3/3

 

Ep.186 – นกกระยางสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์

 

ภายในเขาวงกต

 

ปีศาจแมวป่าสองตัวถูกการ์กอยล์หินสี่ตัวไล่ทุบตี

 

แม้ความว่องไวของทั้งสองฝั่งจะไล่เลี่ยกัน ทำให้ไม่อาจประชิดในระยะเวลาสั้นๆ แต่พวกการ์กอยล์มีสกิลโจมตีระยะไกล นิ้วทั้งห้าของมันสาดแสงสายฟ้าและยิงออกไป

 

และสกิลนี้มีระยะเวลาคูลดาวน์สั้นมาก มันสามารถยิงได้ในทุกๆสองวินาที แถมพลังโจมตีก็ไม่อ่อนแอ

 

อย่างไรก็ตาม ปีศาจแมวป่าสองตัวก็ยังคงหลบเลี่ยงได้ พวกมันไม่ต่อสู้แต่อาศัยภูมิประเทศอันซับซ้อนในการป้องกันการโจมตี เมื่อรวมกับความปราดเปรียวและการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงแล้ว แม้พวกการ์กอยล์จะทรงพลังกว่า แต่ก็ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก

 

“เกือบถึงแล้ว!”

 

“อยู่ข้างหน้านี่เอง!”

 

“เจ้านาย เปิ่นหวังพึ่งรู้ว่าการเป็นแมวมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด”

 

หมาหวังเอ๋อตอนนี้มีร่างกายเบาหวิว สามารถกระโจนเหยียบกิ่งไม้ใหญ่ วิ่งไต่ลำต้นไม้ ในสภาพเก้าสิบองศาได้ไกลกว่าสิบเมตร

 

ฮังอวี่สังเกตเห็นว่าสภาพแวดล้อมเบื้องหน้าเปลี่ยนไปแล้ว มีรากไม้ขนาดใหญ่เท่าบ้านพัวพันกัน ก่อตัวเป็นโครงสร้างอันซับซ้อนและมีช่องว่างให้สามารถเข้าไปได้

 

มีพื้นที่กว้างอยู่ข้างในนั้น

 

นอกจากนี้ยังมีปีศาจแมวป่าฝูงใหญ่อาศัยอยู่ภายใน

 

พวกเรามาถึงรังของปีศาจแมวป่าแล้ว!

 

รังแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่มีปีศาจแมวป่าอาศัยอยู่มากกว่า 20 ตัว ขณะนี้พวกมันยืนขึ้น เฝ้าดูสถานการณ์อย่างระแวดระวัง

 

“เจ้าหมา รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง”

 

“ไม่ต้องห่วงเจ้านาย ไว้ใจได้เลย!”

 

ฮังอวี่และหวังเอ๋อกระโจนเข้าไปปะปนกับฝูงปีศาจแมวป่า

 

แม้การกลายร่างเป็นปีศาจแมวป่าจะสามารถลดแรงกระตุ้นที่จะโจมตีของปีศาจแมวป่าลงได้มาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่ทำอะไรหากเกิดการโจมตีขึ้น

 

IQ ของมอนสเตอร์ป่าค่อนข้างต่ำ

 

แต่พวกมันยังพอมีสติที่ใช้ในการตัดสินใจระดับหนึ่ง

 

แม้ปีศาจแมวป่าเหล่านี้จะไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างของฮังอวี่และหวังเอ๋อได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถบอกได้ว่าปีศาจแมวป่าทั้งสองเป็นสิ่งมีชีวิตจากภายนอก มิได้อาศัยอยู่ที่นี่ ขืนอยู่นานกว่านี้ พวกมันอาจเริ่มโจมตี

 

ดังนั้น การพึ่งพาโพชั่นมนตราแปลงร่างเพื่อผสมกลมกลืนเข้ากับฝูงมอนสเตอร์

 

จึงเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงมาก

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้มันไม่เหมือนกัน ฝูงปีศาจแมวป่ายังไม่มีเวลาทันได้ขับไล่พวกเขา

 

กลุ่มการ์กอยล์หินทั้งสี่ก็มาเยือน นิ้วทั้งห้าของพวกมันเกิดประกายกระแสไฟฟ้า ยิงไล่หลังฮังอวี่กับหวังเอ๋อเข้าไปกลางฝูงปีศาจแมวป่า สร้างดาเมจแก่พวกมันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

 

การ์กอยล์หินเป็นมอนสเตอร์ที่ค่อนข้างพิเศษ

 

เมื่อเจอเป้าหมายใหม่พวกมันจะใช้สกิลที่เหมือนกับเสียงหอนแห่งความตาย

 

ซึ่งเป็นสกิลโจมตีหมู่ระยะไกลแบบเดียวกับเนโครแมนเซอร์

 

อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งคู่จะเป็นชนชั้นยอดขั้นโกลด์เหมือนกัน แต่เนโครแมนเซอร์มีเลเวลเพียง 4 ขณะที่พวกการ์กอยล์คือ 7

 

สกิลเสียงหอนแห่งความตายของการ์กอยล์จึงทรงพลังกว่าเนโครแมนเซอร์มาก ปีศาจแมวป่าหลายตัวไม่มีเวลาทันหลบหนี ถูกโจมตีได้รับดาเมจและตกอยู่ในสภาวะหวาดกลัว

 

โกรธแค้น!

 

ฝูงปีศาจแมวป่าโกรธแค้นมาก!

 

ปีศาจแมวป่าทั้งหมดระเบิดการโจมตี ตอบโต้ในเวลาเดียวกัน

 

ทางหนึ่งคือผู้บุกรุก ‘สายพันธุ์’ เดียวกันแต่ยังไม่โจมตี

 

อีกทางหนึ่งคือผู้บุกรุก ‘คนละสายพันธุ์’ ที่ล่วงล้ำอาณาเขตและโจมตีทันที

 

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ พวกมันยังต้องเสียเวลาจัดลำดับความสำคัญว่าควรตอบโต้ฝ่ายไหนก่อนอีกหรือ?

 

กระแสอากาสอันคมกริบและรวดเร็วกระหน่ำจากทุกทิศทาง

 

นี่คือสกิลโจมตีระยะกลางของปีศาจแมวป่า ‘กรงเล็บอากาศ’

 

กรงเล็บแล้วกรงเล็บเล่าปะทะโดนตัวพวกการ์กอยล์หิน

 

หัวหน้าฝูงปีศาจแมวป่าที่ตัวใหญ่และมีขนสีขาวว่องไวกว่าปีศาจแมวป่าตัวอื่นๆ มันกระโจนออกไปใส่หนึ่งในการ์กอยล์ ตวัดกรงเล็บ 5-6 ครั้งในพริบตาเดียว ส่งมันร่วงจากกลางอากาศลงสู่พื้น

 

เมื่อต้องเผชิญกับการรุมโจมตีจากฝูงปีศาจแมวป่า

 

การ์กอยล์หินจึงต้องต่อสู้กลับ

 

ปีศาจแมวป่าเป็นเพียงชนชั้นยอดขั้นบรอนซ์ แม้แต่หัวหน้าฝูงของมันก็เป็นเพียงชนชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ ขณะที่การ์กอยล์หินเป็นชนชั้นยอดขั้นโกลด์ ช่องว่างความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองอาจกล่าวได้ว่าค่อนข้างห่างชั้นกัน

 

พลังรบฝั่งการ์กอยล์หินเหนือกว่าเยอะ

 

ทว่าด้านจำนวนปีศาจแมวป่าก็มากกว่าเยอะเช่นกัน

 

ส่งผลให้การรบในช่วงระยะเวลาสั้นๆยากที่จะตัดสินว่าฝ่ายใดจะแพ้หรือชนะ

 

จุดประสงค์ของฮังอวี่ประสบความสำเร็จแล้ว ฉากที่มิอาจควบคุมได้บังเกิดขึ้น

 

การ์กอยล์หินที่เดิมมีหน้าที่ไล่ตามผู้รุกรานจากภายนอกในตอนนี้ กลับกลายเป็นรุกรานถิ่นของปีศาจแมวป่าซะเอง ส่งผลให้เกิดการต่อสู้ระหว่างมอนสเตอร์อันหาได้ยากยิ่ง

 

ทำไมถึงบอกว่าหายาก?

 

เพราะการ์กอยล์หินเป็นมอนสเตอร์ป่า ขณะที่ปีศาจแมวป่าก็เป็นมอนสเตอร์ป่าเช่นกัน

 

ในโลกวิญญาณ การระสู้ระหว่างมอนสเตอร์ป่าด้วยกันเป็นอะไรที่พบเจอได้ยากยิ่ง

 

เนื่องจากกว่าร้อยละ 95% ของมอนสเตอร์ในโลกวิญญาณมีอาณาเขตที่อยู่อาศัยและรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ตายตัว ดังนั้นแทบไม่มีโอกาสรุกรานอาณาเขตวิญญาณของมอนสเตอร์ตัวอื่นโดยไร้เหตุผลเลย

 

การที่มีมอนสเตอร์สองสายพันธุ์ปรากฏตัวขึ้นในสถานที่เดียวกัน

 

ตามปกติแล้วพวกมันมักเข้ากันได้ดี

 

เช่นเดียวกันมอนสเตอร์ลิงหัวเขียวกับต้นไม้ผู้พิทักษ์ในป่าแห่งความเที่ยงธรรม

 

ฉะนั้น สถานการณ์ในตอนนี้จึงเกิดขึ้นได้ยากมาก รูปแบบการดำเนินชีวิตของการ์กอยล์หินนั้นกว้างมากจนสามารถครอบคลุมทั้งเขาวงกต มันจึงสามารถเข้าไปในพื้นที่ใดๆของเขาวงกตก็ได้ และฮังอวี่ก็อาศัยประโยชน์ในข้อนี้

 

ฮังอวี่ไม่เพียงใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เท่านั้น

 

แต่ด้วยการสนับสนุนจากโพชั่นมนตราและหวังเอ๋อ

 

กลุ่มการ์กอยล์หินจึงถูกล่อลวงให้เข้ามาโจมตีรังของปีศาจแมวป่า

 

แม้ระหว่างกระบวนการจะมีความเสี่ยงเล็กน้อย แต่ตอนนี้มันได้บรรลุผลแล้ว!

 

มอนสเตอร์ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด ฉากการต่อสู้เป็นไปอย่างร้อนแรง

 

ปีศาจแมวป่าหลายตัวทนไม่ไหว ถูกสังหารลง พวกมันดรอปบอลแสงสีขาว หินคริสตัลและแต้มวิญญาณออกมา

 

“มอนสเตอร์ที่ฆ่ากันเองก็ดรอปของด้วยหรือ?”

 

หวังเอ่อรู้สึกเบิกบานใจมาก

 

นี่มันเจ๋งไปเลย!

 

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเปรียบดั่งนกกระยางสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์

 

หลังจากปีศาจแมวป่าตาย แต้มวิญญาณที่ปล่อยออกมาจะถูกดูดซับเข้าไปยังร่างของพวกการ์กอยล์หินก่อน แต่แต้มวิญญาณจะไม่เข้าสู่ร่างกายมัน ส่วนใหญ่กระจัดกระจายหายไป และบางส่วนแปรสภาพเป็นไอวิญญาณโลหิตวนอยู่รอบกาย

 

มอนสเตอร์ที่อยู่ในแแผนที่เดียวกัน

 

ในแง่หนึ่งพวกมันเปรียบเสมือนเป็นพันธมิตร

 

ซึ่งตามกฏของโลกวิญญาณแล้ว การสังหารเผ่าพันธุ์เดียวกันหรือพันธมิตรจะก่อให้เกิดไอวิญญาณโลหิต

 

การ์กอยล์หินสังหารปีศาจแมวป่า และหากพวกมันสามารถดูดซับไอวิญญาณโลหิตที่อยู่รอบตัวได้ทั้งหมด การ์กอยล์หินก็มีโอกาสกลายพันธุ์ได้

 

มอนสเตอร์กลายพันธุ์คืออะไร?

 

สามารถเข้าใจได้ง่ายๆประมาณว่า หากคุณอยู่ในพื้นที่ของมอนสเตอร์เลเวล 5 แต่จู่ๆดันเจอมอนสเตอร์เลเวล 6 นั่นแหละคือมอนสเตอร์กลายพันธุ์

 

มอนสเตอร์กลายพันธุ์แม้จะหายาก แต่ก็มีอยู่จริง

 

และประเด็นก็คือแต้มวิญญาณและอัตราการดรอปไอเท็มจากมอนสเตอร์กลายพันธุ์จะสูงกว่าพวกทั่วๆไป

 

ปีศาจแมวป่าจบชีวิตลงทีละตัว ทีละตัวภายใต้สกิลโจมตีระยะไกลของการ์กอยล์หิน กระนั้นฝูงปีศาจแมวป่าก็ไม่ยินดีแสดงความอ่อนแอ พวกมันยังคงโจมตีโต้กลับอย่างบ้าคลั่ง ฝั่งการ์กอยล์หินนานเข้าก็เริ่มทนไม่ไหว เริ่มมีบางตัวล้มลง

 

เมื่อการต่อสู้ใกล้ถึงจุดสิ้นสุด

 

ฝั่งการ์กอยล์หินเหลืออยู่เพียงตัวเดียว

 

ฝั่งปีศาจแมวป่าเหลืออยู่ 4 ตัว

 

ไอเท็มและหินคริสตัลตกเต็มพื้น

 

ทั้งการ์กอยล์หินและปีศาจแมวป่าต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

การ์กอยล์หินปล่อยแสงสายฟ้าที่หนาเท่านิ้วหัวแม่มือสังหารปีศาจแมวป่าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสตายลงอีกตัว แต่ขณะเดียวกันกันมันถูกสกิลกรงเล็บอากาศสองสายโจมตีสวนกลับมา ฉีกปีกข้างหนึ่งของมันขาดกระเด็น

 

เสียงหอนแห่งความตาย!

 

กำปั้นศิลา!

 

การ์กอยล์หินปลดปล่อยสองสกิลพร้อมกัน

 

ปีศาจแมวป่าอีกตัวถูกสังหารลง ตอนนี้เหลือเพียงสองตัวเท่านั้น

 

พลังชีวิตของการ์กอยล์หินใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว ขณะที่ปีศาจแมวป่าอีกสองตัวที่เหลือยังมีพลังชีวิตมากกว่าครึ่ง ดังนั้น ดูท่าว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะจบลงด้วยชัยชนะอันน่าเศร้าของฝูงปีศาจแมวป่า

 

แต้มวิญญาณของการ์กอยล์หินไม่ต่ำต้อย

 

นอกจากนี้ การ์กอยล์หินตนนี้ยังสังหาร ปีศาจแมวป่าไปแล้วอย่างน้อย 7-8 ตัว

 

ไอวิญญาณโลหิตที่สะสมอยู่รอบกายมันหนาแน่นมาก และนั่นหมายความว่ามีอัตราการดรอปที่สูงขึ้นกว่าปกติ

 

จากระเบิดเมือก 50 ลูก ที่ฮังอวี่เตรียมไว้ก่อนเข้าสู่โลกวิญญาณ เวลานี้ยังเหลืออีกราวๆ 16-17 ลูก เขาตัดสินใจควักพวกมันออกมาทั้งหมด แล้วโยนเข้ากลางวงต่อสู้ระหว่างปีศาจแมวป่าและการ์กอยล์หิน

 

การ์กอยล์หินมีภูมิคุ้มกันอาการติดพิษ

 

นอกจากนี้ยังมีพลังป้องกันเวทย์ที่สูงมาก

 

การโจมตีด้วยธาตุไฟจากระเบิดเมือกจึงแทบไม่อาจสร้างดาเมจแก่มันได้

 

อย่างไรก็ตาม ปีศาจแมวป่าสองตัวไม่ใช่แบบนั้น ปรากฏว่ามีตัวหนึ่งตายและอีกตัวแม้รอดก็บาดเจ็บสาหัส และสุดท้ายถูกการ์กอยล์หินสังหารด้วยสายฟ้า

 

มอนสเตอร์ในสมรภูมิ สุดท้ายเหลืออยู่เพียงตัวเดียว

 

ฮังอวี่เปิดใช้งานคลุ้มคลั่งกระหายเลือดทันที อันดับแรกเขาขว้างหอกก้างปลาออกไปสองด้าม พร้อมเปิดใช้งานสกิลประจัญบานโหมเข้าใส่ โจมตีไปอีกสามสี่ที

 

การ์กอยล์หินไม่อาจฝืนยื้อ

 

มันสิ้นเรี่ยวแรง จบชีวิตลง

 

แต้มวิญญาณก้อนใหญ่พร้อมไอเท็มหลายชิ้นดรอปออกมา

 

หมาหวังเอ๋อกระโดดตัวลอยสามเมตร ตะโกนอย่างมีความสุข “ฮ่ง! เจ้านาย พวกเรารวยแล้ว!”