Ep.294
“ดูนั่นสิ กลุ่มเทพสังหารมาอีกแล้ว!”
“โอ้สวรรค์ พวกเขาคงไม่มาเพราะเรื่องของคนจากเมืองทงเทียนหรอกนะใช่ไหม?”
“ใครจะรู้ แต่ที่แน่ๆรอรับชมการแสดงดีๆได้เลย!”
“แต่ครั้งนี้เมืองทงเทียนมีผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 มาด้วย พวกเขาจะสามารถต่อกรกับอีกฝ่ายได้หรอ?”
…
ครั้งที่แล้ว การมาเยือนของซูเฉินและสมาชิกคนอื่นๆ ก่อให้เกิดพายุฝนนองเลือดในสถานชุมชนฮั่วหลาง
ยอดฝีมือหลายคนรวมถึงเจ้าเมืองฟางเฉิงอู่ ทั้งหมดถูกฆ่าตาย
แล้ววันนี้ เป็นไปได้ไหมว่าอาจเกิดการสังหารหมู่ครั้งใหญ่เหมือนคราวก่อน?
“มาเถอะ ลงไปเจอพวกคนจากเมืองทงเทียนกัน”
ซูเฉินเปิดประตู เดินนำลงจากรถ
คนที่เหลือลงตามเขาไปติดๆ เมื่อทุกคนยืนเรียงรายกันอยู่หน้ารถ กลุ่มคนในชุดสีน้ำเงินก็ก้าวออกมาจากประตูเมือง
ดูจากเสื้อผ้า เมื่อเทียบกับสามคนก่อนหน้าที่ถูกฆ่าตายไป แทบไม่มีอะไรแตกต่างกัน
“คนที่ฆ่าฟางเฉิงอู่ กับที่ขโมยหินรวมดาราไป ใช่เจ้าพวกนี้รึเปล่า?”
ฝั่งตรงข้าม ชายชราที่มีรอยบุ๋มเต็มใบหน้า กวาดมองซูเฉินและสมาชิกคนอื่นๆ ก่อนหัดไปเอ่ยถามเฝิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆเขา
เฝิงเจ๋อลอบมองไปยังซูเฉิน เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร เขาก็อดสั่นสะท้านไม่ได้
สามารถกล่าวได้เลย ไม่ว่าจะเป็นซูเฉิน หรือชายชราหน้าบุ๋ม คนใดเขาก็ไม่สามารถล่วงเกินได้
ทว่าเมื่ออยู่ระหว่างคนทั้งสอง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เฝิงเจ๋อดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดตัดสินใจเลือกยืนเคียงข้างชายหน้าบุ๋ม
เพราะชายชราไม่เพียงเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 เท่านั้น แต่เขายังมาจากเมืองทงเทียนอีกด้วย
เมื่อคำนึงถึงทั้งในด้านความแข็งแกร่งและสถานะ ซูเฉินไม่มีอะไรเทียบได้เลย
แม้ซูเฉินจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาอยู่แค่เลเวล 3 ดังนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 อย่างแน่นอน
เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนี้ เขาก็โค้งคำนับและตอบว่า “เรียนนายท่าน เป็นพวกมันที่ขโมยหินรวมดาราไป พวกมันคือกลุ่มอันธพาลที่ฆ่าผู้นำฟาง!”
ได้ยินแบบนี้ หวู่หยางและคนอื่นๆต่างโกรธจัด
สีหน้าของซูเฉินเริ่มมืดมนลง
เพราะจะยังไงก็แล้วแต่ ครั้งก่อนที่จากกัน เขาได้ช่วยเหลือเฝิงเจ๋อ ผลักดันให้ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำของสถานชุมชนฮั่วหลาง
แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าผู้ชายคนนี้ไม่เพียงไม่รู้สึกขอบคุณ แต่ยังทำตัวเป็นดอกหญ้าลู่ลม เอนเอียงไปทางเมืองทงเทียน
ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก!
พฤติกรรมเช่นนี้ เทียบเท่ากับเป็นการทรยศ และซูเฉินได้ใส่ชื่อของอีกฝ่ายลงในลิสรายชื่อต้องฆ่าแล้ว
“พวกแกกล้าดียังไง ถึงได้ฆ่าคนและปล้นชิงสมบัติที่นี่!”
ชายชราหน้าบุ๋มตวาดด้วยความโกรธ แล้วข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พวกแกคนไหนที่เอาหินรวมดาราไป รีบส่งคืนมาเดี๋ยวนี้ แล้วฉันจะยอมให้ศพอยู่ในสภาพสมบูรณ์!”
“คนจากเมืองทงเทียนนี่ชอบทำตัวกร่างแบบนี้กันหมดเลยรึเปล่า?”
ซูเฉินปาดจมูก ก้าวไปข้างหน้า ท่าทีแสดงออกถึงความเหยียดหยาม ปฏิบัติกับชายชราราวกับเป็นตัวตลก
“หืม?”
ชายชราหน้าบุ๋มขมวดคิ้วเล็กน้อย จับตาดูซูเฉินอย่างตั้งจ กล่าวเสียงเย็น “เจ้าหนู รู้รึเปล่าว่าเมืองทงเทียนแข็งแกร่งแค่ไหน รีบร้อนอยากไปแช่น้ำในกระทะทองแดงแล้วหรือ?”
เขาไม่เข้าใจ ชายหนุ่มตรงหน้า ทั้งๆที่รู้ว่าเขามาจากเมืองทงเทียน แต่ทำไมยังไม่สะทกสะท้าน?
ใช่เพราะรู้ตัวว่าคงตายแน่ๆ?
เลยอยากอวดเก่งก่อนตาย?
ทำให้ตัวเองดูมีศักดิ์ศรีในวินาทีสุดท้ายสินะ?
“ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 จากเมืองทงเทียน ไอ้หน้าไหนเป็นคนมอบความกล้าให้แกจนมองว่าคนอื่นต้องด้อยกว่าแบบนี้? ไม่รู้หรือว่าภายนอกเหนือฟ้ายังมีฟ้า” ซูเฉินกล่าวด้วยใบหน้าดูแคลน
ฟังจากคำพูดของชายชรา คล้ายกับว่าได้ยกเมืองทงเทียนเป็นขุมกำลังอันดับหนึ่งของเกาะเฉียนหยูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ช่างหยิ่งผยองไม่รู้จักประมาณตน!
ดูพูดเข้า ทำเหมือนว่าทุกคนเมื่ออยู่ต่อหน้าเมืองทงเทียน ไม่ว่าใครก็ต้องยอมก้มหัว
มิฉะนั้นจักต้องพบพานกับความทุกข์ทรมาน กลายเป็นที่ระบายความโกรธของเมืองทงเทียน และได้แต่เฝ้ารอความตาย!