2/2
Ep.177 – วิกฤตการณ์ภายใต้ความมืดมิด
บนรถยนต์
ระหว่างทางกลับ
ซูหยุนปิงเอ่ยถามว่า “คุณพ่อคุณว่าเขาเป็นยังไงบ้าง?”
“เป็นเด็กหนุ่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ฟังจากคำอธิบายก่อนหน้านี้ของลูก และเมื่อมาเห็นด้วยตาตัวเองในวันนี้ พ่อมั่นใจว่าในอนาคต อำนาจและความมั่งคั่งย่อมไม่พ้นเงื้อมมือเขา”
ซูเจิ้งเฉิงกล่าวขณะขับรถ
“หยุนปิง ลูกก็เริ่มมีอายุแล้ว ได้ลองคิดเรื่องแต่งงานบ้างหรือยัง ในเมื่อลูกไม่สนใจหวงจื่อหมิง งั้นถ้าเป็นฮังอวี่ล่ะ พวกลูกอาจจะเข้ากันได้ก็ได้นะ”
สีหน้าของซูหยุนปิงผิดธรรมชาติไปเล็กน้อย
“ทำไมพ่อพูดเรื่องนี้อีกแล้ว” เธอขมวดคิ้วและกล่าว “บอกไปตั้งหลายหนแล้วว่าหนูดูแลตัวเองได้ มีปัญหาอะไรหนูจัดการเอง พ่อไม่ต้องกังวล ตกลงไหม?”
เธอเอ่ยเสริมว่า
“แค่มองหน้าเจ้าหมอนั่นหนูก็รู้สึกโกรธแล้ว”
“พ่ออยากให้หนูคบกับเขาจริงๆหรอ?”
ซูเจิ้งเฉิงแสร้งทำเป็นมีสมาธิในการขับรถ แต่จริงๆแล้วเขายิ้มโดยไม่พูดอะไรซักคำ … มีน้อยคนนักที่สามารถทำให้ลูกสาวเขาเกิดความผันผวนทางอารมณ์ได้ และในข้อนี้ ฮังอวี่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
แต่หลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจ
“ลูกน่าจะรู้สถานการณ์ของสมาคมโลกวิญญาณแล้ว”
“น้ำนิ่งไหลลึก ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าหวง (พ่อหวงจื่อหมิง) ความทะเยอทะยานของเขายิ่งใหญ่เกินไป และนั่นเป็นอันตรายต่อทุกคน ลูกคิดถูกแล้วที่ออกจากสมาคมไปแต่เนิ่นๆ”
“หยุนปิง ความสามารถของลูกในทุกๆด้านเหนือกว่าตัวพ่อ แต่เจ้าหนุ่มฮังอวี่เองก็มีศักยภาพสูงมากเหมือนกัน พ่อหวังว่าลูกจะร่วมมือกับเขาต่อไป ไม่สำคัญว่าลูกจะเสียเปรียบนิดๆหน่อยๆหรือไม่ แต่ลูกต้องมีวิสัยทัศน์ในระยะยาว ”
ซูหยุนปิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “หลังจากนี้พ่อจะทำอะไรต่อ”
“ไม่ต้องห่วง ไม่ว่ายังไงพ่อยังเป็นรองประธานบริหารของสมาคมโลกวิญญาณ ฉะนั้นคงไม่ง่ายหากมีใครคิดโค่นล้มพ่อ”
เมื่อซูเจิ้งเฉิงกล่าวประโยคนี้ ประกายเย็นเยียบผุดขึ้นในดวงตาเขา แต่ก็รีบซ่อนมันทันทีและกล่าวว่า “อยู่ภายนอก ลูกจะสามารถพัฒนาและเติบโตได้ดี ส่วนเรื่องความยุ่งเหยิงภายใน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตาเฒ่าอย่างพ่อเอง”
ซูหยุนปิงพยักหน้าอย่างเงียบๆ
เธอหันออกไปนอกหน้าต่าง มองถนนและจมอยู่ในห้วงความคิด
ผ่านไปแล้วหนึ่งเดือนแล้ว สถานการณ์ในเจียงเฉิงเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
แม้สถายเน็ตจะทำงานอย่างหนักเพื่อขยายอิทธิพล แต่อำนาจฝั่งพลเรือนก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ปรากฏยอดฝีมือหลายคนก้าวสู่แสงสว่าง เหล่าเจ้าหน้าที่เริ่มสูญเสียความสามารถในการควบคุมเมืองที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน
ซึ่ง ณ ตอนนี้ เริ่มเกิดปัญหาขึ้นในสมาคมโลกวิญญาณ
เพื่อประโยชน์ในอำนาจ ความขัดแย้งและข้อพิพาทเริ่มรุนแรงขึ้น
อนาคตของเมืองนี้จะเป็นอย่างไรยังไม่ชัดเจนและไม่มีใครสามารถบอกได้
ซูหยุนปิงรู้สึกอิจฉาฮังอวี่มาก เขาสามารถเพิกเฉยต่อทุกอย่าง และซุ่มตัวพัฒนาอยู่ในมุมมืด จนตอนนี้ขุมกำลังของเขา ไม่อาจดูแคลนหรือประมาทได้อีกแล้ว
…
ขณะเดียวกัน
รถบรรทุกคุ้มกันจอดหน้าโรงชา
ตัวรถคุ้มกันทาสีดำสนิท เหมือนกับรถบรรทุกเงินสดในอดีต
ตอนนี้มันได้รับการแปลงโฉมใหม่ เสริมความทนทานด้วยเหล็กกล้าและแปะโลโก้สัญลักษณ์ของสกายเน็ต
ฮังอวี่เห็นทหารสกายเน็ตสามคนถืออาวุธเดินลงมา
ในหมู่พวกเขา มีใบหน้าคุ้นเคยที่เจอกันมาแล้วหลายครั้ง
มิใช่ใครอื่น เป็นเหลียงตง หัวหน้าทีมหกของกองพลน้อยที่หนึ่งแห่งสกายเน็ต
ฮังอวี่ประหลาดใจมากและพูดว่า “เฮ้ นี่ผมสั่งของผิดรึเปล่า แค่วัตถุดิบธรรมดาไม่ใช่หรอ จำเป็นต้องให้หัวหน้าทีมสกายเน็ตมาส่งด้วยตัวเองเลยหรือ?”
“นายคือฮังอวี่ใช่ไหม? ” เหลียงตงพึ่งเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของฮังอวี่เป็นครั้งแรก อีกฝ่ายอายุน้อยกว่าที่เขาคิดไว้มาก “ระหว่างปฏิบัติภารกิจ ฉันได้รับคำสั่งจากหัวหน้ากองลั่วให้ส่งวัตถุดิบให้นายเลยแวะมา”
ว่าจบ เขาก็มอบวัตถุดิบให้
ฮังอวี่นับเห็ดศพได้ 300 ชิ้น ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น
“สกายเน็ตน่าจะยุ่งมาก แต่ในฐานะหัวหน้าทีม คุณกลับเลือกแยกตัวจากภารกิจมาส่งของ? เกรงว่านี่คงเป็นคำสั่งพิเศษมากกว่า” ฮังอวี่เปิดโปงพวกเขาแล้วกล่าวว่า “มีเรื่องอะไรให้ช่วย ว่ามา”
เหลียงตงชะงักไปครู่หนึ่ง
เขาไม่ได้ซ่อนมัน เอ่ยทันทีว่า “หัวหน้ากองลั่วได้ย้ำกับพวกเราว่าห้ามรบกวนนาย แต่คราวนี้เป็นสถานการณ์พิเศษจริงๆ”
“ในช่วงที่ผ่านมา มนุษย์ปลาในแม่น้ำแยงซีมีการเคลื่อนไหวแปลกๆ หลังจากการประเมิน พวกเราเชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าใช่เรื่องดี วิกฤตคุกคามประชาชนอาจกำลังก่อตัวขึ้น ดังนั้นสกายเน็ตจึงวางแผนตอบโต้ก่อนที่จะสายเกินไป”
“หัวหน้ากองลั่วส่งฉันมาเชิญนายเข้าร่วมปฏิบัติการต่อสู้กับมนุษย์ปลา”
เป็นพวกมนุษย์ปลาอีกแล้ว?
ฮังอวี่ย้อนนึกไปถึงข้อมูลที่เขาอ่านในกระทู้เมื่อวาน
ในช่วงหลายวันมานี้ พวกมนุษย์ปลาดูกระตือรือร้นและเป็นระเบียบมากขึ้น
จำนวนเรือลึกลับที่ปรากฏเหนือแม่น้ำแยงซีก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นภัยคุกคามต่อเจียงเฉิง
มันไม่เหมือนกับสถานการณ์กองทัพมอนสเตอร์คราวก่อน
เพราะมนุษย์ปลาสามารถโจมตีเมืองเจียงเฉิงได้โดยตรง โดยบุกจากทางแม่น้ำ
เนื่องจากเจียงเฉิงถูกสร้างขึ้นรอบแม่น้ำแยงซี
หากจำนวนของมนุษย์ปลามีมากถึงระดับหนึ่ง มีความเป็นไปได้สูงว่าเจียงเฉิงอาจเกิดหายนะ เนื่องจากสกายเน็ตพบสัญญาณไฟของอันตราย พวกเขาจึงพยายามหาวิธีดับมันก่อนสายเกินไป
ฮังอวี่เอ่ยถาม “สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง? ช่วยอธิบายให้มันชัดเจนกว่านี้ได้ไหม”
“ขอโทษที”
“ฉันเป็นแค่หัวหน้าทีมยังมีอำนาจน้อย”
“ข้อมูลการต่อสู้ไม่สามารถเปิดเผยได้หากยังไม่ได้รับอนุญาตจากองค์กร สิ่งเดียวที่สามารถบอกนายได้คือพวกเราจะออกปฏิบัติการในเร็วๆนี้”
“หัวหน้ากองลั่วบอกว่าที่ตั้งของการโจมตีครั้งนี้อาจเป็นค่ายมนุษย์ปลา และแน่นอนว่าต้องมีวัตถุดิบจำนวนมากให้กอบโกย ตราบใดที่นายเต็มใจเข้าร่วม นายจะได้รับแต้มบุญและรางวัลที่น่าพอใจอย่างแน่นอน”
ฮังอวี่ขมวดคิ้วครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนตอบ
“เรื่องแต้มบุญน่ะมันต้องได้รับอยู่แล้ว”
“และในฐานะพลเมืองเจียงเฉิง ผมยินดีร่วมปกป้องเมือง”
“แต่ถ้าไม่มีข้อมูลเลย ผมก็ไม่มีทางรู้ถึงสถานการณ์จริง และนั่นทำให้ผมตัดสินใจทันทีไม่ได้”
แสดงว่ายังไม่ปฏิเสธ?
หมายความว่ายังมีหวัง!
ดวงตาของเหลียงตงเป็นประกายขึ้นมาทันที
หัวหน้ากองลั่วสั่งให้เขาลองทดสอบดู
ว่าตราบใดที่ฮังอวี่ไม่ปฏิเสธทันที แสดงว่าเขาไม่ต่อต้านการเข้าร่วมปฏิบัติการของสกายเน็ต และจุดประสงค์ของเหลียงตงก็ประสบความสำเร็จแล้ว ดังนั้นเอ่ยกับฮังอวี่ว่า
“ฉันเข้าใจความกังวลของนาย”
“ฉันจะรีบกลับไปรายงานหัวหน้ากองก่อน”
เหลียงตงจากไปพร้อมทหารจากสกายเน็ตสองคน
ฮังอวี่เกาหัว เรื่องนี้เขาไม่ได้วิตกมากจนเกินไป เพราะสุดท้ายจะช่วยหรือไม่ช่วยมันขึ้นอยู่ที่เขาเลือก
กองกำลังอันดับหนึ่งในเจียงเฉิงคือสกายเน็ตอย่างไม่ต้องสงสัย
จำนวนสมาชิกของหนึ่งกองพลน้อยก็มีถึงหลักพัน
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพันคนที่พร้อมเคลื่อนไหว และเป็นกำลังพลสำรอง
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกันในแง่พลเรือนทั้งเมือง จำนวนกำลังพลของสกายเน็ตอาจน้อยกว่าหนึ่งในสิบของประชากร ขณะที่กองกำลังส่วนตัวกำลังผุดขึ้นราวกับวัชพืช
รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้
ดังนั้นนับวันพวกเขาจึงยิ่งกังวลมากขึ้น
สกายเน็ตต้องการหยิบยืมอำนาจของพลเรือน แต่หากพวกเขาบังคับหรือดำเนินการอย่างไม่เหมาะสม กำลังพลเรือนอาจลุกฮือ และเจียงเฉิงมีแนวโน้มตกสู่สถานการณ์วุ่นวาย
ฉะนั้น ตราบใดที่หวัหน้ากองลั่วไม่โง่เขลา
อีกฝ่ายไม่ควรสร้างปัญหาให้ฮังอวี่
นอกจากนี้ ความประทับใจที่ฮังอวี่มีต่อลั่วหยวนเจิ้งก็ไม่เลว
หากเขาสามารถรับรองความปลอดภัยของฮังอวี่และมอบผลประโยชน์ที่เหมาะสม ฮังอวี่ก็ไม่รังเกียจที่จะร่วมมือกัน
แม้ฮังอวี่จะไม่ถึงกับเข้าร่วมกับทางสกายเน็ต
แต่การสร้างความร่วมมือในระยะยาว และเป็นมิตรที่ดีกับหัวหน้ากองก็เป็นเรื่องที่ดี
นอกจากนี้ การเข้าร่วมการต่อสู้และได้รับแต้มบุญยังเป็นประโยชน์สำหรับตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องระยะยาว
คืนนี้โลกวิญญาณกำลังจะเปิดอีกครั้ง
และภารกิจที่เขาต้องทำก็คือ : สังหารผู้พิทักษ์ต้นไม้ยักษ์ และเข้าสู่เขาวงกต!