Ep.72
“ระบบ ทำการฟิวชั่น” ฉู่เซวียนกล่าวเสียงเรียบ
จากนั้น ศพของหวังเทียนป่ากลายเป็นจุดแสง ไหลเข้ามาในร่างของฉู่เซวียน ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งแก่เขา
“ฟิวชั่นเสร็จสิ้น ได้รับค่าสเตตัสเพิ่มเติม ความว่องไว 532 หน่วย , พละกำลัง 964 หน่วย , ร่างกาย 3000 หน่วย , ค่าพลังจิต 627 หน่วย”
ได้รับค่าสเตตัสมากมายขนาดนี้ หากเป็นฉู่เซวียนคนก่อน มันคงเป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าจะนึกฝัน
ตัวเขาในตอนนี้ แม้ไม่ได้รับอบิลิตี้ของหวังเทียนป่ามา แต่ฉู่เซวียนก็ไม่รู้สึกเสียใจเลย เพราะร่างกายเขาเป็นซอมบี้ ซึ่งหากเทียบกับมนุษย์แล้ว พลังในการฟื้นฟูตัวเองจะแข็งแกร่งกว่ามาก
เวลาถัดมา เฉียวหลวนได้แสดงความสามารถในฐานะผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างอย่างเต็มที่
นอกเหนือจากเหล่าผู้ใช้พลังของกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์คลั่งที่ยอมจำนนในตอนแรกแล้ว เขาสั่งให้จางสิงพาผู้ใช้พลังจำนวนมากบุกไปที่ฐานของกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์คลั่ง
แม้จะเปลืองแรงอยู่บ้าง ทั้งยังถูกเหล่าผู้ใช้พลังที่ยังคงอยู่ที่นั่นขัดขวาง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รู้ว่า หวังเทียนป่าเสียชีวิต คนที่เหลือก็เลือกยอมแพ้
นับแต่นี้เป็นต้นไป ชื่อของกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์คลั่งได้ถูกลบออกจากฐานเทียนหัว เหลือทิ้งไว้เพียงประวัติศาสตร์!
หลังจากทำการยึดกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์คลั่ง กลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าสามารถรวบรวมแต้มพลังงานมาได้หลายแสนหน่วย นี่นับเป็นเงินจำนวนมหาศาล
เฉียวหลวนเดิมคิดมอบแต้มพลังงานให้ฉู่เซวียนซัก 200,000 แต้ม เพราะท้ายที่สุดแล้วฝ่ายหลังคือคนที่สังหารหวังเทียนป่าลงได้
อย่างไรก็ตาม แต้มพลังงานไม่มีประโยชน์กับฉู่เซวียน ขอแค่มีเสบียงในพื้นที่ระบบก็พอแล้ว ดังนั้นฉู่เซวียนจึงเอ่ยปฏิเสธไปอย่างสุภาพ
ยังไงก็ตาม สิ่งที่ฉู่เซวียนไม่รู้ก็คือ สิ่งที่เขาทำในครั้งนี้ ได้สร้างความวุ่นวายใหญ่โตแก่ฐานเทียนหัว
ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เรื่องที่เกิดขึ้นได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งฐานแล้ว
คนส่วนใหญ่เมื่อพวกเขาได้ยินเรื่องการตายของหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์คลั่ง ตอนแรกทั้งหมดคิดว่าเป็นแค่เรื่องล้อกันเล่น อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนเห็นว่าฐานของกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์คลั่งเกิดการเปลี่ยนมือ มีผู้ใช้พลังระดับสูงคนใหม่เข้ามาประจำการแทน ทุกคนก็ยอมรับความจริงข้อนี้
…
ณ ศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองทัพประจำเมืองเทียนหัว มีคนหลายสิบคนมารวมตัวกัน
กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากคนเกือบทั้งหมดทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง คาดว่าพวกเขาน่าจะเป็นผู้นำทางทหารของฐานแห่งนี้
และเสิ่นอี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ข่าวไม่ผิดพลาดแน่นะ” จากทางหัวโต๊ะ ชายชราหงอกขาวเอ่ยถาม
แต่ที่น่าแปลกใจนิดหน่อยก็คือ บุคคลนี้กลับเป็นเพียงคนธรรมดา ทว่าบนตัวเขากลับปลดปล่อยแรงกดดันที่พิเศษกว่าคนอื่นๆออกมา มันคือแรงกดดันชนิดหนึ่งที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในตำแหน่งสูงเป็นเวลานาน
“ข่าวนี้เชื่อถือได้” เสิ่นอี้กล่าวเสียงหนักแน่น
“กลุ่มทหารรับจ้างหลายกลุ่มให้ข่าวตรงกัน ว่าในพื้นที่รกร้าง มีฝูงแมลงปรากฏตัวขึ้น”
ได้ยินคำนี้ เกิดความโกลาหลขึ้นในห้องทันที เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ทราบมาก่อน
“อย่าพึ่งตกใจไป” มองไปยังหลายคนที่ดูตื่นตระหนก เสิ่นอี้กล่าว “เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ข่าวนี้เลยถูกปิดไว้ ยังไงก็ตาม หากปล่อยทิ้งไว้ต่อไปก็จะเกิดเรื่องแบบเดิมขึ้นซ้ำๆ จนสุดท้าย คงปิดไม่มิดอีก”
“ฝูงแมลง … ” ชายชราที่ทุกคนเรียกกันว่าเหล่าฉินขมวดคิ้ว คล้ายพยายามนึกอะไรบางอย่าง ก่อนหันไปมองรอบๆ เอ่ยอย่างช้าๆว่า “เมื่อสองปีก่อน การทดลองของประเทศ M ได้นำพาจุดจบมาสู่มนุษยชาติ เกิดซอมบี้ , สัตว์กลายพันธุ์ขึ้นนับไม่ถ้วน ไม่เว้นกระทั่งผู้ใช้พลังและผู้สืบทอด มนุษยชาติกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตครั้งใหญ่”
“ช่วงสองปีหลังเกิดเหตุการณ์วันสิ้นโลก ศัตรูของมนุษย์เรามีแค่ซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์มาโดยตลอด แต่จู่ๆก็มีฝูงแมลงโผล่มาจากที่ไหนไม่รู้ นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีอย่างแน่นอน”
“ให้ทางกองทัพเพิ่มการเฝ้าระวังพื้นที่โดยรอบ เตรียมพร้อมสู้ศึกตลอดเวลา!”
“รับทราบ!” ทุกคนตอบรับทันที
หลังจากนั้น เหล่าฉินได้วางแผนหารือเพิ่มเติมกับคนอื่นๆ แล้วการประชุมก็จบลง มีเพียงเสิ่นอี้ที่ถูกเรียกให้ยังอยู่ต่อ