วันนี้ลง 28 – 34

 

Ep.28

 

“ฉู่เซวียน!” ได้ยินเสียงนี้ เจียงฮ่าวเงยหน้าขึ้นมองทันที ก่อนร้องด้วยความตกใจ

 

ด้วยสถานะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยตงเฉิง เขากับฉู่เซวียนเป็นเพื่อนร่วมคลาสกัน ในช่วงเวลาปกติก่อนวันสิ้นโลกมาถึง ทั้งสองค่อนข้างสนิทกัน 

 

ทว่าหลังจากหายนะมาเยือน การเรียนการสอนก็หยุดไป ผู้คนนับไม่ถ้วนพลัดถิ่น ต้องแยกจากเพื่อนฝูงและครอบครัว 

 

ในวันสิ้นโลกนี้ การบังเอิญพบเจออดีตเพื่อนร่วมเรียนของตัวเอง แน่นอนว่าต้องโชคดีเอามากๆ 

 

“นายยังไม่ตาย!” เจียงฮ่าวอุทานด้วยความตื่นเต้น

 

“บังเอิญว่าฉันมีโชคนิดหน่อยน่ะ” ฉู่เซวียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เอ่ยปากตอบ “แต่ตอนนี้ดูเหมือนนายจะมีปัญหานะ”

 

“ฉู่เซวียน นายอย่ามาช่วยฉันเลย รีบหนีออกไปจากที่นี่เถอะ! ” เจียงฮ่าวเข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง เอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล  

 

ฉู่เซวียนส่ายหัว ตอบสวนกลับไปว่า “ไอ้พวกนี้ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะอยู่ในสายตาฉัน” 

 

“ขอแทรกหน่อยนะ ไอ้เด็กเปรต เมินกันแบบนี้ไม่ดีมั้ง ” ในเวลานั้นเอง หน้าบากหวังเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ สีหน้าท่าทีของเขากลายเป็นด้านชา

 

เอาจริงๆไม่ใช่แค่เมิน แต่อีกฝ่ายไม่มองตัวเขาเลยด้วยซ้ำ เรื่องนี้ทำให้หน้าบากหวังไม่พอใจมาก

 

“อ้อ ถ้าฉันอยากเมินแล้วแกจะทำไม” ฉู่เซวียนหันกลับมา สบสายตาอีกฝ่าย เน้นย้ำทีละคำ

 

“เก่งมาจากที่ไหนกัน? รู้ไหมว่าลูกพี่ของเราคือผู้ใช้พลังเลเวล 3! ยังไม่รีบเป็นเด็กดี คุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตาอีก!!” ชายตาหนูก้าวออกมา ชี้หน้าฉู่เซวียน 

 

“หมายความว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น แกเป็นตัวต้นเหตุสินะ?” ฉู่เซวียนเอ่ยถามระหว่างหันไปมองหน้าบากหวัง ใบหน้าของเขาเย็นชาลง  

 

อีกด้านหนึ่ง หน้าบากหวังไม่ลงมือทันที  สมองเขาปั่นความคิดอย่างรวดเร็ว

 

‘โผล่มาคนเดียว แต่กล้าเผชิญหน้ากับคนมากมายขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่คนโง่ ก็แสดงว่ามีความมั่นใจในพลังรบของตัวเอง ’

 

หน้าบากหวังไม่ได้หยาบกระด้างอย่างที่เห็นจากภายนอก ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจเขาอย่างรวดเร็ว 

 

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ใช้พลังเลเวล 3 ควบคู่ไปกับพลังรบที่ตนมี  และลูกน้องมากมายที่อยู่ที่นี่ เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีต่อหน้าคนอื่นๆ 

 

“แล้วถ้าใช่ล่ะ?” หน้าบากหวังหรี่ตาแคบลง ตอบกลับด้วยท่าทีเหิมเกริม

 

“งั้นก็ไปลงนรกซะ” ฉู่เซวียนกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส 

 

สิ้นเสียง ฉู่เซวียนพุ่งเข้าหาหน้าบากหวัง 

 

ในชั่วพริบตา หน้าบากหวังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายท่วมทับเข้ามาอย่างกะทันหัน 

 

‘ต้านไม่ไหว! ขืนโดนเข้าไม่ต้องเดาก็รู้ว่าตายแหงๆ!’

 

นี่คือความคิดเดียวที่แวบเข้ามาในใจของหน้าบากหวัง

 

ภายใต้เงาแห่งความตาย สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเขาถูกกระตุ้นอย่างเต็มที่

 

เจ้าตัวกัดฟันกรอด ดึงร่างชายตาหนูที่อยู่ข้างๆมาขวางหน้าเอาไว้ ขณะเดียวกันหน้าบากหวังก็เริ่มกลายพันธุ์ 

 

เห็นแค่เพียงกล้ามเนื้อปูดขึ้นทั่วร่างเขา ขนสีดำนับไม่ถ้วนผุดขึ้นบนผิวกาย แขนขาแปรสภาพ คล้ายเปลี่ยนเป็นกรงเล็บของสัตว์ร้าย  ส่วนสูงเขาเพิ่มกว่าเดิมถึงครึ่งเมตร ทั้งคนทั้งร่างเปลี่ยนไปราวกับเป็นอสูรกายในหนัง

 

‘เปลี่ยนร่างสัตว์ร้าย’ นี่คือพลังของหน้าบากหวัง

 

กลางอากาศ ประกายเย็นเยียบสาดแสง ชายตาหนูที่ถูกลากมาอยู่เบื้องหน้าหน้าบากหวังไม่ทันได้พูดอะไรแม้ครึ่งคำ ร่างเขาถูกผ่าครึ่งทันที

 

เมื่อร่างแยกจากกัน ภาพของชายหนุ่มที่เปรอะไปด้วยเลือดก้าวเข้ามา 

 

ใบมีดกระดูกตรงแขนขวาของฉู่เซวียนปรากฏของเหลวสีแดงหยดย้อย รอยยิ้มกระหายเลือดผุดขึ้นบนใบหน้าเขา

 

“ไอ้หนู แส่หาที่ตาย!”

 

หน้าบากหวังคำรามด้วยความโกรธ เพราะลากตัวชายตาหนูเข้ามาขวางไว้ ทำให้เขาสามารถกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายในสภาพสมบูรณ์ได้ทันเวลา

 

จิตสำนึกดั้งเดิมถูกชะล้างออกไป สัญชาตญาณเดิมของสัตว์ป่าเข้ามาแทนที่ ร่างอันใหญ่โตปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาล  กรงเล็บแหลมของหน้าบากหวังทอประกายเย็นเยียบ อีกทั้งนัยน์ตาของเขายังเผยร่องรอยของความสุขสมที่จะได้เพลิดเพลินในการฆ่า

 

คล้ายในสายตาเขา คือภาพของชายหนุ่มเบื้องหน้ากำลังถูกกรงเล็บแหลมฉีกทึ้งเป็นชิ้นๆ