7/10
Ep.783
[จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] เรอเสียงดัง แต่จากท่าทางแล้วเหมือนยังอิ่มไม่สุด
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อซูเฉินออกคำสั่ง มันก็ต้องเชื่อฟัง
“ซูเฉิน ให้โอกาสข้าอีกสักครั้ง ข้าล่วงรู้ความลับมากมาย สามารถบอกเจ้าได้ทุกเรื่อง” จินกวงหยูหอบหายใจหนักหน่วง พยายามอ้อนวอนซูเฉินอีกครั้ง
ถูกดูดแก่นโลหิตออกไปเป็นจำนวนมาก เวลานี้กลิ่นอายของมันผิดแผกไม่เหมือนเดิม ระดับฐานฝึกตนยังลดต่ำลงกว่าเมื่อก่อน มากสุดเหลือแค่ขั้น 8 เท่านั้น
ดวงตาของซูเฉินสาดประกายเย็นชา มุมปากของเขายกโค้งขึ้นเล็กน้อย
“โทษที บิดาไม่สนใจ!”
สิ้นเสียง เขากุม [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] ด้วยสองมือ ฟาดฟันลงในกระบี่เดียว
ชิ้งงงง!
จินกวงหยูที่มีฐานฝึกตนลดลงเป็นอย่างมาก พลังป้องกันไม่แข็งกร้าวดั่งแต่ก่อน ศีรษะของมันถูกผ่าแยกเป็นสองส่วน ตายคาที่
ในคราเดียว ชิ้นส่วนหลากสีสันนับหมื่นเด้งขึ้นจากศพของมัน
เห็นภาพนี้ มุมปากของซูเฉินยกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาเปิด [ฟังก์ชั่นเก็บอัตโนมัติ] รวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมด
และเวลานี้เอง อู๋หยาจื่อและสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสามได้มายืนเคียงข้างซูเฉิน
ต้นหลิววัชระรายงานว่า “เจ้านาย สามคนที่เหลือถูกกำจัดแล้ว”
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หันไปพูดกับด้วงเขมือบทองคำ “เสี่ยวฉง ฉันเก็บศพของด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะนี้ไว้ให้นาย”
“ขอบพระคุณเจ้านาย!”
ด้วงเขมือบทองคำตื่นเต้นมาก เพราะจินกวงหยูคือด้วงเขมือบทองคำในระดับเทวะ ขอแค่มันได้กลืนลงท้อง ก็มีโอกาสสูงที่จะได้ยกระดับเป็นขั้น 10
ต่อมา ซูเฉินเก็บศพของจินกวงหยูและเหล่าสัตว์เลี้ยงลงใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]
“ซูเฉิน ประมุขฉางกับสหายน่าน พวกเขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม” หยูจิงหยางเลียบเคียงถาม
ซูเฉินหัวเราะ แล้วเปิด [มิติสันโดษ] เรียกฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนออกมา
“ซูเฉิน แล้วเฝิงเหอเซียงเล่า? เขาไปไหนแล้ว?”
ทันทีที่ฉางไช่หลี่ปรากฏตัว เธอถามด้วยความกังวล
“มันถูกผมฆ่าไปแล้ว” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย
ฆ่างั้นหรือ? เฝิงเหอเซียงคือการดำรงอยู่ระดับเทวะ แม้ฐานฝึกตนของเขาจะถูกสะกดเอาไว้ แต่ความแข็งแกร่งยังเหนือกว่าขั้น 10 ทั่วไปมาก
แล้วซูเฉินสามารถฆ่าเขาได้จริงๆน่ะหรือ?
ฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนต่างสับสนเล็กน้อย เหม่อมองซูเฉินด้วยความว่างเปล่า
หยูจิงหยางเอ่ยเสริม “ไม่ใช่แค่เฝิงเหอเซียงเท่านั้น แต่กระทั่งด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะแห่งเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังตายด้วยน้ำมือของซูเฉิน”
ว่าไงนะ?
ฉางไช่หลีและน่านหลีชวนอุทานขึ้นพร้อมกัน ตลอดทั้งใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจจนไม่อาจอธิบาย
มีข่าวลือว่าด้วงเขมือบทองคำแห่งเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ ครอบครองพลังป้องกันอันน่าสยองขวัญ แทบจะคงกระพันในระดับเดียวกัน
ทว่าผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงเช่นนี้กลับตกตายลงด้วยน้ำมือซูเฉิน นี่แสดงให้เห็นว่าซูเฉินในปัจจุบันแข็งแกร่งเพียงใด
“ซูเฉิน ข้าได้ยินว่าเจ้ายกระดับเป็นขั้น 10 แล้ว เรื่องนี้คงไม่ผิดพลาดกระมัง?”
น่านหลีชวนได้สติกลับมา เลียบเคียงถามดู
ใน [มิติสันโดษ] พวกเขาได้ยินเฉินเฟิงและคนอื่นเล่าว่าซูเฉินก้าวสู่ขั้น 10 แล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่
เพราะตอนอยู่ภูเขาจื่อเว่ย ซูเฉินอยู่ในขั้น 8 เท่านั้น เป็นไปได้หรือที่จะตัดผ่านถึงสองขั้นภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน?
แต่เมื่อรู้ว่าซูเฉินสามารถสังหารได้กระทั่งด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะ พวกเขาก็รู้สึกว่าข่าวที่ได้ยิน มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก
“ผมเพิ่งเลื่อนขั้นได้ไม่กี่วันก่อนนี้เอง” ซูเฉินพยักหน้า
ได้ยินแบบนั้น ฉางไช่หลี่และน่านลี่ฉวนมองหน้ากัน ทั้งสองสามารถมองเห็นความตื่นเต้นในสายตาของกันและกันได้
อัตราเร็วในการยกระดับของซูเฉินช่างน่ากลัวเหลือเกิน นี่แสดงให้เห็นว่าเรื่องก้าวสู่ระดับเทวะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เมื่อซูเฉินเลื่อนขั้นเป็นระดับเทวะ วังสุริยันจันทราก็จักกลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง
“ท่านประมุข ตอนนี้วังสุริยันจันทราเป็นอย่างไรบ้าง?” ซูเฉินถาม
เขากังวลเล็กน้อย เพราะพวกฉางไช่หลี่ถูกจับมา เช่นนั้นวังสุริยันจันทรามิใช่ว่าโดนถล่มไปแล้วหรือ?
8/10
Ep.784
ฉางไช่หลี่ถอนหายใจเบาๆ “วังสุริยันจันทราของพวกเรา และนิกายคลื่นธาราไม่มีอยู่แล้ว”
หลังจากเหตุการ์บนภูเขาจื่อเว่ยในวันนั้น ขุมกำลังใหญ่หลายแห่งได้ร่วมมือกันปิดล้อมวังสุริยันจันทราและนิกายคลื่นธารา เหล่าสาวกถูกฆ่าตายเกือบหมด ส่วนพวกเขาถูกเฝิงเหอเซียงจับตัวไว้
โชคยังดีที่กู่เทียนฮวาและศิษย์อัจฉริยะรุ่นเยาว์คนอื่นๆได้ติดตามซูเฉินไป ตราบใดที่ยังมีพวกเขาอยู่ วังสุริยันจันทราก็จะสามารถก่อตั้งขึ้นใหม่ได้
ใบหน้าของซูเฉินหม่นหมองมืดครึ้ม เขาตระหนักได้ทันที ว่าหายนะครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับนิกายคลื่นธาราและวังสุริยันจันทรา ส่วนใหญ่สาเหตุเป็นเพราะเขา
หลังจากถอนหายใจยาว เขาเปิดปากถาม “ท่านประมุข นอกจากเฝิงเหอเซียงแห่งราชวงศ์เฝิงซีแล้ว ยังมีขุมกำลังใหญ่ไหนอีกที่ทำลายวังสุริยันจันทรา?”
ทุกรายชื่อที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นขุมกำลังไหน ซูเฉินจะขุดรากถอนโคนมันให้สิ้น
“จักรวรรดิเฉินเชิ่ง , วิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู กระทั่งคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังถูกส่งมา” ฉางไช่หลี่กัดฟันขณะกล่าว
แววตาของซูเฉินทอประกายเฉียบคม สี่ขุมกำลังใหญ่ของทวีปเสวียนเทียน รวมไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าร่วมด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกมันต้องการสังหารเขา
“ในเมื่อเป็นพวกแกที่แส่หาที่ตาย งั้นฉันก็จะเติมเต็มความปรารถนาให้เอง!”
ซูเฉินกำหมัดแน่น รังสีสังหารคุกรุ่นรุนแรงแผ่ออกมาจากร่างเขา
ฉางไช่หลี่ตระหนักได้ถึงเจตนาฆ่าคุกรุ่นของซูเฉิน รีบเกลี้ยกล่อม “ซูเฉิน เรื่องแก้แค้นจำเป็นต้องพิจารณาในระยะยาว ห้ามประมาท ”
แต่ซูเฉินไม่สนใจคำเตือนนี้ เพราะด้วยกำลังรบในปัจจุบันของเขา มันไร้เทียมทานบนทวีปใหญ่แห่งนี้ เกรงว่าคนที่จะหยุดเขาได้ คงมีเพียงสวรรค์เท่านั้น! ไอ้หน้าไหนไม่รู้จักเจียมตัว ก็เตรียมตัวตายซะ!
หากให้ดำเนินการแก้แค้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เรื่องนั้นไม่มีทางซะล่ะ!
นับแต่วันนี้ไป เขาจะก่อพายุนองเลือดบนทวีปเสวียนเทียน!
ผู้ใดที่อยู่ในรายชื่อสังหาร เขาจะไม่ปล่อยมันไปแม้แต่คนเดียว! และจะไม่มีใครหยุดเขาได้! แม้เป็นระดับเทวะก็ตามที!
ซูเฉินตัดสินใจแล้ว แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆเขาก็นึกเรื่องสำคัญมากขึ้นมาได้ หันไปถาม “ท่านประมุข ว่าแต่พวกเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์เข้ามานใทวีปเสวียนเทียนได้อย่างไร?”
โดยปกติแล้ว ถึงพวกต่างเผ่าจะสามารถเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียนได้ แต่ก็ยังติดข้อจำกัดเรื่องระดับขั้น เช่นสูงสุดที่เดินทางได้คือขั้น 8 เท่านั้น
แต่จินกวงหยูเป็นถึงระดับเทวะ แล้วเขาเข้ามาได้ยังไง?
“เป็นไปได้ว่าเขาอาจเข้ามาทางประตูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์” ฉางไช่หลี่กล่าวเสียงขรึม
ประตูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์?
ซูเฉินทวนคำ หันไปมองฉางไช่หลี่ รอคำอธิบายจากเธอ
“สถานที่อย่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ คืออาณาเขตที่ผู้แข็งแกร่งระดับเทวะอาศัยอยู่ และที่นั่นมีประตูที่เชื่อมต่อระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับทวีปเสวียนเทียนอยู่ หากผู้แข็งแกร่งระดับเทวะต้องการเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียน จำเป็นต้องผ่านประตูถึงจะมาได้” ฉางไช่หลี่อธิบาย
ซูเฉินรู้สึกงงงวย เอ่ยถามว่า “แล้วจินกวงหยูผ่านประตูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาได้ยังไงกัน?”
เนื่องจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คืออาณาเขตของชนชั้นเทวะแห่งเผ่ามนุษย์ แล้วพวกเขาจะปล่อยให้พวกต่างเผ่าเข้ามาตามใจชอบได้อย่างไร?
“นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ข้ารู้สึกกังวลเช่นกัน ”
ฉางไช่หลี่ถอนหายใจ “ไม่ว่าจะเป็นระดับเทวะของเผ่ามนุษย์เรา หรือพวกต่างเผ่าระดับเทวะ หากต้องการเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียนผ่านประตูนั่น มีเพียงวิธีเดียว คือได้รับการอนุมัติจากระดับเทวะของเผ่ามนุษย์จึงจะผ่านได้”
“ซึ่งเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ ในเฉพาะกรณีที่เมื่อคะแนนโหวตเกินกว่า 80% การดำรงอยู่ระดับเทวะผู้นั้นจึงจะเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียนได้”
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของอู๋หยาจื่อและคนอื่นๆ ทั้งหมดกลายเป็นน่าเกลียดยิ่ง
ท่าทีการแสดงออกของซูเฉินก็ดูลำบากใจเช่นกัน เนื่องจากเฝิงเหอเซียงกับจินกวงหยูสามารถปรากฏตัวที่นี่ งั้นแสดงว่าทั้งคู่ได้รับการสนับสนุนจากระดับเทวะมากกว่า 80%
หรืออีกความหมายนึงก็คือ มีระดับเทวะเผ่ามนุษย์กว่า 80% ต้องการให้ซูเฉินตาย
และที่น่ารังเกียจยิ่งกว่าก็คือ ชนชั้นเทวะเหล่านั้นยังรวมหัวกับพวกต่างเผ่าเพื่อกำจัดเขา
ซูเฉินหรี่ตาลง ในดวงตาเขาทอประกายเย็นยะเยือก
ไม่รอช้า เขาหยิบ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา แล้วเรียกทุกคนขึ้นไป