Ep.353
ซูเฉินทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง และค่อยๆหลับตาลง
ส่วนเรื่องที่ว่านิกายวูหยินจะมาแก้แค้นหรือไม่? เขาไม่สนใจเลย
ตราบใดที่อีกฝ่ายกล้ามา ต่อให้ยกโขยงกันมามากแค่ไหน เขาก็สามารถฆ่าพวกมันได้
หวู่หยางกับหยางหลิงเทียนเองก็ไม่สนใจเช่นกัน พวกเขาเห็นเรื่องแบบนี้บ่อยจนชินชาแล้ว ไม่รู้สึกตื่นตระหนกใดๆ
สิบนาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นนอกห้องอีกครั้ง
เสียงฝีเท้ายังใกล้เข้ามาไม่ถึงห้อง เสียงคำรามด้วยความโกรธก็ลอดช่องประตูเข้ามา “ไอ้หน้าไหนที่รีบร้อนอยากไปเยี่ยมยมบาล บังอาจฆ่าคนของพวกเรานิกายวูหยิน รีบไสหัวออกมาและรับโทษตายซะ!”
ซูเฉินส่งเสียงฮึในลำคอ ผุดลุกขึ้นเดินไปที่ประตูห้อง
ทันทีที่เปิดประตู ก็พบว่าบนทางเดินเต็มไปด้วยผู้คน อย่างน้อย 30 – 40 คน แต่ละคนหน้าตาดุร้าย สายตาที่จ้องมองมายังซูเฉินเต็มไปด้วยความโกรธ
หยางฮ่าวและคนอื่นๆได้ยินเสียงเอะอะ พวกเขาเดินออกมาจากประตูเช่นกัน ก้าวมายืนอยู่ข้างๆกายซูเฉิน
“เจ้าหนู แกใช่ไหมที่เป็นคนฆ่า!”
ฝั่งตรงข้าม ชายชราหน้าเหี่ยวเหมือนเปลือกไม้ กวาดสายตามองซูเฉิน เอ่ยถามด้วยความเย็นชา
ซูเฉินปาดจมูกเขา เอ่ยอย่างเฉยชา “ถ้าหมายถึงได้ขยะสามตัวนั่นล่ะก็ ..ใช่! ฉันนี่แหละเป็นคนฆ่าพวกมันเอง”
มองไปยังท่าทางมั่นใจเหมือนไม่หวาดกลัวใดๆเลยของซูเฉิน ความโกรธของชายชราปะทุขึ้นมาทันที “ฆ่าสหายนิกายวูหยินของเรา อาชญากรรมนี้ชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่ง! จงเลือกมา ว่าจะฆ่าตัวตายเอง หรือบังคังให้ฉันลงมือ?”
“ไปขู่ลุงข้างบ้านแกเถอะ! กล้าพูดกับพี่เฉินแบบนี้ได้ยังไง?” เฉาหรานอดไม่ไหวต้องสบถออกมา
สือต้าหนิวพ่นลมหายใจเย็นชา แสดงท่าทีหยามเหยียด “ไอ้แก่ กล้าล่วงเกินพี่ใหญ่เฉิน เชื่อไหมว่าฉันจะใช้ค้อนทุบแกจนตาย!”
“สามหาว!”
ข้างๆชายชรา ชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะสีขาวตวาดลั่น ชี้นิ้วไปทางสือต้าหนิวและเฉาหราน ด่ากลับมาว่า “พวกแกสองคนมีตาแต่หามีแววไม่! รู้รึเปล่าว่าเขาคือใคร? เขาคือผู้อาวุโสถงฉวนแห่งนิกายวูหยิน!”
“ผู้อาวุโสถงฉวนคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 มีตำแหน่งสูงส่งในนิกายวูหยิน ยังไม่รีบคุกเข่าขอขมาอีก!?”
สือต้าหนิวกับเฉาหรานเบ้ปาก มองไปทางซูเฉิน
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เขาทั้งสองไม่สามารถรับมือได้ก็จริง แต่ในสายตาของซูเฉิน อีกฝ่ายมิใช่เป็นแค่มดปลวกหรอกหรือ?
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 มีสิทธิ์อะไรมาร่ายรำง้าวเขี้ยวมังกรต่อหน้ากวนอูเช่นซูเฉิน?
พวกแกมีคุณสมบัติพอหรือ?
ซูเฉินกระแอมเบาๆ กล่าวประชดประชัน “ขนาดเตียวหลงแห่งนิกายวูหยินยังเป็นแค่ขยะในสายตาฉัน แล้วพวกแกนับเป็นตัวอะไร!”
ทันทีที่เขาเปล่งประโยคนี้ออกมา ทั่วทั้งทางเดินตกอยู่ในความเงียบสงัด
สมาชิกของนิกายวูหยินตะลึงงัน กระทั่งพนักงานที่มาพร้อมกับพวกเขา ยังตกตะลึงจนสติหลุดลอย
ซูเฉินกล้าพูดแบบนั้นได้อย่างไร? บ้าบิ่นเกินไปแล้ว!
ท่านเตียวหลงคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในเขตหยูหลิน
แต่คนผู้นั้นกลับเป็นขยะในสายตาซูเฉินอย่างไม่คาดฝัน
นี่สินะคือคุณสมบัติของคนบ้า กระทั่งท่านเตียวหลงก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 รึไง?
ไม่สิ ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 จริง ก็ไม่น่าจะพูดจาก้าวร้าวถึงขนาดนี้
กึ้ดดด!
ถงฉวนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ขณะนี้ ความโกรธของเขาได้ทะลุขีดจำกัดแล้ว
นับแต่เข้าร่วมนิกายวูหยิน เขาไม่เคยดูหยามกันต่อหน้าต่อตาแบบนี้มาก่อน
แล้วอีกอย่าง ที่หยามเขายังเป็นแค่เด็กขนไม่ขึ้นไม่กี่คน!
เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว! ร้องคำรามทันใด “ฆ่าพวกมัน!”
ในพริบตาเดียว ผู้คนนับสิบวูบวาบผ่านร่างเขาจากเบื้องหลัง ทั้งหมดกรูกันเข้าสังหารซูเฉิน
“ช่างไม่รู้จักประมาณตน!”
ซูเฉินแค่นเสียงในลำคอ ชกหนึ่งหมัดออกไป
พลังงานอันรุนแรงบ้าคลั่งดั่งมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ กวาดไปข้างหน้า
บังเกิดเสียงดังอึกทึก
สามสี่คนที่วิ่งออกมาก่อน ถูกระเบิดเป็นเศษเนื้อ
“ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 !”
ดวงตาของถงฉวนเบิกกว้าง เกือบจะฉี่ราดด้วยความตกใจ
ชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะสีขาวข้างๆเขา เวลานี้ทั้งร่างสั่นสะท้าน อ้อนวอนขอชีวิต “ผู้อาวุโส ฉันเป็นคนของเมืองทงเทียน โปรดเมตตาด้วย”
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 เขาตระหนักดี ว่าต่อให้ทุกคนในที่นี้ร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถสู้ได้
หากต้องการรอดชีวิต มีเพียงต้องได้รับการให้อภัยจากซูเฉินเท่านั้น