3/10

 

Ep.563

 

กระแสวังวนทมิฬโถมกดลงอย่างรวดเร็ว ห่อหุ้มด้วงทองคำเอาไว้อย่างสิ้นเชิง

 

กึดดด … แคว๊กกก

 

เสียงปริร้าวและฉีกขาดอันน่าขนลุกดังขึ้น

 

เห็นแค่เพียงบนร่างของด้วงทองคำที่ถูกกลืนเข้าไปในวังวน ชั้นเปลือกหนาหลุดลอกจากลำตัว เริ่มมีของเหลวสีทองไหลออกมา

 

“อ๊ากกกกก!”

 

ด้วงทองคำเลเวล 8 ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

 

แม้เห็นภาพนี้ แต่ซูเฉินมิได้แสดงออกถึงความสุขแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเป็นปม

 

เพราะด้วงทองคำเลเวล 8 แม้ถูกโจมตีโดย [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] จนตามเนื้อตัวมันเต็มไปด้วยบาดแผล ทว่ากลิ่นอายแห่งชีวิตกลับยังไม่เหือดหายไป

 

นี่แสดงให้เห็นว่า ด้วงทองคำเลเวล 8 อาศัยความแข็งแกร่งทางกายภาพเพียงอย่างเดียว ก็สามารถต้านทานการโจมตีร้ายแรงของ [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] ได้

 

นั่นหมายความว่า ความแข็งแกร่งทางกายภาพของมัน ได้ทะยานไปอยู่ในระดับที่เหนือจินตนาการแล้ว

 

ซูเฉินเกิดความคิดขึ้นมา ว่าพลังป้องกันของด้วงทองคำ ไม่น่าจะด้อยไปกว่าต้นหลิววัชระ ที่ถูกเรียกขานว่า ‘กายวัชระมิอาจทำลาย’ ได้เลย

 

ดังคาด เมื่อกระแสวังวนทมิฬสลายไป ด้วงทองคำเลเวล 8 ยังคงลอยอย่างมั่นคงอยู่กลางอากาศ

 

“มนุษย์! ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าพลาดแล้วที่ยั่วโมโหข้าเช่นนี้ นับจากนี้ไป จงรับรู้ถึงโทสะของข้า!” ด้วงทองคำเลเวล 8 กัดฟันกรอด

 

ปีกทั้งสองข้างกระพือไปมาอย่างแรง แปรเปลี่ยนตนเป็นกระแสแสงทองคำ ตรงเข้าหาซูเฉิน

 

เผชิญหน้ากับอำนาจอันแสนดุร้ายรุนแรงนี้ ช่างน่าฉงนที่ซูเฉินกลับยังคงยืนอยู่กับที่ ไม่ขยับไปไหน มีกระทั่งร่องรอยของความเหยียดหยามปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา

 

ด้วย [กายาเทพอสูรนิรันดร์] เขาสามารเพิกเฉยต่อการโจมตีทั้งปวงในเลเวลเดียวกัน

 

ซึ่งเลเวลของด้วงทองคำ มันอยู่ขั้น 8 เหมือนกับเขา ดังนั้นไม่สามารถทำร้ายเขาได้

 

“เจ้าหนู ในที่สุดก็ยอมไปลงนรกดีๆซักทีนะ!”

 

เห็นซูเฉินไม่หลบเลี่ยง ไป่เจ๋อที่อยู่นอกสมรภูมิปลาบปลื้มยินดี เอ่ยพึมพำอย่างชั่วร้าย

 

ด้วงทองคำเลเวล 8 เองก็เกิดความสับสนเช่นกัน มันไม่รู้ว่าทำไมซูเฉินถึงยืนนิ่งเป็นเสาไม้ให้มันโจมตี

 

อย่างไรก็ตาม มันไม่เสียเวลาคิดอะไรมาก เร่งความเร็วกลายเป็นเส้นแสง มองไกลๆคล้ายเสาไม้ไผ่ขนาดยักษ์ ปะทะเข้ากับร่างของซูเฉินอย่างแรง

 

วินาทีถัดมา ฉากอันน่าเหลือเชื่อได้ปรากฏขึ้น

 

เป็นอย่างที่ทุกท่านคาดการณ์ไว้ ฉากที่ซูเฉินถูกทำลายกระดูกจนแหลกเป็นเสี่ยง และจบชีวิตลงไม่เกิดขึ้น ตรงกันข้าม ดันเป็นด้วงทองคำ ที่หลังจากปะทะแล้ว กลับพบพานกับแรงสะท้อนอันน่าพิศวง ส่งมันปลิวกลับมา

 

“นี่ … ”

 

ไป่เจ๋ออ้าปากค้าง สีหน้าท่าทีกลายเป็นเหม่อลอย

 

การโจมตีของด้วงทองคำเลเวล 8 ไม่อาจสร้างบาดแผลใดๆให้กับซูเฉินได้ นี่มันเรื่องโกหก! จะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

 

หากฉากนี้เป็นเรื่องจริง นั่นไม่ได้หมายความว่าซูเฉินคงกระพันฆ่าไม่ตายหรอกหรือ?

 

คิดได้แบบนี้ หัวใจของไป่เจ่อคล้ายหยุดเต้น

 

อีกด้านหนึ่ง ด้วงทองคำตั้งหลักจนกลับมาทรงตัวได้มั่นคง สะบัดหัวช้าๆ จ้องมองซูเฉินอย่างโง่งม เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “กายาเทพอสูรนิรันดร์ … เหตุใดเจ้าถึงได้มีกายาเทพอสูรนิรันดร์?”

 

ซูเฉินราวกับได้ยินเสียงวิ้งงงง! ขึ้นในสมองของเขา ตะลึงลานไปครู่หนึ่ง

 

[กายาเทพอสูรนิรันดร์] คือเทคนิคที่ดรอปจากชิ้นส่วน ตามหลักแล้วสมควรมีเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ แล้วด้วงทองคำรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?

 

“แกรู้ชื่อมันได้ยังไง?”

 

ซูเฉินจับจ้องด้วงทองคำเลเวล 8 ด้วยสายตาอันตราย [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] เริ่มส่งเสียงหึ่ง หึ่ง พร้อมฟาดฟันอีกครั้ง

 

เพราะข้อมูลนี้สำคัญมาก หากด้วงทองคำไม่ปริปาก คิดเก็บงำ เขาจะลงมือกับมันอย่างไร้ปราณี

 

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีกายาเทพอสูรนิรันดร์จริงๆ” ด้วงทองคำเลเวล 8 ถอนหายใจเบาๆ

 

สิ้นเสียง มันก็หุบปีก ร่อนลงพื้น คุกเข่าลงแทบเท้าซูเฉิน ร้องตะโกนด้วยความนอบน้อม “ด้วงเขมือบทองคำ คารวะเจ้านาย!”

 

“เจ้านาย?”

 

ซูเฉินอ้าปากค้าง สมองของเขาคล้ายถูกหยุดสั่งการเล็กน้อย

 

ด้วงทองคำเลเวล 8 ที่โจมตีเขาอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่ เหตุใดจู่ๆถึงเรียกเขาเจ้านาย?

 

4/10

 

Ep.564

 

ไป่เจ๋อที่อยู่ไม่ไกล ตอนแรกว่าตกใจแล้ว ครั้งนี้ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม

 

เพราะสิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจเขามากที่สุด คือด้วงทองคำเลเวล 8 หากด้วงทองคำยึดถือซูเฉินเป็นเจ้านาย นั่นไม่เท่ากับเขาต้องตายหรือ?

 

“นายท่าน มัวทำอะไรอยู่? รีบฆ่าเจ้าหมอนั่นเร็ว!”

 

ไป่เจ๋อร้อนรุ่มด้วยความวิตกกังวล ร้องเรียกด้วงทองคำเลเวล 8 เสียงดัง

 

แต่ใครจะทันคิด ว่าทันทีที่เขาพูดจบ ศีรษะของเขาก็ถูกขาหน้าของด้วงทองคำเจาะทะลุเป็นรู ตายลงทั้งๆอย่างนั้นในทันที

 

“กล้าดียังไงไม่เคารพเจ้านาย เจ้าคนสารเลว!”

 

ด้วงทองคำเลเวล 8 ถ่มน้ำลายใส่ศพของไป่เจ๋อ กลับมาคุกเข่าลงกับพื้นอีกครั้ง ท่าทีที่มันแสดงออกมา ดูให้ความยำเกรงต่อซูเฉินมาก

 

“ให้ตายเถอะ .. ”

 

ซูเฉินลอบสบถออกมา แม้นี่จะช่วยให้เขาระบายความโกรธได้ แต่ขณะเดียวกัน มันก็ตัดเบาะแสที่จะนำไปสู่การตามหาต้นผลสายฟ้าห้าสายเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธมาก

 

ซูเฉินระงับความโกรธของเขา กวาดสายตามองศพของไป่เจ๋อ แต่ระหว่างนั้นเอง เขากลับพบแก่นอสูรหลากสีที่แตกร้าวอยู่ในหัวที่เพิ่งถูกเจาะเป็นรูของไป่เจ๋อ

 

“หรือนี่จะเป็นแก่นอสูรของต้นผลสายฟ้าห้าสาย?”

 

หัวใจของซูเฉินเต้นแรง ปลดปล่อยพลังจิต กวาดเอาแก่นอสูรนี้มาไว้ในมือ พินิจมองอย่างตั้งใจ ก่อนนำมันใส่ถุงเก็บของอย่างเงียบๆ

 

กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากแก่นอสูร ทำให้ซูเฉินคาดเดาได้ทันที ว่ามีโอกาสมากกว่า 90% ที่มันคือแก่นอสูรของต้นผลสายฟ้าห้าสาย

 

เนื่องจากยังมีด้วงทองคำให้จัดการ เขาเลยยังไม่สนทนากับต้นผลอายุวัฒนะในตอนนี้

 

“เจ้าแมลงยักษ์ ฉันขอถามแกอีกครั้ง แกรู้เรื่องกายาเทพอสูรนิรันดร์ได้ยังไง?”

 

ซูเฉินจับจ้องด้วงทองคำ เอ่ยถามเสียงขรึม

 

“นับแต่ข้าพัฒนาภูมิปัญญาทางจิต ข้าก็ได้ติดตามเจ้านายเก่าของข้า จึงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน” ด้วงทองคำเลเวล 8 ตอบตามความจริง

 

ได้ยินแบบนั้น สมองของซูเฉินค่อยๆปั่นความคิด ฟังจากที่พูด แสดงว่าเจ้านายเก่าของด้วงทองคำน่าจะฝึกฝนกายาเทพอสูรนิรันดร์ด้วยเหมือนกันกับเขา

 

ไม่อย่างงั้น ด้วงทองคำก็อาจจำคนผิด

 

“แกคงเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เจ้านายแก เป็นแค่คนที่ฝึกฝนกายาเทพอสูรนิรันดร์เหมือนกันก็เท่านั้น” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย

 

เดิมที เขาคิดว่าหากบอกความจริงออกไป ด้วงทองคำจะโกรธ แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะยังคงขดตัว กราบกรานอยู่กับพื้นด้วยความเคารพดังเดิม และอธิบายให้ซูเฉินฟังว่า

 

“เจ้านายเก่าของข้าได้ล่วงลับไปนานแล้ว ข้าทราบเรื่องนี้ดี อย่างไรก็ตาม ในเมื่อท่านครอบครองกายาเทพอสูรนิรันดร์ นั่นหมายความว่าท่านเป็นผู้สืบทอดของเจ้านายเก่า หรือก็คือเจ้านายคนปัจจุบันของข้า”

 

นี่มันใช้ตรรกะอะไรของมันเนี่ย?

 

ซูเฉินเกิดความสับสนเล็กน้อย [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ของเขา เป็นสิ่งที่ดรอปจากชิ้นส่วน แน่นอนว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับอดีตเจ้านายของด้วงทองคำ

 

แต่พอคิดถึงเรื่องที่ว่า ด้วงทองคำเป็นแมลงสัตว์ร้ายเลเวล 8 ที่มีกำลังรบแข็งแกร่งเป็นพิเศษ และแถมเหมือนจะแกร่งกว่าต้นหลิววัชระอยู่เล็กน้อย หากเขาถือโอกาสนี้ รับมันเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณ กำลังรบโดยรวมของเขาจะต้องเพิ่มไปอีกขั้นแน่ๆ

 

ด้วยเหตุนี้ ซูเฉินจึงยอมรับสถานะเจ้านายของมัน แสร้งทำท่าทีและพูดด้วยน้ำเสียงลึกล้ำว่า “ฉันได้รับกายาเทพอสูรมาโดยบังเอิญ ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องของเจ้านายเก่าแก พอจะช่วยเล่าให้ฉันฟังคร่าวๆได้ไหม?”

 

“ได้ขอรับ”

 

ด้วงทองคำพยักหน้า เริ่มอธิบาย

 

“เจ้านายเก่าของข้าชื่อ หลี่ชิวไห่ เขาคือผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 7 เผ่ามนุษย์ แต่ได้ตายลงในสงครามโบราณครั้งก่อน”

 

“ระดับเทวะขั้น 7 ? นี่ในระดับเทวะก็มีขั้นอยู่ด้วยหรอ?”

 

เปลือกตาของซูเฉินกระตุกอย่างแรง ร้องอุทานโดยไม่รู้ตัว

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดเสมอว่าหลังจากก้าวข้ามเลเวล 10 ขึ้นไปแล้ว ก็จะกลายเป็นระดับเทวะ และนั่นคือขั้นสูงสุดของระดับฝึกตน แต่ไม่นึกเลยว่าระดับเทวะก็จะมีขั้นแบ่งด้วย นี่มันเหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิง

 

“เจ้านาย ในระดับเทวะมีการแบ่งขั้นจริงๆ มันถูกแบ่งออกทั้งหมดเป็นสิบขั้น อ่อนแอสุดคือระดับเทวะขั้นหนึ่ง แกร่งสุดคือระดับเทวะขั้นสิบ” ด้วงทองคำยืนยันคำตอบ