3/3

 

Ep.215 – ภูติปีศาจการ์กอยล์หิน

 

มอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 7 นั้นไม่ง่ายเลยหากคิดยั่วยุ

 

ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันทางกายภาพหรือการป้องกันเวทย์ล้วนสูงมาก

 

หากเป็นคนทั่วไป ต่อให้มีอุปกรณ์ครบครัน ก็เกรงว่าจะไม่สามารถทำลายการป้องกันของมันลงได้

 

ดังนั้นดาเมจเกือบ 50 หน่วยที่เจียงหนานสร้างขึ้นจึงเป็นอะไรที่น่าตกใจมาก

 

แน่นอน เจียงหนานเคยทดสอบพลังของสกิลนี้มาแล้วหลายครั้ง

 

เธอทราบดีว่าสกิลนี้ไม่อ่อนแอ แต่ไม่นึกฝันเลยว่าดาเมจที่ทำได้จะเกินจริงไปขนาดนี้!

 

หินสกิลที่พี่มหาเทพมอบให้นั้นทรงพลังจริงๆ มันสามารถเปลี่ยนให้เธอจากพระแม่ผู้รักษาใจดี เป็นพระแม่ใจเหี้ยมได้ในพริบตา

 

ความรู้สึกของการทำดาเมจสูงในครั้งเดียวมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก!

 

คำพิพากษาเป็นการโจมตีที่ทรงพลังอย่างแท้จริง!

 

แล้วอีกอย่าง สกิลนี้มีคุณสมบัติพิเศษสองประการ

 

ประการแรกคือ มันสามารถได้รับโบนัสดาเมจเมื่อใช้งานกับศัตรูประเภทความมืด อันเดธ และปีศาจ

 

ประการที่สองก็คือ สกิลนี้ง่ายต่อการโจมตีที่รุนแรง หรือขยายความก็คือ ยิ่งพลังชีวิตของมอนสเตอร์ลดน้อยลงเท่าไหร่ โบนัสดาเมจก็จะยิ่งสูงขึ้น เป็นสกิลลาสช็อตขนานแท้!

 

อุปกรณ์สวมใส่ของเจียงหนานนั้นไม่เลว

 

และการ์กอยล์หินเองก็เป็นมอนสเตอร์ปีศาจ

 

อีกทั้งเธอยังรอใช้งานสกิลในช่วงเวลาที่พลังชีวิตของมันเกือบถึงจุดต่ำสุด

 

จึงไม่น่าแปลกใจที่สร้างดาเมจได้เกือบ 50 หน่วย

 

ถ้าถามว่าข้อเสียของสกิลนี้คืออะไร? นั่นคงเป็นคูลดาวน์ที่มากกว่า 30 วินาที

 

หากเป็นนักรบหรือนักเวทย์ สองอาชีพนี้มีสกิลโจมตีมากมาย ดังนั้นแม้มีสกิลที่ต้องรอคูลดาวน์ถึง 30 วินาที ก็ไม่ค่อยมีผลต่อการโจมตีต่อเนื่องนัก เพราะพวกเขาสามารถสลับไปใช้สกิลอื่นได้ในระหว่างรอ

 

อย่างไรก็ตาม สกิลโจมตีที่สร้างดาเมจสูงๆในช่วงต้นเกมของอาชีพนักบวชนั้นหายากมาก ดังนั้นถึงจะใช้งานได้นานๆครั้ง แต่มีติดตัวไว้ก็ถือว่าได้เปรียบกว่านักบวชคนอื่นมากๆ

 

ด้วยเหตุนี้

 

หน้าที่หลักๆของเจียงหนานจึงยังคงเป็นการสนับสนุน

 

สกิลคำพิพากษาจะถูกสงวนไว้ใช้ในช่วงเวลาสำคัญเท่านั้น

 

“ระวัง อย่าประมาท ยังเหลืออีกสามตัว!”

 

“เหล่าจ้าวยื้อไว้ให้หนึ่งตัว ฉินมู่ขอให้ตั้งสมาธิควบคุมแค่ตัวเดียวก็พอ คนที่เหลือตามฉันไปจัดการอีกตัวหนึ่ง”

 

การ์กอยล์หินยากจะรับมือจริงๆ

 

แต่ก็ต้องยอมรับว่าพลังรบของทีมก็ไม่เลวเช่นกัน

 

ฮังอวี่สามารถต้านทานและต่อสู้ ฉูเทียนหัวคอยประกอบข้างคอยฉวยจังหวะโจมตีคอมโบ

 

เฉินหยูและเสี่ยวเฉียงคอยใช้เวทย์โจมตีช่วยเหลือ ส่วนเจียงหนานรับหน้าที่พร้อมรักษาทุกเวลา

 

ส่งผลให้แม้พบเจอกับสถานการณ์วิกฤตหลายครั้งระหว่างกระบวนการ แต่สุดท้ายก็ยังรอดมาได้ เมื่อการ์กอยล์หินตัวสุดท้ายตายลงภายใต้คมหอกของฮังอวี่ จ้าวหมิงก็สามารถอัพเลเวลได้สำเร็จ

 

จางเสี่ยวเฉียงตบเท้าแสดงความยินดี “ยินดีกับท่านประธานที่อัพเลเวลสำเร็จ!”

 

จ้าวหมิงกลายเป็นบุคคลที่สามที่สามารถเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 6 ต่อจากฮังอวี่และฉูเทียนหัว

 

จ้าวหมิงตื่นเต้นมาก เพราะเมื่อเลเวลอัพแล้ว ไม่เพียงฐานคุณสมบัติจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน แต่นั่นยังหมายความว่าเขาสวมใส่อุปกรณ์เลเวล 6 อย่าง ‘โล่ยักษ์ผู้พิทักษ์’ ที่เคยได้รับจากฮังอวี่ได้แล้ว!

 

พลังงานวิญญาณสีเขียวกะพริบวาบ!

 

โล่ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในมือของจ้าวหมิง

 

โล่นี้มีความสูงกว่าสองเมตร สีโดยรวมเป็นสีเขียว พื้นผิวถูกปกคลุมไปด้วยหนามแหลม ชวนให้ผู้คนรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับกำแพงเหล็กที่มีทั้งคมหอกและคอมดาบพร้อมทิ่มแทงสวนมาตลอดเวลา

 

“ยอดเยี่ยม!”

 

“ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าต่อให้ต้องรับมือกับการ์กอยล์หินสามตัวในครั้งเดียวก็ไม่ใช่ปัญหา! ”

 

เหล่าจ้าวเดิมก็มีพลังป้องกันสูงมากอยู่แล้ว ยิ่งได้รับมรดกนักรบโล่แบบสมบูรณ์ บวกกับพลังป้องกันเพิ่มเติมที่ได้จากโล่ยักษ์ นี่ทำให้เขาราวกับเป็นปราการเหล็กกล้า

 

ก็อย่างที่เหล่าจ้าวพูด

 

ตอนนี้ต่อให้ต้องต้านทานการโจมตีจากการ์กอยล์หินสามตัวพร้อมกันมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่!

 

ยังไงก็ตาม มีได้ก็ต้องมีเสีย การสร้างการป้องกันอันทรงพลังเช่นนี้ เท่ากับว่าเขาต้องสูญเสียพลังโจมตีส่วนหนึ่งไป เมื่อสวมใส่โล่ยักษ์ จ้าวหมิงจะไม่สามารถถืออาวุธได้

 

อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการโจมตีของเหล่าจ้าวก็ใช่ว่าจะเป็นหมันซะทีเดียว

 

เขายังคงสามารถใช้สกิลของนักรบโล่อย่างโล่จู่โจมและโล่กระแทกได้

 

นอกจากนี้ จ้าวหมิงยังมีรัศมีกบฏจากมรดกของจอมกบฏ สกิลนี้แม้ไม่มีพลังโจมตีในตัวมันเอง แต่สามารถสร้างดาเมจจากการโจมตีของศัตรูได้ มันทำให้จ้าวหมิงสามารถสะท้อนดาเมจบางส่วนระหว่างกระบวนการป้องกันได้ไม่มากก็น้อย

 

“ดีมาก!”

 

“ลุงจ้าวอัพเลเวลขึ้นเป็น 6 แล้ว!”

 

“ต่อไปพวกเราจะยิ่งสู้ได้ง่ายกว่านี้!”

 

ฮังอวี่มอบโล่ยักษ์ให้แก่จ้าวหมิงก็เพื่อให้อีกฝ่ายรับบทบาทในวันนี้ ด้วยการป้องกันอันทรงพลังของเขา มากพอแล้วที่จะถ่ายเทแรงกดดันส่วนใหญ่ของทีม นี่ช่วยให้คนอื่นๆจัดการกับการ์กอยล์หินได้ง่ายขึ้นมาก

 

“ฮ่ง เจ้านาย สินสงครามทั้งหมดที่รวบรวมมาอยู่ที่นี่แล้ว”

 

ในตอนนั้นเอง ฮัสกี้ได้รวบรวมไอเท็มทั้งหมดที่ดรอปจากการ์กอยล์หินมากองรวมกัน

 

ในฐานะมอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นโกลด์ การ์กอยล์หินมีอัตราการดรอปที่สูงมาก ครั้งนี้มี การ์กอยล์หินสี่ตัว แต่มันดรอปอุปกรณ์ถึง 7 ชิ้น ไอเท็มเฉพาะ 3 ชิ้น หินสกิลนักเวทย์ 1 ก้อน และหินคริสตัลขาว 38 ก้อน

 

ฮังอวี่กวาดสายตามองสินสงครามที่ริบมา

 

จากอุปกรณ์ทั้ง 7 ชิ้น มีสามชิ้นเป็นชุดเซ็ทการ์กอยล์หิน ได้แก่

 

กางเกงนักรบ , ชุดเกราะนักบวช และรองเท้าผู้ใช้วิญญาณ

 

แม้อุปกรณ์อีก 4 ชิ้นจะไม่ใช่อุปกรณ์สีขาวที่ไม่ดี แต่เมื่อเทียบกับชุดเซ็ทแล้วพวกมันด้อยกว่ามาก

 

สำหรับไอเท็มเฉพาะ 3 ชิ้นที่ดรอป มี 2 ชิ้นเป็นวัตถุดิบ อีกหนึ่งชิ้นเป็นคัมภีร์สกิล

 

คัมภีร์เสียงหอนแห่งความตายเลเวล 7!

 

มันมีเลเวลสูงกว่าคัมภีร์เสียงหอนแห่งความหวาดกลัวในวิหารเนโครแมนเซอร์ ซึ่งเหมาะมากสำหรับการต่อสู้แบบกลุ่ม

 

สุดท้ายคือหินสกิลของนักเวทย์ ‘ประกายสายฟ้าฟาด’

 

นี่คือมรดกของผู้ใช้ศาสตร์สายฟ้าฝึกหัด

 

เฉินหยูสะสมสกิลของมรดกผู้ใช้ศาสตร์สายฟ้าฝึกหัดครบแล้ว

เมทย์นี้ไม่เลว ถือเป็นสกิลโจมตีที่ทรงพลังของนักเวทย์

 

อัตราการดรอปของการ์กอยล์หินนั้นช่างน่าทึ่ง แม้ล่าไปแค่ 4 ตัว แต่กลับดรอปของดีๆมากมาย

 

ขนาดนายทหารใหญ่อย่างฉูเทียนหัวยังอดตื่นเต้นไม่ได้เมื่อเห็นรางวัล “คำนวณจากความสามารถในการล่าของพวกเรา คงสามารถกอบโกยของดีๆได้มากมายในวันเดียว!”

 

“ใช่” จางเสี่ยวเฉียงตะโกนด้วยท่าทางตื่นเต้น “แค่เห็นก็รู้แล้วว่าพวกเราสามารถรวยได้ในวันเดียว!”

 

เฉินหยูกับจ้าวหมิต่างพยักหน้าเห็นด้วย

 

การ์กอยล์หินเหมาะแก่การล่าจริงๆ

 

อัตราการดรอปของมันสูงมาก!

 

ด้วยความสามารถในปัจจุบันของทุกคน ตราบใดที่คุมความเสี่ยง ล่อมาแค่การ์กอยล์หินกลุ่มเล็กๆ ก็สามารถฆ่าพวกมันได้!

 

การกำจัดพวกมันกลุ่มนึงใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาที หากอ้างอิงตามเวลานี้ พวกมันสามารถฆ่ากลุ่ม การ์กอยล์หินได้อย่างน้อย 10 – 20 กลุ่มต่อวัน! ในทางทฤษฏีสามารถฆ่าได้เป็นร้อยตัว … แค่คิดถึงโชคลาภที่กำลังจะเข้ามาก็ฟินแล้ว!

 

ช่างหัวสำรวจเขาวงกต

 

วันนี้พวกเราจะตกปลาการ์กอยล์หิน!

 

เจ้าพวกนี้ไม่เพียงดรอปอุปกรณ์และหินสกิลได้ดี แต่ยังเพิ่มแต้มวิญญาณได้เยอะ!

 

ฮังอวี่พอจะเดาได้ว่าทุกคนคิดอะไรกันอยู่จึงเอ่ยว่า

 

“ไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนที่สามารถล่าได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด” เขาส่ายหัว “เท่าที่ผมรู้ การ์กอยล์หินระดับเจ้าถิ่นจะรู้สึกตัวหากพวกเราเริ่มล่าลูกน้องของมันเยอะเกินไป ”

 

เจียงหนานอุทาน “อา! มีระดับเจ้าถิ่นอยู่ในพวกการ์กอยล์หินด้วย? แบบนั้นก็อันตรายมากเลยน่ะสิ ”

 

“มอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นอันตรายแน่นอน แต่ด้วยความสามารถในตอนนี้ของพวกเรา ถ้าช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่องและไม่หลุดคอมโบ ฉันเชื่อว่าเราสามารถจัดการกับมันได้” ฮังอวี่กล่าว “แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ามันจะโผล่มาเมื่อไหร่ ดังนั้นพวกเราต้องไม่ประมาท”

 

ตามที่ฮังอวี่ทราบ

 

การ์กอยล์หินไม่สามารถล่าได้ตลอดไป

 

เมื่อไหร่ที่การ์กอยล์หินระดับเจ้าถิ่นปรากฏตัวและถูกฆ่า

 

หลังจากนั้นจะไม่มีการ์กอยล์หินปรากฏตัวขึ้นอีกหลายวัน

 

“เอาล่ะๆ”

 

“อย่าเสียเวลากันอีกเลย”

 

“ลุงจ้าวกับบอสซูรับหน้าที่เดิม ล่อมอนสเตอร์มาหาพวกเรา!”

 

จ้าวหมิงกับฉูเทียนหัวไม่พูดพล่ามไร้สาระ พวกเขารับหน้าที่เป็นเหยื่อเนื้อมนุษย์ต่อทันที ทั้งคู่คล่องแคล่วว่องไว ใช้เวลาราวๆ 20 นาทีก็สามารถล่อการ์กอยล์หินกลุ่มเล็กเข้ามาได้ และสุดท้ายก็เข้าสู่กับดักของพวกฮังอวี่ โดนรุมยำโจมตีจนตาย

 

กระบวนการนี้ดำเนินต่อไปราวๆ 5 ระลอกติดต่อกัน

 

ทันใดนั้นเอง ทุกคนพลันได้ยินเสียงแผดร้องที่รุนแรงเป็นพิเศษดังมาจากทิศทางของหอคอย มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและชั่วร้าย ชวนให้ผู้ฟังรู้สึกสั่นเทา

 

“ไม่ได้การ!”

 

“รีบถอยมารวมตัวกันก่อนเร็ว!”

 

“มอนสเตอร์เจ้าถิ่นปรากฏตัวแล้ว!”

 

ทุกคนเริ่มเกิดอาการประหม่าเมื่อได้ยินเรื่องนี้

 

ร่างที่พัวพันไปด้วยแสงสายฟ้าโฉยลงมาจากเบื้องบน ตกลงกลางพื้นที่เปิดโล่งราวอุกกาบาต พื้นดินบริเวณใกล้เคียงยุบตัวเป็นหลุม ลมพายุกระหน่ำกวาดปกคลุมพื้นที่บริเวณใกล้เคียงหลายสิบเมตร

 

แรงกดดันอันแก่กล้าเช่นนี้

 

นี่น่ะหรือการ์กอยล์หินระดับเจ้าถิ่น?

 

ทุกคนมองไปยังกลางหลุมใหญ่ และพบว่ามีการ์กอยล์หินที่ตัวสูงเป็นพิเศษกำลังยืนขึ้น มันเหมือนกับอาร์โนลชวาเซเน็กเกอร์ในร่างการ์กอยล์ เมื่อยืดตัวตรง มีความสูงถึงสามเมตร บนหัวมีเขาปีศาจ สายฟ้ารอบตัวส่งเสียงลั่นเปรี๊ยะๆด้วยพลังงานอันล้นเหลือ

 

ไม่ผิดตัวแล้ว

 

มันคือมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นเลเวล 7!

 

ภูติปีศาจการ์กอยล์หิน!

 

นี่คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของฮังอวี่ในครั้งนี้!