1/10

 

Ep.571

 

“ได้ ฉันจะทำตามที่นายพูด งั้นแก่นผลึกและแก่นอสูรพวกนี้ ขอฝากนายด้วยนะ”

 

ระหว่างกล่าว ซูเฉินก็นำแก่นอสูรของต้นผลสายฟ้าห้าสาย และแก่นผลึกที่ได้มา วางลงข้างๆต้นผลอายุวัฒนะ

 

“นี่มันแก่นอสูรของต้นผลสายฟ้าห้าสาย!” ต้นผลอายุวัฒนะตกใจมาก

 

เพราะก่อนหน้านี้ ซูเฉินเพิ่งได้รับแก่นอสูรต้นผลพละกำลังมา มันไม่คาดคิดเลยว่าในระยะเวลาสั้นๆ ซูเฉินจะได้รับแก่นอสูรต้นผลสายฟ้าห้าสายอีกเช่นกัน

 

ต้นผลอายุวัฒนะถอนหายใจให้กับความโชคดีของซูเฉิน

 

“ดูแลพวกมันให้ฉันด้วย”

 

ซูเฉินกำชับ แล้วปิด [ต้นผลอายุวัฒนะ]

 

จากนั้นก็เดินไปทิ้งตัวลงบนที่นั่งคนขับ เริ่มตรวจสอบชิ้นส่วนที่รวบรวมมาได้

 

ชิ้นส่วนที่ดรอปในครั้งนี้มีมากกว่า 9,000 ชิ้น หากทั้งหมดถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน บวกกับยอดสะสมก่อนหน้านี้ จำนวนแต้มพลังงานทั้งหมดจะเกิน 10,000 แต้ม

 

นั่นหมายความว่า ซูเฉินจะสามารถแลกเปลี่ยนรายการที่ใช้ 10,000 แต้มได้อีกครั้ง

 

แต่เนื่องจากมีชิ้นส่วนดรอปเยอะเกินไป ซูเฉินต้องค่อยๆเลือกทีละหมวดหมู่ เลยเสียเวลาเกือบสามชั่วโมง

 

ผลลัพธ์คือ นอกจาก [โพชั่นกายภาพ] หลายขวด และ [อัญมณีอัพเกรด] อีกเป็นสิบๆก้อนแล้ว ชิ้นส่วนที่เหลือล้วนถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน จำนวนยอดโดยรวม 11,866 แต้มพลังงาน

 

ซูเฉินเปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] ตรวจสอบจำนวนแต้มที่ใช้แลกเปลี่ยน [คุณสมบัติเลเวล 8 อย่างเต็มรูปแบบ] เมื่อเห็นว่าต้องการ 5,000 แต้มพลังงาน เขาจึงตัดสินใจว่ายังไม่แลกเปลี่ยนอะไรในตอนนี้ อยากเก็บ 10,000 แต้มสำรองเอาไว้ก่อน

 

เพราะเขากำลังจะเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียน บนแผ่นดินที่ซึ่งมีผู้แข็งแกร่งเลเวล 9 อยู่มากมาย และอาจมีกระทั่งระดับเทวะ

 

หากบังเอิญไปเกิดความขัดแย้งกับผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นเข้า ก็อาจไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ ถึงเวลานั้นจำเป็นต้องงัดไพ่อย่างการใช้แต้มอัพเลเวลไปอีกขั้น เพื่อดึงกำลังรบให้สูงขึ้น

 

ง่ายๆก็คือซูเฉินต้องเตรียมแต้มพลังงานไว้พร้อมอัพเลเวลทุกที่ทุกเวลา

 

เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนี้ เขาก็ไม่รีบร้อนอะไร

 

หลังจากนั้น ซูเฉินปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] เดินลงจากรถ ช่วยหวู่หยางและคนอื่นๆ ขุดหินพลังงาน

 

เนื่องจากครั้งนี้มีซอมบี้ถูกล่าเป็นจำนวนมาก เวลาจึงล่วงเลยไปถึงเที่ยงของอีกวัน ถึงสามารถเก็บกู้หินพลังงานได้ทั้งหมด

 

ซูเฉินเรียกทุกคนขึ้นรถ ไม่นานเขาก็ออกจากเมืองชางหมิง

 

“เจ้านาย พวกเราจะไปที่ไหน?”

 

ซูเฉินเพียงสั่งให้ออกจากที่นี่ แต่ไม่ได้บอกปลายทาง [รถศึกอัจฉริยะ] เกิดความสับสนเล็กน้อย

 

“แค่หาที่สงบๆ แล้วพักผ่อนซักหน่อยค่อยว่ากัน”

 

ซูเฉินตอบกลับ จากนั้นเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] สนทนากับด้วงเขมือบทองคำ

 

“เสี่ยวฉง [รถศึกอัจฉริยะ] สามารถเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียนผ่านชั้นสสารพิษได้ไหม?”

 

เหลือเวลาอีกนานกว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายในเมืองเทียนหวังจะเปิดออก และซูเฉินไม่อยากรอเรื่อยเปื่อยอีกต่อไป

 

หากสามารถเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียนผ่านชั้นสสารพิษ ก็จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ

 

“เจ้านาย หมอกดำในชั้นสสารพิษไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้า รถฐานทัพอาจเกิดความเสียหายได้ง่ายหากขับมันเข้าไป” ด้วงเขมือบทองคำตอบตามความจริง

 

ดูเหมือนว่าจะไม่ปลอดภัยซะทีเดียว และซูเฉินจะไม่ยอมพาคนอื่นไปเสี่ยง เขาล้มเลิกความคิดนี้ทันที หันไปมองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง

 

ในเมื่อมีแต่ต้องรอ งั้นเขาก็ไม่อยากอยู่เฉย

 

บนเกาะหวังซวี่ยังมีพวกต่างเผ่าอยู่อีกไม่น้อย เขาสามารถใช้เวลาว่างช่วงนี้ไล่เก็บกวาดพวกมันทีละเผ่าได้

 

ต่อมา ซูเฉินเรียกเฉินเมิ่งเฟยมาหาเขา แล้วสอบถามเธอเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งของขุมกำลังอื่นๆ

 

ซอมบี้กับเผ่าระฆังศิลาถูกกำจัดออกไปแล้ว ที่เหลือคือเผ่าหินผา , เผ่าหนามหยก และเผ่าเทพ

 

สำหรับพวกสัตว์กลายพันธุ์ในภูเขาอวี้หลิน เนื่องจากเลเวลของพวกมันต่ำเกินไป แถมยังหนีเข้าป่าไปแล้ว ซูเฉินจึงไม่คิดไล่ตามอีก

 

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] เข้าไปในป่าเล็กๆที่เงียบสงบ หลังจากล่าซอมบี้ถึง 100,000 ตัว ทุกคนต่างเหนื่อยล้า ซูเฉินจึงตัดสินใจให้พักผ่อนกันหนึ่งวัน

 

2/10

 

Ep.572

 

หลังจากรถศึกจอดสนิท หยางฮ่าวและคนอื่นๆก็เริ่มเตรียมอาหาร

 

ส่วนซูเฉินเปิดถุงเก็บของ หยิบ [โพชั่นกายภาพ] และ [อัญมณีอัพเกรด] ออกมาตามจำนวนคน

 

หวู่หยางและคนอื่นๆไม่ได้ยกระดับมาซักพักหนึ่งแล้ว ขณะที่ซูเฉินตั้งใจจะเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียน ดังนั้นเลยอยากให้พวกเขาแข็งแกร่งไว้ก่อน จะได้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต

 

สำหรับอาวุธของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าแค่นี้ไม่แกร่งพอ ซูเฉินเลยจะจับพวกมันทั้งหมดมาอัพเกรดในคราวเดียว

 

รอจนรับประทานอาหารกันเสร็จ ซูเฉินแจกจ่าย [โพชั่นกายภาพ] และ [อัญมณีอัพเกรด] แก่ทุกคน

 

ไม่นาน หวู่หยางและคนอื่นๆก็ยกระดับไปอีกขั้น นอกจากนี้ อาวุธแต่ละชิ้นของทุกคนยังได้รับการอัพเกรด

 

เฉินเมิ่งเฟยจ้องมองฉากนี้ด้วยแววตาเหม่อลอย ในหัวใจเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความริษยาอย่างลึกล้ำ

 

เนื่องจากเฉินเมิ่งเฟยไม่ใช่คนของเขา ซูเฉินจึงไม่ได้มอบอะไรให้แก่เธอ แต่ถ้าเขาสามารถได้รับต้นผลจำลองจิตมาอย่างราบรื่น แล้วเห็นแก่ที่เฉินเมิ่งเฟยพยายามช่วยเหลือเขามาตลอดทาง ซูเฉินอาจพิจารณาเรื่องมอบขวดน้ำยาให้เธอสักขวดนึง

 

พักผ่อนกันตลอดทั้งวัน เช้าวันรุ่งขึ้น [รถศึกอัจฉริยะ] เริ่มออกเดินทาง

 

ปฏิบัติการล่าพวกต่างเผ่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

 

 

ใช้เวลาราวๆสิบวัน พวกต่างเผ่าทั้งหมดบนเกาะหวังซวี่ก็ถูกสังหารไม่มีเหลือ

 

ซูเฉินถือโอกาสนี้กอบโกยเศษชิ้นส่วน นอกเหนือไปจากรายการที่น่าจะมีประโยชน์แล้ว ที่เหลือทั้งหมดถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน ส่งผลให้แต้มพลังงานทั้งหมดทะลุ 15,000 แต้มในคราวเดียว

 

ด้วยจำนวนนี้ ทำให้ซูเฉินรู้สึกคันในหัวใจ ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่แลกเปลี่ยน เป็นเพราะอยากเก็บแต้มสำรองเอาไว้ หากตกอยู่ในอันตราย จะได้ใช้มันแลกเปลี่ยน [คุณสมบัติ เลเวล 8 ] เพื่อยกระดับตัวเอง

 

แต่ตอนนี้ เนื่องจากแต้มพลังงานเกิน 15,000 แต้มไปแล้ว เท่ากับว่าเขาสามารถใช้ 10,000 แต้มพลังงานแลกเปลี่ยนได้อย่างสบายใจ

 

ซูเฉินไม่กังวลอีกต่อไป เริ่มคิดว่าจะแลกเปลี่ยนรายการไหนดี

 

ปัจจุบัน มีอีกสี่รายการที่ต้องใช้ 10,000 แต้มในการแลกเปลี่ยน ได้แก่ [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] , [มังกรศักดิ์สิทธิ์ขนเพลิงมายา] ,​ [ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน] และ [ค่ายกลอเวจีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ]

 

[ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] ได้ปรากฏขึ้นเป็นเวลานานแล้ว ซูเฉินอยากได้มันมานาน

 

ซึ่งเดิมควรจะแลกเปลี่ยนมันตั้งนานแล้ว แต่มันถูก [อุปกรณ์เร่งเวลา] และ [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] แย่งไปเสียก่อน

 

รอบนี้ในที่สุดก็ถึงคราวของ [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] จริงๆซักที

 

ซูเฉินไม่ลังเลเลย ใช้ 10,000 แต้มพลังงานเพื่อแลกเปลี่ยน [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] ทันที

 

เมื่อการแลกเปลี่ยนสำเร็จ ข้อมูลของัมนก็ถูกถ่ายโอนไปยังสมองของซูเฉิน

 

[ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] คือเทคนิคต่อสู้ระยะประชิด

 

หลังจากเปิดใช้งาน ภูติเงาทั้งสิบที่เหมือนร่างต้นแบบทุกประการจะถูกจำแลงขึ้น

 

และภูติเงาเหล่านั้น จะมีกำลังรบตามตัวต้นแบบ 100%

 

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ ระยะเวลาใช้งานมันสั้นเกินไป แค่สามลมหายใจเท่านั้น

 

เมื่อสิ้นสามลมหายใจแล้ว ภูติเงาจำแลงจะหายไปโดยอัตโนมัติ

 

หลังจากได้รับข้อมูลตอบกลับ ซูเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

 

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ภูติเงาทั้งสิบตนที่ถูกสร้างขึ้น โดยพื้นฐานแล้วสมควรสังหารศัตรูได้ในเวลาแค่ไม่กี่วินาที

 

เรียกง่ายๆว่าหนึ่งลมหายใจก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องมากถึงสามลมหายใจเลย และหากใช้ร่วมกับ [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] พลังทำลายล้างของมันจะพุ่งทะยานเป็นเท่าทวี

 

ลองจินตนาการดูสิ ว่าหลังจากจำแลงร่างแล้ว ภูติเงาตัวหนึ่งถือ [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] อีกตัวหนึ่งถือ [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ที่เหลือปลดปล่อยพลังจิต และเวทมนต์ธาตุต่างๆออกมา

 

หากต้องเผชิญกับการรุมโจมตีอันคุกรุ่นรุนแรงเช่นนี้ จะมีสักกี่คนที่สามารถต้านทานได้?

 

ซูเฉินลองนึกภาพตาม ว่าต่อให้เป็นผู้ฝึกตนเลเวล 10 เผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ คงไม่พานพบช่วงเวลาที่ดี

 

แล้วอีกอย่าง เขายังมีแต้มพลังงานอีก 5,000 แต้ม สามารถใช้แลกชิ้นส่วนในการยกระดับได้ตลอดเวลา

 

ถึงตอนนั้น ศัตรูตนใดที่อยู่ต่ำกว่าระดับเทวะ คงแทบไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้

 

ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าการเลือกแลกเปลี่ยน [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] มันช่วยให้กำลังรบของซูเฉินเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก ช่วยให้เขาก้าวไปอีกขั้นบนเส้นทางแห่งความไร้เทียมทาน!