Ep.288
ซูเฉินลองโคจรพลังเวทย์ของเขา แต่กลับรู้สึกถึงความเอื่อย คล้ายกระบวนการเรียกใช้งานเวทมนต์ถูกขัดขวาง
แม้จะแปลกใจอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้จริงจังกับมันมากนัก
เพราะพลังเวทย์เป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธต่อสู้ของเขา หากอีกฝ่ายคิดว่าแค่ใช้อัญมณีมนต์ต้องห้ามเพียงอย่างเดียวก็สามารถโค่นล้มเขาได้ ความคิดนี้ไร้เดียงสาเกินไป
“คิดว่าแค่กักขังพลังเวทย์ของฉันไว้ แล้วจะทำตัวอวดดีต่อหน้าฉันได้หรือ?” ซูเฉินปาดจมูก แค่นเสียงหัวเราะ
หลังจากนั้น แสงสีม่วงพลันสว่างวาบตรงสองเท้าเขา ข้างหนึ่งย่ำอย่างแรงลงบนผิวทะเล ถีบตัววูบเป็นเส้นแสง พุ่งออกไปหมายสังหารถันสือไห่
“ว่องไวอะไรอย่างนี้! นี่มันความเร็วของผู้วิวัฒนาการระดับสูงไม่ใช่หรอ!”
“เป็นไปได้ไหมว่าเขาคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 5!”
“ท่านเจ้าเมือง พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
เห็นซูเฉินทะยานเข้ามาดั่งสายฟ้าฟาด ทุกคนบนเรือใหญ่เริ่มตื่นตระหนกเล็กน้อย
หางตาของถันสือไห่กระตุกอย่างแรง
เดิมที เขาคิดว่าซูเฉินเป็นเพียงปรมาจารย์มนตรา
แต่ไม่นึกเลยว่าซูเฉินจะเป็นผู้วิวัฒนาการด้วย!
และดูจากความว่องไว น่าจะเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5
“ไม่ได้การแล้ว! พวกเราต้องลงมือพร้อมกัน อย่าปล่อยให้เขาบุกเข้าถึงตัว!” ถันสือไห่คำราม เหยียดมือและยิงเวทย์พายุสายฟ้าออกไป
เขาทราบดี ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกผู้วิวัฒนาการอย่างซูเฉินบุกประชิดได้ เมื่อนั้นคือหายนะสำหรับพวกเขา
ดังนั้นไม่รอช้า ทุ่มสุดกำลังเพื่อหยุดซูเฉิน
คนอื่นๆตอบสนองต่อคำสั่ง ระเบิดโจมตีในเวลาเดียวกัน
ปรมาจารย์มนตรานับสิบปลดปล่อยเวทมนต์ออกมา หอกน้ำแข็ง , ลูกไฟ , พายุสายฟ้า ถูกยิงออกไปอย่างต่อเน่อง
ในส่วนของผู้วิวัฒนาการจากเมืองถันไห่ พวกเขาไม่มีเทคนิคอย่างเวทมนต์ที่ใช้โจมตีจากระยะไกล ดังนั้นหยิบคันธนูขึ้นมา ง้างศรยิงซูเฉิน
ชั่วขณะนี้ เวทมนต์จากทุกแขนง ทุกธาตุโถมเข้าใส่ซูเฉินอย่างท้วมท้น
ลูกศรนับร้อย กรีดอากาศแหวกฟ้า ส่งเสียงหวีดหวิว โค้งลงพุ่งปลายแหลมเข้าหาซูเฉิน
ณ ตอนนี้ ทั่วทั้งผืนฟ้า ถูกปกคลุมไปด้วยสีสันแห่งเวทมนต์ คลื่นความผันผวนจากพลังเวทย์แผ่กระจายไปทั่ว ขับหนุนให้ยิ่งดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
เสียงคลื่นอัดอากาศดังกระหึ่ม ทะลวงบาดแก้วหูของทุกคน
แม้หวู่หยางและคนอื่นๆจะอยู่ไกล แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดัน ลมหายใจเริ่มหอบถี่
ทั้งที่รู้ว่าซูเฉินแข็งแกร่งมาก แต่เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีชนิดกลืนฟ้าถมทะเลเช่นนี้ เขาจะสามารถเอาชีวิตรอดไปได้จริงๆใช่ไหม?
ตันหลินกับหยางเฉียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า สองมือของพวกเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
สีหน้าของหยางฮ่าวและสหายก็ดูไม่สู้ดีเช่นกัน
“ไอ้หนู มาดูกันว่าแกจะแสร้งทำเป็นเก่งได้อีกสักแค่ไหน!”
ประกายอันโหดเหี้ยมฉายวาบขึ้นบนใบหน้าของถันสือไห่
เมื่อต้องเผชิญกับเวทมนต์นับสิบ และศรอันแหลมคมอีกนับร้อยดอก ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ก็ยากที่จะรอดชีวิต
ช่วงเวลานี้ เขาปฏิบัติต่อซูเฉินในฐานะคนที่ตายไปแล้ว
มองไปยังสถานการณ์ตรงหน้า ซูเฉินกลับหัวเราะเยาะออกมา ไม่มีแม้ความคิดที่จะหลบเลี่ยง ปล่อยให้เวทมนต์และคมศรเข้าโจมตีและทิ่มแทง
ช่วงเวลาต่อมา เวทมนต์นับสิบปูพรมลงตามตัวเขา ก่อให้เกิดคลื่นความผันผวนขนาดใหญ่ กลืนร่างของซูเฉินหายไปจากทุกสายตา
ตามมาติดๆด้วยศรคมกริบ ทิ่มแทงซ้ำไปยังตำแหน่งเดิมของซูเฉิน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … แกตาย!”
เห็นถึงภาพหายนะที่เกิดขึ้น ถันสือไห่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
คนอื่นๆฝั่งเขาก็ตื่นเต้นยินดี ต่างพากันตะโกนโห่ร้อง
“ฉันก็นึกว่าเจ้าเด็กนั่นแข็งแกร่งมาก ที่ไหนได้ มันก็แค่แกล้งทำเป็นอวดดี!”
“กล้าหือกับพวกเราสิบสามเมืองแห่งทะเลแห่งการหลงเลือน ช่างไม่รู้จักเจียมตัว!”
“เป็นถึงผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 แล้วอย่างไร? เจอพวกเราร่วมมือโจมตีเข้าไป แม้แต่ซากก็คงไม่เหลือ!”
…
“ก็บอกแล้วไง ว่าพวกแกมันไร้เดียงสา!”
คนจากสิบสามเมืองแห่งทะเลแห่งการหลงเลือนกำลังฮึกเหิมในชัยชนะ แต่จู่ๆก็มีน้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นบาดหูของพวกเขา
แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ร่างอันสูงใหญ่และกล้าหาญก็ค่อยๆก้าวออกมาจากควันโขมงหลากสีสันที่กำลังลุกโชน
“เป็นเขา! ทำไมเขาถึงยังมีชีวิตอยู่?”
“ฉันคงตาฝาดไปแน่ๆ ไม่มีทางที่เขาจะรอดไปได้!”
มองไปยังซูเฉินที่เดินออกมาโดยมีระเบิดหลากสีสันโคตรอลังการเป็นฉากหลัง ผู้คนจากสิบสามเมืองแห่งทะเลแห่งการหลงเลือน กรีดร้องราวกับเห็นภูติผี