1/10

 

Ep.551

 

ซูเฉินส่ายหัว ใส่แก่นอสูรกับศิลาวิญญาณวายุลงในถุงเก็บของ ทิ้งตัวลงเก้าอี้คนขับ เบนสายตามองหน้าจอควบคุมส่วนกลาง

 

หลังจากสำรวจดูแล้ว เขาก็หันไปเรียกเฉินเมิ่งเฟยให้เข้ามาหา เอ่ยถามว่า “บนเกาะหวังซวี่ สถานที่ไหนอยู่ใกล้ชั้นสสารพิษมากที่สุด?”

 

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าเฉินเมิ่งเฟยเคยได้รับผลสายฟ้าห้าสาย เขาเลยตั้งข้อสันนิษฐานว่าไป่เจ๋อเองก็น่าจะเคยเข้าสู่ชั้นสสารพิษเช่นกัน

 

ขณะที่บนเกาะหวังซวี่มีสถานที่แห่งหนึ่งเชื่อมต่อกับชั้นสสารพิษ ถ้าให้อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ หากใครก็ตามต้องการเข้าสู่ชั้นสสารพิษจากบนเกาะ เขาจะต้องไปที่นั่น

 

“ผู้อาวุโส ชั้นสสารพิษอยู่ในทิศทางมุมตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะหวังซวี่ เมืองชางหมิงตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่นั่น แต่มันเป็นเขตอิทธิพลของซอมบี้กับเผ่าอมตะ” เฉินเมิ่งเฟยตอบ

 

เดิมซูเฉินมีแผนจะฆ่าพวกต่างเผ่ากับซอมบี้บนเกาะหวังซวี่อยู่แล้ว เช่นนั้นการเดินทางในครั้งนี้ ไม่เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหรือ?

 

“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา ขอบใจ”

 

ซูเฉินพยักหน้า เริ่มหลับตาพักผ่อน

 

 

เมื่อ [รถศึกอัจฉริยะ] กลับมาถึงเกาะหวังซวี่ ซูเฉินมองไปยังหน้าจอควบคุมส่วนกลางอีกครั้ง

 

หลังจากระบุตำแหน่งที่แน่นอนของเมืองชางหมิงได้แล้ว เขาก็สั่งการให้รถศึกแล่นตรงไปด้วยความเร็วสูงสูด

 

ระหว่างทาง ซูเฉินก็ไม่ได้เกียจคร้านอยู่เฉย สายตายังคงจดจ้องอยู่กับหน้าจอควบคุม

 

หากมีรังของพวกต่างเผ่าอยู่ระหว่างทาง เขาจะไล่เก็บกวาดพวกมันให้หมด!

 

[รถศึกอัจฉริยะ] มุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้ามาถึงพื้นที่ที่เรียกว่าภูเขาจิ่วเว่ย หลายร้อยจุดสีดำก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง

 

เห็นภาพนี้ ซูเฉินเริ่มตื่นตัวเล็กน้อย หันมาถามเฉินเมิ่งเฟย “ในภูเขาจิ่วเว่ย เป็นรังของพวกต่างเผ่าสายพันธุ์ไหน?”

 

“น่าจะเป็นที่อยู่ของเผ่าระฆังศิลา” เฉินเมิ่งเฟยครุ่นคิดสักพัก แล้วตอบกลับ

 

“เผ่าระฆังศิลา … ”

 

ซูเฉินพึมพำ ในดวงตาทอประกายเย็นยะเยือก

 

เมื่อหลายวันก่อน มีผู้วิวัฒนาการเลเวล 8 จากเผ่าระฆังศิลาตามไล่ล่าเขา สุดท้ายถูกฆ่าตาย

 

ต่อมา ในคฤหาสน์ของหานซานเฉียน ซูเฉินก็ได้ฆ่าชาวเผ่าระฆังศิลาไปเช่นกัน

 

อาจกล่าวได้เลยว่า ความบาดหมางระหว่างเขากับเผ่าระฆังศิลานั้นค่อนข้างลึกล้ำ และในเมื่อพวกมันอยู่ระหว่างทางพอดี จึงถือโอกาสกวาดล้างในคราวเดียว

 

“เสี่ยวจือ ล็อคเป้าพวกชาวเผ่าระฆังศิลา แล้วตรวจสอบฐานฝึกตนของพวกมัน” ซูเฉินสั่ง

 

“เจ้านาย ในบรรดาพวกเขา ผู้แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในเลเวล 5 มีทั้งสิ้นสี่ตน ส่วนที่เหลือเป็นผู้ฝึกตนเลเวลต่ำกว่า 4 ” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบ

 

“เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปภูเขาจิ่วเว่ย” ซูเฉินออกคำสั่ง

 

“รับทราบ”

 

รถศึกล็อคเป้าภูเขาจิ่วเว่ย หักเลี้ยวเล็กน้อย มุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว

 

“พี่เฉิน ศัตรูแข็งแกร่งรึเปล่า พวกเราจะได้แสดงฝีมือไหม?”

 

หยางฮ่าวและสหายโน้มตัวลงมาถามซูเฉิน

 

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา พวกเขาไม่ได้ออกไปสู้เลย จึงรู้สึกคันไม้คันมือ

 

“ครั้งนี้พวกนายลงมือได้” ซูเฉินยิ้ม

 

นอกจากผู้ฝึกตนเลเวล 5 ไม่กี่คนจากเผ่าระฆังศิลาแล้ว ส่วนที่เหลือล้วนเป็นปลาซิวปลาสร้อย ให้หยางฮ่าวและคนอื่นๆออกกำลังกายกันบ้าง ก็ไม่เลว

 

ได้รับคำตอบจากซูเฉิน หยางฮ่าวและคนอื่นๆตื่นเต้นดีใจ

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ในที่สุดก็เข้ามาใกล้ภูเขาจิ่วเว่ย

 

มีเมืองขนาดเล็กสร้างอยู่ใต้ภูเขาจิ่วเว่ย คาดว่าพวกชาวเผ่าระฆังศิลาน่าจะรวมตัวกันอยู่ข้างใน

 

“เสี่ยวจือ ยิงปืนใหญ่ซัก 2-3 นัดให้มันออกมาต้อนรับพวกเราที”

 

เมื่อรถอยู่ห่างจากเมืองไม่ถึง 100 เมตร ซูเฉินสั่ง

 

“รับทราบ”

 

[รถศึกอัจฉริยะ] ควบคุม [ปืนใหญ่เพาส์] ยิงกระสุนห้าลูกติดต่อกัน

 

ตูม ตูม ตูม ตูม ตูม!

 

เสียงระเบิดดังติดต่อกัน เกิดความโกลาหลขึ้นในเมือง ไม่นานชาวเผ่าระฆังศิลาจำนวนมากก็กรูกันออกมา

 

พริบตาเดียวมีจำนวนมากถึง 500 เรียกได้ว่าออกมากันเกือบทั้งเมือง

 

ซูเฉินมีความสุขมากที่ได้เห็นฉากนี้ อีกฝ่ายออกมาต้อนรับเขาทั้งหมด ทำให้ง่ายที่จะฆ่าทุกตนในคราวเดียว

 

2/10

 

Ep.552

 

“เฉินเมิ่งเฟยอยู่ข้างใน ส่วนคนที่เหลือออกไปกับฉัน”

 

ซูเฉินประกาศ ก้าวนำลงจากรถเป็นคนแรก

 

ซูเฉินคิดไว้แล้วว่าพบต้นผลจำลองจิตเมื่อไหร่ ค่อยปล่อยเฉินเมิ่งเฟยไป ดังนั้นจึงไม่ผูก [ระบบรับสมัครทหาร] กับเธอ

 

นั่นหมายความว่าหากเฉินเมิ่งเฟยฆ่าพวกต่างเผ่า จะไม่สามารถดรอปชิ้นส่วนได้

 

หยางฮ่าวและคนอื่นๆตามหลังซูเฉิน ทยอยกันลงจากรถ ส่วนเฉินเมิ่งเฟยยอมอยู่ข้างในอย่างว่าง่าย

 

“พวกเจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงมาบุกดินแดนเผ่าระฆังศิลาของพวกเรา? ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?”

 

ชายร่างสูงเผ่าระฆังศิลาก้าวออกมาข้างหน้า กวาดสายตามองซูเฉินและคนอื่นๆ ขึ้นเสียงตะโกนลั่น

 

ซูเฉินยังไม่ทันได้ปะทะวาจากลับไป เห็นแค่เพียงชายร่างผอมของเผ่าระฆังศิลา ก้าวออกมากระซิบข้างหูชายร่างสูงที่ตะโกนในตอนแรก

 

หลังจากได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของชายร่างสูงแปรเปลี่ยนไป แทบจะในทันทีหลังจากนั้น เขาประสานมือคารวะซูเฉิน กล่าวน้ำเสียงนอบน้อมว่า

 

“ผู้อาวุโส พวกเราเผ่าระฆังศิลาไม่เคยล่วงเกินท่าน!”

 

ข่าวที่เขาเพิ่งได้รับมาก็คือ เมื่อไม่กี่วันก่อนในเมืองเทียนหวัง เหล่าผู้แข็งแกร่งเลเวล 6 ที่เป็นพวกต่างเผ่า ทั้งหมดถูกสังหารสิ้น

 

และผู้ร้ายก็คือชายหนุ่มเบื้องหน้าเขานั่นเอง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการดำรงอยู่อันน่าสะพรึงเช่นซูเฉิน ความคิดต่อต้านเมื่อครู่มลายหายไป ทำได้เพียงลดท่าทีลง กล่าวกับซูเฉินดีๆ

 

ซูเฉินเบ้ปาก “มีผู้วิวัฒนาการเลเวล 8 จากเผ่าระฆังศิลาของพวกแกเคยล่วงเกินฉัน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าพวกแกทุกตนในที่นี้ต้องตาย!”

 

สิ้นเสียง เขาเรียกเต่าทรราชปราณฟ้าและ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ออกมา เอื้อมมือชี้เบื้องหน้า เอ่ยปากสั่ง “ฆ่าพวกมัน!”

 

สัตว์เลี้ยงวิญญาณเลเวล 6 สองตัวได้รับคำสั่ง พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน

 

ในเวลาเดียวกัน [นักรบจักรกล] , หวู่หยางและคนอื่นๆก็โถมเข้าโจมตีเช่นกัน

 

ส่วนชาวเผ่าระฆังศิลา แน่นอนย่อมไม่นั่งรอความตายอยู่เฉยๆ ทั้งหมดรวบรวมความกล้า พุ่งสวนไปข้างหน้า ดิ้นรนต่อสู้สุดชีวิต

 

ซูเฉินยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีแผนที่จะเคลื่อนไหวใดๆ

 

กำลังรบของศัตรูอ่อนแอเกินไป อาศัยแค่สัตว์เลี้ยงวิญญาณสองตนกับ [นักรบจักรกล] ก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับพวกมัน

 

การต่อสู้ฆ่าฟันดำเนินไปอย่างดุเดือด ชาวเผ่าระฆังศิลาเสียชีวิตไปแล้วกว่าครึ่ง

 

ส่วนใหญ่ถูกสังหารโดยสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสอง แม้แต่สมาชิกเผ่าสี่ตนที่มีเลเวล 5 ก็ไม่รอด

 

ขณะที่ซูเฉินเตรียมสั่งการรวบรวมชิ้นส่วนผ่านความคิด ทันใดนั้นเอง จู่ๆเขาก็พบว่า [นักรบจักรกล] ถูกหมัดของชายร่างอ้วนต่อยกระเด็น ปลิวไกลกว่าสิบเมตร

 

“มีพวกทรงพลังปะปนอยู่ด้วย?” ซูเฉินเริ่มตื่นตัวเล็กน้อย

 

[นักรบจักรกล] คือหุ่นเชิดเลเวล 6 แม้เมื่อขึ้นมาบนเกาะ ฐานฝึกตนจะถูกปรับลดลง แต่มันก็ยังมีความแข็งแกร่งอยู่ในเลเวล 5

 

ด้วยความสามารถในการต่อสู้ของมัน ก็เพียงพอแล้วที่จะต่อกรกับผู้ฝึกตนเลเวล 6 ทั่วๆไป

 

ทว่าตรงกันข้ามกับชายร่างอ้วนผู้นี้ อีกฝ่ายเป็นแค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 เท่านั้น แต่พละกำลังกลับมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ซูเฉินสังเกตจากคลื่นความผันผวนได้ว่า พละกำลังของชายอ้วน สูงกว่าของผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 ซะอีก

 

นี่มันผิดปกติเกินไป

 

หลังจากชายร่างอ้วนต่อย [นักรบจักรกล] ปลิวกระเด็น อีกฝ่ายก็ไม่คิดต่อสู้อีก แต่พยายามลอบหนีไปจากสถานที่แห่งนี้

 

ทว่าตั้งแต่ที่ถูกซูเฉินค้นพบ เขาจะปล่อยให้มันหนีไปได้อย่างไร?

 

วูซซซซ!

 

ซูเฉินเปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ทั้งคนทั้งร่างกลายเป็นพร่ามัว หายวับไปจากที่เดิมในพริบตา

 

ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็มาอยู่เบื้องหน้าของชายร่างอ้วนแล้ว เจ้าตัวไม่รอช้า ปลดปล่อยพลังจิตออกไปทันที

 

ชายร่างอ้วนสัมผัสได้ถึงพลังที่มองไม่เห็นกดทับลงมา สีหน้าเขาหมองลงเล็กน้อย ตัดสินใจระเบิดพละกำลังอันบ้าคลั่งเข้าต่อต้าน

 

เห็นแค่เพียงมือข้างหนึ่งยื่นออกไป โดยไม่ทันคาดคิด มือข้างนั้นคว้าพลังจิตของซูเฉิน แล้วฉีกระชากเป็นเสี่ยงๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

 

“หืม~”

 

ซูเฉินขมวดคิ้ว อุทานออกมาเบาๆ

 

จุดแข็งของอีกฝ่ายคือพละกำลัง และมันเหนือกว่าที่ซูเฉินคาดคิดไว้เล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์นี้ยิ่งกระตุ้นความสนใจของเขามากขึ้น

 

เห็นแค่เพียงซูเฉินกระโจนออกไปข้างหน้า เริ่มโคจร [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] เอื้อมมือคว้าชายร่างอ้วน