Ep.318
“เธอคือโม่ไฉ่เหลียน ไม่ใช่คนจากกลุ่มอินทรีทองของพวกเรา แต่มาจากภูเขาฉีหลิน (ภูเขากิเลน) ” ชายเคราแพะตอบตามสัตย์จริง
“ภูเขาฉีหลิน?” ซูเฉินทวนคำ พยายามเค้นความทรงจำ
ในวันนั้น ชายชราจากนิกายวูหยินได้กล่าวถึงขุมกำลังน้อยใหญ่ในเขตหยูหลินให้เขาฟัง แต่ไม่มีการเอ่ยถึงภูเขาฉีหลินเลย
เป็นไปได้ไหมว่าชายชราจากนิกายวูหยินจะไม่รู้จักภูเขาฉีหลิน?
หรือเป็นไอ้เคราแพะนี่กำลังหลอกลวงเขา?
“ที่ไปที่มาของของภูเขาฉีหลินคืออะไร?” ซูเฉินจ้องมองชายเคราแพะ
คำถามนี้ทำให้ชายเคราแพะลังเล ทว่าภายใต้สายตาของซูเฉิน สุดท้ายยอมกัดฟันเฉลย “เรียนอาวุโส ภูเขาฉีหลินคือนิกายลับ เป็นหนึ่งในสามขุมอำนาจสูงสุดในเขตหยูหลิน”
ซูเฉินชะงักไปครู่หนึ่ง เอ่ยถามว่า “แล้วอีกสองขุมกำลังชื่ออะไร?”
“หุบเขาหวางโหย่ว และขุนเขาเทียนฉี” คราวนี้ชายเคราแพะไม่ลังเลเลย
“หืม ..?”
ซูเฉินขมวดคิ้วเล้กน้อย เพราะเขาจำได้ ว่าชายชราจากนิกายวูหยิน เคยกล่าวว่า สามมหาอำนาจในเขตหยูหลิน ได้แก่ นิกายวูหยิน , นิกายขวงฉี และเมืองทงเทียน
แต่ทำไมพอฟังจากเจ้าเคราแพะ ดันกลายเป็นชื่ออื่นไปได้?
สรุปแล้วสองคนนี้ใครโกหก?
“งั้นขุมกำลังอย่างเมืองทงเทียนจัดอยู่ในระดับไหนของเขตหยูหลิน?” ซูเฉินลองเลียบเคียงถาม
“เมืองทงเทียนคือหนึ่งในขุมกำลังที่เข้มแข็งที่สุดในเขตหยูหลิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือกองกำลังสาขารองของภูเขาฉีหลิน” ชายเคราแพะอธิบาย
ถึงจุดนี้ สีหน้าของซูเฉินแปรเปลี่ยนไป ในสมองค่อยๆปั่นความคิด
เมืองทงเทียนมีผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ปกครองอยู่ แถมยังมีเลเวล 4 อีกจำนวนไม่น้อย กำลังรบไม่อ่อนแอเลย แต่แท้จริงพวกเขากลับเป็นเพียงสาขารอง เช่นนั้นภูเขาฉีหลินจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน?
“ระดับฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดของภูเขาฉีหลินคือขั้นไหน?” ซูเฉินถามอีกครั้ง
เร็วๆนี้เขาเพิ่งสังหารคนจากเมืองทงเทียนไปเป็นจำนวนมาก สร้างความบาดหมางกับเมืองทงเทียนอย่างลึกล้ำ
การเดินทางมายังเขตหยูหลินในครั้งนี้ ดีไม่ดีอาจเกิดพายุนองเลือดขึ้นในเมืองทงเทียน
แล้วแบบนี้ ภูเขาฉีหลินมีหรือจะนั่งดูอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย?
คำตอบมันชัดเจน ภูเขาฉีหลินย่อมเข้าช่วยเหลือเมืองทงเทียนอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นสงครามนองเลือดคงอุบัติขึ้นอีกระลอก
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงจำเป็นต้องรู้ข้อมูลของภูเขาฉีหลิน เพื่อเตรียมรับมือล่วงหน้า
อีกประเด็นหนึ่งคือ ณ สถานชุมชนฮั่วหลาง เขาได้รู้จากปากผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 มาว่าเมืองทงเทียนกำลังพยายามเปิดทางผ่านเขตแดน
ไม่แน่ว่าเรื่องนี้อาจมีภูเขาฉีหลินอยู่เบื้องหลังก็ได้
“ผู้แข็งแกร่งที่สุดในภูเขาฉีหลินคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 และอาจมีมากกว่าหนึ่ง” ชายเคราแพะพูดไปพลาง ลอบสังเกตสีหน้าซูเฉิน
อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าของซูเฉินไม่เปลี่ยนแปลงเลย ราวกับว่าซูเฉินไม่เห็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 อยู่ในสายตา
เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกงงงวยมาก
ต้องรู้นะว่า ผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 นั้นเกือบจะเป็นตัวตนระดับตำนาน แต่ละคนครอบครองอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวที่มากพอจะล้างเมืองได้
แต่เหตุใดซูเฉินถึงไม่กลัว?
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ไร้เทียมทานในสายตาผู้อื่นก็จริง แต่สำหรับซูเฉินที่สามารถสังหารเต่าอสูรศักดิ์สิทธิ์เลเวล 5 ได้อย่างง่ายดายแล้ว กับอีแค่มนุษย์เลเวล 5 ไม่มีค่าให้กล่าวถึง
“งั้นก็หมายความว่า หุบเขาหวางโหย่วกับขุนเขาเทียนฉีก็มีเลเวล 5 อยู่ด้วยเหมือนกันใช่ไหม?” ซูเฉินถาม
“ใช่” ชายเคราแพะตอบกลับอย่างมั่นใจ
แต่ในตอนนั้นเอง ซูเฉินคล้ายฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เอ่ยปากอีกครั้ง “จะว่าไป แกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง? บอกความจริงมา ไม่งั้นอย่าโทษว่าฉันโหดร้าย!”
เขาค่อนข้างแปลกใจ เพราะสิ่งที่แม้แต่ชายชราแห่งนิกายวูหยินก็ยังไม่รู้ แล้วทำไมสมาชิกอ่อนแอของกลุ่มอินทรีทองถึงรู้ดีนัก?
“หัวหน้ากลุ่มของพวกเรามาจากภูเขาฉีหลิน เรื่องนี้เป็นเขาที่บอกมา” ชายเคราแพะตกใจกลัว
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเริ่มเค้นสอบถึงเรื่องอื่นๆ หมดธุระแล้วก็ฆ่ากลุ่มอินทรีทองทิ้ง