันไม่อยู่ที่นี่”
“ของที่ออกมาเลยแย่กว่าที่คิดไว้มาก”
แม้ในหีบสมบัติจะเปิดได้อาวุธที่ดี โพชั่นลับ และหินสกิลสีขาวขั้น 2 แต่โดยรวมแล้วยังแย่กว่าตอนเปิดหีบสมบัติในที่หลบภัยของโนมส์มาก!
อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว ฮังอวี่ยังทำใจรับได้
เพราะสุดท้ายแล้ว สินสงครามทั้งหมดที่ริบมาเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า
แค่เฉพาะหินคริสตัลเขียวเพียงอย่างเดียวก็สามารถเก็บเกี่ยวมาได้มากกว่า 70 ก้อน!
นอกจากนี้ ยังเก็บเกี่ยวหินคริสตัลขาวโดยรวมได้มากกว่า 500 ก้อน!
และไอเท็มสีขาวอีกประมาณ 40 ชิ้น ถ้านำพวกมันออกขาย ยอดรวมของหินคริสตัลขาวที่ได้อาจได้ถึง 1000 ก้อน!
ยังเหลือเวลาอีกประมาณ 4 ชั่วโมง
และเวลาเป็นสิ่งมีค่า
“BOSS มิโนทอร์ถูกฆ่าแล้ว” หวังเอ๋อพูดกับฮังอวี่ “ฮ่ง เจ้านาย พวกเรายังต้องฆ่ามอนสเตอร์ที่นี่ต่ออีกไหม?”
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว” ฮังอวี่ปล่อยราชินีมดออกมา “ตอนนี้ฉันมั่นใจว่ายังไงก็อัพเลเวลได้แน่ๆ เพราะงั้นจะปรับส่วนแบ่งแต้มวิญญาณแบ่งไปให้พวกนายทั้งคู่เยอะๆ จะได้อัพเลเวลเร็วๆ ต่อไปจะช่วยงานฉันได้มากขึ้น”
อะไรนะ?
เจ้านายยินดีแบ่งแต้มวิญญาณเพิ่มให้เปิ่นหวัง
นี่มันสุดยอดไปเลย!
หวังเอ๋อรีบขอบคุณเจ้านาย หางของมันหมุนเป็นพัดลมเบอร์สาม
ด้านราชินีมดไม่ตอบสนองใดๆ นี่คือข้อแตกต่างระหว่างสัตว์วิญญาณที่มีสติปัญญากับสัตว์วิญญาณที่ไม่มีสติปัญญา!
หมาหวังเอ๋อสามารถเป็นผู้ช่วยเขาได้
ขณะนี้ตอนนี้ราชินีมดเป็นได้แค่เครื่องมือเท่านั้น
แต้มวิญญาณสะสมในตอนนี้ของฮังอวี่คือเกือบ 1500 แต้ม หากเขาใช้เวลาที่เหลือไล่ฆ่ามอนสเตอร์อย่างสุดความสามารถคงเป็นไปไม่ได้ที่จะอัพเลเวล 8 ในโลกวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฮังอวี่ไม่รีบร้อน
ที่เขาตัดสินใจแบ่งแต้มวิญญาณส่วนใหญ่ให้กับหวังเอ๋อและราชินีมด
เพราะตนยังมีโพชั่นลับแต้มวิญญาณอยู่ในมืออีกสามขวด ถ้าใช้พวกมันจนครบยังไงก็สามารถอัพเลเวล 8 ได้ ซึ่งหลังจากนั้นก็จะทำสัญญากับเสี่ยวไป๋
ขณะที่ปัจจุบันหวังเอ๋อและราชินีมดยังอยู่ในเลเวลต่ำ
ดังนั้น ฮังอวี่ต้องรีบส่งเสริมพวกมันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฮังอวี่กับสัตว์วิญญาณทั้งสองตัวเริ่มไล่ฆ่ามอนสเตอร์ใน 4 ชั่วโมง พวกเขากำจัดมิโนทอร์ไปได้อีกร่วมกว่าร้อยตัว และในจำนวนนั้นมีชนชั้นยอดเกือบ 20 ตัว
ส่วนแบ่งที่ได้รับในระหว่าง 4 ชั่วโมงนี้
ทำให้แต้มของหวังเอ๋ออยู่ห่างจากเลเวล 6 ไม่ถึง 10% เท่านั้น
ในทางกลับกัน ราชินีมดสามารถอัพเลเวล 4 ได้สำเร็จ และตอนนี้มันสะสมแต้มวิญญาณในเลเวล 5 ได้ราวๆ 50% แล้ว ซึ่งหากใช้โพชั่นแต้มวิญญาณของมนุษย์ปลาเข้าช่วย สัตว์วิญญาณทั้งสองของเขาน่าจะอัพเลเวลได้
เวลาใกล้หมดลง
ฮังอวี่เปิดใช้คัมภีร์เทเลพอร์ต กลับมายังที่หลบภัยของโนมส์
ที่หลบภัยของโนมส์ตอนนี้คึกคักมาก มันเต็มไปด้วยผู้คนมากกว่า 100 ชีวิต และทั้งหมดที่เพิ่มเข้ามาเหล่านี้ ล้วนเป็นชนชั้นยอดของค่ายมนุษย์หมูป่า
“นั่นบอสฮัง!”
“สวัสดีครับลูกพี่ฮัง!”
“ขอบคุณที่ให้พี่รองฮัสกี้นำทางพวกเรา!”
“ไม่งั้นพวกเราคงมาถึงที่นี่ไม่ได้ง่ายๆ!”
พวกเขาทั้งหมดมีเลเวลต่ำสุดอยู่ที่เลเวล 5 และมีมากกว่า 30 คนอยู่ในเลเวล 6 อย่างไรก็ตาม เลเวล 5 ส่วนใหญ่ในที่นี้ใกล้อัพเลเวลเต็มที คาดว่าเมื่อกลับไปโลกจริงแล้วกินดื่มเป็นเวลาสามวัน ครั้งต่อไปที่เข้าสู่โลกวิญญาณน่าจะมีเลเวล 6 เพิ่มขึ้นอีกหลายสิบคน
คนเหล่านี้คือเสาหลักของกองกำลัง
แม้พลังรบจะยังอ่อนแออยู่เล็กน้อย
แต่ตราบใดที่ฮังอวี่เป็นผู้นำ พวกเขาก็จะสามารถเข้าท้าทายหอคอยได้!
ฮังอวี่พอใจกับภาพตรงหน้ามาก ดูเหมือนว่าอีกไม่นานเขาก็จะสามารถออกจากป่าแห่งการเริ่มต้นได้แล้ว!
ในเวลาเดียวกัน เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น เห็นแค่เพียงเจียงหนานวิ่งเหยาะๆเข้ามา เหล่าจ้าว ฉูเทียนหัว และคนอื่นๆก็ปรากฏตัวขึ้นในที่หลบภัยของโนมส์เช่นกัน
ดูเหมือนว่าทุกคนจะกลับมาได้อย่างราบรื่น
