Ep.547

 

ทว่า [รถศึกอัจฉริยะ] ได้ถูกอัพเกรดมาถึงเลเวล 6 แล้ว บวกกับมี [นักรบจักรกล] อยู่ข้างใน ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนเลเวล 7 ก็ไม่น่าจะทำอันตรายพวกมันถึงขั้นนั้นได้

 

สรุปแล้วเกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย?

 

หัวใจของซูเฉินร้อนรุ่มไปด้วยความกังวล ทะยานขึ้นไปในอากาศ กวาดสายตามองรอบๆ

 

แม้จะไม่พบร่องรอยของ [รถศึกอัจฉริยะ] แต่ก็ได้ยินเสียงระเบิดแว่วเข้ามาในหู

 

“นี่มันเสียงระเบิดตอร์ปิโด!”

 

สีหน้าของซูเฉินแปรเปลี่ยนไป เกิดข้อสันนิษฐานว่า [รถศึกอัจฉริยะ] อาจไปพบเจอสัตว์ทะเลเข้าใช่หรือไม่? เลยถูกไล่ล่า

 

อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้นี้มีน้อยมาก

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว [รถศึกอัจฉริยะ] มีอำนาจสังหารที่สูงมาก หากไม่ได้รับคำสั่งจากเขา มันไม่น่าจะจากไปง่ายๆ

 

ซูเฉินไม่เสียเวลาคิดอีก เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] รีบตรงไปยังทิศทางที่เกิดการระเบิด

 

หลังจากวิ่งติดต่อกันมานานกว่าสิบไมล์ ในที่สุด [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ปรากฏสู่สายตา

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงมาก เวลานี้มันกำลังถูกไล่ล่าจากเรือไม้ขนาดเล็กลำหนึ่ง

 

และความเร็วของเรือไม้ลำนี้ ไวกว่า [รถศึกอัจฉริยะ] อย่างเห็นได้ชัด

 

โชคยังดีที่ [รถศึกอัจฉริยะ] มีฟังก์ชั่นล่องหน จึงสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของคู่ต่อสู้โดยการล่องหนเป็นครั้งคราว

 

“รนหาที่ตาย!”

 

สีหน้าของซูเฉินกลายเป็นมืดมน ปรากฏว่ามีคนต้องการปล้น [รถศึกอัจฉริยะ] จริงๆ และเขาจะไม่อนุญาตให้เป็นแบบนั้นอย่างแน่นอน

 

สำหรับคนบนเรือไม้ลำเล็ก ซูเฉินได้มองด้วยสายตาราวกับว่าอีกฝ่ายได้ตายไปแล้ว

 

วินาทีถัดมา ซูเฉินร่อนลงจากฟ้า เมื่อบินมาเหนือเรือไม้ลำเล็ก เขาก็ง้างแขนไปข้างหลังและชก [หมัดดาวตก] ออกไปทันที

 

บนเรือไม้ลำเล็กมีชายชราหงอกขาว สวมชุดดำอยู่เพียงคนเดียว เมื่อเขาเห็นเงาหมัดพรั่งพราวเต็มท้องฟ้า คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ยิงใบมีดสายลมเข้าสกัดกั้นอย่างไม่ค่อยใส่ใจ

 

ใบมีดสายลมผุดจากมือเขา กรีดผ่านอากาศ ผ่านไปได้หลายสิบจั้ง ก็ปะทะกับชุดหมัดสีทอง

 

ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ..!

 

สิ้นเสียงระเบิดหมัดดังเป็นชุด สุดท้ายทั้งมันและใบมีดสายลมถูกทำลายในเวลาเดียวกัน

 

“ระดับเทวะ? ไม่สิ เป็นไปไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นแค่เลเวล 7 แล้วทำไมถึงบินได้?” ชายชราหงอกขาวกวาดมองซูเฉินด้วยความสนใจ อุทานออกมาเบาๆ

 

เป็นที่ทราบกันดี ว่าเผ่ามนุษย์ไม่มีความสามารถในการบิน หากต้องการลอยในอากาศ มีวิธีเดียวคือฝึกฝนจนก้าวสู่ระดับเทวะและเชื่อมต่อกับพลังแห่งสวรรค์และปฐพีเท่านั้น

 

ขณะที่ซูเฉินเป็นเพียงเลเวล 7 แต่กลับสามารถยืนลอยตัวอยู่กลางอากาศได้เหมือนระดับเทวะ เรื่องนี้ทำให้ชายชราหงอกขาวประหลาดใจมาก

 

ซูเฉินไม่สนใจตอบเขา ร่อนลงบน [รถศึกอัจฉริยะ]

 

“ซูเฉิน!”

 

“พี่เฉิน!”

 

เมื่อเห็นซูเฉินมาทันเวลา ทุกคนบนรถตื่นเต้นดีใจกันมาก

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

ซูเฉินหรี่ตากวาดมองทุกคน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ก็ถอนหายใจโล่งอก

 

“พี่เฉิน ไอ้แก่นั่นคิดจะปล้นรถฐานทัพของพี่ พวกเราสู้มันไม่ได้ เลยต้องหลบหนี” หยางฮ่าวชี้ไปทางชายชราหงอกขาว อธิบายด้วยความโกรธ

 

หลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซูเฉินหันกลับมามองชายชราหงอกขาว ดวงตาของเขาทอประกายเย็นเยียบ

 

สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า หากเขามาไม่ทันเวลา [รถศึกอัจฉริยะ] มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่จะได้รับความเสียหาย และคนในรถก็จะตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ไม่ว่ายังไง วันนี้ชายชราหงอกขาวจักต้องตาย!

 

“เด็กน้อย เห็นแก่พรสวรรค์ของเจ้า เราผู้เฒ่าจะให้โอกาสสักครั้ง ลองฟังดูเป็นอย่างไร?”

 

แม้สัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตรจากในแววตาของซูเฉิน แต่ชายชราหงอกขาวไม่สนใจ ยังคงกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ

 

ซูเฉินเบ้ปาก แค่นเสียงเบาๆ “ว่าต่อสิ”

 

อีกฝ่ายคือปรมาจารย์มนตราเลเวล 8 ผู้แข็งแกร่งระดับนี้นับว่าพบเจอได้ยากมาก เขาอยากรู้ที่มาที่ไปของอีกฝ่าย ดังนั้นไม่รีบร้อนลงมือ

 

Ep.548

 

“ก่อนจะพูด ข้าขอแนะนำตัวเองก่อน”

 

ชายชราหงอกขาวกระแอม กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “เราผู้เฒ่ามาจากวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสของวิหารอีกด้วย”

 

วิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยูตั้งอยู่ในทวีปเสวียนเทียน หากไม่นับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกเขาถือเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะไม่เพียงมีผู้ฝึกตนเลเวล 9 หลายคน แต่ยังมีการดำรงอยู่ของผู้แข็งแกร่งเลเวล 10 อีกด้วย

 

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น พอได้ยินชื่อวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู คงต้องตกตะลึงและหวาดกลัวมาก

 

ทว่าซูเฉินกลับหัวเราะเยาะออกมา เพราะตราบใดที่ศัตรูมิใช่ระดับเทวะ ย่อมไม่อาจก่อภัยคุกคามแก่เขา

 

“อย่าพูดเรื่องน่าเบื่อแบบนั้นเลย มาคุยกันเรื่องชะตากรรมของแกต่อจากนี้กันดีกว่า”

 

ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวอย่างสบายๆ

 

เมื่อเห็นว่าซูเฉินไม่แสดงอาการตกใจ ชายชราหงอกขาวก็พาลคิดไปว่าที่ซูเฉินคงไม่มีความรู้ เลยไม่ทราบถึงชื่อเสียงของทางวิหาร

 

จึงต้องยกเรื่องอื่นขึ้นมาแทน กล่าวเสียงขรึมว่า “เราผู้เฒ่าสามารถรับเจ้าาเป็นศิษย์ได้!”

 

แน่นอน การรับศิษย์เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น จุดประสงค์หลักของเขาคือ [รถศึกอัจฉริยะ] และเทคนิคลับของซูเฉินที่ทำให้บินได้

 

ในความคิดเขา ตราบใดที่ซูเฉินฝากตัวเป็นศิษย์ ไม่ช้าก็เร็วสิ่งเหล่านี้จะต้องตกเป็นของเขา

 

ซูเฉินส่ายหัว กล่าวหยามเหยียด “แกมั่นใจในตัวเองเกินไปหน่อยมั้ง จะรับฉันเป็นศิษย์ คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอหรือ?”

 

ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของชายชราหงอกขาวเปลี่ยนเป็นมืดมนและเย็นชาในทันใด

 

ในฐานะผู้อาวุโสของวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู สถานะของเขานับว่าสูงส่งมาก นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้โดนดูถูกเช่นนี้?

 

“เด็กน้อย เป็นเกียรติของเจ้าที่ได้เป็นศิษย์ข้า อย่าทำตัวให้มันก้าวร้าวนัก!”

 

ชายชราหงอกขาวหรี่ตาลง ในแววตาทอประกายเย็นเยียบ

 

ซูเฉินอวดดีไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ทำให้เขาเริ่มเกิดโทสะ หากซูเฉินยังประพฤติตัวไม่รู้จักกาลเทศะ เขานี่แหละจะสังหารซูเฉินด้วยมือตัวเอง

 

“มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะเตือนแก สิ่งที่แกทำในวันนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ตัวเองต้องตาย แต่ยังชักนำหายนะไปสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยูอีกด้วย!” ซูเฉินถูจมูกเขา กล่าวอย่างไม่แยแส

 

“นี่เจ้าต้องการสังหารข้า? ทั้งยังคิดหมายจะกำจัดวิหารศักดิ์สิทธิ์?”

 

ชายชราหงอกขาวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เด็กน้อย สมองเจ้าใช่มีปัญหา เสียสติไปแล้วหรือไม่?”

 

ในสายตาเขา ซูเฉินเป็นเพียงผู้ฝึกตนเลเวล 7 แม้จะพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่แล้วไง? อีกฝ่ายสามารถเป็นคู่ต่อสู้เขาได้หรือ?

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า คำพูดของซูเฉิน ในสายตาเขามันจึงไม่ต่างจากคนโง่ที่เอ่ยวาจาใหญ่โต

 

ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา ไม่พูดพล่ามไร้สาระอีกต่อไป กระโจนข้ามไปยังเรือลำเล็ก ตรงเข้าสังหารชายชราหงอกขาว

 

“แสวงหาที่ตาย!”

 

ชายชราหงอกขาวโกรธจัด ซูเฉินกล้าเริ่มลงมือก่อน นี่หมายความว่าไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา การกระทำนี้ไม่ต่างจากการเคาะประตูนรก

 

เขาสะบัดฝ่ามือขึ้น และยิงใบมีดสายลมออกไปอย่างไม่ลังเล ในใจสาบานว่าต้องสังหารซูเฉินให้ตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

 

ซูเฉินเองก็ไม่คิดหลบเลี่ยง บนฝ่ามือเขาเปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองอร่าม เอื้อมคว้าเวทย์สายลมเบื้องหน้า

 

“นั่นเขาคิดจะทำอะไร?”

 

ความสงสัยอย่างลึกล้ำผุดขึ้นในใจของชายชราหงอกขาว

 

ใบมีดสายลมที่เขาปลดปล่อยออกมา คือเวทมนต์เลเวล 8 แต่ซูเฉินกลับกล้าจับมันด้วยมือเปล่า? ทำเช่นนี้ คงเบื่อชีวิตแล้วใช่หรือไม่?

 

แต่ในขณะนั้นเอง เมื่อซูเฉินคว้าใบมีดสายลมได้แล้ว ก็กระชากมันอย่างแรง

 

บังเกิดเสียงดังตูม!

 

ใบมีดสายลมขนาดใหญ่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ สลายหายไป

 

“นี่ … ”

 

เห็นฉากนี้ มุมปากของชายชราหงอกขาวสั่นระริก คลื่นแห่งความตกใจก่อตัวขึ้นภายในหัวใจของเขา

 

เวทมนต์เลเวล 8 เปราะบางขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?

 

ร่างกายของเจ้าเด็กตรงหน้าเขา ต้องแข็งแกร่งมากถึงขนาดไหน?

 

“ใบมีดสายลมเลเวล 8 ก็พอใช้ได้นี่”

 

ซูเฉินยิ้มดูแคลน กล่าวเสียงเย็นว่า “ทีนี้ก็ถึงตาฉันแล้ว จะแสดงให้ดูเอง ว่าเวทมนต์ที่แท้จริงคืออะไร!”

 

สิ้นเสียง ปรากฏดาบทมิฬเล่มหนึ่งในมือเขา เจ้าตัวกุมด้ามจับด้วยมือทั้งสองข้าง และฟาดฟันไปยังทิศทางของชายชราหงอกขาว

 

วูบบบ เปรี้ยง!

 

ตามมาติดๆด้วยเสียงฟ้าผ่า เห็นแค่เพียงกระแสคลื่นสีฟ้า ที่แฝงไปด้วยคลื่นอสนีบาตอันน่าหวาดกลัว กวาดไปข้างหน้า