3/10

 

Ep.759

 

[รถศึกอัจฉริยะ] สแกนหาพักหนึ่ง ก่อนตอบกลับมา “ในลานกลางหุบเขา ตรวจพบเสมือนเทวะสองตน”

 

เสมือนเทวะสองตน?

 

ซูเฉินนิ่งค้างไปเล็กน้อย

 

หุบเขากุ้ยหยางคืออาณาเขตของฮันห่าวหยาง หนึ่งในนั้นย่อมเป็นฮันห่าวหยางอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแต่แล้วใครกันที่เป็นเสมือนเทวะอีกตน?

 

คงไม่ใช่หูจวิ้นกระมัง?

 

คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินสูดหายใจลึก แล้วกล่าวกับรถศึกว่า “เสี่ยวจือ ล็อคเป้าทั้งคู่ แล้วฉายภาพให้ดูที”

 

ภาพบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางเริ่มซูมเข้า ถูกสับเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่นานร่างของชาวเผ่ามายาและชาวเผ่าปีศาจราตรีก็ปรากฏขึ้น

 

ฮันห่าวหยางเป็นชาวมายา และหูจวิ้นเป็นเผ่าปีศาจราตรี จากข้อมูลนี้และภาพตรงหน้า ซูเฉินมั่นใจว่าคงเป็นทั้งสองแน่ๆ

 

จากนั้น เขาติดต่อกับหลีกุยหยางอีกครั้ง บรรยายลักษณะโดยสังเขปของเสมือนเทวะทั้งสอง และคำตอบที่ได้รับกลับมา คือหูจวิ้นและฮันห่าวหยางจริงๆ

 

“ซูเฉิน ในเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน งั้นอย่าเพิ่งลงมือตอนนี้เลย” หลีกุยหยางกล่าวโน้มน้าว

 

ซูเฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามว่า “ผู้อาวุโสหลี ถ้าท่านกับอาวุโสอู๋ร่วมมือกัน จะสามารถจัดการกับหูจวิ้นได้ไหม?”

 

หูจวิ้นและฮันห่าวหยางอยู่ด้วยกัน –นี่ไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะฆ่าพวกเขาทั้งคู่ในคราวเดียวหรอกหรือ?

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความเห็นของเขาคนเดียว ย่อมไม่อาจลงมือได้

 

หากอู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางเห็นด้วย และสามารถจัดการกับหูจวิ้นได้จริงๆ เขาจะได้เพ่งสมาธิมารับมือกับฮันห่าวหยางได้อย่างสบายใจ

 

“ข้ากับเฮียอู๋ร่วมมือกัน ย่อมสามารถสังหารหูจวิ้นได้ แต่มันอันตรายเกินไปสำหรับเจ้า ที่ต้องรับมือกับฮันห่าวหยางโดยลำพัง ” หลีกุยหยางกล่าวด้วยความกังวล

 

“นั่นไม่ใช่ปัญหา” ซูเฉินยิ้ม กล่าวต่อว่า “อีกสักพักผมจะเข้าไปในหุบเขากุ้ยหยาง ขอให้พวกท่านจัดการกับหูจวิ้นอย่างสบายใจ เพราะผมมั่นใจว่าสามารถฆ่าฮันห่าวหยางได้แน่นอน ”

 

หลีกุยหยางถึงกับอ้าปากค้าง ขณะที่เขาต้องการจะเกลี้ยกล่อมอีกรอบ ก็ถูกอู๋หยาจื่อขัดจังหวะ

 

“เฮียหลี เชื่อใจซูเฉินเถอะ กำลังรบของเขา แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เฮียเคยเห็นซะอีก”

 

หมายความว่ายังไง?

 

หลีกุยหยางตกตะลึง อย่าบอกนะว่าตอนที่ซูเฉินสู้กับเขา อีกฝ่ายยังซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้

 

เมื่อย้อนนึกถึงฉากนี้ซูเฉินบดขยี้เขาก่อนหน้านี้ แล้วนึกถึงเรื่องที่ว่าซูเฉินยังคงเก็บงำกำลังรบไว้อีกจริงๆ เช่นนั้นแล้วพลังที่แท้จริงของซูเฉินจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน?

 

ซูเฉินไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม ปิด [มิติสันโดษ] เริ่มยกเท้าย่ำขึ้นไปในอากาศทีละก้าว

 

เมื่อความสูงถึงระดับที่คิดว่าเหมาะสม เขาก็วิ่งเป็นเส้นตรง มุ่งสู่ส่วนลึกของหุบเขากุ้ยหยางอย่างรวดเร็ว

 

5-6 นาทีต่อมา เขามาหยุดอยู่บนท้องฟ้ากลางหุบเขากุ้ยหยาง ลอยเหนือลานบ้านที่หูจวิ้นกับฮันห่าวหยางอยู่พอดิบพอดี และ … ทิ้งดิ่งลงไป!

 

โครมมมม!

 

วินาทีถัดมา ซูเฉินกระแทกลงกับพื้น สองเท้าย่ำลงสุดแรงจนยุบตัวลงเป็นหลุมลึก

 

เสียงดังสนั่นนี้ ดึงดูดความสนใจของหูจวิ้นกับฮันห่าวหยางในทันที

 

เมื่อเห็นว่ามีมนุษย์รุ่นเยาว์ปรากฏขึ้นต่อหน้า สีหน้าของทั้งสองก็กลายเป็นมืดมน

 

“มนุษย์ เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”

 

ฮันห่าวหยางจับจ้องซูเฉิน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

การป้องกันของหุบเขากุ้ยหยางแน่นหนามาก แล้วมนุษย์เข้ามาเหยียบที่นี่ได้อย่างไร?

 

เรื่องนี้ทำให้เขาสับสนมาก

 

ซูเฉินเบ้ปากเล็กน้อย “คนใกล้ตาย … ไม่จำเป็นต้องรู้มากขนาดนั้น!”

 

สิ้นเสียง เขาเปิด [มิติสันโดษ] อย่างรวดเร็ว ทันทีที่อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางออกมา ทั้งคู่ก็พุ่งเข้าจู่โจมหูจวิ้นโดยตรง

 

“หลีกุยหยาง! บังอาจนัก! กล้าดียังไงถึงพาคนเข้ามาลอบสังหารในอาณาเขตของข้า ช่างไม่รู้จักที่ตาย!”

 

ฮันห่าวหยางขบฟันแน่น ร้องคำรามออกมา ขณะที่เขากำลังจะโจมตีหลีกุยหยาง น้ำเสียงเย็นเยียบของซูเฉินก็ดังเข้ามาในหูเขา

 

“ฮันห่าวหยาง คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!”

 

“อาศัยเพียงเจ้า?”

 

ใบหน้าของฮันห่าวหยางฟุ้งไปด้วยความดูแคลน ในสายตาเขา ซูเฉินมีฐานฝึกตนไม่เกินขั้น 10 แน่ๆ

 

ผู้ฝึกตนขั้น 10 กล้าดียังไงมาแข็งข้อกับเขา–

 

–นี่ไม่เท่ากับเป็นการรนหาที่ตายหรอกหรือ?

 

4/10

 

Ep.760

 

ซูเฉินไม่เคยสู้กับปรมาจารย์มนตราระดับเสมือนเทวะมาก่อน ณ ขณะนี้บังเกิดจิตต่อสู้อันแรงกล้า

 

พริบตานั้นเอง ร่างเขาสูงชะลูดขึ้นเป็น 10 จั้ง เมื่อยกระดับสู่ขั้น 10 เจ้าตัวง้างสุดแขน ขว้าง [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ออกไป

 

มาถึงก็ใช้กระบวนท่าสังหารลงมือทันที!

 

“สิ่งประดิษฐ์เทวะ!?”

 

ฮันห่าวหยางตื่นตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] โถมทับเข้ามา เห็นแค่เพียงเกราะสีม่วงปรากฏขึ้นบนตัวเขา ทุกลำแสงสีม่วงที่กระเพื่อมออกมา เต็มไปด้วยกลิ่นอายโบราณ ให้ความรู้สึกหนักอึ้งกดดัน

 

วินาทีถัดมา [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ปะทะตัวเขาอย่างจัง ทว่ามันกลับถูกชั้นพลังสีม่วงรองรับเอาไว้ได้อย่างน่าฉงน หยุดนิ่งกลางอากาศ

 

เห็นภาพนี้ ซูเฉินถึงกับอ้าปากค้าง ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อเขาใช้ [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ผลลัพธ์คือล้วนสามารถบดขยี้ศัตรูด้วยน้ำหนักมหาศาลของมัน

 

ไม่นึกฝันเลย ว่าพอใช้กับฮันห่าวหยาง กลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง

 

นี่แสดงให้เห็นว่า ชุดเกราะระดับเทวะของฮันห่าวหยางแข็งแกร่งจริงๆ

 

“เจ้าหนู เจ้าคิดว่าจะสังหารข้าได้เพียงเพราะเจ้ามีสิ่งประดิษฐ์เทวะอย่างนั้นหรือ? ช่างไร้เดียงสา!”

 

ฮันห่าวหยางแสยะยิ้ม เหยียดมือยิงลูกไฟขนาดเท่าโอ่งมังกรออกไป

 

วู้มมม

 

ทันทีที่ลูกไฟปรากฏขึ้น อุณหภูมิโดยรอบพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อากาศคล้ายถูกเผาไหม้ ลานบ้านทั้งหลังราวกับตกลงไปในภูเขาไฟที่ใกล้ปะทุ อาคารใกล้เคียงถูกหลอมเป็นเถ้าถ่าน

 

อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆที่เดิมกำลังต่อสู้กัน ณ ขณะนี้หยุดเคลื่อนไหว ทั้งหมดมองมาทางซูเฉินและฮันห่าวหยาง

 

เวทย์ลูกไฟที่ฮันห่าวหยางปลดปล่อยออกมา หลอมรวมเข้ากับอัคคีผลาญแปดทิศ พลังทำลายล้างยากหาตัวจับ ต่อให้เป็นเสมือนเทวะก็ยังยากที่จะรับมือ

 

ขณะที่ซูเฉินมีฐานฝึกตนเพียงขั้น 10 เท่านั้น แล้วเขาจะสามารถทนได้หรือ?

 

ทั้งอู๋หยาจื่อและหลีกุยหยางเริ่มกังวลแทนซูเฉิน

 

“มนุษย์ขั้น 10 คิดแข็งข้อกับฮันห่าวหยาง ช่างมุทะลุสิ้นดี!” หูจวิ้นแผดเสียงหัวเราะอย่างไม่อาจควบคุม

 

ในความคิดเขา เวทย์ลูกไฟของฮันห่าวหยางสามารถฆ่าซูเฉินได้อย่างแน่นอน

 

เมื่อซูเฉินตาย ฮันห่าวหยางย่อมไม่มีผู้ใดฉุดรั้ง ถึงเวลานั้นอีกฝ่ายก็จะกระโจนเข้ามาช่วยเขา แล้วหลีกุยหยางกับอู๋หยาจื่อทั้งคู่ก็จะพบจุดจบ!

 

“ขอดูหน่อยเถอะ ว่ากระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดของแก มันจะเจ๋งซักแค่ไหน!”

 

สีหน้าของซูเฉินกลายเป็นเคร่งขรึม กุม [ดาบเสริมมนตรา] ไว้ในมือ แล้วกวาดมันออกไป

 

ทันใดนั้นกระแสคลื่นสีขาวกระพือไปข้างหน้า โถมเข้าปะทะลูกไฟที่พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรง

 

ทั้งสองพัวพันกันครู่หนึ่ง ก่อนระเบิดออก กลายเป็นพลุไฟบานสะพรั่ง ดุจดั่งความงดงามที่ผู้คนไม่อาจจับจ้องได้ตรงๆ

 

รอจนแสงเจิดจ้าพรั่งพราวหมดสิ้นลง เห็นเพียงกลุ่มก้อนเปลวไฟสองกลุ่ม หนึ่งดำ หนึ่งน้ำเงิน กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในอากาศ

 

“นี่เจ้าเองก็มีมหาเพลิงเอกลักษณ์ด้วย?” ฮันห่าวหยางอุทานออกมา

 

ตอนแรกเขาไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดเวทย์ลูกไฟของตนจึงถูกสกัดกั้นได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อเห็นกลุ่มก้อนไฟแปลกๆ ก็ฉุกคิดได้ทันที

 

อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางเห็นว่าซูเฉินสามารถหยุดการโจมตีของฮันห่าวหยางได้จริง อาการตื่นตกใจก็มลายหายไป

 

ในทางตรงกันข้าม เป็นหูจวิ้น ที่ขณะนี้ใบหน้าของเขาปั้นยากอย่างถึงที่สุด

 

หากซูเฉินสามารถรับมือกับฮันห่าวหยางได้ จะเท่ากับว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับการปิดล้อมของสองเสมือนเทวะ สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก บางทีอาจถึงขั้นต้องจบชีวิตเลยก็เป็นได้

 

อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินถอนหายใจโล่งอก ปลดปล่อยพลังจิตออกมาเพื่อแยกโลกันต์เยือกแข็งและอัคคีผลาญแปดทิศออกจากกัน

 

จากนั้นเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] เรียกเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณออกมา แล้วออกคำสั่ง “พวกนาย หยุดเจ้าก้อนเปลวไฟนี่ไว้”

 

อัคคีผลาญแปดทิศเป็นเพียงมหาเพลิงขั้น 8 เท่านั้น หากให้เหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณและโลกันต์เยือกแข็งร่วมมือกัน เป็นแค่เรื่องง่ายดาย

 

“นี่เจ้าคิดช่วงชิงมหาเพลิงไปจากข้า?”

 

หัวใจของฮันห่าวหยางแผดเผาไปด้วยความวิตกกังวล ขณะที่เขากำลังคิดปลดปล่อยเวทมนต์เพื่อช่วยเหลืออัคคีผลาญแปดทิศ

 

ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา

 

“ไอ้แก่ ถึงตาแกต้องลิ้มรสพลังของฉันบ้างแล้ว!”

 

ในพริบตา เสียงหวีดหวิวดังก้องเข้ามาในหูของฮันห่าวหยาง