1/10

 

Ep.777

 

พอรู้ว่าฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนไม่มีอันตรายถึงชีวิต ซูเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วถามต่อว่า “เสี่ยวจือ ค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนของระดับเสมือนเทวะ”

 

หากต้องการช่วยพวกฉางไช่หลี่ ซูเฉินไม่เพียงต้องงัดกับเหล็กแข็งอย่างพวกหลิวเฉียนฉินและอีกสามคนเท่านั้น แต่ยังต้องรับมือกับเฝิงเหอเซียงด้วย ก่อนจะเริ่มลงมือ เลยจำเป็นต้องระบุให้ได้ว่าเฝิงเหอเซียงอยู่ที่ไหน เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน

 

“เจ้านาย ตรวจพบระดับเทวะสองคนอยู่ในห้องข้างๆของห้องโถงใหญ่” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบ

 

ระดับเทวะสองคน?

 

คิ้วของซูเฉินขมวดเข้าหากัน หนึ่งในนั้นย่อมเป็นเฝิงเหอเซียงอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแต่อีกคนคือใครกัน?

 

“เสี่ยวจือ ฉายภาพพวกเขาให้ที” ซูเฉินสั่ง

 

หน้าจอควบคุมส่วนกลางเริ่มสับเปลี่ยนภาพ ไม่นานก็ปรากฏร่างของชายสองคนขึ้น

 

หนึ่งในนั้นคือชายชราที่มีผมสีเงินเต็มหัว อีกคนทอแสงสีทองเจิดจ้าทั่วทั้งตัว ดวงตาฉายแววคมกริบ

 

ซูเฉินเพ่งมอง เก็บรายละเอียดของทั้งสอง แล้วเปิด [มิติสันโดษ] สอบถามพวกหยูจิงหยางกับคนอื่นๆ

 

จากคำอธิบายของหยูจิงหยาง ซูเฉินได้รับคำตอบว่าชายชราคนแรกคือเฝิงเหอเซียง ส่วนชายที่เปล่งแสงสีทอง ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นใคร

 

จากนั้น ทุกคนหารือกันเล็กน้อย แล้วเริ่มปฏิบัติตามแผน

 

ซูเฉินเหยียบย่ำขึ้นไปในอากาศ เพื่อเตรียมบุกจากทางเบื้องบน หลังจากกะตำแหน่งเบื้องล่างแม่นยำแล้ว ก็ทิ่งดิ่งลงไปทันที

 

โครมมมมม!

 

ซูเฉินเหยียบหลังคาแหลกละเอียดในเท้าเดียว ทะลุลงมาในห้องโถงใหญ่

 

“นั่นใคร!?”

 

หลิวเฉียนฉินและคนอื่นๆในห้องโถงอุทานออกมา

 

“ซูเฉิน? เป็นเจ้าได้อย่างไร!!”

 

เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนคือซูเฉิน ทั้งสี่ตะลึงงันไปชั่วขณะ แต่เมื่อได้สติก็กระโจนเข้าจู่โจมเขาอย่างบ้าคลั่ง

 

จุดประสงค์หลักของซูเฉินคือการช่วยฉางไช่หลี่และน่านหลีชวน ก่อนที่เขาจะช่วยทั้งสองคน ไม่อาจเสียเวลาได้

 

เห็นแค่เพียงซูเฉินพลิกข้อมือ [มิติสันโดษ] เปิดออก อู๋หยาจื่อ , หลีกุยหยาง และหยูจิงหยางพุ่งออกมาจากด้านในทันที

 

ตามแผนที่ตกลงกันไว้ พวกอู๋หยาจื่อมีหน้าที่ขัดขวางอีกฝ่าย ส่วนซูเฉินมีหน้าที่เข้าไปช่วยคนที่ถูกขังเป็นอันดับแรก

 

พริบตาที่พวกอู๋หยาจื่อปรากฏตัว ทั้งสามก็กระโจนเข้ารับมือพวกหลิวเฉียนฉินทันที

 

ซูเฉินไม่คิดเสียเวลา อีกฝ่ายยังมีระดับเทวะสองคนอยู่ในห้องถัดไป หากได้ยินเสียงเอะอะ ไม่นานต้องออกมาช่วยเหลือแน่ๆ ดังนั้นต้องใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า

 

ซูเฉินปล่อยพลังจิตของเขาเพื่อล็อคตำแหน่งห้องใต้ดิน ซัดหมัดเดียวเจาะพื้น กระโดดเข้ามาในห้องลับ

 

“ซูเฉิน!”

 

ฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนตกใจมาก เดิมพวกเขาคิดว่าเมื่อซูเฉินถูกส่งไปยังดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง คงไม่มีทางได้พบเจอกันอีกแล้วในชีวิตนี้

 

แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าอีกฝ่ายไม่เพียงหนีออกมาได้ แต่ยังบุกเข้ามาช่วยพวกเขา มันเหนือความคาดหมายสำหรับทั้งคู่จริงๆ

 

“ซูเฉิน! ระดับเทวะมาแล้ว!”

 

แต่ในเวลานั้นเอง เสียงตะโกนร้อนรนของอู๋หยาจื่อดังลงมาจากห้องโถงข้างบน

 

คนที่สามารถทำให้อู๋หยาจื่อร้อนใจถึงเพียงนี้ เมื่อคิดดูแล้ว แสดงว่ากำลังรบของอีกฝ่ายจะต้องทรงพลังอย่างสุดโต่งแน่นอน

 

ซูเฉินไม่เสียเวลาคิดอีกต่อไป หลังจากทำลายกรงขัง เขาก็กวาดมือรวบฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนเข้าสู่ [มิติสันโดษ] จากนั้นรีบกลับขึ้นไปบนห้องโถงอย่างรวดเร็ว

 

ใครจะทันคิดว่า เขาเพิ่งเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่ ภาพที่เห็น คืออู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางถูกชายที่ทอแสงสีทองซัดปลิว

 

“แข็งแกร่งขนาดนี้เชียว?”

 

คิ้วของซูเฉินขมวดเป็นปม

 

ต้องรู้นะว่า อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางนับเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ทั้งสองเหนือกว่าในระดับเดียวกัน แต่คาดไม่ถึงเลย ที่แม้ทั้งคู่ร่วมมือกัน ก็ยังถูกซัดกระเด็น

 

นี่แสดงให้เห็นว่า คู่ต่อสู้ของพวกเขาร้ายกาจเพียงใด

 

“ซูเฉิน ชายผู้นี้แข็งแกร่งมาก”

 

อู๋หยาจื่อผุดลุก ก้าวมาหยุดเคียงข้างซูเฉินอย่างรวดเร็ว กล่าวด้วยหัวใจที่สั่นเทา

 

2/10

 

Ep.778

 

“เจ้าคือซูเฉิน?”

 

ชายที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสีทองไม่ได้ลงมือต่อ แต่หรี่ตาและจ้องมองซูเฉินแทน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

“ฉันนี่แหละซูเฉิน แล้วแกเป็นใคร?”

 

ซูเฉินปาดจมูกเขา กล่าวอย่างเฉยเมย

 

“ข้าเป็นใคร เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้” ชายทอแสงสีทองแสดงสีหน้าดูแคลน แค่นเสียงฮึ่มเบาๆ “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีด้วงเขมือบทองคำระดับสูงอยู่กับตัว จงมอบมันมา แล้วข้าจะยอมเหลือศพเจ้าทิ้งไว้ในสภาพสมบูรณ์!”

 

ด้วงเขมือบทองคำ?

 

สมองของซูเฉินเริ่มปั่นความคิด เปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] อย่างเงียบเชียบ สื่อสารกับหงส์เพลิง

 

“เสี่ยวเหยียน นายรู้จักไอ้ตัวเปล่งแสงแสบตานี่ไหม?”

 

กลิ่นอายที่ชายทอแสงทองคำปล่อยออกมา คล้ายด้วงเขมือบทองคำอยู่หลายส่วน ทำให้เขาเกิดความสงสัย ว่าฝ่ายตรงข้ามใช่เป็นด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะจากเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?

 

หงส์เพลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทิ้ม “เจ้านาย ชื่อของเขาคือจินกวงหยู เป็นด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะของเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์เรา!”

 

“แล้วเขาอยู่ในรูปลักษณ์มนุษย์ได้ยังไง” ซูเฉินถามด้วยความแปลกใจ

 

“เมื่อฐานฝึกตนตัดผ่านขั้น 10 ไม่ว่าจะชาวเผ่าใด ทั้งหมดล้วนสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้” หงส์เพลิงอธิบาย

 

“เป็นแบบนี้นี่เอง”

 

ซูเฉินค่อยเข้าใจ จากนั้นก็เพ่งสายตาไปยังจินกวงหยูอีกครั้ง กล่าวเสียงเย็นว่า “จินกวงหยู ถ้าไม่อยากตาย จงยอมกลายเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณของฉัน!”

 

เขาคือกวงจินหยู?

 

เมื่อได้ยินชื่อนี้ อู๋หยาจื่อสั่นสะท้านไปทั้งตัว

 

ในฐานะอดีตผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ ย่อมเคยได้ยินชื่อของจินกวงหยูผ่านหูมาบ้าง

 

มีข่าวลือว่าแม้จินกวงหยูจะเป็นด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะขั้น 1 แต่ก็ได้รับฉายาว่าจ้าวแห่งการป้องกันผู้ไร้เทียมทาน ศัตรูในขั้นเดียวกัน ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรกับเขา

 

อู๋หยาจื่อจ้องมองซูเฉินด้วยอาการเหม่อลอย ในความคิดบังเกิดความรู้สึกซับซ้อน

 

ซูเฉินเอ่ยปากให้ด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะยอมเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณของตัวเอง นี่เขาจะกล้าเกินไปไหม?

 

มันเป็นความจริงที่ซูเฉินน่ะแข็งแกร่งมาก แต่ในความคิดเขา ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจินกวงหยู

 

“เฮียจิน! เจ้าเด็กนี่มันบ้า! เฮียจะลงมือเองหรือให้ฉันจัดการดี?”

 

เฝิงเหอเซียงกวาดสายตามองซูเฉิน ก่อนหันมาพูดกับจินกวงหยู

 

จินกวงหยูสูดหายใจลึก ระงับโทสะในใจเขา หัวเราะเย้ยหยัน “ซูเฉิน! ข้าได้ยินมานานแล้วว่าเจ้ามักทำตัวมุทะลุ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา เดิมข้าตั้งใจจะยอมให้เจ้าตายสบายๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ”

 

ด้วยฐานะระดับเทวะ สถานะของเขาสูงส่งเพียงใดทุกคนต่างก็รู้ แล้วซูเฉินกล้าดียังไงถึงคิดให้เขายอมสยบเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณ! นี่นับเป็นความอัปยศอย่างถึงที่สุด

 

ณ ขณะนี้ ซูเฉินได้ยั่วยุเขาสำเร็จแล้ว จินกวงหยูลอบสาบานว่าจะต้องฉีกซูเฉินให้เป็นชิ้นๆ เพื่อบรรเทาความคับแค้นในใจ

 

สิ้นเสียง เขาขยับเท้าวูบไหว เสมือนดั่งอสูรร้าย ระเบิดปราณสังหารรุนแรงเข้าเข่าฆ่าซูเฉิน

 

“เจ้าหนู คราวนี้มาดูกันว่าเจ้าจะรอดไปได้อย่างไร!”

 

มุมปากของเฝิงเหอเซียงยกโค้งเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย

 

ซูเฉินสังหารทายาทสายตรงของตระกูลเฝิงอย่างต่อเนื่อง เขาปรารถนาจะแยกร่างซูเฉินเป็นแปดส่วนมาตั้งนานแล้ว

 

ตอนนี้เมื่อจินกวงหยูออกหน้า ซูเฉินย่อมตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

 

ซูเฉินหรี่ตาของเขา ยืนนิ่งสงบอยู่ที่เดิม คล้ายไม่คิดป้องกันใดๆ

 

แต่ในความเป็นจริง [เกล็ดแขนทองคำ] และ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] กำลังถูกเปิดใช้งานอย่างเงียบๆ

 

รอจนจินกวงหยูเข้ามากใกล้ หนึ่งหมัดพลันเหวี่ยงออกไปสุดแขน

 

เห็นแค่เพียงเงาหมัดสีทองกระแทกเข้าใส่ร่างของจินกวงหยูอย่างแรง

 

ปงงงง!

 

ตามมาด้วยเสียงดังสนั่นอันน่าตกใจ เห็นแค่เพียงจินกวงหยูราวกับกระสุนปืนใหญ่ ถูกต่อยลอยละลิ่ว อาคารใหญ่เบื้องหลังเขาพังทลายลงทันที

 

ซู๊ดดดดด!

 

ได้เห็นสักขีพยานของฉากนี้ ทุกคนต่างสูดหายใจลึก มองซูเฉินอย่างตะลึงงัน ในดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ